นายท่านการ์เร็ตต์พูดเสียงเบา “ผีเสื้อของเล่นตัวนี้ถูกพบในห้องของเธอ ไม่ใช่แค่พิสูจน์ว่าฆาตกรคือเธอ? สำหรับแรงจูงใจของเธอแม้ว่าเธอจะไม่ต้องการบอกเราในตอนนี้ แต่เธอก็เต็มใจที่จะพูดหลังจากที่เธอได้รับความทุกข์ทรมานและเธอจะเรียนรู้ว่าการเล่นเป็นใบ้มันไม่มีประโยชน์"เนลล์ขมวดคิ้วเธอไม่คิดว่านายท่านการ์เร็ตต์จะเป็นคนทำตามอำเภอใจเธอส่ายหัวและพูดอย่างจริงจังว่า “ไม่ คุณคิดผิด แม้ว่าจะพบผีเสื้อของเล่นตัวนี้ในห้องของไอริส แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นของเธอ”คำเหล่านี้ทำให้ทุกคนสับสนในทันทีพวกเขาทั้งหมดมองเธอด้วยความสงสัยไม่เข้าใจว่าเธอหมายถึงอะไรจิม การ์เร็ต หัวเราะเยาะ “ถ้าสิ่งนี้พิสูจน์ไม่ได้แล้วจะเป็นอย่างไร”“แน่นอน เราต้องดูหลักฐานโดยละเอียดมากกว่านี้!”เนลล์หยิบผีเสื้อของเล่นขึ้นมาและแสดงต่อหน้าทุกคน จากนั้นเธอก็พูดขึ้น “ทุกคนโปรดดู ถึงแม้ว่าของเล่นชิ้นนี้จะดูธรรมดามาก แต่ถ้าคุณมองเข้าไปใกล้ ๆ คุณจะสังเกตเห็นว่าส่วนหนึ่งของปีกของมันเปียก ฉันดมมันอย่างระมัดระวังก่อนหน้านี้และพบว่ามันมีกลิ่นเหมือนน้ำหอม ฉันไม่รู้ว่ามันคือน้ำหอมอะไร แต่ก่อนหน้านี้มีคนเดินผ่านฉันไปและทำให้ฉันจำได้ว
เซลีนร้องไห้ฟูมฟายอย่างไรก็ตาม ในบรรดาแขกที่มาร่วมงานไม่มีใครเห็นอกเห็นใจเธอ ยกเว้นนายท่านการ์เร็ตต์พวกเขาทั้งหมดมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจท้ายที่สุด เธอเป็นคนที่เทศน์เพื่อชักชวนสาวใช้ไอริสให้กล้าหาญพอที่จะยอมรับความผิดพลาดของเธอนอกจากนี้ เธอยังแสร้งทำเป็นอ้อนวอนขอผ่อนผันต่อ นายท่านการ์เร็ตต์ในนามของไอริส เพื่อให้ได้มาซึ่งความปรารถนาดีต่อตัวเธอเองมันน่ากลัวมากที่คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าคนอย่างเธอจัดการกับทุกคนจนจบโดยที่ไม่มีใครค้นพบความจริงดังนั้นทุกคนจึงแสดงความดูถูกเซลีนอย่างโดยอัตโนมัติกิดเดียนตระหนักถึงความจริงเมื่อนานมาแล้ว เมื่อเนลล์ก้าวไปข้างหน้าเพื่อพูดคุยกับไอริส เขาก็เดาได้ว่าใครคือผู้ร้ายตัวจริงเนื่องจากเธอเดินหน้าไปแล้วเขาจึงไม่พูดอะไรอีกนายท่านลีย์และท่านผู้หญิงควินตัน ต่างประหลาดใจ เมื่อพวกเขาได้ยินความจริงพวกเขาทั้งตกใจและโกรธพวกเขาไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการฉีกเซลีนเป็นชิ้น ๆอย่างไรก็ตาม ผู้สูงอายุทั้งสองไม่ชอบเซลีนเนื่องจากความไม่พอใจของเธอกับเนลล์ พวกเขารำคาญที่จะโต้เถียงกับเธอ เพราะตอนนี้เธอเป็นหลานสาวของนายท่านการ์เร็ตต์อย่างไรก็ต
