กาแฟไม่ได้หกรดลงบนตัวของเมเดลีน แต่กลับกัน เสื้อเชิ้ตของเจเรมี่กลับกลายเป็นเหยื่อแทนนาโอมิมองชายที่จู่ ๆ ก็โผล่มาด้วยความตกใจ “นาย… ฮานส์? ทำไมนายถึงอยู่นี่?”เจเรมี่มองเธออย่างเยือกเย็น “ฉันต้องรายงานเธอทุกครั้งว่าฉันอยู่กับใครรึไง?”“...” นาโอมิไม่มั่นใจ ดังนั้น เธอจึงเริ่มเล็งไปที่เมเดลีน “เอวลีน ตอนนี้สามีเธอก็ตายไปแล้ว เธอก็เริ่มอ่อยไรย์เพราะเธอทนความเหงาไม่ได้ใช่ไหม ฮ้ะ? ฉันจะไม่ยกโทษให้เธอง่าย ๆ กับสิ่งที่เธอทำเมื่อตอนนั้นแน่ คอยดูเถอะ!”นาโอมิชี้เมเดลีนหลังจากที่หล่อนตะคอกใส่เธอ“หยุดเถอะ” เมเดลีนเรียกนาโอมิอย่างเคร่งขรึมนาโอมิหยุดเดินและเห็นเมเดลีนกำลังเดินเข้ามาหาเธอ“นาโอมิ เธอรู้ไหมว่าเธอจะต้องเจอการดำเนินการทางกฎหมาย ถ้าฉันตัดสินใจที่จะเอาเรื่องที่เธอพยายามทำร้ายฉัน? ใครมอบความกล้าให้เธอในการมาบอกกับฉันว่าเธอจะไม่ให้อภัยฉัน? ลาน่าใช่ไหม?”“...” นาโอมิไม่คิดว่าเมเดลีนจะแข็งแกร่งมาก หล่อนเปิดเผยความอ่อนแอของเธอออกมาได้อย่างไร? เธอกรี๊ดอย่างน่าไม่อาย “ใช่แล้ว ลาน่าคือคนที่มอบความกล้าให้ฉันทำแบบนั้น เอวลีน แล้วไงเหรอ ถ้าเธอจะเป็นหมายเลขหนึ่งในชนชั้นสูงของเกลนเดล? เธอ
เจเรมี่พูดออกมาคำหนึ่งโดยไม่รู้ตัวเขารู้สึกถึงบางอย่างที่กำลังปรากฏอยู่หัวใจของเขา และนั่นทำให้เขาตัวสั่นลินนี่ ทำไมเขาเพิ่งพูดว่า ‘ลินนี่’ ออกมาเสียงดังล่ะ?เมเดลีนลุกขึ้นหลังจากที่ลูกหลับ เมื่อเธอเงยหน้าขึ้น เธอก็เห็นใครบางคนยืนอยู่ที่ประตูเธอเดินเข้าไปอย่างสงสัยและเห็นเจเรมี่เมเดลีนปิดประตูอย่างคุมเชิง “อย่าเข้ามาใกล้ลูกชายของฉันนะ” มีนัยของความสบประมาทในแววตาของเธอ “ฉันจะให้ชุดอโรมาเทอราพีกับคุณในวันพรุ่งนี้ วันนี้ฉันต้องอยู่กับลูกชาย”เมเดลีนคาดว่าเจเรมี่จะปฏิเสธเธอ แต่น่าประหลาดใจที่เขากลับตกลงหลังจากครู่หนึ่ง เอโลอิสและฌอนก็มาถึง เมื่อพวกเขารู้เรื่องอาการของเจเรมี่ พวกเขาก็รู้สึกเป็นทุกข์เช่นกัน“ฉันสงสัยว่าเมื่อไหร่เขาจะดีขึ้น? ฉันคงกังวลว่าเขายังอยู่กับยัยผู้หญิงที่ชื่อลาน่านั่น” เอโลอิสกังวลและพูดด้วยเสียงเล็ก ๆ ว่า “พ่อของลูกติดต่อกับเพื่อนของเขาในเมืองเอฟและได้ข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับลาน่ามา หล่อนมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมที่จัดตั้งขึ้น”“อีกทั้ง พี่ชายของหล่อน โยริค จอห์นสัน เป็นคนที่มีอำนาจมาก ๆ ในเมืองเอฟ เขาลุยทั้งด้านดีและชั่ว พูดได้ว่าผู้หญิงคนนี้กดขี่
