ความเงียบเข้าปกคลุมบรรยากาศโดยรอบ ทุกคนต่างก็จับจ้องไปที่สมบัติภายในกล่องด้วยความเงียบจนเกือบลืมหายใจผ่านไปครู่หนึ่ง เกรกอรีดึงตัวเองออกจากความคิดเป็นคนแรก เขามองชิม่อนและพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาว่า “มีแค่นี้เหรอ?”สีหน้าของชิม่อนงุนงงและโกรธ“แค่นี้ก็ควรจะเพียงพอแล้วสำหรับพวกนายไม่ใช่เหรอ? ถ้าไม่ใช่เพราะฉันที่เป็นคนได้รับมอบหมายให้นำมันมามอบให้กับนาย นายอาจจะไม่ได้รับมันด้วยซ้ำ!”เกรกอรีรู้ว่าเขาไม่ได้พูดเกินจริงเขาขมวดคิ้วแต่ไม่ได้พูดอะไร เขาเอื้อมมือออกไปเขารับกล่องมาเนื่องจากชิม่อนมาที่นี่เพื่อส่งมอบมอบลูกปัดเงินให้กับเขา เกรอกอรีจึงไม่ได้ส่งชายคนนั้นออกไปในทันทีเกรกอรีหันหลังและพาทุกคนเข้าไปในบ้าน เขายื่นกล่องให้พ่อบ้านออสบอร์น ก่อนจะพูดกับชิม่อนอีกครั้ง “คู่มือการเพาะปลูกอยู่ที่ไหน? ส่งมาให้ฉัน"เขาไม่เชื่อว่าพืชที่ล้ำค่าเช่นนี้จะสามารถรักษาชีวิตไว้ได้โดยการปลูกในดินเหมือนวัชพืชทั่วไปดูเหมือนว่าชิม่อนจะตกตะลึงกับความต้องการของเขา และเบิกตากว้างด้วยความตกใจ“คู่มือการเพาะปลูก? ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนั้นเลย”เกรกอรีขมวดคิ้ว สีหน้าของเขามืดมนลง“เจฟไม่ได้
“วิกกี้ ภรรยาของคุณจะต้องกินผลของมัน 4 ผลต่อหนึ่งเดือน เพียงแค่ต้นเดียวมันจะไม่เพียงพอสำหรับเธอ ดังนั้นคุณจะต้องช่วยตามหาหยกอาถรรพ์เพิ่มเติม และเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณหามันเจอ ผมจะมอบมันให้กับคุณอีกหนึ่งต้นพร้อมกับคู่มือการเพาะปลูก คุณคิดว่ายังไง?"เกรกอรีเงียบไปในขณะที่เขาครุ่นคิดก่อนหน้านี้ที่เขาเห็น ที่บนต้นของมันมีผลลูกปัดเงินเพียงแค่ 5 ถึง 6 ผล เท่านั้น เจฟ์ฟอาจจะไม่ได้โกหกเขาเกรอกอรีพยักหน้า"ตกลง ผมยอมรับข้อเสนอของคุณ”รอยยิ้มที่สดใสปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเจฟฟ์“ต้นลูกปัดเงินต้นนั้นจะต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการเติบโต คุณจะต้องเก็บไว้ในที่มืดและสถานที่ที่ดูดซับแก่นแท้ของแสงจันทร์ได้ดีที่สุด มันไม่สามารถสัมผัสดินได้ ถ้าไม่อย่างนั้นมันจะเหี่ยวเฉาในทันที คุณจะต้องนำมันใส่ในภาชนะที่ทำจากหยกเท่านั้น ยิ่งหยกมีคุณภาพดีมากเท่าใด ต้นไม้ก็จะยิ่งเติบโตแข็งแรงมากขึ้นเท่านั้น และขนาดของผลก็จะใหญ่ขึ้นเช่นกัน“เมื่อคุณพบตำแหน่งที่เหมาะสมและภาชนะดังกล่าวแล้ว คุณควรวางต้นไม้ไว้ลงบนภาชนะและเทน้ำเพียงเล็กน้อยลงที่ก้นภาชนะ และน้ำจะต้องไม่ท่วมรากของมัน คุณจะต้องเปลี่ยนน้ำวันละสามครั้ง เช้า บ่
