พอไปถึงล๊อบบี้ ผู้คนแน่นมาก เลขาหญิงสองสามคนกระซิบกระซาบกันอยู่"พวกเธอได้ยินข่าวมาบ้างไหม? พวกเขาบอกกันว่าเจ้านายคนใหม่มาจากรัฐออนแทรีโอ แถมเขายังเป็นเจ้าของบริษัทหลายแห่งด้วยนะ ดูเหมือนว่าเขาจะรวยไม่น้อยเลยแหละ! ไม่ใช่แค่นั้นนะ เขายังโสดอยู่ด้วย!”"เธอแน่ใจเหรอ? ฉันได้ยินมาว่าเจ้านายคนใหม่แต่งงานกับผู้หญิงที่ครอบครัวของเขาจัดให้เมื่อมานานแล้ว อันที่จริง เขาไม่ได้ชอบผู้หญิงคนนั้นเลยด้วยซ้ำ”“ใช่ เรื่องนี้ฉันก็รู้เหมือนกัน! ฉันได้ยินมาว่าซีอีโอคนนี้สนิทสนมกับอดีตแฟนสาวมากเลยล่ะ แต่สุดท้าย ทั้งสองก็ถูกบังคับให้เลิกรากันไป เพราะแบบนั้นแหละ เขาเลยต้องแต่งงานกับภรรยาคนปัจจุบัน ทั้งหมดก็เพราะถูกครอบครัวบังคับ เขาไม่ได้รักเธอเลยด้วยซ้ำ”ในตอนนี้ ลินเนตต์แทรกตัวเข้าไปแอบฟังบทสนทนาที่น่าตื่นเต้นรอบตัว เธอหันศีรษะกลับไปและดึงแขนเสื้อของอีวอนน์ “เธอได้ยินรึเปล่า อีวอนน์? ฉันอยากรู้จังเลยว่าเจ้านายคนใหม่ของเราจะหน้าตาเป็นยังไง?! ไม่แน่นะ เขาอาจจะตัวสูง รูปหล่อแถมบ้านรวยอีกด้วย”“ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน”อีวอนน์ขดริมฝีปากด้วยความสนใจเล็กน้อย เธอพลันลูบแหวนแต่งงานบนนิ้วนางไปมา อันที่จริง อีวอ
ไม่นะ เฮนรี่สังเกตเห็นเธอรึเปล่า?! อีวอนน์รีบก้มศีรษะลง เธอกำลังโต้เถียงกับตัวเองอยู่ แต่ทว่า เฮนรี่ก็พลันมองไปทางอื่นอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สังเกตเห็นอีวอนน์เฮ้อ อีวอนน์ถอนหายใจอย่างโล่งอก โชคดีมากเลยที่เฮนรี่ไม่ได้สังเกตเห็นเธอ“สวัสดีครับ ท่านประธานแลงคาสเตอร์ ทุกคนที่นี่คือพนักงานของบริษัทนี้ พวกเรากำลังรอคอยการมาถึงของท่านอยู่เลยครับ!” ผู้บริหารรีบเข้าไปประจบสอพลอเฮนรี่ทันทีเฮนรี่ยอมรับคำเยินยอของผู้บริหารอย่างเย็นชา หลังจากนั้น เขาก็นำกลุ่มผู้บริหารที่อยู่ด้านหลังเข้าไปในลิฟต์โดยไม่สนใจคำพูดของผู้บริหารตรงหน้าเลยเมื่อประตูลิฟต์ปิดลง อีวอนน์ก็ได้ยินทุกคนรอบตัวกระซิบกระซาบกันด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา พนักงานส่วนใหญ่ชื่นชอบเฮนรี่ ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ภายนอกหรืออารมณ์ภายในคำพูดอย่างเช่น 'ดูดี' 'หล่อมาก' 'สง่าเหลือเกิน' และ 'สูงมาก' ดูเหมือนคำพูดเหล่านี้จะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเฮนรี่โดยเฉพาะทว่า อีวอนน์ไม่สนใจเรื่องซุบซิบนินทาเลย เธอวางมือลงบนหัวใจที่เต้นระรัว เธอต้องการจะจากไปอย่างรวดเร็ว แต่ทว่า ลินเนตต์ที่อยู่ด้านข้างก็คว้าแขนเธอเอาไว้และกล่าวคำพูดออกมาอย่างตื่นเต้นและ
