เมื่อได้ยินสิ่งที่ลูกชายของเธอพูด บางอย่างก็ดูเหมือนจะดึงสติของเมเดลีนให้กลับมาอย่างแรงเธอกลับมามีสติรู้สึกตัวและสงบลง พลางถามด้วยรอยยิ้ม "แจ็ค แดดดี้บอกอย่างนั้นจริง ๆ เหรอจ๊ะ? เขาบอกเรื่องนี้เมื่อไหร่?"“แดดดี้มาเยี่ยมลิลลี่กับผมเมื่อคืนนี้ แต่แดดดี้ก็จากไปเร็วมาก” ดวงตากลมโตของแจ็คสันเต็มไปด้วยความอ้างว้างและไม่เต็มใจ จะเห็นได้ว่าความรู้สึกของเขาที่มีต่อเจเรมี่นั้นลึกซึ้งมากหัวใจของเมเดลีนเต้นไม่เป็นจังหวะ หลังได้ฟังคำพูดของลูกชายเธอทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วจูบแก้มเล็ก ๆ น่ารักของเขาพลางปลอบโยน “แจ็ค กินข้าวเช้าก่อนนะลูก ดูสิ ลิลลี่ใกล้จะกินเสร็จแล้วนะ”เมื่อลิเลียนได้ยินเมเดลีนพูดถึงเธอ เธอก็เงยหน้ามองเมเดลีนด้วยดวงตากลมโตอย่างมีชีวิตชีวาและยิ้มให้หัวใจที่แตกสลายของเมเดลีนได้รับการเยียวยาขึ้นเล็กน้อยด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่นนี้ แต่เธอก็ยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่ลูกชายของเธอพูดมาเมื่อกี้หลังจากส่งลูกทั้งสองไปโรงเรียนแล้ว เมเดลีนก็รู้สึกกระวนกระวายขณะที่ถือโทรศัพท์มือถือไว้ก่อนจะกดโทรไปที่เบอร์ของเจเรมี่ในที่สุดเจเรมี่ซึ่งอยู่อีกฝั่งของโทรศัพท์กำลังพาลาน่าไปพบกับแขกผู้ม
เมเดลีนชำเลืองมองลาน่า “ฉันบอกว่าฉันมีเรื่องจะบอก”รอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาของเจเรมี่ “ที่นี่ไม่มีคนนอก ธุระของฉันก็เป็นธุระของแฟนฉันเหมือนกัน ถ้าคุณมอนต์โกเมอรีมีอะไรจะพูดก็พูดมาสิ”คำพูดของเจเรมี่ทำให้หัวใจของเมเดลีนแหลกสลายขณะที่เธอกำลังจะพูด ลาน่าก็เดินเข้ามาอย่างสบาย ๆ พลางโน้มตัวเข้าไปใกล้เจเรมี่และเอ่ยว่า ”เจเรมี่คะ ในฐานะแฟนโดยชอบธรรมของคุณ ฉันจะไม่รบกวนการพูดคุยของคุณกับคุณมอนต์โกเมอรีหรอกค่ะ ฉันจะไปที่ร้านขนมชั้นล่าง แล้วรอคุณลงมาดื่มชายามบ่ายกับฉันทีหลังนะคะ”เจเรมี่ยิ้มให้ลาน่าอย่างอ่อนโยน “งั้นคุณไปก่อน เดี๋ยวผมตามลงไป”"ค่ะ" ลาน่ามองเหยียดและเดินผ่านเมเดลีนด้วยรอยยิ้มอิ่มเอมใจ “คุณมอนต์โกเมอรี ฉันได้ยินมาว่าคุณกำลังจะแต่งงานกับไรอัน โจนส์เร็ว ๆ นี้ การที่หาผู้ชายมาแต่งงานด้วยทันทีที่หย่าได้ คุณเองก็ไม่ใช่เล่น ๆ เลยนะ”ลาน่ายั่วโมโหอีกฝ่ายเมเดลีนเอ่ยโดยไม่เร่งรีบว่า "ถ้าพูดเรื่องวิธีการ ฉันจะเทียบกับเธอได้ยังไง? คุณผู้หญิงที่มีความกล้าหนาเสียยิ่งกว่ากำแพงเมือง"“...” สีหน้าของลาน่าบูดบึ้งในทันที “เอวลีน แก…”“ลาน่า เธอรู้อยู่แก่ใจว่าเธอเป็นใคร ถ้าเ
