Share

สุดชีวาชะตาลิขิต
สุดชีวาชะตาลิขิต
Author: เอเวอร์กรีน ฉิน

บทที่ 1

ในช่วงยามราตรีของเมือง แคลิฟอร์เนีย ณ คฤหาสน์ แอสเส็กซ์ นั้นเต็มไปด้วยแสงสีเจิดจ้าและเสียงรื่นเริง

ในวันนี้นั้นเป็นวันเกิดของคุณนายแคลร์แห่งตระกูลแอสเส็กซ์ แม้ว่าเธอนั้นจะมีอายุมากแล้วก็ตาม แต่เธอก็ยังคงเป็นแบบอย่างของความสง่างามและดูดีมีตระกูล ที่น่าทึ่งไปกว่านั้นก็คือ ความสง่างามและดูดีมีตระกูลของเธอนั้นได้ถูกถ่ายทอดไปถึงลูกสาวทั้งสองคนของเธอ หนึ่งในนั้นถือว่าสวยสง่างามที่สุดในแคลิฟอร์เนีย และอีกคนก็ถือว่าสวยที่สุดในวิทยาลัยของเธอเลยก็ว่าได้ ผู้ชายจำนวนนับไม่ถ้วนที่ตกเป็นทาสแห่งความงามของพวกเธอ พวกเขาจึงได้ฉวยโอกาสนี้ไว้และมาร่วมอวยพรวันเกิดให้กับคุณนายแคลร์ในวันนี้

“คุณนายแคลร์ครับ ของขวัญสำหรับคุณครับ นี่คือไข่มุกแห่งทะเลตะวันออก การสวมใส่สิ่งนี้มันจะช่วยขับผิวพรรณของคุณให้ดูผุดผ่องมากยิ่งขึ้น สุขสันต์วันเกิดนะครับ!"

“คุณนายครับ ส่วนของผมเป็นคฑาหยกคู่ ผมขออวยพรให้คุณดูอ่อนเยาว์เช่นนี้ไปชั่วนิรันดร์และขอให้ความปรารถนาของคุณเป็นจริงทุกประการนะครับ”

เมื่อของขวัญต่าง ๆ มากมายถูกนำเสนอให้กับเธอทีละชิ้น ๆ ใบหน้าของคุณนายแคลร์ก็ไม่สามารถซ่อนเร้นความปิติยินดีของเธอได้ เธอรู้สึกปลาบปลื้มใจเป็นอย่างมาก

แต่แล้วสิ่งผิดปกติก็เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด ชายหนุ่มสวมกางเกงยีนส์ขาด ๆ เดินเข้ามาในงานด้วยท่าทางเป็นทุกข์ เขาพูดกับคุณนายแคลร์ว่า “คุณแม่ครับ แม่ของผมป่วยหนัก และต้องการการดูแลรักษาเร่งด่วน ผมขอยืมเงินสักครึ่งล้านดอลลาร์ก่อนได้ไหมครับ?”

ทุกคนในงานต่างก็ตกตะลึงและจ้องมองไปที่ชายหนุ่มคนนั้น ความรังเกียจบนใบหน้าของพวกเขาปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน เขามีความกล้ามาก ๆ ที่ไม่เพียงแต่จะมางานด้วยมือเปล่าเท่านั้น แต่เขายังมีหน้ามาขอเงินครึ่งล้านดอลลาร์จากเจ้าของวันเกิดอีกด้วย เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ?

มีเสียงจอแจเบา ๆ ในฝูงชนที่ต่างเอ่ยถามว่า “คน ๆ นี้เป็นใครเหรอ?”

ชายในชุดสูทสุดเนี๊ยบพูดขึ้นด้วยท่าทางสุดเย่อหยิ่งว่า “จะเป็นใครไปได้อีก? เขาคือ อเล็กซ์ ร็อคกี้เฟลเลอร์ ลูกเขยของตระกูลแอสเส็กซ์ เป็นสามีที่ไร้ประโยชน์ของคุณหนูโดโรธียังไงล่ะ! เขาเป็นเพียงสามีแค่ในนามเท่านั้นแหละ คุณหนูโดโรธียังคงเป็นสาวพรหมจารี ไม่อย่างนั้นก็คงจะไม่มีพวกเราคนไหนได้อยู่ที่นี่ในวันนี้หรอก!”

ในงานเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะเมื่อเขาพูดจบประโยค

หญิงสาวสุดสวยที่นั่งอยู่บนโซฟามองอเล็กซ์อย่างผิดหวัง คุณหนูโดโรธี แอสเส็กซ์ เธอเป็นภรรยาของอเล็กซ์ พวกเขาแต่งงานกันมาเกือบปีแล้ว แต่สถานะของอเล็กซ์ในครอบครัวนั้นแย่ยิ่งกว่าการเป็นพี่เลี้ยงในบ้านเสียอีก เขาไม่แม้แต่จะได้รับอนุญาตให้เข้าไปในห้องของภรรยาของเขาเองเสียด้วยซ้ำ

หนึ่งปีที่แล้วในวันแต่งงาน พ่อและแม่ของอเล็กซ์ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ วิลเลียม ร็อคกี้เฟลเลอร์ พ่อของเขาเสียชีวิตทันที ส่วนแม่ของเขาอยู่ในอาการโคม่ามาตั้งแต่วันนั้นจนถึงตอนนี้ และที่เลวร้ายยิ่งไปกว่านั้น พ่อของเขาถูกใส่ร้ายว่าทำได้การทุจริตบริษัท จึงทำให้บริษัทของเขารวมทั้งทรัพย์สินทั้งหมดของเขาถูกยึด อเล็กซ์ถูกไล่ออกจากบ้านร็อคกี้เฟลเลอร์ ชายคนหนึ่งซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกปฏิบัติราวกับเป็นเจ้าชาย กลับกลายเป็นไม่มีไม่เหลือใครในเวลาเพียงชั่วข้ามคืน แม่ยายที่รักเพียงแค่เงินของเขาก็ย่อมดูถูกดูแคลนเขาจนสุดหัวใจเป็นธรรมดา

เพื่อที่จะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับแม่ของเขา เขาจึงต้องขายบ้านหลังเดียวที่เขามีอยู่ภายใต้ความเป็นเจ้าของที่ถูกต้องตามกฎหมายไป แต่ก็ยังไม่เข้าใกล้ความเป็นจริงพอที่จะจ่ายสำหรับค่าธรรมเนียมที่สูงลิบลิ่ว ที่เกิดขึ้นจากการรักษาแม่ของเขา เขาเพิ่งได้รับแจ้งจากทางโรงพยาบาลว่าเขาต้องใช้เงินครึ่งล้านดอลลาร์เพื่อที่จะให้แม่ของเขาเข้ารับการผ่าตัดจากสถานการณ์อาการวิกฤตอย่างเร่งด่วน ไม่เช่นนั้นแม่ของเขาจะเหลือเวลาอีกเพียงแค่สามวันเท่านั้น อเล็กซ์หมดสิ้นหนทาง เขาไม่มีทางเลือกอื่นเลยนอกจากมาขอความช่วยเหลือจากครอบครัวแอสเส็กซ์

เมื่อมองดูการกระทำราวกับขอทานพร้อมกับท่าทางสุดสิ้นหวังของอเล็กซ์ มันทำให้คุณนายแคลร์รู้สึกอับอายต่อหน้าแขกในงานวันเกิดของเธอ ใบหน้าของคุณนายแคลร์พลันเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโกรธ เธอหยิบเค้กวันเกิดของเธอมาชิ้นหนึ่งก่อนที่จะปามันใส่อเล็กซ์แล้วพูดว่า “แกนี่มันน่าขยะแขยงเสียจริง ๆ สิ่งเดียวที่แกคิดได้คือต้องขอเงินจากเราทุก ๆ วัน แกคิดว่าเงินของพวกเรามันเติบโตบนต้นไม้หรืออย่างไร? มันไม่เพียงพออีกหรือที่เราให้ค่าจ้างเดือนละหมื่นดอลลาร์กับแกในทุก ๆ เดือนน่ะฮะ? แกกล้ามาที่นี่เพื่อที่จะขอเงินครึ่งล้านเชียวหรือ ค่ารักษาพยาบาลแม่ของแกก็ไม่ต่างจากหลุมดำหรอก มันไม่มีที่สิ้นสุดเสียที ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดแล้ว แค่เตรียมงานศพของเธอให้พร้อมก็พอ!”