ชายคนนี้ช่างไร้หัวใจอย่างแท้จริงเธอปล่อยเขา และมีความสับสนอยู่ในแววตาของเธอ“ถ้าคุณไม่ใช่เจเรมี่ แล้วคุณจูบฉันทำไม?”“ผมทำก็เพราะว่าอยากทำ ไม่มีเหตุผลอะไรทั้งนั้น” เขาตอบกลับง่าย ๆ และตรงไปตรงมาเมเดลีนยิ้ม “งั้นนี่ก็เป็นวิธีที่คุณจูบลาน่าเหมือนกันใช่ไหม? คุณกอดเธอนอนในทุก ๆ คืนตลอดสามเดือนที่ผ่านมารึเปล่า?”ในขณะที่มองเข้าไปในดวงตาของเมเดลีน จู่ ๆ เจเรมี่ก็เห็นภาพที่เธอเอ่ยในตาคู่สวยของเธอเขาเห็นตัวเองกำลังกอดผู้หญิงคนหนึ่งขณะที่พวกเขาหลับอย่างสงบในยามค่ำคืนเขาไม่มีความสงบสุขแบบนั้นมานานมากแล้วอย่างไรก็ตาม เขามั่นใจมากว่าเขาไม่มีความทรงจำใด ๆ ในการกอดลาน่านอนเมเดลีนผลักเขาออกไปอย่างสิ้นหวังหลังจากที่เห็นเขาเงียบเธอยังคงมีภาพที่เขาเสี่ยงชีวิตเพื่อเธอ อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่มีหลักฐานการมีอยู่ของเธอในใจของเขาอีกแล้วหลังจากที่เมเดลีนออกไป ในที่สุดเจเรมี่ก็ได้สติหลังจากพักใหญ่ เขาหยิบชุดอโรมาเทอราพีที่เธอทิ้งไว้ให้ หลังจากที่เปิดมัน เขาก็นำมันมาอังไว้ใต้จมูกและสูดดมกลิ่นจาง ๆ ของกุหลาบญี่ปุ่นแทรกซึมเข้าไปในจมูกของเขา ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายก่อนที่เธอจะออกไป เมเดลีนได้เอา
“ลินนี่!”เจเรมี่เรียกอย่างตาเหลือกตาพองราวกับว่ามันเป็นการตอบสนองโดยไม่รู้ตัวเขาอุ้มเมเดลีนขึ้นรถและรีบไปยังโรงพยาบาลก่อนที่จะได้คิดด้วยซ้ำเมื่อเขาจากไป เขาก็เห็นรถพยาบาลและรถดับเพลิงที่เขาเพิ่งโทรหาเมื่อกี้นี้ผ่านเขาไปเจเรมี่มองไปที่กระจกข้าง แม่บ้านที่เป็นพยานปรักปรำเขาก็ได้หนีไปแล้วเจเรมี่ส่งเมเดลีนไปยังโรงพยาบาล และหมอพูดว่าเธอแค่หมดสติเพราะเศร้ามากเกินไปเศร้ามากเกินไปอย่างนั้นเหรอ?เจเรมี่เข้าใจว่าทำไมเมเดลีนถึงเศร้าเขามองไปที่หญิงสาวซึ่งไร้สติและรู้สึกห่วงแปลก ๆ เจเรมี่ไม่ชินกับสิ่งที่เขากำลังรู้สึกต่อเมเดลีนเขาหันหลังออกไปจากห้องก่อนที่จะเข้ามายังห้องพักผู้ป่วยซึ่งลูกชายคนเล็กของเมเดลีนอยู่อย่างไม่ได้ตั้งใจเมื่อเขาอยู่ที่ประตู เขาก็เห็นคาเลนกับเด็ก ๆ น่ารักสองคนที่อายุประมาณสี่หรือห้าขวบ พวกเขากำลังคุยกับทารก“คุณย่าคะ นี่ใช่น้องชายของหนูจริง ๆ ไหมคะ?” ลิเลียนกะพริบตาและถามคาเลนตอบกลับอย่างมีความสุข “เด็กโง่เอ๊ย นี่คือน้องชายของหนูและแจ็คไง ดูหน้าเล็ก ๆ ของเขาสิ มันเหมือนกับเจเรมี่ตอนที่เขาเล็ก ๆ เลย แจ็ค ดูสิ หลานก็เป็นแบบนี้ในตอนที่หลานตัวเล็ก ๆ เหมือนก
