ในขณะที่เธอกำลังเดินตามเคธี่ไป ความรู้สึกหมดหนทางก็ได้เข้าครอบงำเนลล์ก่อนจะออกไป เธอได้เหลือบมองกิดเดียน เพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาควรจะดูแลลูก ๆ ให้ดี และอย่าคิดมากกับสิ่งที่แม่ของเธอพูดแน่นอนว่าเขาเข้าใจความหมายที่เธอพยายามจะสื่อนั้นได้ เพราะว่าพวกเขาอยู่ด้วยกันมานานมากจนรู้ใจกันและกันเป็นอย่างดีเขาพยักหน้าตอบเธอโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อยจากนั้นเนลล์ก็ตามเคธี่เข้าไปในที่สวนข้างหลังบ้านเรือนกระจกตั้งตระหง่านอยู่เหนือสวน เพื่อปกป้องพวกต้นไม้จากความร้อนที่มากเกินไปด้วยหลังคาโปร่งแสงเมื่อเปิดเครื่องปรับอากาศตลอดเวลา ต้นไม้ก็จะเติบโตได้เป็นอย่างดี และอุณหภูมิในเรือนกระจกก็สบายพอสมควรเช่นกันพวกเขาเดินผ่านสวนไป และเมื่อพวกเขาเข้าไปในอีกห้องหนึ่ง เคธี่ก็หันไปหาลูกสาวของเธอ ก่อนจะถามว่า “เธอเจอกับกิดเดียนได้ยังไง? ทำไมเธอไม่บอกฉันว่าเขาเคยหย่าและมีลูกแล้ว?”เนลล์อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา เมื่อเห็นว่าแม่ของเธอกำลังโมโห เธอตอบว่า “แม่คะ มันไม่ใช่อย่างที่แม่คิดหรอกนะคะ นั่งลงและฟังฉันก่อนนะคะ”เธอค่อย ๆ ดึงแขนแม่ของเธอไปที่โซฟา พลางอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับกิดเดี
เคธี่ลุกขึ้นยืน “ไปเถอะ กลับไปที่ห้องโถงหน้าบ้านกันได้แล้ว เราไม่ควรปล่อยให้คุณลีย์รอนานเกินไป เพราะถึงยังไงเขาก็เป็นคนที่มีเสน่ห์ ที่ทำให้เธอหลงหัวปลักหัวปำขนาดนี้”เมื่อพิจารณาจากน้ำเสียงประชดประชันของเคธี่แล้ว เนลล์ก็สามารถบอกได้เลย ว่าแม่ของเธอยังคงติดใจกับเรื่องของกิดเดียนอยู่แต่เธอก็ไม่ได้สนใจอีกต่อไป ตามคำกล่าวที่ว่า เวลาจะบอกความจริงทุกอย่างให้เห็นเองเป็นเรื่องปกติ ที่แม่ของเธอจะรู้สึกแบบนั้นกับกิดเดียน เพราะพวกเขายังไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเธอจะค่อย ๆ เริ่มเข้าใจมันสักวันหนึ่งอย่างแน่นอนเมื่อเธอคิดได้แบบนี้เธอจึงลุกขึ้น และพยักหน้าด้วยรอยยิ้มที่ฉาบอยู่บนใบหน้าของเธอทั้งสองเดินไปที่ห้องโถงหน้าบ้านด้วยกันในห้องโถง กิดเดียนกำลังเล่นเกมกับลิซซี่และวิมอนด์น้อยอยู่เป็นความจริงที่ว่าเมื่อใดก็ตามที่มีพวกเด็ก ๆ อยู่รอบ ๆ ตัวมันจะไม่มีช่วงเวลาที่น่าเบื่ออีกเลยเนลล์เดินเข้าไปด้วยท่าทางเงอะงะ กิดเดียนดูไม่สะทกสะท้านกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย เขาเหลือบมองเธอพลางเอ่ยถามว่า “คุนกันเสร็จแล้วเหรอ?”เนลล์พยักหน้าตอบเคธี่ยิ้มออกมา “พวกเธอหิวกันรึยัง? ถ้าหิวแล้ว ฉันจะให้เชฟไ