"ใช่" เฮนรี่พยักหน้าด้วยความไม่พอใจพร้อมหรี่ตา “ถ้าคุณไม่พอใจกับคนที่ผมเลือก คุณแนะนำผมได้รึเปล่าล่ะว่าควรเลือกใครแทนดี?"อันที่จริง ในบรรดาพนักงานหญิงจำนวนมากตรงหน้า อีวอนน์ เฟรย์เป็นคนเดียวที่ทำให้เฮนรี่พอใจมากที่สุด"ไม่ครับ ไม่ใช่แบบนั้นแน่นอนครับ! ท่านแลงคาสเตอร์ คุณก็พูดเกินไป!” คุณเฮนดริกสันไม่กล้าพูดอะไรต่อเขารีบเดินไปลากอีวอนน์และพยายามทำให้ตัวเองดูดีเช่นเดิม “เอาละ อีวอนน์ ต่อจากนี้ไป เธอจะเป็นเลขาส่วนตัวของท่านแลงคาสเตอร์ ช่วยเหลือและดูแลเขาให้ดีด้วยล่ะ ถ้าต้องการความช่วยเหลืออะไรอีก ก็มาหาฉันได้ตลอด" “...ค่ะ” อีวอนน์ตอบกลับด้วยความงุนงงอีวอนน์ไม่รู้ว่าทำไมเฮนรี่ถึงเลือกเธอเป็นเลขาส่วนตัว บางที ด้วยความที่ทั้งสองรู้จักกันนานแล้ว พวกเขาอาจจะทำงานด้วยกันได้ง่ายกว่าก็ได้?เธอแอบชำเลืองมองเฮนรี่ทันทีที่เขาเดินออกไปพร้อมกับสลัดอารมณ์และความรู้สึกของตัวเองออกไปเฮนรี่เดินไปพูดกับผู้บริหารข้างกายครู่หนึ่ง หลังจากนั้น เขาออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา “จากนี้ไป พนักงานที่นี่ต้องแต่งตัวให้เรียบร้อยในการทำงาน ผมไม่อยากเห็นใครมาทำลายภาพลักษณ์ของบริษัท"“ถ้าทำตามไม่ได้ ก็เก็บของ
อีวอนน์ตั้งใจใช้เวลาทั้งบ่ายในห้องทำงาน ทันทีที่เธอทำงานเสร็จ ก็เป็นเวลาบ่ายสามพอดี ทว่า ยังคงเหลือเวลาอีกตั้งนานกว่าเธอจะเลิกงานเมื่อเห็นว่าตัวเองไม่มีอะไรทำฆ่าเวลา อีวอนน์ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องรวบรวมความกล้าและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา หลังจากนั้น เธอกดโทรไปที่ห้องทำงานของท่านประธานคนใหม่หลังจากได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นเลขาส่วนตัว อีวอนน์ได้ย้ายห้องทำงานมาอยู่ข้างห้องของเฮนรี่ในตอนนี้ เธอมีห้องทำงานทั้งห้องเป็นของตัวเองแล้วเฮนรี่รับสายเร็วมาก ทันใดนั้น เธอพลันรู้สึกตึงเครียดขึ้นมาทันที "ประ-ประธานแลงคาสเตอร์? ฉันเอง..." “ช่วยเตรียมรายงานโครงการทั้งหมดของบริษัทในปีที่ผ่านมาให้ผมที เอาเอกสารทั้งหมดมาให้ผมก่อนหมดวันด้วย" น้ำเสียงสุดเย็นชาของเฮนรี่ดังขึ้น ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้สนใจเลยเธอ“ทุกโครงการเลยเหรอคะ?” ดวงตาของอีวอนน์เบิกกว้างคนคนเดียวจะเตรียมอะไรแบบนั้นหมดภายในวันเดียวได้อย่างไร?!“คุณมีคำถามอะไรอีกไหมล่ะ?” เฮนรี่ถามกลับอย่างเย็นชา“ไม่-ไม่ค่ะ” อีวอนน์บีบโทรศัพท์ในมือ เธอจะกล้าถามอะไรอีกล่ะ?เธอเป็นคนที่ทำให้เฮนรี่โกรธก่อนนะ เพราะฉะนั้น เธอในตอนนี้ก็บ่นอะไรไม่ได้