คำพูดที่เขาเปล่งออกมาเต็มไปด้วยความไม่พอใจอย่างรุนแรงดวงตาที่เย็นชาของชายหนุ่มมีความรู้สึกเมินเฉยเช่นเดียวกับในตอนนั้นเมเดลีนมองไปยังใบหน้าเด็ดเดี่ยวและเคร่งขรึมโดยปราศจากความคาดหวัง หรือแสงสว่างใด ๆ ในดวงตาของเธอ“ไม่ต้องกังวลหรอก เพราะฉันจะไม่มาหาคุณอีก คุณไม่ใช่คนที่ฉันรักอีกต่อไป ตั้งแต่ตอนที่คุณเลือกลาน่า ฉันก็ยอมปล่อยคุณไปแล้วล่ะ”“แบบนั้นคงดีที่สุดแล้วล่ะ” เจเรมี่แสยะยิ้มบนริมฝีปากเย้ายวน “ผมไม่อยากให้คุณคิดถึงผมอีก คุณรู้ไหมว่าในช่วงสองสามปีที่ผ่านมานี้ ผมเบื่อกับความผูกพันที่คุณมีต่อผมแค่ไหน?”เบื่อกลับกลายเป็นว่าเขาเบื่อความรักและความผูกพันที่เธอมีต่อเขามานานแล้วหัวใจที่เย็นชาของเมเดลีนสั่นไหวอีกครั้งในขณะนั้นเองโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น เป็นไรอันที่โทรมาเมเดลีนรับสายและได้ยินเสียงอันอ่อนโยนของไรอัน “ผมอยู่ชั้นล่างของวิทแมน คอร์ปอเรชั่นแล้วครับ คุณยังมีธุระอีกนานไหมครับ?”เมเดลีนปรับอารมณ์และตอบว่า "เดี๋ยวฉันลงไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ ไรอัน รอฉันสักครู่นะคะ"“ไม่เป็นไร ผมรอได้ ถ้าคนที่รอคือคุณ” ความรักของไรอันผ่านเข้าหูเมเดลีน รวมถึงเจเรมี่ด้วยเขาหันหน้าหนีโด
เมเดลีนนั่งอยู่ในรถของไรอันและมองไปยังนิ้วนางข้างซ้ายที่ว่างเปล่าของตัวเอง เธอหวนนึกถึงภาพการแยกจากและกลับมาพบกันอีกครั้งระหว่างเธอและเจเรมี่ตลอดหลายปีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้จู่ ๆ เธอก็รู้สึกสับสนขึ้นมาว่าในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา เจเรมี่เคยรักเธอจริง ๆ บ้างไหม?แน่นอนว่าเขาเคยนั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมตอนนั้นเขาถึงสามารถทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องเธอไว้นั่นคือเหตุผลที่เมื่อก่อนตอนที่เขากอดเธอตอนเข้านอน เขาจะแสดงรอยยิ้มที่ใสซื่อเหมือนเด็กให้เธอดู‘แต่เจเรมี่ เราทำอะไรผิดไปเหรอ เรื่องระหว่างเราถึงกลายเป็นแบบนี้…’หัวใจของเธอเจ็บปวดอยู่เงียบ ๆ ในทันใดนั้นเองที่ไรอันยื่นมือออกมาจับมือเธอไว้อย่างนุ่มนวล เขาไม่ได้พูดอะไร และทำเพียงแค่มองเมเดลีนอย่างอบอุ่น“ผมอยากให้งานแต่งงานเรียบง่ายหน่อย คุณคิดว่าไงครับ?” ไรอันขอความเห็นจากเมเดลีนอย่างอ่อนโยนครอบครัวโจนส์เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงในเกลนเดล ตอนนี้ไรอันกำลังจะแต่งงาน งานแต่งงานจึงเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเมเดลีนคิดว่าอาจเป็นเพราะเธอแต่งงานมาแล้วสองครั้ง หย่าร้างไปแล้วสองครั้ง และมีลูกมาแล้วสามคน พ่อและแม่ของไรอันอาจจะรู้สึกละอายขึ้นมาได้ เธอจึ
