Share

บทที่ 10

แน่นอน สปาร์คจะไม่มีทางยอมรับว่าสิ่งที่เขาให้นั้นมันเป็นเพียงสร้อยคอปลอมที่มีมูลค่าเพียงสองพันเดอลลาร์เท่านั้น

ถ้าเขายอมรับ ความพยายามครั้งก่อนนี้ของเขาก็จะสูญเปล่าเป็นแน่ จริงไหม?

เขายืนขึ้นทันที และชี้ไปที่แคสแซนดรา แล้วพูดว่า “ผมไม่รู้ว่าคุณกับขยะนั่น อเล็กซ์ เขาให้คุณยืนหยัดเพื่อเขาหรือเปล่า คุณเป็นใครกันแน่ถึงได้มาสงสัยเครื่องประดับที่ผมให้ คุณรู้ไหม ว่าฉันเป็นใคร?"

แคสแซนดราเยาะเย้ยและกล่าวว่า “แน่นอน ฉันรู้ว่าคุณเป็นใคร คุณเป็นเด็กเหลือขอนิสัยเสียที่พยายามแย่งชิงทรัพย์สินของครอบครัวอเล็กซ์ พูดกันตามตรง ทุกสิ่งที่คุณมีอยู่ในตอนนี้มันก็เป็นของโดโรธี คุณฉกฉวยทรัพย์สมบัติของเธอและตอนนี้ยังมีหน้ามามอบของปลอมให้เธออีก เครื่องประดับจอมปลอมนั่นคุณมอบให้เพื่อใช้แลกกับร่างกายของเธอ คุณมันช่างหน้าด้านมาก”

ในตอนนี้นั้นเธอเชื่อในอเล็กซ์ ร็อคกี้เฟลเลอร์

เธอยังเรียกเขาว่าพ่อและเธอยังยืนหยัดเพื่อเขาอีกด้วย

สปาร์คถอนหายใจอย่างเย็นชา “คุณเอาแต่พูดว่าคุณขายสร้อยคอ รักแห่งเมืองปาฏิหาริย์ แล้วคุณขายมันให้ใครล่ะ?”

แคสแซนดราตอบว่า "ขายให้..."

ขณะที่เธอกำลังจะบอกพวกเขาว่าคืออเล็กซ์ ทันใดนั้น เธอก็จำคำเตือนของเขาได้ ตัวตนของเขาไม่สามารถเปิดเผยได้ ดังนั้นเธอจึงหุบปากของเธอเอาไว้

“ทำไมฉันจะต้องบอกคุณด้วยล่ะ?”

สปาร์ครู้สึกโกรธมาก ๆ

เขากระแทกโต๊ะอย่างแรงจนมันสามารถสะเทือนน้ำในแก้วได้ เขามองไปที่คุณนายแคลร์และพูดว่า “คุณนายแคลร์ ผมไม่เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับเธอ เธอมาที่นี่เพื่อปลอมแปลงข้อมูลและใส่ร้ายผม หากเป็นเช่นนี้ ผมก็ถือว่าทำเกินไปจริง ๆ ผมจะไม่ช่วยอะไรเลย ถ้ากลุ่มบริษัทในเครือเธาซันด์ ไมล์ ตามล่าพวกคุณ"

แคสแซนดราหัวเราะเยาะเย้ย "ฉันรับรองได้เลยว่ากลุ่มบริษัทในเครือเธาซันด์ ไมล์ จะไม่มีวันตามล่าครอบครัวแอสเส็กซ์..."

ก่อนที่เธอจะพูดต่อ…

คุณนายแคลร์ก็หยิบแก้วของเธอขึ้นมาและสาดไวน์แดงไปบนใบหน้าของแคสแซนดรา

เธอดุว่า “ออกไปซะ ขยะอเล็กซ์นั่นมันให้ประโยชน์อะไรกับเธอในการทำลายการแต่งงานที่ยอดเยี่ยมของโดโรธีกับสปาร์ค ออกไปจากที่นี่เลยนะ! แล้วอย่ามีหน้ากลับมาเหยียบชายคาของครอบครัวแอสเส็กซ์อีก!”

