เนลล์พยักหน้าและตั้งใจฟัง“เมื่อตอนที่คุณพบเธอ เธอเป็นเช่นนี้อยู่แล้วเหรอ?”มิสเตอร์ดอนเนลลี่ขมวดคิ้วเล็กน้อยและถอนหายใจ “ใช่แล้ว ในตอนที่ผมพบเธอครั้งแรก ผมรู้สึกว่าเธอแตกต่างจากคนทั่วไป ดูเหมือนว่าจิตใจของเธอจะเต็มไปด้วยการมองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ แต่เธอก็อ่อนไหวและหวาดกลัวได้ง่าย ผมเดาว่ามันเป็นเพราะเรื่องราวที่ฝังลึกในอดีตที่เธอได้พบเจอ”เขายิ้มและพูดต่อ “ผมรู้ว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวของเธอและมันก็ไม่เป็นการดี ถ้าหากว่าผมจะถามเธอมากเกินไป แต่แล้วผมก็ได้รู้ความจริงเมื่อวานนี้เอง”เนลล์เงียบไปครู่หนึ่ง“อันที่จริง ฉันอยากจะขอร้องให้คุณช่วยบางอย่าง และฉันก็หวังว่าคุณจะเห็นด้วย”“คุณพูดมาได้เลย”“ถึงแม้ว่าฉันจะเป็นลูกสาวของเธอ แต่ในตอนนี้เธอจำฉันไม่ได้แล้ว และเธอก็คงจะไม่ชอบใจที่ฉันทำเช่นนั้น แต่ฉันเป็นห่วงเธอจริง ๆ เพราะจากที่ฉันเห็นอาการของเธอเมื่อวานนี้ เธอดูแตกต่างจากคนทั่วไปไม่ว่าจะเป็นร่างกายหรือจิตใจ ดังนั้นฉันจึงอยากให้เธอได้รับการตรวจเช็คร่างกาย“ฉันจะไม่บังคับให้เธอจดจำฉันให้ได้ แต่ฉันเพียงแค่ต้องการมั่นใจว่าเธอจะมีสุขภาพที่แข็งแรงและปลอดภัย แต่ฉันรู้ดีว่าถ้าหากฉันพูดกับเธ
“แล้วคุณไม่เคยสงสัยในตัวเขาบ้างเหรอ?”เคธี่ตกใจ สายตาของเธอดูสับสนเล็กน้อย“ทำไมฉันจะต้องสงสัยเขาด้วยล่ะ? ฌอนปฏิบัติต่อฉันเป็นอย่างดี และเขาก็เป็นคนที่ปฏิบัติต่อฉันดีที่สุดในโลกนี้อีกด้วย นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันไม่สามารถสงสัยเขาได้”ประสบการณ์และความไร้เดียงสาของเธอ ทำให้เนลล์รู้สึกปวดหัวเล็กน้อยเธอถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ “ก็ได้ แต่ถึงอย่างนั้น ทำไมคุณถึงต้องการหลีกเลี่ยงฉัน? อย่าบอกว่าไม่ใช่เพราะฉันที่ทำให้คุณต้องรีบจากไป”เคธี่บีบมือของตัวเองราวกับว่าเธอกำลังประหม่าเพราะเธอถูกจับได้ เธอเปิดเผยคำโกหกที่ซ่อนอยู่อย่างระมัดระวัง“ฉัน…ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะหลีกเลี่ยงเธอ ฉันเพียงแค่กลัว…”"กลัวเหรอ?" เนลล์เลิกคิ้วขึ้น "คุณกลัวอะไร?”“ฉัน…” เธอตื่นตระหนกและมองไปรอบ ๆ ราวกับว่าเธอกำลังมองหาอะไรบางอย่างเนลล์รู้ว่าเธอกำลังตามหาฌอน มิลเลอร์ราวกับว่าชายคนนั้นเป็นสมอเรือของเธอ และเขาไม่สามารถละสายตาไปจากเธอได้ ดังนั้นเธอจึงวิตกกังวลอย่างอธิบายไม่ถูกถึงแม้ว่าเนลล์จะไม่ใช่หมอ แต่เธอก็มีความรู้เกี่ยวกับจิตวิทยาอยู่บ้างเธอพบว่าสถานการณ์ปัจจุบันของเคธี่ คล้ายกับปฏิกิริยาความเครียดและถูกกระ
