เธอพาโรสและจอห์นกลับไปที่บ้านหรูหลังเล็ก ๆ ที่พวกเขาพักอยู่ในปัจจุบันซึ่งถูกมอบให้กับพวกเขาเพื่อขอบคุณที่เลี้ยงดูเมเรดิธมาตลอดโรสสาปแช่งและสาปส่งขณะที่เธอเล่าเหตุการณ์ให้เมเรดิธฟังอย่างละเอียดหลังจากได้ฟังเรื่องทั้งหมดอย่างเข้าใจ เมเรดิธเริ่มสงสัยหนักมาก แต่จอห์นส่ายหัว“นั่นไม่ใช่มาเดลีนอย่างแน่นอน มาเดลีนไม่เคยกล้าทำแบบนี้!”แต่เดิมโรสก็มั่นใจเช่นกัน แต่เธอก็ลังเลใจตั้งแต่ก้าวออกจากสถานี “เมเรดิธ แม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นแค่ดูเหมือนเธอเท่านั้น เธอไม่ใช่มาเดลีนอย่างแน่นอน ยัยนั่นตายไปสามปีศพของเธอคงจะเน่าเปื่อยไปแล้วในตอนนี้ เจเรมี่นำขี้เถ้าของเธอกลับมาด้วยตังเอง แล้วเธอจะกลับมามีชีวิตได้ไงกัน?!”แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เมเรดิธก็ยังคงเต็มไปด้วยข้อสงสัย “จะมีคนสองคนที่หน้าตาเหมือนกันมากขนาดนี้บนโลกนี้จริง ๆ เหรอ?”“บางทีหล่อนอาจจะเห็นรูปของผู้หญิงคนนั้นและรู้สึกว่าเธอดูดี ดังนั้นหล่อนจึงทำศัลยกรรมให้ดูเหมือนมาเดลีน ไม่ว่ายังไงก็ตาม ผู้หญิงที่ชื่อ วีล่าคนนั้นก็ไม่ใช่มาเดลีนแน่นอน! พ่อของลูกพูดถูก คนงี่เง่านั้นจะโอ่อ่าขนาดนี้ได้ยังไง?! มันเป็นไปไม่ได้! ขยะชิ้นนั้นสู้เราไม่ได้!”เมื
การได้ยินเสียงเจเรมี่เรียกเธอ ดังนั้นทำให้เกิดคลื่นอารมณ์ที่ลบล้างความรู้สึกของมาเดลีนเธอไม่คิดว่าเจเรมี่จะวิ่งเข้ามาข้าง ๆ และกอดเธอไว้แบบนั้นมาเดลีนเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของเจเรมี่เขาเป็นห่วงเธอหรือเปล่า?สายตาของมาเดลีนมีความสงสัยชั่วครู่ขณะที่เธอรู้สึกว่าเจเรมี่กอดเธอไว้แน่น เธอสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากอกของเขาที่ถูกส่งออกมาอย่างชัดเจนมันเป็นความอบอุ่นที่เธอเคยโหยหา แต่วันนี้ เธอไม่โหยหามันอีกต่อไป“ขอบคุณมากค่ะ คุณวิทแมน” มาเดลีนพูดอย่างใจเย็นเจเรมี่อึกอัก และปล่อยอ้อมกอดของเขาออกมาเดลีนปัดเสื้อผ้าของเธอให้เรียบร้อยขณะที่เธอมองเจเรมี่อย่างมีความหมาย “ถ้าฉันจำไม่ผิดคุณเรียกฉันว่าแมดดี้เมื่อกี้หรือเปล่า? แต่ตามที่คู่หมั้นของคุณบอกว่า คุณเกลียดอดีตภรรยาของคุณเข้ากระดูกดำ เธอไม่เพียงแต่ตามติดคุณตลอดเวลา เธอยังสร้างกับดักและบังคับให้คุณแต่งงานกับเธออีกด้วย ถ้าเป็นอย่างนั้น คุณก็ควรเกลียดฉันเเช่นกันไม่ใช่หรือไง? ทำไมคุณถึงช่วยฉันตอนนี้?”หลังจากนั้น มีอากาศแห่งความเงียบอยู่รอบตัวพวกเขาใช้เวลาสักครู่หนึ่งก่อนที่เจเรมี่จะเอ่ยพูดอีกครั้ง เขาส่งรอยยิ้มปลอม ๆ ให้มาเดลีนขณะที่เ
