เมเดลีน รู้สึกว่าเธอไม่สามารถเข้าถึงผู้หญิงคนนี้ได้เลย ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่เมเรดิธที่เธอเคยรู้จักนับตั้งแต่ที่เธอเข้ามาในตระกูลครอว์ฟอร์ด นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่เธอได้พบกับเมเรดิธ เมื่อเวลาผ่านไป เธอรู้สึกว่าหญิงสาวเป็นคนมีน้ำใจและอ่อนโยน แต่ทว่า ณ ตอนนี้...“น่าหงุดหงิดที่สุด! ทั้งเวลาและความตั้งใจของหนูเสียมันไปอย่างศูนย์เปล่า อุตส่าห์ลงทุนสร้างสถานการณ์ และคิดแผนวางยาเจเรมี่ให้ออกมาสมบูรณ์แบบ หนูยังจ้างนักข่าวมาถ่ายภาพ และบันทึกหลักฐานว่าหนูอยู่กับเขาทั้งคืน และสิ่งแรกที่หนูควรจะได้รับคือ ในตอนเช้าจะต้องมีข้อความจากผู้อาวุโสวิทแมนที่ยินยอมให้เขาแต่งงานกับหนู ใครจะไปรู้ว่าหนูดันอ่านเลขห้องผิด และดันไปนอนกับคนข้างถนนที่น่าสมเพชที่สุด หนูปล่อยให้เมเดลีนได้รับสิ่งนั้นไป!”และนี่คือความจริง นี่คือโฉมหน้าที่แท้จริงของพี่สาวที่เคยแสนดีคนนั้น คนที่พยายามร้องขอความเมตตาครั้งนี้ให้เธอ เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาหัวใจของเมเดลีนกำลังเต้นแรงมาก เธอรู้สึกถึงความเสียใจอย่างที่สุดนี่คือผู้หญิงที่ใจดีอ่อนโยนเพียบพร้อมไปในทุกด้าน เธอเป็นเช่นนั้นเสมอในสายตาของเจเรมี่! ในสายตาของท
พวกเขาคิดไม่ถึงว่าเมเดลีนจะมาปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า และได้ยินเรื่องราวทั้งหมด ทั้งสามคนที่นั่งอยู่ในห้องก่อนหน้าที่หญิงสาวจะเข้ามามีอาการตัวเเข็งทื่อทันทีหลังจากนั้นไม่กี่วินาทีการแสดงออกของเมเรดิธได้เปลี่ยนไป การกระทำที่แสนอ่อนโยน และเรียบง่ายในเวลาปกติบนใบหน้าของพี่สาวที่แสนดีคนนั้นหายไป ในทางตรงกันข้าม กิริยาเธอดูต่ำช้าลงอย่างเห็นได้ชัด “เมเดลีนทำไมแกถึงได้มาอยู่ที่นี่?”ดวงตาคู่งามของเมเดลีนเปลี่ยนเป็นสีแดง เธอขบขันเบา ๆ ก่อนจะพูดจาถากถางครอบครัวนี้ "นี่ฉันมาทันเวลาที่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่รับรู้แผนการที่เพิ่งคิดเพื่อจัดฉากขึ้นมาอย่างนั้นเหรอ?”เมเรดิธรับรู้ได้ทันทีว่าเธอหมายถึงอะไร เธอลดใบหน้าก้มต่ำลง “แกกล้าดียังไงมาแอบฟังพวกเรา!”เมเดลีนจึงตอบกลับไป “ใช่! นี่ถ้าฉันไม่บังเอิญได้ยินทุกสิ่ง ฉันคงจะเป็นคนโง่ที่ไม่มีทางรู้เลยว่าพี่สาวที่แสนดีของฉัน ที่แท้เป็นผู้หญิงตีสองหน้าน่าไม่อาย!”“แกกล้าเรียกเมเรดิธแบบนั้นได้ยังไงนังเด็กเหลือขอ! แกกำลังขุดหลุมฝังศพตัวเองแท้ ๆ!” ความโกรธของโรสทำให้เธอเอื้อมมือออกไปอย่างประสงค์ร้าย เธอกำลังจะทำร้ายทุบตีเมเดลีน“คุณแม่ ทำไมถึงไปโกรธยัยเด็กบ้าน
