เมื่อเมเรดิธเห็นเจเรมี่และมาเดลีนเดินเข้ามาด้วยกัน เธอแทบคลั่งมือของเธอถูกกำแน่นเข้าด้วยกัน มีบางอย่างที่น่ากลัวในดวงตาของเธอแต่เธอไม่สามารถทำอะไรกับมันได้ไม่เพียงเท่านั้น เธอเห็นเฟลิเป้ เธอตกใจมากที่เห็นเขามาที่นี่ด้วย!ผู้ชายคนนั้นคือลุงของเจเรมี่!เธอรู้สึกไม่สบายใจยิ่งขึ้น เธอคิดไม่ถึงมาก่อนว่าลุงของเจเรมี่คือคนที่ยืนกรานต่อสู้ในนามของมาเดลีนในวันนั้นยิ่งไปกว่านั้น ผู้ชายคนนี้ยังยื่นจดหมายฟ้องทนายความให้เธออีกด้วย!เธอมองเฟลิเป้อย่างประหม่า เธอยืนอยู่ที่ด้านหนึ่งและแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเฟลิเป้เห็นเมเรดิธเช่นกัน เขาหลบสายตาด้วยท่าทีสงบมาเดลีนถูกเจเรมี่ลากมานั่งข้างๆ ในขณะที่ เมเรดิธนั่งอยู่อีกด้านของเจเรมี่ ในขณะที่หล่อนนั่งลง หล่อนรินไวน์และหยิบอาหารให้เจเรมี่เหมือนภรรยาน้อยที่สมบูรณ์แบบมาเดลีนรู้สึกว่าการเห็นหล่อนทำเช่นนั้นเป็นสิ่งที่อุจาดตา บนโต้ะมีอาหารทุกประเภทแต่เธอไม่รู้สึกอยากอาหารมากนัก นอกจากนี้ เนื่องจากสุขภาพของเธอ เธอจึงกินได้เฉพาะของที่เป็นอาหารอ่อนๆเท่านั้น“นี่คืออาหารจานเด็ดของแม่ เธอไม่เคยลองมาก่อน นี้ ลองดูสิ” จู่ๆเจเรมี่ก็ใส่แกงลงไปในชามขอ
มาเดลีนไอออกมาโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว เธอรีบเอื้อมมือไปดึงกระดาษทิชชู่ออกเพื่อซับเลือด เธอแทบคลั่ง เพราะเธอเองไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงอาเจียนเป็นเลือด ถึงอย่างนั้น เธอไม่ต้องการให้เจเรมี่เห็นสิ่งนี้“มาเดลีน! ฉันไม่สนว่าเธอจะไม่อยากกินมันแค่ไหน แต่ทำไมเธอถึงทำให้อาหารของฉันมัวหมองเช่นนี้”คุณหญิงวิทแมนไม่ทันได้สังเกตว่ามีเลือดปนในแกงมาเดลีนที่อาเจียนออกมา เธอชี้ไปที่มาเดลีนและกรีดร้องด้วยความโกรธ“บอกฉันก่อนที่เธอจะมาที่นี่ในครั้งต่อไปเพื่อที่ฉันจะได้ไม่โผล่มาที่นี่! ฉันไม่อยากเจอเธออีกแม้แต่ครั้งเดียว!”“อย่าโกรธไปเลยนะคะ คุณหญิงวิทแมน” เมเรดิธวิ่งเข้่าไปอย่างรวดเร็วเพื่อปลอบประโลมเธอ เเต่แล้ว หล่อนไม่ลืมที่จะมองกลับไปที่มาเดลีนก่อนจะส่งยิ้มเยาะให้เธอหล่อนเห็นอย่างชัดเจนว่ามาเดลีนกำลังกระอักเลือดหล่อนรู้ดีว่ามาเดลีนไม่สามารถผ่าตัดเนื้องอกของเธอในการรักษาได้ อายุขัยของเธอจะสั้นลงถ้าเธอกินอาหารที่ทำให้เกิดอาการดังกล่าวในตอนนี้ถ้ามาเดลีนเสียชีวิต โอกาสที่คนอย่างหล่อนจะได้เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายก็จะมาถึง“เธอพยายามที่จะผลักไสผมออกไปจากชีวิตใช่ไหม?” เจเรมี่คำรามอย่างโกรธเกรี้ยวข้