เมเรดิธเพิ่งจะโทรหาเธอเมื่อสักครู่ และน้ำเสียงของหล่อนค่อนข้างก้าวร้าว มันฟังดูเป็นไปไม่ได้กับเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นมันดูห่างไกลไม่เหมือนคนที่คิดทำอะไรโง่ ๆ แบบนี้ไม่ใช่เหรอ?แต่ว่า เธอเห็นว่าใบหน้าของเจเรมี่ดูเคร่งขรึม ดูเหมือนเขาจะเชื่อและตอนนี้ก็กังวลเรื่องความปลอดภัยของเมเรดิธ“ถ้าคุณวิทแมนไม่ว่าง สามารถให้ฉันลงรถได้ทันทีเลยนะ”เจเรมี่มองไปที่มาเดลีน ดูเหมือนลังเล เขาใช้เวลาสักพักก่อนที่เขาจะหยุดรถมาเดลีนลงจากรถอย่างรวดเร็ว โบกมือลาให้เจเรมี่หลังจากพูดไปว่า “คุณวิทแมน แล้วเจอกันใหม่นะ”หลังจากนั้น เธอหันหลังและเดินจากไปเจเรมี่ไม่ได้ออกไปทันทีและเขามองเธอที่เดินจากไปผ่านกระจกมองหลังของเขาในขณะที่เขานึกภาพก่อนหน้านี้ถูกฉายซ้ำ ๆ ในหัวของเขาทำไมเขาไขว่ขว้าเธอเช่นนี้? คำตอบนั้นค่อนข้างชัดเจนในใจของเขาจนกระทั่งมาเดลีนได้ยินรถกำลังเคลื่อนตัวเธอจึงหยุดมองหันกลับไปเธอตัดสินใจรีบเรียกแท็กซี่ให้ตามหลังรถของเจเรมี่ทันที เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่ารถจะแล่นไปถึงเอพริลฮิลล์สถานที่แห่งนี้ถือเป็นหนึ่งในความทรงจำที่มีความสุขที่สุดของเธอ มันเป็นสถานที่ที่เธอได้พบกับเจเรมี่ครั้งแรกเมื่อเธอ
มาเดลีนขึ้นแท็กซี่ที่ข้างทางก่อนจะออกไปทันที ขณะที่เธอมองดูป้ายบนถนนคำว่า “เอพริลฮิลล์” ได้ทำร้ายดวงตาเธอทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่าความสะอาดในหัวใจของเธอได้รับความสกปรกแค่ไหนมันสกปรกแค่ไหนในที่สุดเจเรมี่ที่วิ่งไล่ตามมา จนกระทั่งเขาไม่อาจมองเห็นมาเดลีนอีก เธอหายไปและเขาเห็นเพียงรถคันหนึ่งแล่นไปตามถนนของเอพริลฮิลล์ในระยะไกล ๆอารมณ์ของเขาดิ่งลงอีกครั้ง จมลงสู่ก้นทะเลที่อยู่ถัดจากเอพริลฮิลล์‘เธอจากไปแล้ว‘เธอจากไปเมื่อสามปีก่อนเขาย้ำเตือนตัวเองอีกครั้ง เพียงแต่เขาไม่เคยยอมรับความจริงนั้นตั้งแต่แรก“เจเรมี่ เกิดอะไรขึ้น?” เมเรดิธรีบวิ่งตามเขาไป โดยไม่เข้าใจการกระทำหรือสีหน้าของเจเรมี่เจเรมี่เหลือบมองเธอ เสียงของเขาฟังดูห่างเหิน “เข้าไปในรถ”เมเรดิธรีบขึ้นรถ การแสดงของเธอจบลงแล้ว และเธอก็วางแผนเพื่อจะแลกกับมัน“เจเรมี่ วันเกิดของฉันในวันมะรืนนี้ จริง ๆ แล้วฉันค่อนข้างพอใจที่ได้อยู่เคียงข้างคุณ แต่แจ็คก็เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เขาเริ่มเข้าใจหลายสิ่งหลายอย่าง และฉันกังวลว่าคนอื่นจะเรียกเขาลูกนอกสมรส ดังนั้นเรามาแต่งงานกันเถอะ”ทันใดนั้นเจเรมี่ก็ยกเท้าออกจากแป้นคันเร่งและจ้องมองไปที่
