Share

บทที่ 4 ใช้ช้อนป้อนอาหารเขา

ทันใดนั้น นิ้วของลู่หานถิงก็หยุดลง และสุดท้ายเขาก็ไม่ได้เปิดผ้าคลุมบนใบหน้าของเธอ

เขามองลงไปที่หญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงพร้อมกับคิดว่า ถ้าเธอลืมตาขึ้นมา ดวงตาของเธอคงจะสวยดำขลับราวกับลูกแมวตัวน้อยเป็นแน่ และเมื่อเธอมองมาที่คุณ ก็ดูเหมือนกับลูกแมวตัวน้อยที่กำลังใช้เล็บของมันข่วนคุณเบา ๆ

เป็นการผสมผสานระหว่างความไร้เดียงสาและความมีเสน่ห์

ลู่หานถิงมองไปที่รอยแดงรอบคอของเธอ ผิวของเธอช่างบอบบางนัก เมื่อครู่เขาเพียงบีบเบา ๆ แต่ตอนนี้กลับมีรอยแดงเต็มไปหมด

ลู่หานถิงหันตัวกลับมา เขาเดินกลับไปที่โซฟาแล้วล้มตัวลงนอน

ความผิดปกติของการนอนหลับของเขากำลังแย่ลงเรื่อย ๆ ซึ่งเข็มสีเงินของเธอไม่สามารถรักษาได้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ทักษะทางการแพทย์ของเธอนั้นยอดเยี่ยม และเมื่อครู่นี้เขางีบหลับในฝ่ามือของเธอจริง ๆ

ประมาณสิบนาที หรือ มากกว่านั้น

นานมากแล้วที่เขาไม่ได้นอนหลับนานถึงสิบนาที

ลู่หานถิงมองไปที่เงาของร่างผอมเพรียวบนเตียง สิ่งที่เขาคิดอยู่คือ ทำไมมือของเธอถึงเล็ก และอ่อนนุ่มถึงเพียงนี้?

......

เช้าวันรุ่งขึ้น

เซี่ยซีหว่านกำลังนั่งกินซุปพุทราแดงกับเมล็ดบัวที่สาวใช้เสิร์ฟให้อยู่ในห้องอาหาร คุณท่านลู่ที่นั่งอยู่ด้านข้างกำลังพูดคุยกับเธออย่างยิ้มแย้ม

“หว่านหว่าน ย่าชอบเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเลย ต่อจากนี้ไปถ้าหานถิงรังแกเธอ เธอบอกย่าได้เลยนะ ย่าจะช่วยเธอสั่งสอนเขาเอง...เอากิน อย่าหยุด กินพุทราแดงกับเมล็ดบัวให้มากขึ้นสักหน่อยจะได้มีลูกชายและต่อด้วยลูกสาวอีกสักคน ย่าจะได้อุ้มหานถิงตัวน้อยไว้ในมือข้างหนึ่งกับหว่านหว่านตัวน้อยในมืออีกข้างหนึ่ง...”

คุณท่านลู่มีเส้นผมเป็นสีขาวหมดแล้ว แต่ท่านกลับมีความกระตือรือร้น ความเมตตาและใจดีเป็นอย่างมาก หากไม่นับคำพูดหยอกเล่นเมื่อครู่ของท่านแล้ว เซี่ยซีหว่านจะชอบท่านมาก

ขณะนั้น เสียงของสาวใช้ก็ดังขึ้นว่า “นายน้อย อรุณสวัสดิ์ค่ะ”

ลู่หานถิงลงมาด้านล่างแล้ว

เซี่ยซีหว่านเงยหน้าขึ้นมอง วันนี้ลู่หานถิงสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงขายาวสีดำเข้าชุดกันราวกับเทพบุตรสุดคลาสสิค ผ้าที่ตัดเย็บด้วยมือถูกรีดโดยไม่มีรอยยับใด ๆ เขาเดินออกจากพรมแดงด้วยทวงท่าสง่างามและดูดีเป็นอย่างมาก

ด้านหลังของเขายังมีแม่นมซึ่งมีอายุมากแล้วเดินตามลงมาด้วย ในมือของเธอถือฮิญาบสีแดง บนฮิญาบมีลายปักต้นดอกเหมยสีเลือด

แม่นมยิ้มและแสดงความยินดีกับคุณท่านลู่ “คุณท่านคะ ดิฉันขอแสดงความยินดีด้วย ขอให้ท่านได้อุ้มหลานชายโดยเร็วนะคะ”

“ดี ดี ดี พ่อบ้านให้รางวัลด้วย!”