มันช่างหนาวเย็นมันหนาวมากจนหัวใจของมาเดลีนบีบแข็งตัวแทบช็อคในทันทีอย่างไรก็ตาม เธอมีความหวังว่ามันอาจจะเย็นลง มันจะดีมากถ้ามันหนาวจนให้ความรู้สึกชาไปทั้งตัวนั่นคือเธอจะไม่ต้องรู้สึกเจ็บปวดอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นร่างกาย หรือหัวใจของเธอเจเรมี่สังเกตุเห็นมาเดลีนไม่ดิ้นรนหรือต่อต้านใดๆเลย ดังนั้น เขาจึงหยุดสิ่งการกระทำของตัวเองและดึงมาเดลีนขึ้นมาในขณะที่เธอตัวสั่นเขาเห็นว่าใบหน้าของเธอขาวราวกับหิมะใบหน้าของเธอไม่มีสีสันหลงเหลืออยู่เลยแม้แต่น้อยเธอดูเหมือนหุ่นเชิดที่มีเลือดไหลออกมาจากร่างกาย สิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงเปลือกที่ว่างเปล่าของมันจู่ๆเจเรมี่รู้สึกกลัวขึ้นมาทันที “มาเดลีน มาเดลีน …”เขาเรียกชื่อเธอแต่เธอไม่ตอบรับ“มาเดลีน อย่าแกล้งตาย! ผมบอกให้เธอพูด!” หัวใจของเจเรมี่เต้นเร็วมากเขารู้สึกราวกับว่ามันเกินพิกัด ความกลัวที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อนเริ่มครอบงำเขาเมื่อเห็นว่ามาเดลีนยังคงไม่ไหว เขาจึงอุ้มเธอและวางเธอลงบนเตียงเขารีบไปเอาเสื้อผ้าที่สะอาดมาให้เธอเปลี่ยน แต่เขาหันกลับมาและเห็นมาเดลีนลุกขึ้นนั่งเจเรมี่รู้สึกราวกับว่าเขาถูกหลอกอย่างแรง เขาโยนเสื้อผ้าลงพื้นแล้วพุ่งตั
ในทันทีที่เธอพูดจบ มันให้ความรู้สึกราวกับว่าอากาศรอบตัวพวกเขากลายเป็นน้ำแข็งไปเจเรมี่อยู่เหนือผู้หญิงที่อยู่ข้างใต้ตัวเขา “เธอพูดอะไร? พูดอีกทีสิ”“เรา หย่า” มาเดลีนพูดซ้ำโดยไม่ลังเล ทั้งสองคำนั้นหนักแน่นและชัดเจนอากาศเริ่มเงียบอีกครั้ง หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เจเรมี่โวยวายเสียงดังลั่น ดวงตาของเขาที่ดูเหมือนเป็นซาตาน มันดูมืดและดูเหมือนว่าทั้งหมดกำลังกัดกินเธออย่างหิวโหย“หย่างั้นเหรอ? อย่าแม้แต่จะคิดเรื่องนี้!”คำพูดที่เยือกเย็นที่แสนเสียดแทงกระดูกเหล่านั้นหลุดรอดออกมาจากริมฝีปากอันเย้ายวนของเขา“เธอไม่อยากเป็นผู้หญิงของผมเหรอ? ผมจะเติมเต็มความปรารถนาของเธอเอง”มาเดลีนรู้สึกว่าตัวเองพังทลายขณะมองไปที่รอยยิ้มที่น่ากลัวของเขา“ฉันไม่ต้องการให้คุณทำตามความปรารถนาของฉัน! เจเรมี่ วิทแมน ฉันต้องการหย่ากับคุณ!”“ฝันไปเถอะ” เจเรมี่ปฏิเสธเธออย่างไร้ความปรานี จากนั้น เขาบีบกรามของเธอแน่น “เธอต้องการหย่ากับผมเพียงเพราะเธอมีผู้ชายคนอื่น? มาเดลีน เธอไร้ยางอายแค่ไหน?”'มาเดลีน เธอไร้ยางอายแค่ไหน?'คำสบประมาทของเขามักออกมาอย่างง่ายดายเสมอ ดวงตาของเขาดูน่ากลัวกว่าเดิม“เธอบอกว่าเธอมีลูก