ใครจะไปรู้ว่าเนลล์จะบังคับขู่เข็ญอะไรเคธี่หรือเปล่าและถ้าหากมิสเตอร์ดอนเนลลี่ไม่อยู่ที่นี่ในเวลานี้ ในฐานะเพื่อน เขาอาจจะต้องล้มเหลวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ดังนั้นต่อให้เขาจะรู้สึกอึดอัดใจมากเพียงใด แต่เขาก็จะต้องยืนอยู่ตรงนี้ต่อไปในเวลานั้น เนลล์พาเคธี่เดินออกมาหลังจากที่พวกเธอคุยกันเสร็จเรียบร้อยเมื่อพวกเธอผลักประตูและเดินออกมา สิ่งแรกที่พวกเธอเห็น คือชายสามคนที่ยืนเฝ้าอยู่ด้านนอกฌอนรีบลุกขึ้นทันที จากนั้นเขาก็ดึงเคธี่ออกมาและรีบพูดด้วยความเป็นห่วง “เคธี่ คุณเป็นยังไงบ้าง? เกิดอะไรขึ้นกับคุณหรือเปล่า?”อารมณ์ของเคธี่ในตอนนี้เปลี่ยนจากเดิมไปเล็กน้อย เธอส่ายหน้าในขณะที่เธอยิ้มเธอหันมามองเนลล์ด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน “เนลล์พรุ่งนี้เธอว่างไหม? ถ้าหากเธอว่าง ฉันอยากชวนเธอไปแถวชานเมือง ฉันได้ยินมาว่ามีจุดชมวิวสวย ๆ หลายแห่งที่ฉันยังไม่เคยไป”เนลล์พยักหน้าอย่างรวดเร็ว “แน่นอน ฉันว่าง พรุ่งนี้เราไปด้วยกันนะคะ”กิดเดียนเลิกคิ้ว จากนั้นรอยยิ้มเล็ก ๆ ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาฌอนตกตะลึง เขาไม่รู้ว่าทำไมทัศนคติของเคธี่ที่มีต่อเนลล์ถึงได้เปลี่ยนไปมาก หลังจากที่พวกเขาคุยกันเพียงแค่ไม่กี่
ก่อนหน้านี้เนลล์ไม่รู้ว่าเคธี่มาที่เมืองหลวง แต่เมื่อตอนนี้เธอรู้แล้ว แล้วเธอจะปล่อยให้แม่ของเธออาศัยอยู่ในพื้นที่ของคนอื่นได้อย่างไรเธอดึงเคธี่เข้ามาและกระซิบว่า “คุณแม่ ถ้าคุณไม่รังเกียจ ทำไมคุณไม่ไปอยู่กับเราในช่วงสามสี่วันนี้ล่ะ?”เคธี่ตกตะลึงและสับสน “ให้ฉันไปอยู่กับเธอเหรอ?”เนลล์หัวเราะ “ทำไมคุณถึงดูสับสนเช่นนี้? ฉันเป็นลูกสาวของคุณนะ และเมื่อคุณแม่มาเที่ยวที่เมืองของลูกสาว แล้วทำไมเธอไม่มาอยู่กับลูกสาวแทนที่จะเป็นที่อื่นล่ะ?”เคธี่ทำตัวไม่ถูก ถึงแม้ว่าเธอจะเข้าใจในคำพูดของเนลล์ แต่เธอก็มีท่าทีที่ลังเลในเวลาเดียวกันฌอนขมวดคิ้วเขาพูดด้วยเสียงต่ำว่า “เราไม่รบกวนคุณดีกว่า ผมรู้ว่าพวกคุณเป็นครอบครัวเดียวกัน แต่ในเวลานี้จิตใจของเคธี่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เธอเคยอาศัยอยู่ที่นี่ และมันจะไม่ดีถ้าหากว่าเราจะเปลี่ยนสภาพแวดล้อมของเธออย่างกระทันหันเช่นนี้ เพราะมันจะส่งผลต่ออารมณ์และความรู้สึกของเธอได้ง่ายขึ้น”เนลล์งุนงง เธอไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่ฌอนกล่าว “แต่นี่คือคฤหาสน์ของมิสเตอร์ดอนเนลลี่ไม่ใช่เหรอ? และการที่แม่อยู่ที่คฤหาสน์ของมิสเตอร์ดอนเนลลี่จะไม่ส่งผลต่ออารมณ์ของเธอด้วยเช่น