ด้วยความไม่แน่ใจที่อยู่ภายในใจของวิกกี้ เธอจึงหันไปเผชิญหน้ากับเกรกอรีช้า ๆ แต่แล้วเธอก็ได้พบกับดวงตาที่มืดมิดและเต็มไปด้วยความครอบงำ ในขณะที่เธอหันหลังกลับมาดวงตาของเขามืดมนราวกับหลุมดำ ราวกับว่ามันกำลังจะดูดเธอลงไปข้างใน วิกกี้อ้าปากค้างในขณะที่เธอจ้องมองเกรกอรี“เกรกอรี คุณ…”เขาเดินเข้ามาและดึงเธอเข้ามาไว้ในอ้อมกอดด้วยอย่างรวดเร็วร่างกายที่อ่อนนุ่มของหญิงสาวถูกกดทับลงกับร่างกายของเขาอย่างหนัก และลมหายใจของเขาก็ค่อย ๆ ผิดปกติ เขาเอื้อมมือออกไปยกคางเธอขึ้นเขา ๆ และบังคับให้เธอมองมาที่เขา“เธอเลือกชุดนั้นโดยตั้งใจที่จะลองยั่วยวนฉันใช่ไหม?”รอยยิ้มเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของวิกกี้นิ้วที่เรียวยาวของเธอลูบไล้ไปตามใบหน้าของเขา ลงผ่านคาง คอยหอย กระดูกไหปลาร้า และเลื่อนไปทางขวาระหว่างหน้าอกของเขา"ใช่ ฉันต้องการที่จะยั่วนาย ฉันแค่สงสัยว่าคุณเกรแฮมจะตกหลุมพรางหรือเปล่า”มุมปากของเธอขดเป็นรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ นี่เป็นครั้งแรกที่เกรกอรีเห็นเธอเป็นแบบนี้ เขารู้สึกว่าร่างกายของเขากำลังถูกไฟเผาจนทำให้ร่างกายของเขาร้อนรุ่มและสามารถจะระเบิดได้ในทุกวินาทีเขามองใบหน้าที่ยิ้มแย้มขอ
เนลล์ตกใจกับคำถามของเธอเธอไม่เคยคิดที่จะตามหาความเป็นอมตะหรืออะไรแบบนั้นเลยหยกอาถรรพ์ที่สามารถสร้างความเป็นอมตะได้ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องไร้สาระและเธอก็ไม่เคยเชื่อมันเลย อย่างไรก็ตาม ความไม่เชื่อของเธอไม่ได้หมายความว่าทุกคนมีความคิดเช่นเดียวกับเธอแม้แต่คนที่ฉลาดอย่างเจฟฟ์ เขาเองก็ต้องการความเป็นอมตะเหมือนคนเหล่านั้นไม่ใช่เหรอ?เนลล์รู้สึกปวดหัวเมื่อคืบคลานเข้าไปในความคิดนั้นเธอถอนหายใจแล้วพูดว่า “แจน เธอยังจำตอนที่เราไปงานแต่งงานของเกรกอรีและวิกกี้ได้ไหม? จำตอนที่เธอหน้ามืดได้หรือเปล่า?”เจเน็ตชะงัก “แน่นอน ฉันจำได้ แล้วหยกมันเกี่ยวอะไรกับด้วย?”“ทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับพวกเขา หยกที่ฉันขอให้เธอตามหา พวกเขาเองที่เป็นคนขอให้ฉันช่วยตามหามัน”เจเน็ตตกตะลึงกับคำพูดของเธอเนลล์รู้สึกว่าเธอไม่สามารถปิดบังอะไรจากเจเน็ตได้อีกต่อไปเพราะหากข้อมูลที่เจเน็ตได้รับถูกต้อง เกรกอรีและวิกกี้ก็คงจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังประเทศเอฟได้เธอต้องบอกความจริงกับเจเน็ตเนลล์จึงบอกเจเน็ตเกี่ยวกับเรื่องราวของชิม่อนที่เปิดเผยภูมิหลังของวิกกี้ต่อเกรกอรี และเรื่องที่พวกเขาทั้ง