“คุณแม่ เป็นอะไรไป?”“มัมมี้กำลังร้องไห้”เมเดลีนได้ยินเสียงที่กังวลของคาเลนเช่นเดียวกันกับเสียงที่งุนงงของลูก ๆ ทั้งสองแต่เมเดลีนก็ยังคงจ้องไปข้างหน้าอย่างเหม่อลอย จากนั้น เธอก็อ้าปากที่ซีดเซียว “ทำไมฉันต้องจ่ายราคาที่สูงเช่นนี้เพียงเพื่อรักเขา? ทำไม…”คาเลนรู้ในทันทีว่าเมเดลีนกำลังพูดถึงเจเรมี่เธอเริ่มกังวล “เอวลีน เธอกำลังพูดถึงเจเรมี่ใช่ไหม? เขาทำอะไร?”เมเดลีนกัดริมฝีปากและพูดทั้งน้ำตานองหน้าว่า “เขาเผาบ้านของฉัน”“อะไรนะ?” คาเลนตกใจเป็นอย่างมาก “ไม่มีทาง เจเรมี่คงไม่ทำเรื่องแบบนั้นแน่ เป็นไปไม่ได้...”เมเดลีนหลับตา เธอก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าเจเรมี่จะทำแบบนั้นเหมือนกันอย่างไรก็ตาม แรงที่เขาออกในตอนที่จับคอของเธอก็ยังชัดเจนเมเดลีนสะอึกสะอื้นอย่างไร้เสียง เธอใจสลายมากจนมันเจ็บแม้แต่หายใจเธอยกผ้าห่มออกและลงจากเตียงก่อนที่จะวิ่งออกไปเธอเรียกแท็กซี่ไปยังคฤหาสน์มอนต์โกเมอรี ที่นั่น เธอเห็นนักดับเพลิงกำลังดับไฟที่ยังควบคุมไม่ได้อย่างสมบูรณ์อยู่เมเดลีนยืนที่ทางเข้าขณะที่หน้าเริ่มซีด เธอเฝ้ามองอาคารอันโอ่อ่าถูกเผาไหม้กลายเป็นซากปรักหักพัง จากนั้น เธอก็รีบเข้าไปนักดับเพ
เจเรมี่ขมวดคิ้วเมื่อเขาได้ยินการคร่ำครวญของเมเดลีน‘คุณจะได้ไม่ต้องรู้จักฉัน…’คำเหล่านี้หนักอึ้งในใจของเขาเมเดลีนผลักเขาออกไปอย่างแรงหลังจากที่เธอมองใบหน้าที่เฉยเมยของเขา เธอยังอยากจะวิ่งเข้าไปในบ้านเจเรมี่รู้ว่าเมเดลีนวางแผนจะทำอะไร ดังนั้น เขาจึงดึงเธอกลับมาหาเขาอีกครั้ง“ปล่อยฉันนะ เจเรมี่! ปล่อยฉันไป!” เมเดลีนดิ้นรนด้วยแรงทั้งหมด แต่ก็ตกอยู่ในการควบคุมของชายคนนั้นโดยสมบูรณ์ “เจเรมี่ วิทแมน คนสารเลว! ปล่อยฉันไปนะ! พ่อแม่ของฉันยังอยู่ในนั้น! พวกเขาเป็นพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของฉัน!”เมเดลีนตะโกนอย่างบ้าคลั่งขณะที่น้ำตาทำให้เธอมองไม่ชัดอย่างไรก็ตาม เจเรมี่ก็ไม่ขยับ เขาเพียงแต่จับเมเดลีนในอ้อมแขนอย่างแน่นหนาเมเดลีนร่ำไห้อีกครั้ง “ปล่อยฉัน ปล่อยฉันไปนะ เจเรมี่ ฉันขอร้องคุณ ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะ!”เธออ้อนวอนพร้อมสะอึกสะอื้น “คุณรู้ไหมว่านี่คือบ้านที่ในที่สุดฉันก็เจอ หลังจากที่ใช้เวลาอย่างโดดเดี่ยวกว่า 20 ปี? คุณทำลายบ้านของฉัน และไม่ยอมให้ฉันไปเจอพวกเขาครั้งสุดท้ายเลยเหรอ?”“เจเรมี่ คุณจะมีความสุขใช่ไหมเมื่อฉันเกลียดคุณ?”ทั้ง ๆ ที่เมเดลีนดิ้นรนและด่าทอ เจเรมี่ก็ไม่ปล่อยไปเม