“เมื่อคุณเชื่อใจเธอมากและรู้สึกว่าเธอไม่สามารถทำอะไรที่เป็นอันตรายได้อย่างตั้งใจ นั่นก็คือเหตุผลว่าทำไมเจ้าหน้าที่จึงเหมาะสมที่จะเข้าแทรกแซงเพื่อค้นหาความจริง เพื่อสะสางเชื่อเสียของเธอ?นายท่านการ์เร็ตต์หายใจไม่ออกไปชั่วขณะแขกบางคนเริ่มมองดูเหตุการณ์ ราวกับว่าพวกเขากำลังดูละครที่น่าสนใจหึ ๆ ดูเหมือนว่าลีย์และการ์เร็ตต์กำลังจะต่อสู้พวกเขาไม่รู้ว่าการโต้เถียงครั้งนี้เป็นเพราะเด็กหรือว่าอย่างอื่นกันแน่ในตอนนี้ชายชราก็หน้าซีดเขากำหน้าอกของเขาแล้วอ้าปากค้างอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงราวกับว่าเขาไม่สามารถหายใจได้อีกต่อไปสมาชิกการ์เร็ตต์ที่เห็นสิ่งนั้นก็หน้าซีดและวิ่งไปในทันที“นายท่าน!”"พ่อ!"“ปู่!”“เรียกหมอด่วน!”โชคดีที่แพทย์ประจำตระกูลของการ์เร็ตต์พร้อมให้บริการตลอดเวลา หลังจากตรวจสอบลิซซี่ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้ออกไปไหนและยังคงอยู่ข้างนอกเพื่อรอรับคำสั่งในตอนนี้เขารีบเข้าไปและเปิดชุดยาเพื่อทำการปฐมพยาบาลแก่ชายชราแฮเรียต บร็อคแมน กังวลมากจนตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดง เหมือนเธอกำลังจะร้องไห้เธอหันไปหาเนลล์และวิงวอนด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมด้วยความเมตตา “คุณน
“วันนี้ฉันแค่อยากจะเตือนความทรงจำของเธอในนามของลุงรอง ถ้าเธอรู้ว่าเธอทำผิดพลาดเธอต้องยอมรับและเรียนรู้จากมัน ถ้าเธอไม่ต้องการลดความสูงส่งนั้นก็จะเป็นการดีกว่าที่จะไม่ทำผิดพลาดอีก วิธีนี้เธอจะจำได้ดี ไม่คิดอย่างงั้นเหรอ?”โจเซฟพูดไม่ออกชั่วขณะหลังจากครุ่นคิดจากคำพูดของเธออย่างระมัดระวังเขาก็รู้สึกว่ามันมีเหตุผลมากทีเดียวดังนั้นเขาจึงไม่พูดอะไรอีกเนลล์ยิ้มให้เซลีนอย่างร่าเริง“ตอนนี้ได้โปรดขอโทษซะ!”ใบหน้าของเซลีนเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีขาว สิ่งที่เธอต้องทำคือรีบฉีกยิ้มให้เนลล์อย่างพอใจทันทีเธอกัดริมฝีปากล่างและมองไปที่ นายท่าน การ์เร็ตต์ ด้วยสีหน้าไม่พอใจอย่างไรก็ตามใบหน้าของนายท่านการ์เร็ตต์ นั้นเรียบเฉยและตึงเครียด เขาไม่ได้มองไปที่เธอหัวใจของเซลีนหยุดชะงักจากนั้นเธอมองไปที่จิมอีกครั้ง แต่เขาพยักหน้าเบา ๆ ให้เธอดังนั้นเธอจึงรู้ว่าตอนนี้ห้ามพูดกลับกลอกแม้ว่าหัวใจของเธอจะเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจและฝืนใจ แต่เธอก็ก้าวไปหาไอริสและพูดว่า “ฉันขอโทษ”ไอริสทำงานในบ้านการ์เร็ตต์เป็นเวลาสองปี ปกติแล้วเธอจะเป็นคนที่ไม่ได้รับเคารพนับถือ เมื่อรับใช้นายท่านเหล่านี้ เธอเคยถูกพวกเขาบอกขอ
