“คุณมาที่นี่…เพื่อจะหัวเราะเยาะฉันหรอ?” เจนเงยหน้าขึ้นและฝืนยิ้มด้วยแววตาเศร้า ๆ ให้กับผู้ชายตรงหน้าเธอ “คุณคงดีใจที่เห็นฉันเป็นแบบนี้ใช่ไหมคะ? คุณชายสจ๊วต ยิ่งฉันดูแย่มากเท่าไร คุณก็จะยิ่งมีความสุขใช่ไหม?”ฮ่า ๆ ยิ่งเธอรู้สึกแย่มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกเหมือนได้ล้างแค้นให้กับโรซาลีนหวานใจของเขาที่จากไปใช่ไหม?"คุณชายสจ๊วต…คุณไม่จำเป็นต้องทำทั้งหมดนี้ จริง ๆ สิ่งที่คุณเคยทำมาก่อนหน้านี้ ฉันจะไม่รู้สึกดีกับมันอีกแล้ว ฉันเคยสงสัยว่าทำไมจู่ ๆ คุณถึงเปลี่ยนมาเทคแคร์ฉัน…ฉันเข้าใจแล้ว นี่คือเหตุผล”รูม่านตาสีดำสนิทของฌอนขยายออก และการหายใจของเขาติดอยู่ในลำคอ เขาลดเปลือกตาลงและมองผู้หญิงที่ขดตัวเป็นลูกบอลในตู้เสื้อผ้า ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดปน ๆ กับความเสน่หาทันใดนั้นเขาก็ถามด้วยเสียงทุ้มต่ำ “คุณเห็นอะไร? คุณหมายถึงอะไร ทำไม?”เสียงของเขาต่ำ แต่ทุกคำพูดนั้นเข้าหูของผู้หญิงที่กำลังขดตัวอยู่ เธอโอบแขนรอบตัวเองแน่น หัวใจเต้นแรงด้วยอารมณ์ ... เขายังถามคำถามแบบนั้นด้วยหน้าตาที่ใสซื่อได้ยังไง? เขาหมายถึงอะไร ทำไม?“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า…ฉันหมายถึงอะไร? คุณชายสจ๊วต คุณถามยังจะถามคำถามแ
ชายคนนั้นยืนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า มองไปที่ผู้หญิงที่กำลังร้องไห้อย่างไม่ละสายตา เขากลืนน้ำลายพร้อมกับกลืนทุกคำที่เขาควรพูด แต่ทำไม่ได้ลงไปในลำคอทันใดนั้นเขาก็ก้มร่างสูง ๆ ของเขา และเอื้อมมือไปหาเธอ“อย่าแตะต้องตัวฉัน!” เธอคำรามออกมาในทันที ด้วยเสียงแหบ ๆ ของเธอ เขาเห็นความเกลียดชังลึก ๆ ในดวงตาของเธอ และความเจ็บปวดในใจของเขาก็แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของเขา หลังจากที่เขามองเธออีกครั้ง เขาก็ยังคงยื่นมือไปหาเธอ“ฉันบอกแล้วไง ว่าอย่าแตะต้องตัวฉัน!” เจนมองเขาเหมือนกับเขาเป็นศัตรูตัวฉกาจของเธอ เมื่อใดก็ตามที่เขาพยายามเอื้อมมือไปหาเธอ เธอจะตอบสนองด้วยการทำตัวเหมือนเม่นที่มีหนามแหลมคมทั้งตัวเพื่อไม่ให้เขาแตะต้องตัวเธอฌอนยังคงยื่นมือไปหาเธอโดยไม่พูดอะไร วินาทีต่อมาเขารู้สึกเจ็บแปลบระหว่างนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยมองไปที่ผู้หญิงที่กัดมือของเขาอย่างดุร้ายด้วยฟันอันแหลมคมของเธอ ชายคนนี้ได้ใช้ชีวิตของเขาทำร้ายผู้คน แต่ไม่เคยมีใครทำร้ายเขามาก่อน ตอนนี้เขากำลังมองไปที่ผู้หญิงที่กัดเขาเหมือนสัตว์ดุร้ายที่กำลังทำร้ายเขา อย่างไรก็ตามไม่มีอะไรในดวงตาสีดำสนิทของเขา ยกเว้นการยอมรับอย่างเง