ณ โรงพยาบาล...คุณหมอทำการตรวจร่างกายที่อีวอนน์ด้วยสีหน้าจริงจัง “คุณอีวอนน์ครับ คุณเป็นโรคกระเพาะมานานแล้วใช่ไหม? โชคดีนะครับที่อาการของคุณตอนนี้ไม่ได้รุนแรงอะไรมาก แต่ยังไงก็เถอะ ช่วยใส่ใจในอาหารการกินด้วยนะครับ"“สาเหตุที่อาการของคุณกำเริบน่าจะเป็นเพราะคุณรับประทานไม่ตรงเวลา ว่าแต่ วันนี้คุณทานอะไรไปแล้วรึยังเหรอครับ?" วันนี้เธอรับประทานอะไรไปนะ? อีวอนน์ชำเลืองมองเฮนรี่อย่างงุ่มง่าม เธอตื่นตระหนกในช่วงพักกลางวันและต้องทำงานล่วงเวลาจนดึก เธอจะไปมีอารมณ์กระเดือกอะไรได้บ้างล่ะ?“คุณหมอคะ คุณมีวิธีรักษาโรคกระเพาะแบบนี้ให้หายขาดไปเลยรึเปล่า?”เฮนรี่ขมวดคิ้ว เขารู้สึกผิดเล็กน้อยด้วยเหตุผลบางอย่างทันทีที่มองไปยังใบหน้าสุดซีดเซียวของหญิงสาวตรงหน้า“เกรงว่าจะไม่นะครับ” คุณหมอส่ายศีรษะ “แต่ยังไงเสีย ปัญหาโรคกระเพาะของคุณก็ไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้น แค่รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และตรงเวลาก็พอครับ อีกไม่นาน เดี๋ยวคุณก็ดีขึ้น"คุณหมอให้คำแนะนำบางอย่างแก่อีวอนน์แล้วบอกให้เธอกลับไปพักผ่อน หลังจากนั้น นางพยาบาลคนหนึ่งก็นำยามาให้ ทันทีที่ประตูห้องปิดลง บรรยากาศรอบตัวพลันตึงเครียดอีวอนน์กำมื
ทันทีที่อีวอนน์ตื่นขึ้น สายน้ำเกลือก็ถูกถอดออกจากหลังมือของเธอเรียบร้อยอีวอนน์ขยี้ตาและเห็นหมอเดินเข้ามา “คุณหมอคะ ฉันคิดว่าตอนนี้อาการฉันดีแล้วค่ะ ฉันจะออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อไหร่เหรอคะ?”“ผมเกรงว่ายังไม่ได้นะครับ คุณแลงคาสเตอร์บอกกับผมว่าเขาต้องการให้คุณนอนพักอยู่ในโรงพยาบาลอีกสักสองสามวันเพื่อสังเกตอาการ แต่หลังจากที่เราแน่ใจว่าโรคกระเพาะของคุณดีขึ้นจริง ๆ แล้ว คุณก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วแหละครับ""แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนเหรอคะ?"อีวอนน์ลุกขึ้นนั่งด้วยความประหลาดใจ ถ้าเธอต้องอยู่ในโรงพยาบาลเพื่อสังเกตอาการ เธอจำเป็นต้องลาป่วยกับที่ทำงานก่อน"คุณแลงคาสเตอร์ออกไปข้างนอกได้สักพักหนึ่งแล้วครับ เขาบอกผมว่าจะกลับมาอีกทีพรุ่งนี้ คุณอีวอนน์ครับ ผมคิดว่าการที่เขากังวลเรื่องสุขภาพของคุณถือเป็นเรื่องดีนะครับ ปัญหาโรคกระเพาะอาจแตกต่างกันไปตามความรุนแรง มันจะถือเป็นการดีที่สุดสำหรับคุณที่จะเฝ้าดูอาการก่อนครับ"ทันทีที่คุณหมอให้คำแนะนำเสร็จ เขาก็เดินออกจากห้องไป หลังจากนั้นไม่นาน นางพยาบาลคนหนึ่งก็เดินเข้ามาแทน เนื่องจากอีวอนน์ไม่สามารถขัดความต้องการของเฮนรี่ได้ เธอจึงทำได้เพียงนอนอยู่บ