เนลล์และกิดเดียนใช้เวลาสองชั่วโมงเต็ม เพื่อเดินดูคฤหาสน์ขณะที่พวกเขากำลังเดินดูตรงนู้นตรงนี้อย่างเรื่อยเปื่อย พวกเขาก็สังเกตเห็นว่ามีคนรับใช้จำนวนมากทำงานอยู่ที่นี่พวกเขาทุกคนพูดภาษาท้องถิ่น แม้ว่าพวกเขาจะไม่เข้าใจสิ่งที่เนลล์พยายามจะพูด แต่พวกเขาก็ใจดี และเป็นมิตรกับเธอคฤหาสน์หลังนี้ใหญ่มาก จนทำให้ทั้งคู่หลงทาง แต่หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็พบว่าตัวเองได้กลับมาที่ห้องโถงด้านหน้าของคฤหาสน์แล้วกว่าพวกเขาจะมาถึง เวลาก็ได้ล่วงเลยมาถึงหกโมงเย็นแล้วฌอนกลับมาจากห้องแล็บแล้ว เมื่อเห็นพวกเขา เขาก็บอกให้คนใช้รีบไปแจ้งเคธี่และเด็ก ๆ ให้มาทานอาหารเย็นเนลล์ถามฌอนเกี่ยวกับวันของเขาด้วยรอยยิ้ม ไม่น่าแปลกใจเลยที่วิธีที่เขาใช้พูดกับพวกเขาในตอนนี้ดูอ่อนโยนกว่าเมื่อก่อนมากอาหารเย็นประกอบไปด้วยอาหารท้องถิ่นเป็นหลักลิซซี่และวีมอนด์น้อย อยู่เล่นกับเคธี่มาได้ระยะหนึ่งแล้ว เธอจึงเริ่มสนิทกับพวกเขาระหว่างทานอาหารเย็น ฌอนได้สังเกตเห็นว่าใบหน้าของเคธี่ดูสดใสขึ้นมาก เมื่อลูก ๆ ทั้งสองคนของเนลล์ เรียกเคธี่ว่าคุณยายเมื่อเห็นว่าเธอร่าเริงขึ้น มันก็ทำให้เขารู้สึกมีความสุขไปด้วยแม้แต่วิธีที่เธอมอง
ฌอนไม่ได้ไปกับพวกเขา เพราะว่าเขาต้องกลับไปทำงานที่ห้องแล็บแต่ว่าเนลล์ก็ไม่ได้ใส่ใจ เพราะเหตุผลเดียวที่ทำให้เธอมาที่คือการได้ใช้เวลากับเคธี่เท่านั้นคนขับรถในรอบนี้เป็นคนขับรถของคฤหาสน์ ไม่ใช่เครเมอร์ ที่เป็นคนขับรถให้พวกเขาเมื่อวันก่อนเมื่อพวกเขากำลังเดินทางไปในเมือง เคธี่ดูตื่นเต้นมาก หลังจากที่เธอได้แนะนำอนุสาวรีย์ให้แก่พวกเขาแล้ว เธอก็เริ่มเล่าให้เนลล์ฟังถึงกิจวัตรประจำวันของเธอเนลล์บอกได้เลยว่าแม่ของเธอดูมีความสุขมากเลยทีเดียวเธอมีความสุข เพราะในที่สุดเธอก็ยอมรับเนลล์ ให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเธอหรือเปล่า? หรือเธอแค่นึกถึงเรื่องราวในอดีตเท่านั้น?ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร เนลล์ก็รู้สึกได้ว่าทุกอุปสรรคระหว่างพวกเธอทั้งสองคนได้ค่อย ๆ หายไปเธอรู้สึกราวกับว่าเธอได้กลับไปอยู่ที่จินซองอีกครั้งช่วงบ่ายแก่ ๆ พวกเขาเริ่มรู้สึกเหนื่อยจากการเที่ยวชมสถานที่ต่าง ๆ แล้ว และเนื่องจากตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงวันด้วย พวกเขาจึงเลือกรับประทานอาหาร ที่ร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในเมืองร้านอาหารตั้งอยู่ในโรงแรม ทั้งตัวอาคารถูกฉาบไว้ด้วยสีขาว เมื่อพวกเขาเดินเข้าไป พนักงานในร้านอาหารก็จำเคธี่ได
