เมเรดิธเริ่มตะโกนใส่เธอ ขณะเดียวกันความหึงหวงที่เธอมีทำให้ใบหน้าที่เคยสวยงามนั้นบูดเบี้ยวอย่างน่ากลัว เมเดลีนยิ้มอย่างไม่เเยแส “ในฐานะภรรยาของเจเรมี่ ฉันยินดีอย่างยิ่งที่จะกำจัดปัญหาของเขาให้หายไป”“เมเดลีน นังคนชั้นต่ำ!”“สิ่งนั้นไม่สามารถเปรียบเทียบกับเธอได้เลยเมอร์ เธอคิดจะวางยาเขาเพื่อที่จะได้แต่งงาน ทำไม? เขาปฏิเสธที่จะแตะต้องตัวเธอในตอนที่เขามีสติครบถ้วนงั้นเหรอ? ”สีหน้าของเมเรดิธดูกระอักกระอ่วนราวกับว่าถูกเมเดลีนจับได้ ถึงอย่างไรเธอยังคงนิ่งเฉยและแสดงออกด้วยความภาคภูมิใจ“แน่นอนเจเรมี่ชอบที่จะสัมผัสตัวฉัน เขาชอบที่จะออเซาะฉันมาก! เขาคอยอยู่เคียงข้างฉันทุกคืน มันเทียบอะไรกับเธอไม่ได้เลย เธอทำได้เพียงแค่อยู่บ้านในขณะที่สามีของเธออยู่นอกบ้าน ”คำพูดของเมเรดิธเจือปนไปด้วยหนามแหลมคม เธอหยิบเอกสารบางอย่างออกมาวางไว้ตรงหน้าเมเดลีน“นี่คือใบหย่าที่เจเรมี่ขอให้ฉันเอามาให้เธอเซ็น รีบเขียนลงไปสิ เจเรมี่ไม่อยากเห็นคนที่ป่าเถื่อนสารเลวอย่างเธออีกแล้ว”เมเดลีนเคยผ่านหลายสิ่งหลายอย่างมา ทำให้เธอเรียนรู้ที่จะสวมหน้ากากให้ดูมั่นใจและสบายใจ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้สึกหนาวสั่นเมื่อเห็นเอ
ช่างเวอร์วังอลังการเสียจริง เมเดลีนเองมองไม่เห็นสิ่งผิดพลาดใด ๆ ในการแสดงนั่นเลยแต่เธอไม่คิดว่าเมเรดิธจะท้องเหมือนกันแต่ถึงอย่างนั้นเด็กที่อยู่ในท้องของเมเรดิธ ใช่ลูกของเจเรมี่จริง ๆ เหรอ?เพราะเท่าที่จำได้ เมเรดิธเองเคยนอนกับคนพเนจรข้างถนนจากความผิดพลาดครั้งนั้น มันเป็นเรื่องบังเอิญในวันที่เธอเข้าห้องผิดเมื่อสามเดือนก่อน ถ้าเธอท้องจริง ๆ เรื่องพ่อของเด็กต้องมีการพูดคุยอีกทีแต่อย่างไรตาม เมเดลีนเองก็ไม่สามารถปฏิเสธความจริงที่ว่าเจเรมี่มักจะใช้เวลาทั้งคืนกับผู้หญิงคนนี้เมื่อเธอคิดถึงเรื่องนี้ความเจ็บปวดในใจของเธอก็เริ่มลุกลามอีกครั้งแต่ความเจ็บปวดนั้นไม่สามารถเทียบได้กับสิ่งที่เธอรู้สึก เมื่อเห็นเจเรมี่จับเมเรดิธอย่างอ่อนโยนด้วยความรักและเอาใจใส่เมเรดิธยกมือขึ้นปิดหน้าและร้องไห้อย่างน่าสงสาร“เจเรมี่ อย่าต่อว่าแมดดี้เลย มันเป็นความผิดของฉันทั้งหมด ฉันไม่ควรตกหลุมรักคุณ ในทางกลับกัน ฉันหวังว่าคุณจะสามารถพูดคุยกับแมดดี้เรื่องนี้เพื่อเธอจะได้ไม่ทำร้ายลูกของเรา…”เมื่อเมเรดิธพูดถึงเด็ก เมเดลีนจะเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของเจเรมี่อย่างชัดเจนเจเรมี่เงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อจ้
เมเดลีนเองรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากราวกับว่าหัวใจของเธอถูกเฉือนออกเป็นพัน ๆ ครั้งด้วยคมมีดเล่มหนึ่ง “เจเรมี่ สิ่งที่ฉันพูดเป็นความจริง!”“สำหรับฉันแล้วไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความรู้สึกของเมเรดิธ เธอกำลังพ่นขยะอะไรออกมา?”การตอบกลับมาของเขาเจ็บปวดเกินต้านทาน มันตรงดิ่งเข้ามาปักหัวใจของเมเดลีนราวกับดาบที่แหลมคมก็ไม่ปานดังนั้นสำหรับเขาแล้ว ความจริงไม่ใช่สิ่งที่สำคัญเลย สิ่งสำคัญที่สุดคือ เขารักเมเรดิธ และความจริงนั้นทำให้ทุกอย่างเลวร้ายลงเธอรู้สึกว่าหัวใจของเธอจมดิ่งเหมือนกับก้อนหิน ราวกับว่าเธอสูญสิ้นแล้วกับความหวังทั้งหมด และทำได้เพียงสนองความปรารถนาของผู้ชายคนนี้เท่านั้นเมเดลีนยิ้มออกมาอย่างเสียใจ “ตกลง ฉันจะขอโทษ”เธอทนแบกรับความเจ็บปวดที่มีในร่างกาย และก้มหัวขอโทษเมเรดิธเมเรดิธแอบยิ้มเยาะ รอยยิ้มแห่งชัยชนะนั้นทำให้เธอพอใจกับมันมากเธอไม่เคยมีความคิดนั้นมาก่อนว่าเจเรมี่จะเพิกเฉยต่อความจริงเพียงเพราะเมเรดิธ เหตุผลเดียวที่มีคือเขารักเธอ เขารักเธอมากหลังจากวันนั้นเป็นต้นมา เมเดลีนเองไม่เคยเห็นเจเรมี่อีกเลยเธอต้องการหางานเพื่อสร้างกำลังใจให้ตัวเอง เธอไม่ต้องการรับรู้ถึงควา
หากเสียงนาฬิกาปลุกไม่ดังในเช้าวันรุ่งขึ้น เมเดลีนคงไม่สามารถตื่นได้ด้วยตัวเองใบหน้าของเธอร้อนผ่าว เมื่อนึกถึงทุกการกระทำ และคำพูดในสภาพเมาหัวราน้ำกับเขาเธอไปที่สำนักงานในเวลาต่อมาด้วยอาการเหม่อลอย เธอไม่สามารถลบภาพของเจเรมี่ในหัวได้เป็นเวลาร่วม 12 ปี คงเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะยอมสละความรักที่ลึกซึ้งนี้ไปในเวลาเพียงวันเดียวเธอสัมผัสท้องแบนราบของเธออย่างเหม่อลอย ถ้าเป็นไปได้เธอต้องการให้เด็กมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ“ดิ้ง!”เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ของเธอดังขึ้น ทำให้เธอกลับมาสู่ความเป็นจริงเธอเหลือบไปมองมัน และเห็นว่ามันเป็นข้อความมาจากเจเรมี่!หัวใจของเมเดลีนเริ่มเต้นเร็วอย่างผิดจังหวะ มือของเธอเริ่มสั่นเมื่อเธอเปิดข้อความสิ่งแรกที่เมเดลีนเห็นคือภาพถ่าย มันเป็นภาพถ่ายของเมเดลีนและเมเรดิธ มันถูกถ่ายขึ้นเมื่อตอนที่เธอเป็นถูกรับเป็นลูกบุญธรรมของตระกูลครอว์ฟอร์ดในภาพนั้นเมเรดิธสวมชุดราคาแพง แสงสาดส่องกระทบลงมาบนใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสของเธอ และเธอช่างดูเหมือนกับเจ้าหญิงที่ไม่มีใครแตะต้องได้ เธอดูสง่างามและสมบูรณ์แบบมาก ในทางกลับกัน เมเดลีนเองสวมชุดสีขาวอมเทาเธอดูต่ำต้อยราวกับ