อเล็กซ์คลายมือที่กำไว้แน่นทันที

ในที่สุด คุณหนูโดโรธีก็ลุกขึ้นยื่นทิชชู่ให้อเล็กซ์ จากนั้นเธอก็พูดว่า “คุณแม่ คุณควรที่จะสุภาพมากกว่านี้ ไม่จำเป็นต้องเกรี้ยวกราดนะคะ”

ในเวลาเดียวกัน เบียทริซ น้องสาวของโดโรธีก็พูดขึ้นอย่างเยาะเย้ยว่า “พี่สาว ทำไมพี่ยังคงปกป้องขยะชิ้นนี้อยู่อีกล่ะ? ดูเขาสิ เขาเคยหยิบยื่นเงินแม้แต่สตางค์เดียวให้เราบ้างไหม ตั้งแต่เขาเข้ามาในครอบครัวของเรา? เขาเคยให้ของขวัญฉันและคุณแม่บ้างไหม? ไม่เลย! เขาจะทำอะไรได้อีก นอกจากเอาแต่ขอเงินจากครอบครัวของพวกเรา? ฉันคิดว่าพี่ควรทิ้งเขาให้เร็วที่สุด มีชายหนุ่มที่มีความสามารถและมีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับพี่มากมายที่นี่ในงานนี้ หนึ่งในพวกเขาดีกว่าไอ้คนนี้พันเท่าแน่นอน”

เมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดของคุณหนูเบียทริซ แอสเส็กซ์ ชายหนุ่มในงานทุกคนก็แทบอดรนทนรอไม่ได้

"ผมเห็นด้วย! การแต่งงานกับคนขี้แพ้คนนี้ มันช่างเป็นเรื่องที่โชคร้ายซะจริง ๆ สำหรับคุณหนูโดโรธี มันจะเป็นการดีกว่ามาก ที่คุณจะหย่าอย่างเร็วที่สุด!” ชายหนุ่มคนหนึ่งกล่าว “ผมยินดีที่จะแต่งงานกับคุณหนูโดโรธีทันที ผมจะให้สินสอดทองหมั้นเป็นคฤหาสน์สุดหรูหราในย่านธุรกิจอย่าง เบเวอร์ลี ฮิลส์ ที่มีมูลค่ามากกว่าสามสิบล้านดอลลาร์ และผมจะให้อีกยี่สิบล้านดอลลาร์เป็นเงินสดอีกด้วย”

คนอื่น ๆ ต่างแย่งกันตะโกน และมีหนึ่งในนั้นตะโกนออกมาทันทีว่า “คฤหาสน์สามสิบล้านดอลลาร์ใน เบเวอร์ลี่ ฮิลส์ หรือ? นั่นจะต้องเป็นบ้านที่ถูกที่สุดในละแวกนี้! ผมยินดีที่จะให้คฤหาสน์มูลค่าแปดสิบล้านใน เบเวอร์ลี ฮิลส์ ถ้าคุณแต่งงานกับผม คุณหนูโดโรธี!”

มีอีกคนตะโกนขึ้นมาว่า “ผมด้วย ผม ผม! ตราบใดที่คุณหนูโดโรธีแต่งงานกับผม ทรัพย์สินหลายพันล้านของครอบครัวโจนส์จะตกเป็นของคุณทันที”

ใบหน้าของอเล็กซ์ซีดลงด้วยความอัปยศอดสู ใบหน้าของโดโรธีก็ซีดด้วยเช่นเดียวกัน เธอรู้สึกหดหู่ใจเพราะคำพูดที่แม่ของเธอกำลังจะพูดต่อไป