เมเดลีนเดินไปถึงประตูห้อง แล้วไฟในห้องก็ดับลงกะทันหันชั่วขณะหนึ่งเธอก็รู้สึกถึงเงาดำแวบผ่านดวงตาของเธอ แต่ก็เป็นเพียงชั่วครู่เท่านั้นเมเดลีนตอบสนองด้วยการเปิดไฟในทันที แต่หลังจากเปิดไฟแล้วกลับไม่มีใครอยู่ในห้องเลย ในห้องมีเพียงอัลบั้มภาพงานแต่งงานที่เปิดอยู่ และถูกวางไว้บนเตียงเมเดลีนเดินเข้ามา และได้กลิ่นหอมเย็น ๆ ผ่านจมูกของเธอจาง ๆ ทันใดนั้นเธอก็เข้าใจอะไรบางอย่างเมื่อเห็นตัวเองฉีกยิ้มด้วยใบหน้าบึ้งตึงในภาพถ่ายแต่งงานประกอบกับท่าทางเย็นชาและไร้ความร่าเริงของผู้ชายคนนั้น เมเดลีนก็ค่อย ๆ หยิบอัลบั้มภาพขึ้นมาอย่างเบามือ ก่อนจะฉีกครึ่งภาพแต่งงานนั้นอย่างแรงเจเรมี่ซึ่งยืนอยู่หลังม่านตรงระเบียงเห็นฉากนี้ และรู้สึกราวกับว่าหัวใจของเขาถูกแทงด้วยมีดอันแหลมคมเขาเฝ้าดูเมเดลีนวางกล่องเครื่องประดับที่เธอถือไว้อย่างเบามือ ก่อนที่เธอจะจากไปโดยไม่แม้แต่จะหันมามองหลังจากที่เขาเห็นเธอขับรถออกไป เจเรมี่ก็กลับมาที่ห้องภาพถ่ายงานแต่งงานที่ขาดวิ่นบนพื้นดูเหมือนจะเป็นตัวแทนของพวกเขา… คู่รักที่ไม่อาจย้อนกลับไปสู่อดีตได้เจเรมี่หยิบกล่องเครื่องประดับที่เมเดลีนทิ้งไว้ และเห็นแหวนแต่งงานสองวง
“เจเรมี่ คุณกำลังมองอะไรอยู่? ไฟเขียวแล้วนะ” ลาน่าบอก ขณะที่เธอกำลังจะมองไปยังทางเดียวกับที่เจเรมี่มองอยู่ รถก็ออกตัวเจเรมี่หยิบกระดาษเช็ดมือมาเช็ดคราบเลือดที่มุมปากของเขาลาน่าไม่ได้สังเกตว่าเจเรมี่กำลังไอออกมาเป็นเลือด เธอเพียงนั่งเท้าคางด้วยมือข้างหนึ่ง ขณะที่มองไปยังเจเรมี่ซึ่งกำลังขับรถด้วยสีหน้าไม่พอใจ“เจเรมี่ คุณนี่มีเสน่ห์จริง ๆ ฉันเคยคบกับผู้ชายมาก็หลายคน แต่คุณแตกต่างออกไป ฉันมีความต้องการอยากจะอยู่กับคุณตลอดไปจริง ๆ นะ”เจเรมี่ชำเลืองมองลาน่า “ชอบฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?”"แน่นอนสิคะ" ดวงตาของลาน่าเต็มไปด้วยความหลงใหลและมั่นใจ "ฉันจะทำให้คุณค่อย ๆ ตกหลุมรักฉัน และลืมเอวลีนคนนั้นไป เพราะฉันเชื่อว่าความรักจะค่อย ๆ เติบโตเมื่อเวลาผ่านไป"เจเรมี่ยกมุมปากของเขาและยิ้มอย่างมีความหมาย "ฉันก็เชื่ออย่างนั้น"ลาน่าพอใจกับคำตอบของเขา แต่เธอก็ยังคงดูกังวลเล็กน้อยกับทิศทางที่เจเรมี่เพิ่งมองไป...ขณะที่เมเดลีนกำลังลองชุดแต่งงาน เอวาก็ได้รับโทรศัพท์ จากนั้นสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยและบอกว่าเธอต้องรีบไปแล้วไรอันซื้อดอกไม้มาสองช่อและพาเมเดลีนไปที่สุสานเพื่อพบเอโลอิสและฌอน“พ่