อันที่จริงการแต่งงานของทั้งสองเป็นไปตามการตัดสินใจของคุณปู่อยู่ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว...ถึงกระนั้น เฮนรี่ก็มักจะพูดกับเธอเสมอว่าเขาไม่ต้องการมีลูกเฮนรี่หันศีรษะกลับไปและสังเกตเห็นอีวอนน์นั่งอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าลำบากใจ หัวใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะ “คุณไม่ต้องกังวลมากขนาดนั้นหรอก เดี๋ยวท้ายที่สุดแล้ว ผมจะจัดการทุกอย่างเอง" จัดการทุกอย่าง? เขาวางแผนที่จะจัดการทุกอย่างด้วยวิธีไหนกันแน่? อีวอนน์เงยหน้าขึ้น เฮนรี่เปลี่ยนใจและเต็มใจที่จะมีลูกกับเธอแล้วงั้นเหรอ?“เดี๋ยวผมจะวางข้าวเช้าของคุณไว้ตรงนี้นะ คุณหมอสั่งให้คุณกินให้ตรงเวลาด้วย อีกไม่นาน เดี๋ยวแม่บ้านซูก็น่าจะมา ยังไงก็เถอะ ผมมีงานที่ต้องจัดการที่บริษัท เดี๋ยวผมขอตัวก่อน"ดูเหมือนเฮนรี่ไม่สนใจที่จะพูดต่อเรื่องมีลูกเลย หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็จากไปอีวอนน์นั่งอยู่บนเตียงด้วยความงุนงง ความเจ็บปวดในหัวใจของเธอพลันรุนแรงขึ้น... โดยพื้นฐานแล้ว เขาก็ยังสื่อออกมาเหมือนเดิม นั่นคือเขาไม่เต็มใจที่จะมีลูกกับเธอ...หลังจากพักรักษาตัวในโรงพยาบาลอีกสองสามวันเพื่อสังเกตอาการเสร็จแล้ว ท้ายที่สุด หลังจากยืนยันว่ามันเป็นเพียงอาการปวดท้องเล็กน้อย
ณ หน้าประตูโรงพยาบาล...เฮนรี่จอดรถไว้หน้าทางเข้าและมองดูนาฬิกาข้อมือ เขามารับอีวอนน์ออกจากโรงพยาบาลได้ทันเวลาพอดีเฮนรี่เปิดประตูรถเพื่อลงจากรถและเดินเข้าไปที่ตัวอาคารของโรงพยาบาลด้วยเหตุผลบางอย่าง เฮนรี่เอาแต่ครุ่นคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เขารู้สึกไม่สบายใจเลย เขาต้องไปตรวจดูอาการของอีวอนน์เสียหน่อยหลังจากที่รอมานาน แม่บ้านซูก็ยังไม่ลงมาด้านล่างสักที นั่นคือตอนที่เฮนรี่เริ่มตระหนักแล้วว่ามีบางอย่างผิดปกติและควรรีบไปตรวจดูทันทีที่เฮนรี่มาถึงแผนกผู้ป่วยใน ผู้หญิงคนหนึ่งก็เดินเข้ามาขวางทางเขาเมื่อมองเข้าไปใกล้ ๆ ผู้หญิงคนนั้นดูค่อนข้างคุ้นเคยไม่น้อย“มีอะไรให้ช่วยไหมครับ คุณผู้หญิง?”“เฮนรี่ นี่แม่เอง! เธอลืมแม่ไปแล้วเหรอ? แม่ของอีวอนน์ไง!”“เอ่อ คุณแม่เองสินะครับ” เฮนรี่มองเธออยู่สองสามครั้งแล้วครุ่นคิด"คุณแม่ครับ คุณแม่มาที่นี่เพื่อรับอีวอนน์กลับไปเหรอครับ?” เขาถามด้วยความเคารพ"อ่า ใช่ เธอจะว่าแบบนั้นก็ได้” แม่ของอีวอนน์ทำตัวแปลกอย่างเคย เธอไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับเฮนรี่เลยเฮนรี่ขมวดคิ้ว เขารู้สึกราวกับว่าเธอกำลังปิดบังอะไรบางอย่างอยู่“ตอนนี้อีวอนน์อยู่ไหนครับ คุณแม่