“อย่านะ! เจเรมี่…”ใบหน้าของเมเดลีนเปลี่ยนเป็นสีขาวซีดจากความหวาดกลัว เธอรู้สึกถึงความน่ากลัวจากการกระทำของเจเรมี่เธอไม่เคยเห็นเขาในด้านที่เย็นชาและรุนแรงขนาดนี้มาก่อน เธอกังวลว่าเด็กในท้องของเธอจะแท้งเพราะเขาเจเรมี่เองไม่มีแม้แต่โอกาสให้เธอได้วิ่งหนี เขากักขังเธอไว้ภายใต้วงแขนที่แข็งแรงนั่นเธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าเจเรมี่จะเกลียดเธอมากขนาดนี้หลังจากที่เวลาผ่านไปสักพัก เมเดลีนก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างมากไปทั่วร่างกายของเธอ เพราะสิ่งนี้เธอจึงตกอยู่ในห้วงนิทราลึกและเข้าสู่ห้วงแห่งความฝัน เธอเห็นตัวเองย้อนกลับไปยังวันหนึ่งในฤดูร้อนที่สวยงามเมื่อ 12 ปีก่อนพระอาทิตย์สาดแสงตกกระทบลงบนชายหาดที่มีต้นการบูรอยู่เด็กหญิงเมเดลีนกำลังเพลิดเพลินกับการเก็บเปลือกหอยริมชายหาด สายตาของเธอจับจ้องไปยังเด็กชายผู้เงียบขรึม ซึ่งกำลังนั่งอยู่บนโขดหินที่ไกลออกไป เขาดูเหมือนไม่มีความสุขเลยนั่นเป็นครั้งแรกที่เธอได้พบกับเจเรมี่ ตอนนั้นเขาเป็นเพียงแค่เด็กชายอายุ 12 ปี ความสมบูรณ์แบบเป็นสิ่งที่เขามีมาตั้งแต่กำเนิด ทั้งใบหน้าหรือรูปร่างที่สูงเพรียว แต่เห็นได้ชัดว่าเขากำลังอารมณ์ไม่ดีเด็กหญิงเดินเข้าไปห
เมเรดิธเริ่มตะโกนใส่เธอ ขณะเดียวกันความหึงหวงที่เธอมีทำให้ใบหน้าที่เคยสวยงามนั้นบูดเบี้ยวอย่างน่ากลัว เมเดลีนยิ้มอย่างไม่เเยแส “ในฐานะภรรยาของเจเรมี่ ฉันยินดีอย่างยิ่งที่จะกำจัดปัญหาของเขาให้หายไป”“เมเดลีน นังคนชั้นต่ำ!”“สิ่งนั้นไม่สามารถเปรียบเทียบกับเธอได้เลยเมอร์ เธอคิดจะวางยาเขาเพื่อที่จะได้แต่งงาน ทำไม? เขาปฏิเสธที่จะแตะต้องตัวเธอในตอนที่เขามีสติครบถ้วนงั้นเหรอ? ”สีหน้าของเมเรดิธดูกระอักกระอ่วนราวกับว่าถูกเมเดลีนจับได้ ถึงอย่างไรเธอยังคงนิ่งเฉยและแสดงออกด้วยความภาคภูมิใจ“แน่นอนเจเรมี่ชอบที่จะสัมผัสตัวฉัน เขาชอบที่จะออเซาะฉันมาก! เขาคอยอยู่เคียงข้างฉันทุกคืน มันเทียบอะไรกับเธอไม่ได้เลย เธอทำได้เพียงแค่อยู่บ้านในขณะที่สามีของเธออยู่นอกบ้าน ”คำพูดของเมเรดิธเจือปนไปด้วยหนามแหลมคม เธอหยิบเอกสารบางอย่างออกมาวางไว้ตรงหน้าเมเดลีน“นี่คือใบหย่าที่เจเรมี่ขอให้ฉันเอามาให้เธอเซ็น รีบเขียนลงไปสิ เจเรมี่ไม่อยากเห็นคนที่ป่าเถื่อนสารเลวอย่างเธออีกแล้ว”เมเดลีนเคยผ่านหลายสิ่งหลายอย่างมา ทำให้เธอเรียนรู้ที่จะสวมหน้ากากให้ดูมั่นใจและสบายใจ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้สึกหนาวสั่นเมื่อเห็นเอ