เมื่อเห็นแบบนี้ เนลล์จึงไม่ได้พยายามเร่งหาคำตอบอีกต่อไปกลุ่มของพวกเขาเดินผ่านทางเดินยาว ก่อนจะเข้าไปในห้องโถงของแท่นบูชา พวกเขาได้เห็นรูปปั้นสูงของนางฟ้าที่ตั้งตะหง่านอยู่ข้างหน้าของพวกเขารูปปั้นสีทองวาววับนั้นสูงแค่เพียงไม่กี่เมตร และเมื่อแสงแดดได้สาดส่องเข้ามาประทะ รูปปั้นนั้นก็สะท้อนแสงจ้ามาสู่สายตาของผู้ชม จนทำให้พวกเขาแสบตากันเลยทีเดียวลิซซี่ที่กำลังยืนอยู่ข้างใต้รูปปั้น ได้เงยหน้าขึ้นมองดูรูปปั้นตรงหน้าของเธอ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบา ๆ “ว้าว เธอไม่ได้สูงมากหนิ?”เนลล์หัวเราะออกมา “นี่คือนางฟ้าแสนสวยที่ลูกอยากเจอนักหนาไงคะ หากลูกมีความปรารถนาใด ก็ขอพรจากเธอได้เลยนะจ๊ะ”ลิซซี่พยักหน้า เธอหลับตาและวางมือไว้บนหน้าตักขณะที่เริ่มอธิษฐานเคธี่ที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ก็ทำแบบนั้นเช่นเดียวกัน แต่เนลล์และกิดเดียนไม่ได้เป็นคนเคร่งศาสนา แทนที่พวกเขาจะแสดงความเคารพต่อนางฟ้า พวกเขากลับมองไปรอบ ๆ ด้วยความอยากรู้จู่ ๆ วีมอนด์น้อยน้อยก็พูดขึ้นมาว่า“ดูสิแม่! นั้นพี่สาวคนสวย!”ขณะที่เขาพูดอย่างนั้น เขาก็ยกนิ้วขึ้นชี้ไปข้างหน้าเนลล์มองตามทิศทางของนิ้วเขาไปสายตาของเธอจึงไปหยุดอยู่ที่ภาพวาดบนฝ
อีกอย่างเนลล์ก็กำลังตั้งครรภ์อยู่ด้วยเธอควรจะต้องนึกถึงเธอให้เยอะ ๆ เข้าไว้เมื่อคิดได้แบบนั้นเคธี่จึงพยักหน้าตกลง“เอาล่ะ กลับไปพักผ่อนกันก่อนเถอะ แล้วเราค่อยมาคิดกันอีกทีว่าจะไปดูการแสดงกันอยู่ไหม หลังจากที่ทานอาหารเย็นเสร็จ”"แบบนั้นก็ดีเหมือนกัน"เมื่อตกลงกันได้แล้ว พวกเขาก็นั่งรถกลับมาที่คฤหาสน์เมื่อพวกเขากลับมาถึงคฤหาสน์ พวกเขาก็ได้รู้ว่าฌอนกลับมาจากห้องทดลองได้สักพักแล้วในเวลานี้เขากำลังอยู่ในห้องกระจกหลังบ้าน เพื่อดูแลต้นลูกปัดสีทองอยู่หลังจากที่รู้ว่าพวกเขากลับมากันแล้ว ฌอนก็เดินออกมาจากด้านหลังของบ้าน และถามว่า “วันนี้คุณไปที่ไหนมาบ้าง?”เคธี่จึงเล่าให้เขาฟังเกี่ยวกับสถานที่ที่พวกเขาไปกันมาในวันนี้ฌอนตกใจมาก เมื่อรู้ว่าพวกเขาไปที่วังนางฟ้า“พวกคุณทุกคนไปที่วังนางฟ้ากันมาเหรอ?”เคธี่หัวเราะออกมา “ใช่ค่ะ เราอยากรู้เรื่องนี้ เราก็เลยไปดูให้เห็นกับตาตัวเอง”ฌอนเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา “ที่นั้นมันมีอะไรดี? พวกเขากำลังใช้มันเป็นเครื่องมือในการหาเงิน ผมค่อนข้างเชื่อในตัวเองมากกว่า เรื่องแบบนั้น”เนลล์ก็หัวเราะออกมาเช่นกัน “ฉันเห็นด้วยกับคุณลุ