คุณท่านลู่ยื่นซองแดงให้เธออย่างภาคภูมิใจ

เซี่ยซีหว่านรู้ในทันทีว่าแม่นมได้เอาฮิญาบสีแดงที่เธอร่วมหอกับลู่หานถิงเมื่อคืนนี้ลงมา พวกเราไม่ได้มีอะไรกันเลย แล้ว... มันมาจากไหน?

ขณะเดียวกันลู่หานถิงหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ เธอ เขาเอามือข้างหนึ่งใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงแล้วย่อตัวลงมาพร้อมกับกระซิบเข้าที่ข้างหูของเธอว่า “ฉันทำเอง ฉันไม่น่าหาเรื่องยุ่งเลย เพราะเธอยัง...ใช่ไหม?”

เขาถามอย่างตรงไปตรงมามากจนเกินไป เซี่ยซีหว่านไม่เคยมีความสัมพันธ์กับใครด้วยซ้ำ และตอนนี้ติ่งหูสีขาวราวกับหิมะก็กลายเป็นสีแดงในทันที

ตอนนี้ทั้งคู่ดูเหมือนจะคุ้นเคยและสนิทสนมกันมากขึ้นแล้ว ลู่หานถิงย่อตัวลงและพูดกระซิบกับเซี่ยซีหว่านด้วยท่าทีราวกับคู่แต่งงานใหม่ที่ไม่สามารถแยกตัวออกจากกันได้

คุณท่านลู่เอามือปิดตาทันที “ฉันไม่เห็นอะไรทั้งนั้น พวกเธอทำต่อไปได้เลย”

คุณท่านลู่ที่กำลังพูดอยู่พร้อมกับเปิดนิ้วของเธอเพื่อแอบดูไปด้วย

ลู่หานถิงมองไปยังติ่งหูสีแดงเล็ก ๆ ของเซี่ยซีหว่าน คิ้วรูปดาบของเขาเลิกขึ้นเล็กน้อย แสดงถึงเสน่ห์อันชั่วร้ายของชายที่เป็นผู้ใหญ่ “เธอยังอายุไม่ถึง 20 ปี เธอยังไม่เคยมีอะไรกับ…ผู้ชายใช่ไหม?”

ลู่หานถิงอายุ 27 ปี เขาเป็นชายหนุ่มที่อยู่ในช่วงวัยกำลังรุ่งโรจน์ อีกทั้งหน้าตาของเขาช่างหล่อเหลาเอาการเลยทีเดียว

เขาถามย้ำอย่างไม่ลดละ ทั้งสองคนขยับเข้ามาใกล้กันอีกครั้ง เซี่ยซีหว่านรู้สึกถึงลมหายใจอุ่น ๆ ของเขาที่พ่นลงบนเนื้อที่บอบบางของเธอจนทำให้เธออยากจะหนีไปให้พ้น

“คุณอยากกินไหม?”

เซี่ยซีหว่านหันกลับมาและป้อนซุปพุทราแดงกับเมล็ดบัวในช้อนเล็ก ๆ ของเธอเข้าปากของเขา เพื่อที่จะให้เขาหยุดพูด

พ่อบ้านที่อยู่ด้านข้างร้องอุทานออกมาว่า “นายหญิงครับ นั่นคือช้อนของท่านครับ!”