ช่างเวอร์วังอลังการเสียจริง เมเดลีนเองมองไม่เห็นสิ่งผิดพลาดใด ๆ ในการแสดงนั่นเลยแต่เธอไม่คิดว่าเมเรดิธจะท้องเหมือนกันแต่ถึงอย่างนั้นเด็กที่อยู่ในท้องของเมเรดิธ ใช่ลูกของเจเรมี่จริง ๆ เหรอ?เพราะเท่าที่จำได้ เมเรดิธเองเคยนอนกับคนพเนจรข้างถนนจากความผิดพลาดครั้งนั้น มันเป็นเรื่องบังเอิญในวันที่เธอเข้าห้องผิดเมื่อสามเดือนก่อน ถ้าเธอท้องจริง ๆ เรื่องพ่อของเด็กต้องมีการพูดคุยอีกทีแต่อย่างไรตาม เมเดลีนเองก็ไม่สามารถปฏิเสธความจริงที่ว่าเจเรมี่มักจะใช้เวลาทั้งคืนกับผู้หญิงคนนี้เมื่อเธอคิดถึงเรื่องนี้ความเจ็บปวดในใจของเธอก็เริ่มลุกลามอีกครั้งแต่ความเจ็บปวดนั้นไม่สามารถเทียบได้กับสิ่งที่เธอรู้สึก เมื่อเห็นเจเรมี่จับเมเรดิธอย่างอ่อนโยนด้วยความรักและเอาใจใส่เมเรดิธยกมือขึ้นปิดหน้าและร้องไห้อย่างน่าสงสาร“เจเรมี่ อย่าต่อว่าแมดดี้เลย มันเป็นความผิดของฉันทั้งหมด ฉันไม่ควรตกหลุมรักคุณ ในทางกลับกัน ฉันหวังว่าคุณจะสามารถพูดคุยกับแมดดี้เรื่องนี้เพื่อเธอจะได้ไม่ทำร้ายลูกของเรา…”เมื่อเมเรดิธพูดถึงเด็ก เมเดลีนจะเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของเจเรมี่อย่างชัดเจนเจเรมี่เงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อจ้
เมเดลีนเองรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากราวกับว่าหัวใจของเธอถูกเฉือนออกเป็นพัน ๆ ครั้งด้วยคมมีดเล่มหนึ่ง “เจเรมี่ สิ่งที่ฉันพูดเป็นความจริง!”“สำหรับฉันแล้วไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความรู้สึกของเมเรดิธ เธอกำลังพ่นขยะอะไรออกมา?”การตอบกลับมาของเขาเจ็บปวดเกินต้านทาน มันตรงดิ่งเข้ามาปักหัวใจของเมเดลีนราวกับดาบที่แหลมคมก็ไม่ปานดังนั้นสำหรับเขาแล้ว ความจริงไม่ใช่สิ่งที่สำคัญเลย สิ่งสำคัญที่สุดคือ เขารักเมเรดิธ และความจริงนั้นทำให้ทุกอย่างเลวร้ายลงเธอรู้สึกว่าหัวใจของเธอจมดิ่งเหมือนกับก้อนหิน ราวกับว่าเธอสูญสิ้นแล้วกับความหวังทั้งหมด และทำได้เพียงสนองความปรารถนาของผู้ชายคนนี้เท่านั้นเมเดลีนยิ้มออกมาอย่างเสียใจ “ตกลง ฉันจะขอโทษ”เธอทนแบกรับความเจ็บปวดที่มีในร่างกาย และก้มหัวขอโทษเมเรดิธเมเรดิธแอบยิ้มเยาะ รอยยิ้มแห่งชัยชนะนั้นทำให้เธอพอใจกับมันมากเธอไม่เคยมีความคิดนั้นมาก่อนว่าเจเรมี่จะเพิกเฉยต่อความจริงเพียงเพราะเมเรดิธ เหตุผลเดียวที่มีคือเขารักเธอ เขารักเธอมากหลังจากวันนั้นเป็นต้นมา เมเดลีนเองไม่เคยเห็นเจเรมี่อีกเลยเธอต้องการหางานเพื่อสร้างกำลังใจให้ตัวเอง เธอไม่ต้องการรับรู้ถึงควา