กิดเดียนพยักหน้า และเดินตามเนลล์ออกไปที่ประตูเขาช่วยพยุงแขนเธอเอาไว้ ขณะที่พวกเขากำลังเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น แล้วนั่งลงบนโซฟา“คุณมีอะไรรึเปล่า?” กิดเดียนถาม“คุณจำตอนที่ฉันขอให้เจเน็ตช่วยตามหาหยกอาภรรพ์ได้ไหมคะ? เธอบอกฉันว่าเธอได้ข่าวมาแล้วค่ะ เธอบอกว่ามีคนที่ชื่อว่าลุงอัลฟัท เหมือนจะมีหยกนั้นอยู่ ฉันจึงบอกกับวิกกี้เกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว และพวกเขาคงจะไปที่นั่นเร็ว ๆ นี้”วิกกี้และเกรกอรี ไม่ค่อยคุ้นเคยกับครอบครัวกริฟฟินมากนัก พวกเขาเคยพบกับเจเน็ตและเลียม แค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น “ท่านหญิงไม่ได้บอกว่าเธออยากจะเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของท่านผู้หญิงกริฟฟินหรอกเหรอ? ทำไมเราถึงไม่ไปกับเธอล่ะ? เราจะได้สามารถดูแลเธอ และช่วย วิกกี้ได้ในคราวเดียว”กิดเดียนจ้องมองเธอและขมวดคิ้วขึ้นมา“แต่ร่างกายของคุณ…”เนลล์ส่ายหัว"ฉันสบายดีจ๊ะ"เธอหัวเราะคิกคักออกมาเบา ๆ ก่อนจะจับมือของกิดเดียนมาวางไว้บนท้องของเธอ"ดูสิ? ลูก ๆ ของคุณทำตัวน่ารักมาก ๆ พวกเขาไม่ได้รบกวนอะไรฉันเลย”กิดเดียนยังคงกังวลกับข้อเสนอของเธออยู่ เนลล์จึงพูดต่อว่า “ยิ่งไปกว่านั้น ฉันกำลังคิดที่จะไปเยี่ยมแม่และลุงฌอนในร
เนลล์ก้าวไปข้างหน้า พลางโอบกอดท่านผู้หญิงควีนตันเอาไว้แน่น“เยี่ยมไปเลยค่ะ คุณยาย”ท่านผู้หญิงควีนตันหัวเราะออกมาด้วยความยินดี เมื่อเนลล์ได้สวมกอดเธอตอนเที่ยงเนลล์ได้อยู่รับประทานอาหารกลางวันที่บ้านพักหลังเก่าพอทานอาหารกลางวันเสร็จ เธอก็ให้แนนซี่พาไปที่บริษัทเนลล์ใช้เวลาตลอดทั้งบ่ายจัดการสะสางงานต่าง ๆ และกลับบ้านในตอนกลางคืน จากนั้นเธอก็บอกกับกิดเดียน เรื่องที่เธอได้ไปคุยกับท่านผู้หญิงควีนตันในช่วงเช้ากิดเดียนฟังที่เธอพูด พลางให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเดินทางในอีกสองวันข้างหน้าเมื่อไม่มีผู้ใหญ่อยู่บ้าน เด็ก ๆ ทั้งสองคนก็ไม่ควรจะอยู่บ้านที่บ้านเช่นกันในตอนแรก เนลล์ต้องการให้พวกเขาไปอยู่กับ โจเซฟ การ์เร็ตต์ ก่อนสักสองสามวันเพราะถึงยังไง เขาก็เป็นอาของเนลล์ เขาคงจะดูแลเด็ก ๆ ได้เป็นอย่างดีแต่กิดเดียนกลับบอกว่า พวกเขาจะไปเยี่ยมครอบครัวกริฟฟิน และตามหา เคธี่ มอร์ริสัน พวกเขาจึงจะพาพวกเด็ก ๆ ไปด้วยพวกเขาไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยแต่อย่างใด เพราะช่วงปิดเทอมได้ใกล้เข้ามาแล้ว ดังนั้นการปล่อยให้เด็ก ๆ อยู่บ้าน อาจจะทำให้พวกเขาไม่มีความสุขนอกจากจะช่วยวิกกี้ และเกรกอรีดูแลหยก