ถัดจากเนลล์ ลิซซี่รีบวิ่งเข้ามาด้วยความตื่นเต้น ทันทีที่ได้ยินเนลล์คุยโทรศัพท์ “คุณแม่จะเดินทางไปทำธุระเหรอคะ?”เนลล์มองลงมาที่เธอและยิ้มออกมา "ใช่แล้วค่ะ"เธอเอื้อมมือออกไปลูบผมของลิซซี่ แล้วพูดอย่างอ่อนโยนว่า “อีกสองสามวัน แม่กับพ่อจะต้องไปต่างประเทศกันห้าวัน ดังนั้นลูกจะต้องอยู่บ้านดูแลน้องชายของลูกให้ดีนะ ลูกตีน้องได้เลยถ้าเขาดื้อ แต่ถ้าหากว่ามีใครมารังแกเขา ลูกจะต้องปกป้องเขานะ ทำได้ไหมคะ?”ลิซซี่พยักหน้ารับอย่างเคร่งขรึม“คุณแม่ไม่ต้องกังวลไปหรอกค่ะ หนูจะดูแลวีมอนด์ให้ดีที่สุดเอง”เนลล์พยักหน้าด้วยความโล่งอก จากนั้นเธอก็เอนตัวลงจูบลิซซี่ที่หน้าผาก ก่อนจะพูดว่า “เราไปกินข้าวกันเถอะ”ทั้งครอบครัวกินข้าวด้วยกันอย่างมีความสุข และในตอนเย็นเนลล์ก็ได้กลับไปที่ห้องของเธอ เพื่อค้นหาสถานที่เที่ยวสนุก ๆ รอบเมืองหลวง หลังจากนั้นเธอก็ได้โทรไปที่บริษัท และสั่งให้ฮันนาช่วยดูแลบริษัทในช่วงที่เธอไม่อยู่ ก่อนจะวางสายไปขณะที่เธอกำลังค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตอยู่นั้น กิดเดียนก็ได้ออกมาจากห้องอาบน้ำ ทันทีที่เขาเห็นว่าเธอกำลังนั่งอยู่ตรงนั้น เขาก็เดินเข้าไปหาเธอจากทางด้านหลัง"คุณกำลังหาอะไรอ
น้ำเสียงของคุณหญิงควีนตันทางโทรศัพท์ฟังดูอ่อนโยนมาก“เนลลี่ เธออยู่บ้านหรือเปล่า?”เนลล์วางตะเกียบลง ก่อนจะเดินออกไปคุยข้างนอก “ไม่ได้อยู่ที่บ้านค่ะคุณย่า เกิดอะไรขึ้นรึเปล่าคะ?"คุณหญิงควีนตันหัวเราะ “ฉันไม่ได้เป็นอะไรหรอก ฉันก็แค่ถามเฉย ๆ พอดีฉันได้ยินมาว่า… เธอจะไปที่ประเทศทีในอีกไม่กี่วันนี้ไม่ใช่เหรอ?”“ใช่ค่ะ คุณป้าสนใจที่จะทำเหมืองหยก และฉันก็ชอบมันเหมือนกัน ฉันเลยว่าอีกสักสองสามวันจะเข้าไปดูลู่ทางที่นั่นกับกิดเดียนไว้ก่อนค่ะ”“ถ้าอย่างนั้น ก็เดินทางด้วยความระมัดระวังนะ เธอต้องใส่ใจกับสุขภาพของตัวเองด้วย ถ้ามีอะไรที่อยากทำ ก็ให้กิดเดียนเขาทำแทนแล้วกันนะ อย่าปล่อยให้ตัวเองเหนื่อยจนเกินไป”เนลล์หัวเราะออกมา “ฉันรู้ค่ะ คุณย่าไม่ต้องกังวลไปหรอกนะคะ”"ก็ได้"คุณนายควีนตันไม่ยอมวางสายง่าย ๆ และเนลล์เองก็ลำบากใจที่จะขอวางสายก่อนเช่นกันแต่ถ้าอีกฝ่ายไม่พูดออกมาสักที เนลล์ก็จะไม่รู้ว่าเธอต้องการอะไรกันแน่ผ่านไปได้ครึ่งนาที เธอก็เริ่มหมดความอดทน เธอจึงเอ่ยถามว่า “คุณย่าคะ มีอะไรจะพูดกับฉันอีกไหมคะ?”อีกด้านหนึ่งของปลายสาย น้ำเสียงของคุณนายควีนตันฟังดูเคอะเขินเล็กน้อย“คือว่าเ