หากเสียงนาฬิกาปลุกไม่ดังในเช้าวันรุ่งขึ้น เมเดลีนคงไม่สามารถตื่นได้ด้วยตัวเองใบหน้าของเธอร้อนผ่าว เมื่อนึกถึงทุกการกระทำ และคำพูดในสภาพเมาหัวราน้ำกับเขาเธอไปที่สำนักงานในเวลาต่อมาด้วยอาการเหม่อลอย เธอไม่สามารถลบภาพของเจเรมี่ในหัวได้เป็นเวลาร่วม 12 ปี คงเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะยอมสละความรักที่ลึกซึ้งนี้ไปในเวลาเพียงวันเดียวเธอสัมผัสท้องแบนราบของเธออย่างเหม่อลอย ถ้าเป็นไปได้เธอต้องการให้เด็กมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ“ดิ้ง!”เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ของเธอดังขึ้น ทำให้เธอกลับมาสู่ความเป็นจริงเธอเหลือบไปมองมัน และเห็นว่ามันเป็นข้อความมาจากเจเรมี่!หัวใจของเมเดลีนเริ่มเต้นเร็วอย่างผิดจังหวะ มือของเธอเริ่มสั่นเมื่อเธอเปิดข้อความสิ่งแรกที่เมเดลีนเห็นคือภาพถ่าย มันเป็นภาพถ่ายของเมเดลีนและเมเรดิธ มันถูกถ่ายขึ้นเมื่อตอนที่เธอเป็นถูกรับเป็นลูกบุญธรรมของตระกูลครอว์ฟอร์ดในภาพนั้นเมเรดิธสวมชุดราคาแพง แสงสาดส่องกระทบลงมาบนใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสของเธอ และเธอช่างดูเหมือนกับเจ้าหญิงที่ไม่มีใครแตะต้องได้ เธอดูสง่างามและสมบูรณ์แบบมาก ในทางกลับกัน เมเดลีนเองสวมชุดสีขาวอมเทาเธอดูต่ำต้อยราวกับ
เมเดลีนกลับมายังที่คฤหาสน์ที่เงียบเหงาว่างเปล่า เธอคิดถึงเรื่องหย่า บวกกับคำตอบที่เจเรมี่ทำให้หัวใจเธอทวีคูณความปวดร้าวเหมือนถูกแทงด้วยมีดความคิดที่ว่าเจเรมี่จะเกลียดเธอมากขนาดนี้นั้นไม่เคยมีอยู่ในสมองเธอเลย เขาใจร้ายมากที่บอกให้เธอทำแท้งได้อย่างง่ายดายเมเดลีนรู้สึกกลัว ถ้าเจเรมี่ต้องการทำมันจริง ๆ เธอควรทำอย่างไร?ในเวลาเดียวกันมีเสียงดังมาจากประตูหน้าบ้าน เจเรมี่กลับมาแล้ว เขายังคงยืนตัวตรงและดูสง่างามเช่นทุกครั้งความประหลาดใจเกิดขึ้นในใจ เมเดลีนรู้สึกกังวลมากขึ้นเธอกลัวมากว่าเจเรมี่จะบังคับให้เธอทำแท้ง เธอค่อนข้างประหลาดใจที่เจเรมี่ไม่ได้เอ่ยถึงการหย่าร้าง หรือการทำแท้งใด ๆ ในทางกลับกันเขาย้ำให้เธอกลับไปที่คฤหาสห์วิทแมนพร้อมกับเขา ในวันที่จะถึงนี้ในฐานะภรรยาของเขา ซึ่งเป็นวันเกิดครบรอบ 50 ปีแม่ของเขาความประหลาดใจเกิดขึ้นในใจเธออีกครั้ง นี่หมายความว่าเขาพยายามจะยอมรับเธอหรือเปล่า?อย่างไรก็ตามความหวังที่เพ้อเจ้อนั่น ถูกเขาบดขยี้ลงทันที ดวงตาของชายคนนั้นเย็นชาเช่นเดียวกับคำพูดต่อมาเช่นกัน “เมเดลีนอย่าแม้แต่คิดว่าใจของฉันจะเปลี่ยนไป คงไม่มีวันที่ฉันตกหลุมรักผู้หญิงที่ไร้ยา