คุณนายแคลร์รู้สึกยินดีที่ได้เห็นทุกคนเสนอสินสอดทองหมั้นที่สูงส่งสำหรับลูกสาวของเธอในการแต่งงาน และกล่าวว่า “สุภาพบุรุษทั้งหลาย โปรดนั่งลงก่อนเถอะ และฟังสิ่งที่ฉันจะพูด ความจริงก็คือ ลูกสาวของฉัน โดโรธีเพิ่งประสบปัญหาและบังเอิญไปเจอคุณแกสตัน เกตส์ แห่งบริษัท เธาซันด์ คอร์ปอเรชั่น คุณแกสตันขู่ว่าจะกำจัดบริษัท แอสเส็กซ์ ก่อสร้าง หนึ่งในบริษัทในเครือของเรา ใครก็ตามที่เต็มใจและสามารถช่วยโดโรธีออกจากความยุ่งเหยิงนี้ได้ คุณจะมีสิทธิพิเศษจากฉัน สำหรับการแต่งงานกับลูกสาวสุดสวยคนนี้ของฉัน”

เธอไม่ได้พูดถึงว่าแกสตันได้มาขอสัมพันธไมตรีกับคุณหนูโดโรธี ถ้าปฎิเสธเขาจะจัดการกำจัดครอบครัวแอสเส็กซ์คออกจากเมืองนี้

อเล็กซ์เต็มไปด้วยความโกรธเคือง และพูดออกมาเสียงดัง “ผมไม่เห็นด้วย โดโรธีเป็นภรรยาของผม…”

คุณนายแคลร์ตบหน้าอเล็กซ์และพูดว่า “ใครเป็นภรรยาของแก? นี่ไม่เจียมตัวบ้างเลยหรือไงกัน แกไม่มีอะไรเลย ไม่ใช่เหรอ? เพราะฉะนั้นแกไม่มีสิทธิ์ที่จะพูด”

เธอเอ่ยถามอีกว่า “ท่านสุภาพบุรุษทั้งหลาย พวกท่านว่าอย่างไรบ้างคะ?” หลังจากได้ยินคำขู่ของแกสตัน เกตส์ ทุกคนที่แย่งชิงจะแต่งงานกับคุณหนูโดโรธีก็เปลี่ยนทัศนคติของพวกเขาไปในทันที และไม่พูดอะไรออกมาเลยสักคำกลุ่มบริษัท เธาซันด์ ไมล์ เป็นบริษัทชั้นนำในแคลิฟอร์เนีย ทรัพย์สินของพวกเขามีมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ คำพูดเดียวจากตระกูลเกตส์สามารถทำให้โลกสั่นสะเทือนได้ สิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือข้อเท็จจริงที่ว่า เล็กซ์ กันเธอร์ เจ้าของกลุ่มบริษัท เธาซันด์ ไมล์ หรือที่รู้จักกันดีในในนามของเขาท่านเล็กซ์ เขามีอิทธิพลมาก ๆ ที่เมือง ดอน แห่งแคลิฟอร์เนีย ไม่มีใครบ้าพอที่จะกล้าเป็นศัตรูกับพวกเขาเพียงเพื่อการแต่งงานกับคุณหนูโดโรธีแน่ ๆ

เมื่อเห็นว่าความเงียบเกิดขึ้น หัวใจของคุณนายแคลร์ก็หล่นวูบและเต็มไปด้วยความกระสับกระส่าย

ทันใดนั้น ก็มีชายคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า “เอาล่ะ ฉันจะจัดการเรื่องนี้กับกลุ่มบริษัท เธาซันด์ ไมล์ เอง และเมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฉันจะแต่งงานกับคุณหนูโดโรธีทันที”

ทุกคนหันไปตามเสียงนั้น และทุกสายตาก็จับจ้องไปที่ชายหนุ่มที่สวมชุดสุดหรูจากแบรนด์ Giorgio Armani ที่อยู่ในท่าทางสบาย ๆ และกำลังเดินเข้าไปหาคุณนายแคลร์
Comments (1)
goodnovel comment avatar
ลมหนาววายุ เทพดาวเหนือปะทะดาวใต้
ลงเรื่องใหม่บ้าง
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status