เนื่องจากทั้งกิดเดียนและเนลล์อยู่ด้วย คุณดอนเนลลี่จึงไม่กล้าที่จะชักช้ายืดยาดโรงแรมที่พวกเขาได้จองเอาไว้ เป็นโรงแรมที่ใหญ่และหรูหราที่สุดในประเทศทีหลังจากที่พวกเขาได้เข้ามาในโรงแรม เนลล์ดูจะให้ความสนใจเป็นพิเศษ เมื่อเธอรู้ว่าห้องของเคธี่กับฌอนอยู่ติดกับเธอ เธอรู้ว่าห้องนั้นคุณดอนเนลลี่คงจะจัดไว้ให้เป็นพิเศษ เธอจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขอบคุณเขาอยู่ในใจห้องของจีนอยู่อีกฝั่งหนึ่ง เธอไม่ชอบที่จะต้องตื่นมาเห็นหน้ากิดเดียนในทุก ๆ วัน ดังนั้นเธอจึงรู้สึกชอบมันมากเช่นกันเมื่อพวกเขาเก็บสัมภาระกันเสร็จแล้ว พวกเขาก็พากันออกไปกินข้าวเนื่องจากว่าเนลล์กำลังตั้งครรภ์ เธอจึงรู้สึกหิวในทุก ๆ สองชั่วโมง และอยากจะทานแต่อาหารดี ๆกิดเดียนจะคอยเตรียมขนมเล็ก ๆ น้อย ๆ ไว้ให้เธอกิน คนอื่นคงคิดว่ากระเป๋าเอกสารของท่านประธานจะต้องเต็มไปด้วยสัญญาทางธุรกิจที่มีมูลค่าหลายแสนล้านแต่พวกเขาหารู้ไม่ว่าในกระเป๋าเอกสารของประธานจะเต็มไปด้วยช็อคโกแลตและปูอัดเนลหยิบขนมที่กิดเดียนยื่นให้แล้วกัดเข้าไป เธอพูดอย่างพึงพอใจว่า “ถ้ามีของกินจะดีที่สุด”เคธี่ที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับเธอ เผยยิ้มออกมา “ตอนนี้เธอกำลังตั้งครรภ
กลุ่มของพวกเขาเดินเล่นไปรอบ ๆ จนถึงเย็น ก่อนจะไปที่ร้านอาหารหรูอีกแห่งเพื่อทานอาหารค่ำหลังจากที่ทานอาหารกันเสร็จ คุณดอนเนลลีก็ถามพวกเขาว่าอยากไปตลาดกลางคืน หรือสถานบันเทิงที่ไหนอีกหรือเปล่าแต่เนลล์ก็ปฏิเสธ เพราะว่าเธอรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อยคุณดอนเนลลี่ก็ไม่ได้บังคับ เขาพาเธอกลับไปส่งที่โรงแรมแม้ว่าเขาจะไม่ได้อาศัยอยู่ที่นี่ แต่เขาก็มาที่ประเทศทีอยู่บ่อยครั้ง จนเขามีบ้านเป็นของตัวเองที่นี่ เขาจึงกลับไปพักค้างคืนที่บ้านของเขาเองหลังจากที่คุณดอนเนลลี่กำลังจะกลับ เนลล์ก็เอ่ยถามขึ้นมาด้วยความสงสัยว่า “เราจะไปที่เหมืองกันเมื่อไหร่คะ?”คุณดอนเนลลี่ยิ้มออกมา "พรุ่งนี้ครับ เพราะว่าเหมืองค่อนข้างอยู่ไกลจากตัวเมือง ถ้าเราออกไปกันตอนนี้ ผมคิดว่าเราคงจะกลับมาไม่ทัน สถานที่ที่อยู่ห่างไกลและความปลอดภัยไม่ค่อยดีนัก ผมเกรงว่ามันจะไม่ค่อยปลอดภัยกับเราที่จะไปที่นั้นในตอนกลางคืนแบบนี้ เราจะไปที่นั่นในตอนเช้าของวันพรุ่งนี้ และกลับมาในตอนกลางคืน”เนลล์พยักหน้าเมื่อคุณดอนเนลลี่กลับไปแล้ว เธอก็ไปที่ห้องแล้วอาบน้ำนอนพักผ่อนเช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น คุณดอนเนลลี่ก็ขับรถมารับพวกเขาวันนี้เขาขับรถลีมูซ