“เธอดูโทรมลงไปนะ”เมื่อมาเดลีนได้ยินเฟลิเป้พูดดังนั้น เธอสัมผัสใบหน้าของเธออย่างเชื่องช้าอย่างอดไม่ได้เธอกำลังป่วยร่างกายของเธอแย่ลงเรื่อยๆ แน่นอนว่าเธอจะดูอ่อนแอเล็กน้อย“เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?” เขาถามอย่างห่วงใย“ขอบคุณสำหรับการใส่ใจ คุณวิทแมน แต่ฉันสบายดี”มาเดลีนขอบคุณเขาอย่างรวดเร็วก่อนจะลุกขึ้นจากไปเธอนึกขึ้นได้ว่าเธอและเขามีส่วนเกี่ยวข้องกันในทางไหนเขาเป็นลุงของเจเรมี่สามีของเธอนั่นทำให้เธอรู้สึกเสียใจมาก“เธอหยุดเรียกผมว่าคุณวิทแมนได้เมื่อไม่มีใครอยู่”มาเดลีนลังเลแล้วเธอก็พูดว่า “ฉันจะไปแล้วนะคะ คุณลุง”“ที่จริง ผมอายุมากกว่าเจเรมี่แค่สามปี ผมไม่ชอบถูกเรียกว่าลุง ดังนั้นเธอสามารถเรียกผมด้วยชื่อของผมได้”มาเดลีนถึงกับผงะ จากนั้น เธอก็พยักหน้า “ฉันจะกลับไปทำงานต่อแล้วนะคะ คุณวิทแมน”เฟลิเป้มองไปที่มาเดลีนแล้วยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น “ไปเถอะ”…มาเดลีนทุ่มเทให้ความสำคัญกับงานของเธออย่างมาก เธอทำได้เพียงลืมเรื่องต่างๆและผู้คนที่ทำให้เธอไม่มีความสุขด้วยการทำเช่นนี้โปรเจคที่มีระยะเวลาหนึ่งเดือนของพวกเขาดำเนินไปได้ครึ่งทางแล้ว มาเดลีนค่อนข้างพอใจกับส่วนที่เธอรับผิดชอบตามค
เจเรมี่พูดขณะที่เขานั่งลง เมเรดิธดึงทักท้วงเขาอย่างเห็นได้ชัด“เจเรมี่ ฉันไม่คิดว่านี่เป็นความคิดที่ดี แมดดี้ดูไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด”มาเดลีนอยากจะขว้างแก้วน้ำผลไม้ของเธอใส่หน้าของเมเรดิธ เธออยากถามหล่อนว่าใครกันแน่ที่ควรไม่พอใจกับเรื่องนี้?ท่ามกลางความเงียบ มาเดลีนได้ยินเจเรมี่พูดอย่างใจเย็น “เธอเป็นใครถึงปฏิเสธเราได้?”ฮิฮิใช่ เธอเป็นใคร?เธอไม่เคยเป็นอะไรกับเขามาตลอดเมื่อเมเรดิธเห็นว่ามาเดลีนไม่กล้าพูดอะไรหล่อนก็ยินดีอย่างยิ่งหล่อนวางกระเป๋าเงินลงแล้วนั่งลงข้างๆมาเดลีน หล่อนคิดไม่ถึงว่าเจเรมี่จะนั่งลงข้างๆมาเดลีนเสียก่อนเมเรดิธถึงกับผงะ ในทางกลับกัน มาเดลีนรู้สึกประหลาดใจเช่นกันอย่างไรก็ตาม ด้วยปฎิกริยาของพวกเขา ไม่มีอะไรผิดปกติกับเจเรมี่ที่นั่งอยู่ข้างๆเธอแม้จะรู้สึกไม่มีความสุขกับเรื่องนี้ แต่เมเรดิธก็ไม่กล้าเอะอะมากนัก ดังนั้น หล่อนจึงทำได้แค่นั่งลงข้างๆเฟลิเป้หลังจากที่เธอนั่งลง เมเรดิธรู้สึกว่าสิ่งนี้เป็นข้อได้เปรียบที่ดี ที่จริงแล้ว เฟลิเป้ก็หล่อเหลาและเขายังมีท่าทางที่สง่างามอาหารของเจเรมี่มาถึงในพริบตา อาหารเหล่านั้นทั้งหมดเป็นอาหารจานโปรดของเมเรดิธ เม