ซ่า ซ่า!เด็กน้อยพยายามเอาตัวรอดจากน้ำโดยสัญชาตญาณในขณะเดียวกันลาน่าก็ยืนอยู่ข้างสระน้ำและเพลิดเพลินกับภาพที่เห็น เธอเฝ้าดูจนลิเลียนหยุดดิ้นลงในที่สุดแล้วค่อย ๆ จมลงสู่ก้นสระ เมื่อหญิงสาวเห็นอย่างนั้นก็พ่นควันบุหรี่ออกมาขณะที่แววตาดูไร้สติและพึงพอใจเป็นอย่างมาก"เอวลีน อีกไม่นานฉันก็จะได้เห็นแกเจ็บปวดเจียนจะขาดใจแล้วสินะ"ลาน่ายิ้มแล้วหันหลังเดินออกไป เธอตัดสินใจทิ้งลิเลียนเอาไว้แบบนั้น และจะกลับมาก็ต่อเมื่อเด็กน้อยผู้โชคร้ายนันกลายเป็นศพฟาเบียนที่ออกมาจากบ้านเพื่อรับโทรศัพท์ ได้ยินเสียงแปลก ๆ จึงเดินไปที่ต้นเสียงบริเวณสระน้ำในตอนแรกเขาคิดว่ามันเป็นเพียงเสียงนกที่กระพือปีกบนผิวน้ำเท่านั้น แต่หลังจากมองดูใกล้ ๆ เขาก็รู้ทันทีว่านั่นคือร่างของเด็ก!เขาไม่รู้ว่าทำไมถึงได้มีเด็กอยู่ในน้ำ แต่ดขาก็รีบกระโดดลงไปโดยไม่รีรอเมื่อเห็นว่าเด็กหญิงตัวน้อยคือลิเลียน ฟาเบียนก็ใจหายไปครู่หนึ่ง แต่วินาทีต่อมาเขาก็บังคับตัวเองให้สงบสติอารมณ์และอุ้มลิเลียนที่หมดสติและดูซีดเซียวออกจากสระว่ายน้ำ"ลิเลียน! ลิเลียน!" ฟาเบียนรู้สึกกังวลมากจริง ๆแต่ไม่ว่าเขาจะเรียกลิเลียนอย่างไร ก็ยังไม่มีการตอบสน
ฟาเบียนตอบโต้อย่างมีเหตุผล “นี่น้องสาวฉัน ตอนเด็ก ๆ มีใครบ้างที่ไม่อาบน้ำกับพี่น้องของตัวเอง? มองบ้าอะไร?! แล้วฉันก็เพิ่งเปลี่ยนเสื้อผ้าของลิลลี่ มันไม่ได้อนาจารอย่างที่คิด!”เอิร์ลและเรดปิดปากยิ้มเมื่อได้ยินเช่นนั้นภายในห้อง ฟาเบียนจริงจังกับการเปลี่ยนเสื้อผ้าของลิลลี่ เขายังขอให้เอิร์ลและเรดไปที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อเสื้อผ้าทันที ในขณะที่ตัวเองก็ค่อย ๆ เช็ดผม เช็ดหน้าของลิลลี่อย่างเบามือเมื่อเห็นสีหน้าของเด็กหญิงตัวน้อยค่อย ๆ กลับมามีเลือดฝาด รอยยิ้มโล่งใจก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฟาเบียน“ฉันอยู่นี่แล้ว เธอจะไม่เป็นไรลิเลียน”เขาสัญญา แต่มันแปลกมากที่ลิลลี่มาอยู่ในสระน้ำบ้านของเขาแม้ว่าเขาจะไม่มีสมองในการทำธุรกิจเหมือนกับโยริค แต่เขาก็ไม่ใช่คนโง่ที่จะมองอะไรไม่ออกเขานึกถึงลาน่าทันทีและตัดสินใจว่าจะมุ่งตรงไปขอคำอธิบายจากลาน่าทันทีที่ลิเลียนฟื้น…เมเดลีนและไรอันค้นหาลิเลียนในสวนสาธารณะอยู่เป็นเวลานาน แต่ก็ไม่พบร่องรอยของลิลลี่เลย พวกเขาจึงใช้เส้นสายเพื่อขอตรวจสอบกล้องวงจรปิด แต่ก็ไม่พบอะไรน่าสงสัยเช่นกันท้องฟ้าค่อย ๆ มืดลง เมเดลีนออกมาจากทางเข้าสวนสาธารณะอย่างเหนื