ไม่นานนัก กิดเดียนก็กลับมาพร้อมกับน้ำในมือหนึ่งแก้วเขาถือแก้วนั้นไว้ พลางยกมันให้เนลล์ดื่มเนลล์เกียจคร้านเกินกว่าจะยกมือขึ้นมาถือแก้วน้ำเอง เธอจึงจิบน้ำจากแก้วไปสองสามจิบให้พอชุ่มคอ ก่อนจะผลักมือเขาออกไปเขาวางแก้วลงบนโต๊ะข้าง ๆ พลางหยิบเสื้อแจ็คเก็ตขึ้นมา“ข้างนอกอากาศเริ่มหนาวแล้ว ใส่แจ็กเก็ตตัวนี้ก่อนนะ เดี๋ยวจะเป็นหวัดเอา”เนลล์พยักหน้าและหยิบเสื้อมาอย่างว่าง่าย จากนั้นเธอก็ดึงผ้าห่มออก แล้วลุกขึ้นจากเตียง"คุณหิวรึยัง? อาหารเย็นใกล้จะเสร็จแล้ว เราลงไปกินข้าวกันไหม?”"ก็ได้ค่ะ"พวกเขาทั้งสองคนเดินจับมือกันเดินลงบันไดไปในห้องนั่งเล่นชั้นล่าง ลิซซี่กำลังนั่งอยู่บนโซฟา ดูการ์ตูนเรื่องโปรดของเธออยู่ส่วนวีมอนด์น้อยกำลังส่งเสียงดัง ขณะที่เขาพยายามต่อตัวต่ออยู่ข้าง ๆเมื่อเห็นพวกเขาลงมา เขาก็รีบวางของเล่นลงทันที ก่อนจะวิ่งไปหาเนลล์กับกิดเดียน“แม่ครับ พ่อครับ”กิดเดียนเร็วกว่าเขาไปก้าวหนึ่ง เขาจึงยกวีมอนด์น้อยขึ้นมา เมื่อเขาวิ่งมาได้แค่ครึ่งทางเท่านั้น“ต้องให้พ่อบอกลูกอีกกี่ครั้ง? ว่าอย่ากระโจนใส่แม่แบบนี้ เธอกำลังตั้งครรภ์อยู่นะ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าลูกกระโดดใส่เธอ แล้วเธอ
เนลล์อยู่ในวงการบันเทิงมาหลายปี และเธอก็เก่งในเรื่องของการประเมินการแสดงทุก ๆ ประเภทดังนั้นเธอจึงจับจุดได้แม้ว่าการแสดงเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น ท้ายที่สุดมันก็เป็นการแสดงที่จัดขึ้นเพียงครั้งเดียวในรอบหลายปีไม่ใช่แค่นักแสดงที่มีทักษะสูงเท่านั้น แต่การตกแต่งเวทีและอุปกรณ์ประกอบฉากทั้งหมดก็ทำได้ดีมากทีเดียวบางสิ่งที่ดูคล้ายหินก้อนใหญ่ตกลงมาจากฟากฟ้า และนักแสดงที่อยู่ด้านข้างต่างก็ตกใจเมื่อพวกเขาได้เห็นมันครั้งแรก แต่แล้วพวกเขาก็เริ่มอยากรู้อยากเห็น ประกอบกับเสียงดนตรีที่ยังคงดังขึ้นอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ พวกเขาล้อมรอบหินราวกับมนุษย์ถ้ำในสมัยโบราณไม่นานหลังจากนั้น บรรยากาศกลับเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ฟ้าแลบก่อนที่ลมพายุฝนจะโหมกระหน่ำลงมาผู้คนตื่นตระหนกและมองหากำบังหลบฝนในขณะที่ม่านบนเวทีฉายให้เห็นพายุทอร์นาโดที่ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นนักแสดงบางคนถูกพายุทอร์นาโดพัดปลิวไป ทรายสีเหลืองลอยขึ้นปกคลุมท้องฟ้า จนมองเห็นภาพตรงหน้าไม่ชัดเจน เมื่อทุกคนกำลังฝ่าฟันกับสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวย ทันใดนั้นเสียง “ปัง” ก็ดังขึ้นจากหินก้อนใหญ่ที่ตั้งอยู่ราวกับยักษ์ที่ค่อย ๆ แตก ออก เมื่อหินแตกออก บรร