เมเดลีนกลับมายังที่คฤหาสน์ที่เงียบเหงาว่างเปล่า เธอคิดถึงเรื่องหย่า บวกกับคำตอบที่เจเรมี่ทำให้หัวใจเธอทวีคูณความปวดร้าวเหมือนถูกแทงด้วยมีดความคิดที่ว่าเจเรมี่จะเกลียดเธอมากขนาดนี้นั้นไม่เคยมีอยู่ในสมองเธอเลย เขาใจร้ายมากที่บอกให้เธอทำแท้งได้อย่างง่ายดายเมเดลีนรู้สึกกลัว ถ้าเจเรมี่ต้องการทำมันจริง ๆ เธอควรทำอย่างไร?ในเวลาเดียวกันมีเสียงดังมาจากประตูหน้าบ้าน เจเรมี่กลับมาแล้ว เขายังคงยืนตัวตรงและดูสง่างามเช่นทุกครั้งความประหลาดใจเกิดขึ้นในใจ เมเดลีนรู้สึกกังวลมากขึ้นเธอกลัวมากว่าเจเรมี่จะบังคับให้เธอทำแท้ง เธอค่อนข้างประหลาดใจที่เจเรมี่ไม่ได้เอ่ยถึงการหย่าร้าง หรือการทำแท้งใด ๆ ในทางกลับกันเขาย้ำให้เธอกลับไปที่คฤหาสห์วิทแมนพร้อมกับเขา ในวันที่จะถึงนี้ในฐานะภรรยาของเขา ซึ่งเป็นวันเกิดครบรอบ 50 ปีแม่ของเขาความประหลาดใจเกิดขึ้นในใจเธออีกครั้ง นี่หมายความว่าเขาพยายามจะยอมรับเธอหรือเปล่า?อย่างไรก็ตามความหวังที่เพ้อเจ้อนั่น ถูกเขาบดขยี้ลงทันที ดวงตาของชายคนนั้นเย็นชาเช่นเดียวกับคำพูดต่อมาเช่นกัน “เมเดลีนอย่าแม้แต่คิดว่าใจของฉันจะเปลี่ยนไป คงไม่มีวันที่ฉันตกหลุมรักผู้หญิงที่ไร้ยา
เมเดลีนถึงกับชะงัก จิตใจของเธอว่างเปล่าไปหมด“แมดดี้ แมดดี้”ผ่านไปไม่นานเมเดลีนได้ยินเสียงคนเรียกชื่อเธอเธอได้สติกลับมาอีกครั้ง และเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย เอวา ลองค์ เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเธอเอวามองไปยังหน้าที่ไม่มีเลือดฝาดของเพื่อนสาว เธอรู้สึกโกรธและเป็นห่วงมาก “เมเดลีน เธอเป็นเพื่อนที่แย่มาก ทำไมเธอไม่ยอมบอกเรื่องใหญ่แบบนี้กับฉัน?”เมเดลีนยังคงรู้สึกงงงวย “เอวา ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่?”“เธอสิ เป็นคนที่จะต้องบอกฉัน เธอเป็นคนโทรหาฉันเมื่อคืนนี้ แต่ก่อนที่เธอจะพูดจบเธอก็หมดสติไป” เอวาเอื้อมมือไปแตะหน้าผากของเมเดลีนเบา ๆ ขณะที่เธอพูด “เมเดลีน นี่เธอสูญเสียความทรงจำหรือเปล่า?”แน่นอนเมเดลีนไม่ได้สูญเสียความทรงจำของเธอใด ๆ ทั้งสิ้น เธอจำได้ดีว่าเจเรมี่บีบคอเธอก่อนจะทิ้งเธอไปในคืนนั้น ท้องของเธอกระแทกที่มุมเตียง มันเจ็บปวดมากจนไม่สามารถลุกขึ้นได้ ถึงกระนั้นเขาก็เดินจากไปโดยไม่สนใจใยดีเธอสักนิด เขาพูดทิ้งท้ายด้วยถ้อยคำที่ไร้ซึ้งหัวใจก่อนที่เขาจะจากไปในคืนนั้นหัวใจที่ถูกกรีดออก และความเจ็บทะลุออกมาจากกระดูกเธอเอวาหันหน้ากลับมานั่งลงบนเตียง สีหน้าของเธอดูจริงจังกว่าที่เคย “หมอน