เซลีนเริ่มร้องไห้อีกครั้งขณะที่เธอพูด“หนูขอโทษคุณปู่ หนูไม่คาดคิดว่าสุดท้ายแล้วมันจะออกมาเป็นแบบนี้ มันเป็นความผิดของหนูทั้งหมด หนูทำให้ปู่อับอาย และยังทำให้ตระกูลลีย์ขุ่นเคือง หนูขอโทษ"เซลีนขอโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้ว่าเธอจะพูดคำเหล่านั้นนับครั้งไม่ถ้วน จนถึงจุดที่เธออยากจะอาเจียนออกแทนอย่างไรก็ตาม เธอรู้ว่าเธอต้องยอมลดตัวลงไปเสแสร้งต่อหน้านายท่านการ์เร็ตต์อย่างน้อยที่สุด เธอก็ไม่สามารถทำให้เขาผิดหวังในตัวเธอและยอมแพ้ในตัวเธอได้แน่นอนว่า นายท่านการ์เร็ตต์มองมาที่เธอและพูดอย่างเย็นชา “หนูรู้ไหมว่าสิ่งที่ผิดพลาดที่สุดของหนูในวันนี้คืออะไร?”เซลีนตะลึงเธอจ้องมองเขาอย่างว่างเปล่าและส่ายหัว“ความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของหนูไม่ใช่การจัดการกับมันด้วยการฆ่าใครสักคน แต่หนูกลับทิ้งไว้ให้อีกฝ่ายมีโอกาสหายใจและเขาก็มีโอกาสหันกลับมาโจมตีหนู”เขาถอนหายใจและพูดว่า “วันนี้มันไม่ได้แย่ขนาดนั้นเพราะเขายังเป็นเด็กและไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของตระกูลเลย อย่างไรก็ตามหากหนูต้องการจัดการกับใครบางคนในอนาคต หนูต้องจำไว้ว่าต้องทำร้ายในส่วนที่เจ็บปวดที่สุด ไม่ว่าหนูจะไม่ทำอะไรก็ตามหรือจะโจ
จิมมองไปที่เธออีกครั้ง แววตาของเขารู้สึกขยะแขยงฉายขึ้นในดวงตาของเขาขณะที่เขาพูดว่า “เธอรู้ไหมว่าเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ตระกูลเกรแฮมจึงกลับคำพูดของพวกเขา การแต่งงานที่ได้รับการยืนยันเพิ่งจะจบลง”เซลีนตกใจอย่างรุนแรงเธอมองเขาด้วยความไม่เชื่อ "ทำไม?"จิมหัวเราะเยาะ“หืม จะเป็นอย่างอื่นไปได้อย่างไรล่ะ? พวกเขาไม่ต้องการให้คนก่อปัญหาแต่งงานกับตระกูลของพวกเขา วิธีที่เธอแสดงในคืนนี้ มีใครในกลุ่มคนชั้นสูงในเมืองหลวงที่อยากแต่งงานกับเธอกัน?”เซลีนพูดไม่ออกเธอกัดริมฝีปากของเธอ ความรู้สึกอัปยศที่ไม่อาจบรรยายได้เพิ่มขึ้นจากก้นบึ้งของหัวใจ เธอกำมือของเธออย่างแน่นจิมถอนหายใจอีกครั้ง“ลืมมันไปซะ เราจะพูดถึงการแต่งงานในครั้งต่อไป ตอนนี้มันสายไปแล้ว ทำไมเธอนังไม่กลับไปอีก? อย่าลืมระวังตัว และอย่าปล่อยให้พวกเขาสงสัย”เซลีนพยักหน้าและหันหลังกลับไปโดยไม่คาดคิดก่อนที่เธอจะไปถึงประตูจิมก็เรียกเธอไว้"เดี๋ยว”หลังจากที่เธอหยุดและหันกลับมา เธอก็เห็นจิมขมวดคิ้ว ขณะที่เขายื่นถุงกระดาษสีน้ำตาลให้เธอ“หล่อนให้มันกับเธอ เก็บไว้กับตัวเอง”ตกใจใบหน้าของเซลีนก็ซีดลง ใช้เวลาสองสามวินาทีก่อนที่เธ