“ไม่ แมดดี้ มันไม่ใช่ความผิดของเธอ อย่าโทษตัวเองสิ ถ้าคุณท่านและคุณผู้หญิงมอนต์โกเมอรีรู้เรื่องนี้ พวกเขาจะไม่อยากให้เธอโทษตัวเองเหมือนกัน”คำพูดปลอบโยนของเอวาทำให้เมเดลีนร้องไห้หนักกว่าเดิมเธอหนีออกจากอ้อมแขนของเอวาและลงจากเตียงอย่างรวดเร็ว“แมดดี้ เธอจะไปไหน?”“พ่อ แม่… ฉันต้องไปเจอพ่อกับแม่ของฉัน!” เมเดลีนวิ่งออกจากห้อง ถามทุกคนที่เธอเห็นตลอดทางเดินยาวว่า “คุณเห็นพ่อและแม่ของฉันไหม?”เอวาตามหลังเธอไป เมื่อเธอเห็นเมเดลีนในสภาพแบบนี้ การมองเห็นของเธอก็พร่าเลือนไปเพราะน้ำตาในทันที“แมดดี้!”เธอไล่ตามเมเดลีนและจับเธอไว้ขณะที่หัวใจของเธอแตกสลายเป็นชิ้น ๆ“แมดดี้ อย่าทำแบบนี้!”อย่างไรก็ตาม เมเดลีนเมินเธอและยังคงเดินต่อไปข้างหน้า เมื่อไหร่ก็ตามที่เธอเห็นใครบางคน เธอจะถามพวกเขาถึงเอโลอิสและฌอนหลังจากที่แดเนียลได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้นที่บ้านของเมเดลีน เขาก็รีบมาในทันที อย่างไรก็ตาม ในตอนที่เขาเดินออกจากลิฟต์ เขาก็เห็นเมเดลีนเดินเข้ามาทั้งน้ำตาที่ไหลนองบนใบหน้าที่ซีดเซียวของเธอเธอดูซีดเซียวมากและเหมือนกับว่าเธอคุ้มคลั่งไปแล้วแดเนียลแข็งทื่อเมื่อเขาเห็นเมเดลีนในสภาพนี้ “แมดดี้?”
หลังจากที่เมเดลีนได้ยินเช่นนั้น เธอก็หันหน้าไปเล็กน้อยเพื่อมองชายที่กำลังเข้ามาหาเธอ “ออกไป” เธอไล่เขาด้วยเสียงที่เย็นชาเจเรมี่เมินเธอและยังคงเดินเข้าหาเธอต่อ“ออกไป! คุณไม่คู่ควรที่จะยืนตรงหน้าพ่อแม่ของฉัน! ไสหัวไป!” เสียงของเมเดลีนเริ่มเคร่งขรึมอย่างไรก็ตาม เจเรมี่ยังคงเมินเธอและยืนอยู่ด้านหลังของเมเดลีน “ถ้าเธอไม่อยากให้โศกนาฏกรรมที่ใหญ่กว่านี้เกิดขึ้น ก็ขอโทษลาน่ากับฉันเดี๋ยวนี้ บอกไปสิว่าเธอผิดที่ตบลาน่า”“หึ” เมเดลีนรู้สึกเหมือนกับว่าเธอเพิ่งได้ยินเรื่องตลกครั้งใหญ่ เธอยืนขึ้นอย่างช้า ๆ และมองไปที่ชายซึ่งเย็นชาคนนั้น จากนั้น สายตาก็เธอก็เริ่มเฉียบคมขึ้นก่อนที่เธอจะเงื้อมือตบที่หน้าของเขา“เจเรมี่ ฟังฉันนะ ไม่เพียงแค่ฉันอยากจะตบหล่อน แต่ฉันอยากจะตบคุณด้วยเหมือนกัน!”“คุณคิดว่าตัวเองเป็นแบบนี้เพียงเพราะเสียความทรงจำงั้นเหรอ? คุณคิดว่าคุณฆ่าคน ลอบวางเพลิง ทำลายความเป็นคนของตัวเอง และฆ่าพ่อแม่ของฉันได้ เพียงเพราะคุณเสียความทรงจำงั้นเหรอ?”เธอจับคอเสื้อของชายคนนั้น ตาที่แดงก่ำของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา เธอเจ็บปวดอย่างมากขณะที่เธอมองไปที่ชายคนนนั้น คนที่เคยเสี่ยงชีวิตเพื่อเธอ“เจเ