จากนั้นเธอก็รีบพูดกับสปาร์คว่า “ลูกเขยที่รัก ใจเย็น ๆ เธอเป็นแค่นังผู้หญิงบ้า ๆ คนหนึ่ง เธอไม่มีมารยาทเสียจริง ๆ เธอไม่รู้อะไรสักนิดเกี่ยวกับมูลค่าของเครื่องประดับสามสิบล้านดอลลาร์ เครื่องประดับที่คุณซื้อมาต้องเป็นของแท้แน่นอนค่ะ”

แคสแซนดราเปียกโชกและอับอายมาก ๆ

เธอมองไปที่โดโรธีและทันใดนั้นเธอก็หัวเราะ

“โดโรธี แล้วเธอจะเสียใจที่หย่ากับอเล็กซ์”

เธอส่ายหัวแล้วพูดต่ออีกว่า

“โดโรธีรีบ ลุกขึ้นและรีบตามไปขอโทษเขาสิ”

แต่คุณนายแคลร์กลับตะโกนว่า "เสียใจด้วยนะ! หล่อนคงอิจฉาโดโรธีที่จะได้กลายเป็นว่าที่นายหญิงของร็อคกี้เฟลเลอร์ กรุ๊ป ในไม่ช้านี้ แต่หล่อนสิยังไม่มีใครเอาเลย โถ ๆ"

“ไปให้พ้น! อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก ไม่อย่างนั้นหล่อนเจอดีแน่!”

หลังจากเหตุการณ์นี้มันทำให้แคสแซนดรารู้สึกเห็นอกเห็นใจอเล็กซ์เป็นอย่างมาก

คุณนายแคลร์เป็นคนโง่ที่เห็นแก่เงินเพียงอย่างเดียว แม่ที่เต็มใจขายลูกสาวของตัวเองเพียงเพื่อเงิน แต่ส่วนที่ตลกที่สุดก็คือ เธอยังล้อเลียนอเล็กซ์อีกด้วย

คุณนายแคลร์นั้นเธอเกินกว่าคำว่าละโมบโลภมากไปไกลมาก

...

เฮล แองเจิล

ที่นี่ตั้งอยู่บนที่ดินที่มีมูลค่าสูงที่สุดในใจกลางเมืองแคลิฟอร์เนีย มีพื้นที่หนึ่งเฮกตาร์ เป็นคลับเฮาส์ที่ใหญ่ที่สุดและยอดเยี่ยมที่สุดในตำนานของแคลิฟอร์เนีย

โดยปกติจะเปิดให้บริการเฉพาะผู้บริหารของกลุ่มบริษัทในเครือเธาซันด์ ไมล์ เพียงเท่านั้น

เพราะฉะนั้นผู้ที่สามารถเข้าไปในคลับเฮาส์ได้จะมีเพียงแค่ผู้ที่มีตำแหน่งใหญ่โตเท่านั้น

อเล็กซ์นั่งแท็กซี่และบอกคนขับให้ไปที่เฮล แองเจิล คนขับมองมาที่เขาอย่างไม่เชื่อสายตา

สีหน้าของเขาแสดงออกถึงความอยากที่จะถามว่าทำไมเขาถึงจะไปที่เฮล แองเจิล?

อย่างไรก็ตาม ด้วยความกลัวเขาจึงไม่ได้เอ่ยถามอะไรเลย

เขานั่งเงียบตลอดการเดินทาง

อีกทั้งเขายังปิดวิทยุ

อเล็กซ์ถือแหวนแต่งงานขณะที่ภายในใจของเขานั้นมีแต่ความขุ่นเคือง เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับท่าทีการแสดงออกของคนขับด้วยซ้ำ

“สปาร์ค ร็อคกี้เฟลเลอร์ แกมันน่ารังเกียจและไร้ยางอายมาก ฉันจะให้แกลิ้มรสของการถูกกระทำบ้าง”

“ฉันจะใช้อำนาจของกลุ่มบริษัทในเครือเธาซันด์ ไมล์ เพื่อตรึงแกให้ตาย”

“แต่นั่นมันคงจะน่าเบื่อเกินไป! มาสนุกกันก่อน ดูสิว่าแกจะเล่นเล่ห์กลอะไรอีกได้บ้าง!