ท่ามกลางสายฝนผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกจากอาคารของ อีสต์ เอ็มเพอเรอร์ และออกไปท่ามกลางพายุ เธอพบร่มจากตู้เก็บของ ไม่ว่าผู้ชายคนนั้นจะน่ากลัวแค่ไหน แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่เขาพูดถูกต้องเธอเป็นคนที่สิ้นหวัง เป็นคนขี้ขลาดเธอจะปล่อยให้มันผ่านไปได้อย่างไร?เธอเดินไปที่ขอบถนน และเห็นว่ามีรถเบนท์ลีย์สีดำรออยู่ที่นั่นแล้วเพียงแวบเดียวเธอก็จำเจ้าของรถคันนั้นได้ จะเป็นใครได้นอกจาก ฌอน สจ๊วต ผู้หยิ่งผยอง?เธอเดินผ่านไป และกระจกรถก็ถูกเลื่อนลงเผยให้เห็นใบหน้าของคนขับ“ได้โปรดขึ้นรถเถอะครับ คุรหนูดันน์” ดอสลงจากรถแล้วเดินอ้อมไปที่เบาะหลังเพื่อเปิดประตูรถเธอก้าวเข้าไปในรถ และดอสก็กลับไปที่นั่งฝั่งคนขับ“เขาบอกให้คุณมาหรือเปล่า?”ดอสได้ยินเสียงจากเบาะหลังเอ่ยขึ้น จึงเงยหน้าขึ้นมองกระจกมองหลังมองไปผู้หญิงที่อยู่ด้านหลังของรถ เธอเงียบมากใบหน้าของเธอหันไปทางด้านข้างขณะที่เธอมองไปนอกหน้าต่างอย่างเงียบ ๆเขาไม่เข้าใจผู้หญิงคนนี้ เมื่อสองชั่วโมงที่แล้วเธอรีบวิ่งออกจากอาคารนั้นเหมือนมีผู้หญิงที่ถูกผีเข้าสิง ในเวลานั้นเธอกำลังปลดปล่อยความสิ้นหวังอย่างสุด ๆ อารมณ์ที่เอ่อล้นออกมามากจนแม้แต่ ดอสซึ่งเป็นผู้ม
เพี๊ยะ! มีเสียงของการตบอย่างกะทันหันดังขึ้น และมันดังมาก!เธอไม่ได้แสดงออกใด ๆ มีเพียงใบหน้านิ่งและเรียบเฉย “คุณหลอกตัวเองเสร็จหรือยัง?”น้ำเสียงเย็นชาของเธอ มันไม่เหมือนกับที่เจนและไฮด์เคยรู้จักและพใช้พูดคุยกัน เขาแตะไปที่แก้มด้านซ้ายของเขาด้วยความอาฆาตพยาบาท รอยนิ้วมือของเจนมันค่อย ๆ ปรากฏบนใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา “หลอกตัวเองอย่างนั้นหรอ? คุณกล่าวหาใครว่าหลอกตัวเอง?” เขาหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา “ฉันกำลังเล่นอยู่ คุณไม่เข้าใจอีกหรอ ฉันกำลังเล่นกับคุณอยู่!”เมื่อเขาพูดเช่นนั้น เขาก็โน้มใบหน้าของเขาเข้ามาหาเธออีกครั้ง เจนผลักเขาออกไปทันที เธอมองเขาอย่างเย็นชา "คุณชายโซรอส คุณคิดว่าฉันน่ารังเกียจและสกปรกใช่ไหม? แล้วทำไมคุณยังพยายามที่จะสัมผัสฉันอยู่อีก? คุณกำลังมองหาโคลนเพื่อที่จะทามันไปทั่ว ๆ ตัวคุณอยู่หรือ?“ขอเตือนอีกครั้งนะ คุณชายโซรอส ไม่สำคัญว่าฉันมาจากไหน แต่ตอนนี้ฉันมีบริษัท สตอร์จ ทรัสต์ มันเป็นของฉันทั้งหมด แล้วคุณละโซรอส? คุณมีอะไร?”คุณมีอะไร ไฮด์ โซรอส?!“แม้ว่าฉันจะเป็นผู้หญิงที่หากินกับผู้ชาย…” เธอโค้งริมฝีปากของเธอเป็นรอยยิ้ม เขาทำให้เธอรู้สึกโมโหจริง ๆ! ริมฝีปาก