คำครหาเสียงหลงของผู้หญิงคนนี้กำลังดึงดูดสายตาของผู้คนจำนวนมากให้หันมาสนใจ เมเดลีนพยายามรักษาไว้ซึ้งความสุภาพ “มาดามคะ คุณเองที่เป็นคนหันมาชนฉันเมื่อสักครู่นี้ นอกจากนี้ ฉันไม่ใช่แม่บ้านของตระกูลวิทแมน”ผู้หญิงคนนั้นดูอึ้งไปสักพักก่อนจะกวาดสายตาดูชุดที่เมเดลีนสวมใส่ รอยยิ้มเหยียดหยามปรากฏบนใบหน้าที่สง่างามของเธอ “ใช่ เธอก็ดูไม่เหมือนสาวใช้ แต่ดูเหมือนคนขอทานจากข้างถนนมากกว่า”ไม่นานเสียงหัวเราะต่อกระซิกดังมาจากทางด้านหนึ่ง เมเดลีนเองไม่ต้องการโต้เถียงอีกต่อไป ขณะที่เธอกำลังเดินหลีกออกมา เธอก็เห็นเมเรดิธเดินสวนมาในเวลาเดียวกันการแต่งตัวที่เข้ากันกับทรงผมที่เกล้าขึ้น บวกกับการแต่งหน้าที่สวยงามทำให้เธอดูดีกว่าทุกครั้ง เมื่อเธอเห็นเมเดลีน เธอแสดงสีหน้าอาการตกใจ “โอ้ นี่เธอเองเหรอ แมดดี้”เมื่อผู้หญิงคนนั้นได้ยินสิ่งที่เมเรดิธพูด เธอมองไปที่เมเดลีนอย่างดูถูก "คุณนายวิทแมน คุณรู้จักขอทานโง่ ๆ คนนี้ด้วยเหรอ?”เมเดลีนนิ่งไปอย่างตกตะลึง อะไรกันผู้หญิงคนนี้คิดว่าเมเรดิธเป็นภรรยาของเจเรมี่ เห็นได้ชัดว่าเมเรดิธไม่ได้แก้ต่างในเรื่องนั้น ตรงกันข้ามเธอกับยิ้มให้ผู้หญิงคนนั้น"มาดามแลงฟอ
เมเดลีนกำลังจะถูกนำตัวออกไป แต่ในขณะนั้นหญิงสาวที่มีท่าทางสงบเยือกเย็นเดินตรงไปหามาดามแลงฟอร์ด และกระซิบอะไรบางอย่างข้างหูของเธอทันใดนั้น มาดามแลงฟอร์ดก็แสดงท่าทีเปลี่ยนไป เธอมองไปยังมาเดลีนอย่างไม่อยากจะเชื่อ ก่อนจะพูดว่าเรื่องทั้งหมดมันคือเรื่องเข้าใจผิดเมเดลีนไม่รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น เมื่อเธอมองไปยังใบหน้าของหญิงผู้นั้น เธอก็สังเกตได้ว่าหล่อนกำลังมองเธออย่างรังเกียจสายตาของเธอทำให้เมเดลีนรู้สึกไม่ดีนัก ในขณะเดียวกันเมเรดิธก็ได้เดินเข้ามา“แมดดี้ นี่คือแม่ของเจเรมี่ ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว เธอไม่ต้องเดินทางไปยังสถานีอีกต่อไปแล้ว แต่เธอต้องสัญญากับฉันว่าจะไม่ทำอะไรที่น่าขายหน้าแบบนี้อีก”เมเรดิธพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวล เมเดลีนพยายามที่จะอธิบาย แต่แม่ของเจเรมี่ก็ได้เดินจากไปหลังจากที่มองดูเธอด้วยความไม่พอใจเมเรดิธกระตุกยิ้ม เธอเดินตามหลังหล่อนไป และคอยอยู่ข้าง ๆ แม่ของเจเรมี่ มันดูเหมือนพวกเขาเป็นคู่แม่สามีกับลูกสะใภ้ที่รักกันดีเสียงหัวร่อต่อกระซิกดังแว่วเข้ามาในหูของเธอ และยังมีเสียงหัวเราเบา ๆ อีกด้วยคุณนายวิทแมนเป็นคนที่ไร้เล่ห์เหลี่ยมเกินกว่าที่จะไปเกี่ยวข้องกับเรื่อ