“และคุณ คุณนายแคลร์ ฉันจะแสดงให้คุณเห็นว่าสปาร์ค ร็อคกี้เฟลเลอร์ ที่คุณประจบประแจงนักหนานั้นมันไม่มีค่าอะไรเลยสำหรับฉัน!”

มาคิด ๆ ดูแล้ว เขาก็พอที่จะมีแผนแล้ว

อเล็กซ์ลืมตาขึ้น มันเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยวและความมั่นใจ

เขามีทุกอย่างแล้ว

ไม่นานหลังจากนั้น รถก็ขับเคลื่อนมาถึงที่เฮล แองเจิล

หลังจากที่ลงจากรถ อเล็กซ์เงยหน้าขึ้นมองไปข้างบน ก่อนที่จะเดินไปที่ประตู...

"หยุด!"

"บุคลากรที่ไม่ได้รับอนุญาตจะไม่สามารถเข้าสู่เฮล แองเจิล ได้!"

เสียงอันทรงพลังและดุร้ายตะโกนใส่เขา

อเล็กซ์ตกใจและคิดว่า 'มันไม่ง่ายเลยที่จะเข้าไปในเฮล แองเจิล การ์ดรักษาความปลอดภัยที่หน้าประตูดูน่าเกรงขามมาก เขาตัวใหญ่และดูทรงพลัง'

ในประวัติเล่าว่ามีเหล่าคุณชาย ทหารรับจ้าง ผู้มีอิทธิพล และผู้ที่มีศิลปะการต่อสู้มากมายในกลุ่มบริษัทในเครือเธาซันด์ ไมล์...

เขาคือหนึ่งในนั้นไหมนะ?

อย่างไรก็ตาม เขาเป็นเจ้านายที่แท้จริงของกลุ่มบริษัทในเครือเธาซันด์ ไมล์

ไม่สำคัญหรอกว่าเขาจะเป็นคุณชายประเภทไหน แต่ชายตรงหน้าก็ยังคงทำงานให้กับเขาอยู่ดี

เขาสงบสติอารมณ์และพูดออกมาอย่างอ่อนโยนว่า “ฉันไม่ใช่คนที่ไม่ได้รับอนุญาตหรอกนะ ฉันกำลังมองหา เล็กซ์ กันเธอร์ อยู่น่ะ!”

การ์ดรักษาความปลอดภัยโกรธจัด “บังอาจมาก คุณเป็นใครถึงมาเรียกท่านเล็กซ์ด้วยชื่อของเขา! คุกเข่าและขอโทษ เดี๋ยวนี้!”

อเล็กซ์ขมวดคิ้ว “ฉันกำลังมองหาท่านเล็กซ์ กันเธอร์ เขาเชิญฉันมาที่นี่ เชื่อฉันเถอะ เข้าไปแล้วบอกเขาว่า ร็อคกี้เฟลเลอร์รออยู่ที่นี่”

ในขณะเดียวกัน ชายหนุ่มในชุดสูทเดินเข้ามาอย่างเย่อหยิ่งพร้อมกับผิวปาก เขาเห็นอเล็กซ์ถูกห้ามไม่ให้เข้าไปข้างในอยู่ที่ประตูทางเข้า เขาจึงยิ้มพร้อมกับพูดขึ้นว่า "โอ้ ดูสินี่ใคร? สามีที่น่าสงสารที่สุดในแคลิฟอร์เนียที่ภรรยาไปมีชู้ไม่ใช่หรือ? มีภรรยาที่ไหนบ้างไม่ยอมให้สามีแตะต้องตัวเธอ อีกทั้งยังเป็นลูกชายที่ถูกทอดทิ้งของร็อคกี้เฟลเลอร์อีกด้วย”

อเล็กซ์มองเขาและจำเขาไม่ได้เลยซักนิด

เขาพูดอย่างเย็นชาว่า "คุณเป็นใคร? คุณเป็นใครถึงได้มาตัดสินผม"

“สวะ!”