เซลีนตัวแข็งทื่อขณะที่เธอหันกลับมาสเตฟานี่หัวเราะอย่างรวดเร็ว เพื่อซ่อนเจตนาของเธอเซลีนเลิกคิ้วขึ้น ขณะที่มีร่องรอยของการนึกคิดฉายอยู่ในดวงตาของเธอ ก่อนที่เธอจะอธิบายว่า “คุณกำลังพูดถึงปานผีเสื้อที่หลังของฉันหรือเปล่า? ฉันมีมันเมื่อตอนฉันยังเป็นเด็ก แต่มันก็ค่อย ๆ หายไปเมื่อฉันโตขึ้น”เธอตอบอย่างสบาย ๆ โดยไม่มีร่องรอยของความกังวลใจ หรือรู้สึกผิดราวกับว่าเธอกำลังพูดถึงสิ่งที่ปกติโดยสิ้นเชิงสเตฟานี่เม้มริมฝีปากของเธอ“อย่างนั้นเหรอ? ฉันไม่ยักรู้ว่าปานอาจหายไปเองได้”เซลีนยิ้ม “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เรื่องแบบนี้ก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน ท้ายที่สุดมันเป็นเพียงเม็ดสีบนร่างกาย เป็นเรื่องปกติทางการแพทย์ด้วย”สเตฟานีพยักหน้ารับสิ่งนี้"ฉันเห็นด้วย"ทั้งสองหยุดคุยกัน หลังจากทานอาหารเสร็จก็ไม่ได้กลับไปที่สระว่ายน้ำ แต่พวกเขานั่งเฉย ๆ สักพักก่อนกลับบ้านเมื่อนายท่านการ์เร็ตต์ได้ยินว่าพวกเขาออกไปด้วยกันในช่วงบ่าย เขาก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวและรู้สึกไม่ดีกับเรื่องนี้แม้ว่าเขาจะเป็นผู้ชาย แต่เขาก็รู้ความรู้สึกระหว่างเด็กผู้หญิงเหล่านั้นสเตฟานีเย็นชากับเซลีนมากนับตั้งแต่เธอกลับมาหลังจาก
นายท่านการ์เร็ตต์พุ่งไปด้วยความโกรธทันที"แกพูดอะไร? พูดอีกครั้งสิ!"สเตฟานียกคางของเธอขึ้นด้วยความโกรธ “หนูบอกว่าหนูไม่เห็นด้วย!”"แก!"เขาจับหน้าอกของเขา ในขณะที่หน้าของเขาแดงไปด้วยความโกรธ เมื่อเห็นเช่นนั้นแล้วสเตฟานี่ก็ตกใจและรีบนำยามาให้เขา“คุณปู่เป็นอย่างไรบ้าง? รีบกินยาก่อน!”ชายชราผลักเธอออกไป พร้อมกับยาและตวาดกลับ “ทำไมแกถึงสนใจว่าปู่จะยังมีชีวิตอยู่หรือตาย ในเมื่อแกไม่เชื่อฟังปู่? ถ้าปู่ตายมันอาจจะทำให้ภาระของแกลดลงไง? ไม่มีใครจะเป็นคนบังคับหรือควบคุมแกในอนาคตได้แล้ว?”หัวใจของสเตฟานีขุ่นหมอง แต่เมื่อมองไปที่สีหน้านั้น เธอก็ไม่กล้าที่จะโต้เถียงกลับถึงอย่างนั้นเธอก็พูดกลับไปอย่างเศร้า ๆ ว่า “คุณปู่ หนูไม่ได้ชอบ นาธาน เกรแฮม และไม่อยากแต่งงานกับเขา หนูแค่พูดจากใจ ในใจของปู่ความสุขของลูก ๆ หลาน ๆ ไม่สำคัญเท่ากับอำนาจพวกนั้นใช่ไหมคะ?”นายท่านการ์เร็ตต์จ้องไปที่เธอแต่ไม่พูดเมื่อเห็นเช่นนี้สเตฟานี่ก็รู้ว่าเขาจะไม่ฟังเธอ หัวใจของเธอก็ค่อย ๆ เศร้าลงก่อนหน้านี้นายท่านโกรธมากจนทำให้หายใจไม่ออก โชคดีที่ตอนนี้เขารู้สึกดีขึ้นมากหลังจากที่ได้ค่อย ๆ หายใจอย่างช้า ๆสเตฟานี่ย