แม่ของเธอ…ไม่สิ เธอเป็นแม่ของเมเรดิธมาเดลีนหัวเราะเยาะเย้ยตัวเอง ในใจของเธอเต็มไปด้วย ฉากที่เอโลอิสและฌอนตบหน้าเธอเพื่อปกป้องเมเรดิธเธอจำได้ว่าการเตะครั้งสุดท้ายของฌอนซึ่งส่งผลทำให้เธอกระอักเลือดพวกเขาไม่เคยอยู่มองดูเธอว่าสุดท้ายเเล้วเธอจะเป็นอย่างไรมาเดลีนจับประตูแน่นมาก และในขณะนั้น เอโลอิสหยิบโทรศัพท์ของเธอออกมาเพื่อโทรหาเมเรดิธ“เมอร์ ออกมาได้แล้วลูก แม่จะพาไปทำสปา หลังจากนั้นเราไปหาซื้อชุดกัน พรุ่งนี้เป็นวันเกิดของหนู และเจเรมี่ก็จะขอเธอแต่งงานเช่นกัน แม่อยากทำให้แน่ใจว่าหนูจะดูสวยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แม่จะเปลี่ยนหนูให้เป็นเจ้าหญิงที่ตื่นตาที่สุดในโลก ที่รัก หนูจะเป็นลูกสาวที่มีค่าของแม่ตลอดไป”เจ้าหญิง? ลูกสาวที่มีค่า?อ่าห์มาเดลีนอยากจะหัวเราะเมื่อได้ยินทั้งหมดนั้น เธอไม่ต้องการฟังอีกต่อไปเธอหมุนตัวหันหลังออกจากตรงนั้น แต่เธอไม่ทันสังเกตุเห็นว่ามีพนักงานของเธอกำลังถือกาแฟและขนมอยู่ถ้วย และถาดทั้งหมดร่วงลงพื้น“ขออภัยครับ คุณวีล่า ผมขอโทษจริง ๆ !” พนักงานเอ่ยขอโทษไม่หยุดมาเดลีนรู้ว่าเธอเป็นคนผิดเพราะถูกทำให้เขาเสียสมาธิ ดังนั้นเธอจึงปลอบใจเขาและพูดว่า “ไ
เมเรดิธจากที่มีท่าทีเขินอายขณะเธอรอคำตอบของเจเรมี่ อารมณ์ของเธอพุ่งสูงขึ้นเธอไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าในตอนที่ทุกคนตะโกนให้เจเรมี่ขอเธอแต่งงาน จะได้ยินเสียงที่ไม่ต้อนรับดังขึ้นท่ามกลางเสียงพวกนั้นรอยยิ้มของเมเรดิธถูกฝืนบนใบหน้าขณะที่เธอกัดฟันแน่นด้วยความไม่พอใจ เธอพูดว่า “ทำไมเธอถึงมาที่นี่?!”เจเรมี่หันกลับไปทันทีเมื่อเขาได้ยินเสียงนั้น และใบหน้าที่เขาเฝ้าฝันถึงทุกคืนได้เข้ามาในสายตาของเขาหลังจากนั้น ทุกคนก็มองไปยังทิศทางที่มาของเสียงเช่นกัน หญิงสาวที่ทรงสง่าและสวยงามเดินเข้ามาในจุดเดียวกับที่พวกเขายืน แต่เมื่อพวกเขามองหน้าเธออย่างชัดเจน เอโลอิสและฌอนได้เบิกตากว้างด้วยความตกใจ“นั่นมัน… มาเดลีน?! มัน..เป็นไปได้ยังไง?” ใบหน้าของเอโลอิสซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่เธอก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว ถ้าไม่ใช่เพราะฌอนพยุงเธอ เธออาจจะเป็นลมจากอาการตกใจไปแล้วมีคนตายปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขา ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เธอจะกลัวฌอนก็ตกใจเช่นกัน แต่เขาก็ยังเป็นผู้ชายและไม่เคยทำผิดต่อมโนธรรมของเขา นั่นคือเหตุผลที่เขาไม่กลัวเท่าเอโลอิสสำหรับเขาแล้ว สิ่งที่เห็นมันคือคนที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา เป็นไป