“ผมจะไปส่งเธอเอง”“...” มาเดลีนแทบไม่เชื่อในหูของตัวเองกับสิ่งที่ได้ยินท่ามกลางความประหลาดใจที่เกิดขึ้นนี้ลูกเล่นของเมเรดิธเริ่มแสดงออกมาอย่างอ้อนวอนและยั่วยวน “แต่ว่าคุณสัญญาว่าจะพาฉันไปซื้อของไม่ใช่หรอค่ะ เจเรมี่”“คุณรอผมที่นี่ก่อน” เจเรมี่เดินตรงไปที่มาเดลีนโดยไม่แม้แต่จะเหลือบมองเมเรดิธ “ไปกันเถอะ”“อย่าดีกว่า ฉันกลับเองได้” มาเดลีนปฏิเสธเขาอย่างรวดเร็ว เธอไม่รู้ว่าเจเรมี่กำลังคิดอะไรอยู่ แต่สิ่งที่เธอรู้คือเธอไม่ชอบบรรยากาศที่เกิดขึ้น“มีคนอื่นที่เธออยากให้ไปส่งอีกไหม ถ้าไม่ใช่สามีคนนี้ของเธอ? ไม่แน่อาจจะเป็นผู้ชายที่นามสกุลวิทแมนคนอื่นก็ได้จริงไหม?” เจเรมี่จ้องมองเธออย่างเบื่อหน่าย คำพูดนั้นไม่ได้เจาะจงถึงเธอเลยสักนิดเธอไม่ต้องการโต้เถียงใดๆอีกต่อไป มาเดลีนหยุดดื้อดึงและปล่อยให้เจเรมี่พาไปส่งเธอกลับมาเดลีนไม่สามารถระงับความสุขที่วิ่งผ่านไปทั่วร่างเธอได้เมื่อเธอหันไปเห็นว่าแก้มของเมเรดิธกำลังจะเเตกเพราะความขุ่นเคืองใจมันดูพองมากคล้ายจะระเบิดเต็มทีเจเรมี่แฝงความจริงในใจเพื่อมาส่งเธอ นั้นทำให้เป็นโอกาสในการเตือนมาเดลีน“อย่าให้ผมเห็นเธอใกล้ชิด สนิทชิดเชื้อกับเฟลิเป้อีก
มาเดลีนรู้สึกว่าหัวใจที่เต้นแรงของเธอถูกดับให้สงบลงในทันทีและความร้อนที่มีเมื่อวินาทีก่อนจากไปเช่นกัน แต่ความเย็นในเส้นเลือดของเธอเข้ามาแทนที่ฮ่าๆ นี่เธอคิดว่าเขาเป็นคนขี้หึงจริงๆเสียอีก ที่ไหนม้นช่างน่าหัวเราะเยาะเสียจริงมันเป็นเพียงเพราะเขาคือหมาป่าตัวผู้ที่มีศักดิ์เป็นหัวหน้าฝูงที่ต้องการแสดงความเป็นเจ้าของและยืนยันถึงการมีอำนาจที่เหนือกว่าของเขาเธอเป็นเพียงแค่เศษไม้ในบทละครของเขามาเดลีนยิ้มอย่างไม่มีความสุข ขณะที่เธอรู้สึกว่าเจเรมี่เข้ามาประชิดเธอจากด้านหลัง “ผมควรจะให้ภรรยาของผมอยู่ในความดูแลของคุณลุงเฟลิเป้ ขอบคุณล่วงหน้าที่ดูแลเธอ” เขาขอบคุณเฟลิเป้เฟลิเป้ยิ้มอย่างอ่อนโยน “แน่นอน”…มาเดลีนไม่ได้ซื้อผ้าพันคอผืนอื่น แต่เธอเลือกซื้อพลาสเตอเพื่อปกปิดรอยแดงที่เจเรมี่ทิ้งไว้เธอนั่งลงที่โต๊ะและเริ่มทำงาน ไม่นานหลังจากนั้น เธอก็เริ่มได้รับข้อความด่าทอมากมายกับเบอร์ที่ไม่รู้จักมากมาย พวกเขาทั้งหมดด่าว่าเธอไร้ยางอายที่หลอกล่อเจเรมี่ได้อย่างไรมันง่ายเกินไปที่จะเดาว่าใครคือผู้ร้ายที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ไม่มีใครอื่นอีกแล้วนอกจากเมเรดิธจะส่งข้อความดังกล่าวมาให้เธอนี่เป็