เนื่องจากวิกกี้และสามีของเธออยู่ที่นี่ เนลล์จึงไม่มีอะไรที่ต้องรู้สึกกังวลอีกต่อไปไม่นานนักรถก็จอดลงที่หน้าบ้านพักของกริฟฟินท่านผู้หญิงกริฟฟินก็รู้ได้ในทันทีว่า ท่านผู้หญิงควีนตันได้มาถึง และรออยู่ที่หน้าประตูแล้วทั้งคู่เป็นเพื่อนซี้กันมาตั้งแต่เด็ก มิตรภาพที่พวกเขามีให้กันนั้น จึงแน่นแฟ้นอย่างไม่ต้องสงสัยเมื่อเธอรู้ว่าท่านผู้หญิงควีนตันกำลังจะมา ท่านผู้หญิงกริฟฟินก็รู้สึกปลาบปลื้มใจเป็นพิเศษในตอนเช้า เธอไม่เห็นด้วยกับคำพูดของคนในครอบครัวของเธอ ถึงยังไงเธอก็ยังยืนกรานที่จะออกมาต้อนรับเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอเป็นการส่วนตัวเมื่อครอบครัวลีย์ลงจากรถ หญิงชราทั้งสองคนก็สวมกอดกัน และภาพนั้นมันช่างเป็นภาพที่น่าประทับใจน่าเสียดายที่วันนี้อากาศไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่นัก หนักไปทางค่อนข้างหนาวเย็น แม้ว่าหญิงชราทั้งสองคนจะรู้สึกดีกับมัน แต่กลับไม่มีสมาชิกในครอบครัวคนไหน อนุญาตให้พวกเขาอยู่ข้างนอกต่อจัสติน กริฟฟิน พยายามพูดเกลี้ยกล่อมกับท่านผู้หญิงกริฟฟินว่า “คุณแม่ครับ วันนี้อากาศหนาวมาก เราเข้าไปข้างในกันดีกว่านะครับ”ในที่สุดท่านผู้หญิงกริฟฟินก็ยอมเข้าไปในบ้านแต่โดยดี“ก็ได้ เข้าไปข้
ลีโอนาร์ดน้อยดิ้นจนตัวหลุดออกจากแขนของเจเน็ตเขาโบกมือด้วยความกระตือรือร้น “พี่ไปซ่อนนะ ผมจะเป็นคนหาเอง”ลิซซี่พยักหน้า พลางหันไปจับมือของวีมอนด์เอาไว้“แล้วน้องชายของพี่ล่ะ จะเล่นด้วยกันรึเปล่า?”คราวนี้ลีโอนาร์ดน้อยนิ่งเงียบไปเขาเพียงแค่กดริมฝีปากเข้าหากัน และมองดูวีมอนด์น้อยด้วยท่าทางที่ไม่เป็นมิตรหลังจากที่ได้ฟังคำอธิบายของเนลล์ วีมอนด์น้อยก็เข้าใจแล้วว่า เด็กผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ได้รังแกพี่สาวของเขาแต่อย่างใด พวกเขาแค่หยอกเล่นกันเฉย ๆแต่ทว่าเขาก็ยังเป็นเด็กที่มีความมั่นใจในตัวเองอยู่เสมอ มันจะไม่เป็นอะไร ถ้าหากว่าเขาอยู่ที่บ้านกับครอบครัวของตัวเอง แต่เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับคนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการพบกันครั้งแรกแบบนี้ เขาจะไม่มีวันขอโทษสำหรับสิ่งที่เขาทำลงไปอย่างเด็ดขาดเด็กทั้งสองคนยืนจ้องหน้ากันอยู่แบบนั้น ใบหน้าเล็ก ๆ ของพวกเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง ขณะที่กลั้นหายใจไว้ด้วยความโกรธ อย่างไม่มีใครยอมใครเนลล์และเจเน็ตต่างก็หัวเราะออกมาสุดท้ายเด็ก ๆ ก็ไม่ได้เล่นซ่อนหาด้วยกันเด็กชายทั้งสองคนเป็นเด็กฉลาด แต่ก็ดื้อรั้นและก้าวร้าวเล็กน้อย พวกเขาจึงกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้