นายน้อยมีนิสัยรักสะอาดเป็นอย่างมาก และนั่นเป็นช้อนที่นายหญิงใช้แล้ว พ่อบ้านจึงรีบไปเอาน้ำยาบ้วนปากมาทันที

ร่างผอมเพรียวของเซี่ยซีหว่านเริ่มสั่นเทา เมื่อครู่นี้เธอแค่อยากจะให้เขาหยุดพูดจึงใช้ช้อนของเธอป้อนซุปให้เขา นี่มัน…

หลังจากที่ลู่หานถิงถูกป้อนซุปแล้วก็ยืนแน่นิ่ง เขาขมวดคิ้วแล้วกินซุปพุทราแดงกับเมล็ดบัวต่อหน้าต่อตาทุกคน

พ่อบ้านตกใจมาก นายน้อย นี่มัน...เกิดอะไรขึ้น?

นายน้อย ท่านมีนิสัยรักความสะอาดหรือว่าท่านลืมไปแล้วอย่างนั้นเหรอ?

คุณท่านลู่พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ เธอใช้ชีวิตมาถึง 70 ปีแล้ว และเธอเชื่อว่าเธอมองคนไม่เคยผิด เธอชอบเซี่ยซีหว่านตั้งแต่แรกเห็น เซี่ยซีหว่านเด็กสาวคนนี้และหลานชายของเธอถูกฟ้าลิขิตให้เจอกันอย่างแน่นอน

“เอาล่ะ เอาล่ะ พวกเธอสองคนกินซุปพุทราแดงกับเมล็ดบัวไปแล้วหนึ่งชาม ดูเหมือนว่าอีกไม่นานหลานชายของฉันก็คงจะอยู่ในท้องของซีหว่านแล้วล่ะ” คุณท่านลู่ดีใจราวกับเด็กน้อย

เซี่ยซีหว่านถือช้อนที่ป้อนซุปให้ลู่หานถิงไว้ เธอมองไปยังถ้วยที่ใส่ซุปพุทราแดงกับเมล็ดบัว และลังเลว่าจะกินต่อหรือไม่กินต่อดี?

ขณะนั้นลู่หานถิงก็นั่งลงพร้อมกับมองเธอและพูดด้วยความห่วงใยว่า “ทำไมเธอไม่กินแล้วล่ะ รีบกินเร็วเข้า ก่อนที่มันจะเย็น”

“...”

เซี่ยซีหว่านรู้ว่าลู่หานถิงตั้งใจจะแกล้งเธอ เมื่อครู่เธอใช้ช้อนอันนี้ป้อนให้เขา และตอนนี้เขาต้องการให้เธอใช้ช้อนอันนี้ต่อไป

นี่เท่ากับว่าทั้งสองคนจูบกัน...ทางอ้อมน่ะสิ

“ใช่แล้วซีหว่าน ทำไมเธอไม่กินอีกล่ะ รีบกินเถอะ เดี๋ยวฉันจะเสิร์ฟให้เธออีกถ้วย” คุณท่านลู่เอ่ย

เซี่ยซีหว่านรีบกินซุปพุทราแดงกับเมล็ดบัวที่เหลืออยู่อีกครึ่งถ้วยอย่างรวดเร็วและพูดว่า “ฉันอิ่มแล้วค่ะ ฉันกินอีกไม่ไหวแล้วค่ะ”

เมื่อเห็นทวงท่าที่น่ารักและมีเสน่ห์ของหญิงสาว ริมฝีปากบางของลู่หานถิงก็ปรากฏรอยยิ้มที่มุมปากขึ้นอย่างอารมณ์ดี

......

หลังอาหารเช้า คุณท่านลู่ถามเซี่ยซีหว่านว่า “ซีหว่าน อีกเดี๋ยวเธอจะออกไปไหนไหม”

เซี่ยซีหว่านพยักหน้ารับ “ค่ะคุณย่า ฉันจะกลับไปที่บ้านของตระกูลสักหน่อยค่ะ”

“การกลับไปที่บ้านของตระกูลเป็นเรื่องที่สมควรแล้ว หานถิงแกก็ออกไปพร้อมกับซีหว่านนะ และนำของขวัญไปด้วย มารยาทของลูกเขยเป็นเรื่องที่ขาดตกบกพร่องไม่ได้เด็ดขาด” คุณท่านลู่เรียกลู่หานถิงอย่างรวดเร็ว