"นายเป็นคนทำทั้งหมดใช่ใหม?" เสียงเย็นยะเยือกดังออกมาจากริมฝีปากบางของฌอน น้ำสียงของเขานั้นมันเยือกเย็นราวกับลมในหุบเขาน้ำแข็งอาร์กติกตอนนี้ไฮด์เกลียดทุกอย่างเกี่ยวกับฌอน เขาจึงเหน็บแนมคนข้างหลังฌอนด้วยการยกคางขึ้นแล้วตอบว่า "ใช่ แล้วนายจะทำไม?”ฌอนหรี่ตาลงด้วยท่าทีสุดอันตราย ขณะที่เขามองไปที่ไฮด์และเดินตรงไปที่เขา ลักษณะที่สวยงามของเขาดูเคร่งขรึม และจากนั้นมุมริมฝีปากของเขาก็โค้งงอ เจนรู้สึกถึงแรงที่อ่อนโยนผลักเธอออกไป เมื่อถึงเวลาที่เธอตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้น และเงยหน้าขึ้นมอง หัวใจของเธอก็แทบหยุดเต้น!“ฉันจะทำยังไงกับมันหรอ?” ฌอนเอ่ยมันออกมาด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ ร่างสูงของเขาพุ่งเข้าหาไฮด์ ในขณะที่เขาชกกำปั้นของเขาไปทางด้านหลัง “ฉันจะแสดงให้นายเห็นตอนนี้ละ!”หมัดพุ่งเข้าไปที่ใบหน้าของไฮด์ การแสดงออกของไฮด์ เปลี่ยนไปแทบจะในทันที แต่แทนที่จะหลีกเลี่ยงการโจมตีของฌอน เขาตอบกลับด้วยกำปั้นของตัวเอง ... ตุบ!หมัดของพวกเขาปะทะกัน ด้วยแรงมหาศาลไฮด์ถูกบังคับให้ถอยหลังไปสองก้าว และเกือบที่จะสูญเสียการทรงตัว แววตาของเขาเปลี่ยนไป ดูเหมือนเขาจะค่อนข้างระวังฌอน ตอนนี้มือของเขารู้สึกชาอยู่บ้า ง
ฌอนอุ้มเจนตลอดทาง ร่างกายที่สูงเพรียวของเขาสัมผัสได้ถึงความรู้สึกเหงา และความเหนื่อยล้าจากผู้หญิงคนนี้หลังจากวางเธอลงบนที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้า ดอสก็รีบวิ่งไปและเสนอตัวที่จะขับรถให้ ฉอนโบกโบกมือโดยไม่พูดอะไร และดอสก็หยุดลงทันทีก่อนจะก้าวออกไปในที่สุดร่างที่สูงเพรียวของฉอนเดินอ้อมไปด้านหน้าของรถ เขาเปิดประตูที่นั่งคนขับยกเท้าและเข้าไปในรถเขานั่งพิงเบาะรถอยู่ที่นั่นเป็นเวลานานมากและรถยังคงจอดนิ่ง ในที่สุดเขาก็จับพวงมาลัยสตาร์ทเครื่องยนต์และเหยียบคันเร่ง ทันใดนั้นเสียงคำรามของรถก็ดังก้องไปในอากาศ ริมฝีปากบางของฌอนอ้าและหุบลงเพื่อพูดคำสองสามคำ แต่ก็ถูกกลบด้วยเสียงคำรามของเครื่องยนต์ที่ดังกระหึ่ม อ่านจากปากของเขามันสามารถอธิบายคำว่า "เจน ดันน์" ได้อย่างคลุมเคลือเจนหันไปมองที่เขา พร้อมกับมองหน้าด้วยสีหน้ามึน ๆ งง ๆ "คุณพูดอะไร?" เสียงคำรามของรถยนต์นั้นมันดังเกินไป ดังนั้นเสียงทุ้มและต่ำของชายคนนั้นจึงถูกกลบไปจนเกือบหมดมุมปากของฌอนยกขึ้นเล็กน้อย “ฉันบอกว่า ฉันจะส่งคุณไปที่ สตอร์จ ทรัสต์”เจนนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะผงกศีรษะและมองออกไปนอกหน้าต่างบนเบาะคนขับนิ้วเรียวของชายคนนั้นจับพวง