ชายคนนั้นเย้ยหยัน “คุณคงยังอารมณ์ร้อนอยู่! ฉันได้ยินมาว่าภรรยาของคุณจะหย่ากับคุณ จุ๊ จุ๊ จุ๊ คุณหนูโดโรธีภรรยาของคุณเป็นคนสวย แต่ว่าคุณรู้สึกมีความสุขไหมหลังจากที่ภรรยาของคุณแต่งงานใหม่? หรือไม่มีความสุขเลย?”

อเล็กซ์มองเขาอย่างเย็นชา “บอกมาสิว่านายเป็นใคร!”

ชายหนุ่มหัวเราะ “ฮ่าฮ่าฮ่า แล้วยังไงล่ะ? แกต้องการจะแก้แค้นฉันหรือ? โอ้ย น่ากลัวจัง!”

เขาพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน “ฟังดี ๆ นะ ฉันชื่อแกสตัน เกตส์! ฉันเป็นคนที่ภรรยาของนายขุ่นเคืองที่แผนกต้อนรับเมื่อสองสามวันก่อน! แล้วนายโกรธไหม? พูดออกมาเพื่อความมั่นใจของนายหน่อยสิ? น่าสงสารนายจัง สามีซึ่งภรรยาแอบไปมีชู้ แล้วอย่าริอาจพยายามมาเทียบชั้นกับฉัน ฉันไม่อยากจะเสียเวลาเสวนากับนาย”

ปรากฎว่าคน ๆ นั้นก็คือแกสตัน เกตส์ นั่นเอง

บุคคลนี้ไม่ใช่คนสำคัญอะไรนัก เขาเป็นเพียงแค่หลานชายของผู้บริหารในบริษัทย่อยของกลุ่มบริษัทในเครือเธาซันด์ไมล์

ดังนั้นเล็กซ์ กันเธอร์ จึงจำเขาไม่ได้เลยแม้สักนิด

เขาจึงใช้เวลานานในการตามหาบุคคลนี้

จากนั้นเล็กซ์ กันเธอร์ จึงเรียกอเล็กซ์มาที่ เฮล แองเจิล นี้

ที่ตลกไปกว่านั้นก็คือ แกสตัน เกตส์ คิดว่าเล็กซ์ กันเธอร์ เรียกเขามาที่ เอล แองเจิล เพื่อชื่นชมความดี เขาจึงเยาะเย้ยอเล็กซ์

อเล็กซ์เยาะเย้ย "งั้นนายเอง! มีคำพูดสุดท้ายไหม?"

แกสตัน เกตส์ โกรธจัด “ไอ้โง่ คำพูดสุดท้ายสำหรับใคร? เชื่อไหม ว่าฉันจะไม่ปล่อยให้แกตายอย่างสงบหรอกนะ!”

อเล็กซ์ส่ายหัวเบา ๆ “ฉันไม่เชื่อ!”

ที่นี่คือ เอล แองเจิล สนามเด็กเล่นของเขา เขาเชื่อมั่นว่าเขาสามารถให้บทเรียนแก่ชายคนนี้ได้

ในขณะนั้นก็มีเสียงอีกเสียงหนึ่งดังขึ้นว่า “ฉันก็ไม่เชื่อเหมือนกัน!”

แกสตัน เกตส์ โกรธจัด “ไอ้งั่งที่ไหนที่บอกว่าไม่เชื่ออีก?”

เขาหันไปมองตามเสียงนั้น

เมื่อเขาเห็นเจ้าของเสียงนั้น เขาก็ถึงกับชะงัก

“ท่านเล็กซ์… กันเธอร์?”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status