มันสายเกินไปที่เซี่ยซีหว่านจะหยุดคุณท่าน เพราะลู่หานถิงกำลังเดินมาและเขาพูดว่า “ได้ครับ ไปด้วยกันเถอะ”

ทั้งสองออกจากสวนโหย่วหลาน เมื่อมาถึงสนามหญ้า ลู่หานถิงเปิดประตูรถฝั่งข้างคนขับอย่างสุภาพบุรุษและพูดว่า “เชิญขึ้นรถครับ”

เซี่ยซีหว่านโบกมือปัดและพูดว่า “ตอนนี้คุณย่ามองไม่เห็นแล้ว คุณไปทำธุระของคุณเถอะ ฉันจะเรียกรถกลับไปที่บ้านของตระกูลเอง”

ลู่หานถิงเลิกคิ้วรูปดาบขึ้น “เธอบอกว่าเธอต้องการแสดงละครต่อหน้าคุณย่าไม่ใช่เหรอ ขึ้นรถ อย่าให้ฉันต้องพูดคำนี้เป็นครั้งที่สาม”

ผู้ชายคนนี้ช่างเผด็จการและบ้าอำนาจเสียจริง

แต่หัวใจของเซี่ยซีหว่านกลับเต้นแรง เขายอมตกลงตามข้อตกลงสันติภาพที่เธอพูดถึงเมื่อคืนนี้!

เซี่ยซีหว่านไม่ได้ปฏิเสธอีกต่อไปและขึ้นรถอย่างเชื่อฟัง

รถยนต์สุดหรูแล่นไปตามท้องถนนและไม่มีใครพูดอะไร เซี่ยซีหว่านหันหน้าออกมองไปยังนอกหน้าต่างเพื่อหลีกเลี่ยงความลำบากใจ

เงาของลู่หานถิงสะท้อนบนกระจกรถที่สว่างสดใส ชายหนุ่มกำลังขับรถอย่างตั้งใจ มือใหญ่ทั้งสองข้างบังคับพวงมาลัยอย่างใจเย็น ทั้งการเลี้ยวและการเปลี่ยนเลนเพื่อเร่งความเร็ว

เซี่ยซีหว่านมองดูนาฬิกาเหล็กอันล้ำค่าที่สวมอยู่บนข้อมือที่แข็งแรงของเขา มูลค่าน่าจะหลายสิบล้าน

เซี่ยซีหว่านไม่รู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของเขาเป็นอย่างไร เธอรู้เพียงว่าตอนนี้คนสองคนได้บรรลุข้อตกลงสันติภาพแล้ว ซึ่งทำให้เธอที่จะสืบหาความจริงของตระกูลเซี่ยได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น

เซี่ยซีหว่านจ้องมองไปยังวิวทิวทัศน์ที่เคลื่อนผ่านหน้าต่าง

......

ครึ่งชั่วโมงต่อมา รถยนต์สุดหรูหยุดอยู่ที่หน้าประตูบ้านของตระกูลเซี่ย เซี่ยซีหว่านมองลงที่เข็มขัดนิรภัยบนตัวของเธอเพื่อที่จะถอดมันออก

แต่ทว่ามันกลับถอดไม่ออก

“ผมถอดให้” ลู่หานถิงโน้มตัวของเขาเข้ามา

เซี่ยซีหว่านปล่อยมือ เธอยอมให้ลู่หานถิงช่วยถอดมันออกอย่างโดยดี

อันที่จริงแล้วเมื่อคืนนี้ลู่หานถิงได้กลิ่นหอมจากร่างกายของเซี่ยซีหว่าน ตอนนี้พวกเขาสองคนอยู่ใกล้กันถึงเพียงนี้ และสิ่งที่ติดอยู่ใต้จมูกของเขาก็คือกลิ่นหอมอันน่ารื่นรมย์จากเรือนร่างของหญิงสาว

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status