“เมื่อไหร่กันแน่ ที่ฉันควรจะเริ่มขอความยินยอมจากคุณเกี่ยวกับสิ่งที่ฉันต้องการที่จะทำ? หืม?”อูโนตัวสั่นขณะที่เหงื่อของเขาไหลออกมาบนหน้าผากของเขา “ผม…นายท่านผมแค่คิดว่าสามปีผ่านไปแล้ว นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ นอกจากนี้ในบันทึกการโทรและข้อความทางโทรศัพท์มือถือของ คุณโรซาลีน ก็ได้พิสูจน์ทุกอย่างแล้ว ไม่มีเหตุผลที่เราจะต้องเสียเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ได้รับการยอมรับแล้ว”ดวงตาของฌอนนั้นลึกล้ำและเยือกเย็น ดวงตาที่เหมือนเหยี่ยวของเขาเปลี่ยนไปอย่างเย็นชาทันทีเมื่อเขามองไปที่ใบหน้าของอูโน่ “ทำไมฉันรู้สึกเหมือนกับว่า คุณไม่ต้องการให้ฉันตรวจสอบเหตุการณ์นี้?”ฟิ้วววว! มีเพียงความเงียบและเสียงลมพัดผาน ใบหน้าของอูโน่ซีดลง เข่าของเขาทรุดลงกับพื้นโดยทันที “นายท่าน นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมหมายถึง ผมแค่คิดว่าคุณ ... คุณเปลี่ยนไปแล้วนายท่าน ตอนนี้คุณแตกต่างออกไปจากเมื่อก่อน“แม้ว่าคุณหนูเจนจะรักและจริงใจกับคุณ แต่เจ้านายก็มีใจรักเธอ ท่านอาวุโสของตระกูลได้กำชับผู้ใต้บังคับบัญชาซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าในฐานะทายาทของตระกูลสจ๊วต คุณไม่ควรทำตัวอ่อนน้อมถ่อมตนเหมือนท่านประธานคนอื่น ๆ ทั่วไป นั่นมี แต่จะทำให้คุณอ่อนแอแ
"คุณมาทำอะไรที่นี่?" ขณะนี้อูโน่กำลังค้นกล่องและตู้ ในห้องหนึ่งของคฤหาสน์สจ๊วต พ่อบ้านซัมเมอร์กำลังยืนถือถาดในมืออยู่ที่ประตู หลังจากมองไปที่อูโน่อย่างเย็นชา สักครู่เขาก็เอ่ยถามคำถามกับอูโน่เสียงนั้นทำให้อูโน่สะดุ้งเล็กน้อย เสี้ยววินาทีต่อมาเขาหันกลับไปดู “โอ้ คุณนั่นเอง”คิ้วสีเทาของพ่อบ้านซัมเมอร์สั่นระริก การจ้องมองของเขาไล่ระดับลงเรื่อย ๆ ในที่สุดก็หยุดลงบนสมุดเล่มหนึ่งในมือของอูโน่ “อะไรอยู่ในมือของคุณหรอ?”“โอ้ นี่หรอ? นี่คือสมุดจดในชั้นเรียนของ โรซาลีน ซัมเมอร์ ใช่หรือไม่?”“ทำไม คุณถึงต้องการสิ่งนั้นหรือ?”“แน่นอนว่า เป็นเพราะ…” อูโน่กำลังจะอธิบาย แต่เมื่อจู่ ๆ ก็มีอีกเสียงร้องขึ้น “เร็วเข้าอูโน่ พวกพี่ ๆ กำลังรอให้คุณทำสิ่งต่าง ๆ ให้ลุล่วงโดยเร็ว” เขาเงยหน้าขึ้น และเห็นดอสกำลังเดินเข้ามาหาเขาและพ่อบ้านซัมเมอร์อูโน่ไม่ใช่คนโง่ เขาไม่ได้นัดหมายกับพี่น้องของเขา แล้วจะมีธุระอะไรที่ต้องไปทำได้อย่างไร? ดอสจงใจที่จะเข้ามา ... หลังจากคิดเรื่องนี้ เขาก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น “โอ้” เขาตอบ "คุณพ่อบ้านซัมเมอร์ฉผมยังมีสิ่งที่ต้องทำ ไว้มาคุยกันอีกที”นี่ไม่ใช่วันแรกที่ทำงานของพ่อบ้านซ