คำพูดต่อไปของมาเดลีนหลังจากนั้นทำลายความสุขที่เมเรดิธวาดฝันไว้พังลงอย่างรวดเร็ว “ใช่ ฉันหมายถึงแม่ของคุณ”“ว่าไงนะ?” เมเรดิธรู้สึกราวกับเธอถูกตบหน้ากลางอากาศ “มันเกี่ยวข้องกับแม่ของฉัน?”“เมื่อวาน แม่ของคุณมาที่ร้านของฉันเพื่อซื้อเครื่องประดับให้คุณสองชุด” มาเดลีนอธิบายอย่างใจเย็นในที่สุดเมเรดิธก็เข้าใจ แต่เธอได้สูญเสียรอยยิ้มนั้นไปขณะนี้เมื่อสังเกตุ ทางเอโลอิสและฌอนที่ต่างสบตากัน “เมเรดิธเรียกมาเดลีนว่าอะไรนะ? คุณควินน์?”ฌอนยังเต็มไปด้วยความสงสัย ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทันทีที่พวกเขาเห็นมาเดลีนเผชิญหน้ากับเมเรดิธ ทั้งสองคนรีบเดินไปในทันทีเพราะกลัวว่ามาเดลีนจะทำอะไรบางอย่างกับเมเรดิธและเมื่อเดินเข้าใกล้ พวกเขาได้ยินเจเรมี่พูดกับมาเดลีนว่า “ในเมื่อคุณมาที่นี่แล้ว เข้ามาสิมาหาอะไรทานก่อน”“ไม่! เราจะปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาในบ้านของเราได้ไง?!” ฌอนรีบตะโกนมาเดลีนเพิกเฉยต่อคลื่นเสียงแห่งความเจ็บปวดภายในเธอฝืนยิ้มต่อไปในขณะที่มองไปยังที่มาของเสียงนั้นตรงหน้าเธอคนพวกนี้คือแม่และพ่อของเธอ แต่พวกเขากลับจ้องมองเธอด้วยความเกลียดชังที่รุนแรงยิ่งกว่าเมื่อสามปีก่อนมาเดลีนสงสัยในต
เมเรดิธอยากจะปฏิเสธที่จะรับของขวัญ แต่เพื่อรักษาไว้ซึ้งท่าทางที่อ่อนโยน เธอจึงรับของขวัญจากมาเดลีนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณมากนะคะ”หลังจากนั้น เธอก็ดึงแขนเสื้อของเจเรมี่เพื่อเรียกร้องความสนใจ “เจเรมี่ไปข้างในกันเถอะเราไม่ควรให้แขกคนอื่นรอ”“แน่นอน เธอทั้งสองควรเข้าไปข้างในก่อน” เอโลอิสและฌอนเร่งเร้า การแสดงออกของพวกเขาเต็มไปด้วยความสุข “ใช้ประโยชน์จากโอกาสแห่งความสุขในวันนี้กำหนดวันแต่งงานในเร็ววันของทั้งคู่ซะ”เมเรดิธยิ้มเขิน ๆ ให้เจเรมี่ “เจเรมี่ ในที่สุดฉันก็สามารถแต่งงานกับคุณและฉันจะเป็นเจ้าสาวของคุณในอีกไม่ช้า”เมื่อมองไปที่ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเมเรดิธ มาเดลีนก็ยิ้มให้พวกเขาด้วยเช่นกันขณะที่พวกเขากลับไปยังสวนใจกลางของงานเลี้ยงวันนี้ สายตาบางคู่มองไปที่มาเดลีน สายตาของคนพวกนั้นทั้งหมดพยายามเดาฐานะและที่มาของเธอความสนใจทั้งหมดของพวกเขาตกไปมาเดลีน และนั่นเองทำให้เมเรดิธเริ่มไม่มีความสุขเมื่อเห็นว่าเจเรมี่ดูเหมือนจะไม่เต็มใจที่จะประกาศขอแต่งงานในวันนี้ เมเรดิธรู้สึกระส่ำระส่ายไม่มั่นคงในสถาณการณ์ปัจจุบัน มันจะค่อนข้างน่าอายถ้าวันนี้มันไม่ผ่านไปในแบบที่เธอคิด