อีวอนน์ตั้งใจใช้เวลาทั้งบ่ายในห้องทำงาน ทันทีที่เธอทำงานเสร็จ ก็เป็นเวลาบ่ายสามพอดี ทว่า ยังคงเหลือเวลาอีกตั้งนานกว่าเธอจะเลิกงานเมื่อเห็นว่าตัวเองไม่มีอะไรทำฆ่าเวลา อีวอนน์ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องรวบรวมความกล้าและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา หลังจากนั้น เธอกดโทรไปที่ห้องทำงานของท่านประธานคนใหม่หลังจากได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นเลขาส่วนตัว อีวอนน์ได้ย้ายห้องทำงานมาอยู่ข้างห้องของเฮนรี่ในตอนนี้ เธอมีห้องทำงานทั้งห้องเป็นของตัวเองแล้วเฮนรี่รับสายเร็วมาก ทันใดนั้น เธอพลันรู้สึกตึงเครียดขึ้นมาทันที "ประ-ประธานแลงคาสเตอร์? ฉันเอง..." “ช่วยเตรียมรายงานโครงการทั้งหมดของบริษัทในปีที่ผ่านมาให้ผมที เอาเอกสารทั้งหมดมาให้ผมก่อนหมดวันด้วย" น้ำเสียงสุดเย็นชาของเฮนรี่ดังขึ้น ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้สนใจเลยเธอ“ทุกโครงการเลยเหรอคะ?” ดวงตาของอีวอนน์เบิกกว้างคนคนเดียวจะเตรียมอะไรแบบนั้นหมดภายในวันเดียวได้อย่างไร?!“คุณมีคำถามอะไรอีกไหมล่ะ?” เฮนรี่ถามกลับอย่างเย็นชา“ไม่-ไม่ค่ะ” อีวอนน์บีบโทรศัพท์ในมือ เธอจะกล้าถามอะไรอีกล่ะ?เธอเป็นคนที่ทำให้เฮนรี่โกรธก่อนนะ เพราะฉะนั้น เธอในตอนนี้ก็บ่นอะไรไม่ได้
ณ โรงพยาบาล...คุณหมอทำการตรวจร่างกายที่อีวอนน์ด้วยสีหน้าจริงจัง “คุณอีวอนน์ครับ คุณเป็นโรคกระเพาะมานานแล้วใช่ไหม? โชคดีนะครับที่อาการของคุณตอนนี้ไม่ได้รุนแรงอะไรมาก แต่ยังไงก็เถอะ ช่วยใส่ใจในอาหารการกินด้วยนะครับ"“สาเหตุที่อาการของคุณกำเริบน่าจะเป็นเพราะคุณรับประทานไม่ตรงเวลา ว่าแต่ วันนี้คุณทานอะไรไปแล้วรึยังเหรอครับ?" วันนี้เธอรับประทานอะไรไปนะ? อีวอนน์ชำเลืองมองเฮนรี่อย่างงุ่มง่าม เธอตื่นตระหนกในช่วงพักกลางวันและต้องทำงานล่วงเวลาจนดึก เธอจะไปมีอารมณ์กระเดือกอะไรได้บ้างล่ะ?“คุณหมอคะ คุณมีวิธีรักษาโรคกระเพาะแบบนี้ให้หายขาดไปเลยรึเปล่า?”เฮนรี่ขมวดคิ้ว เขารู้สึกผิดเล็กน้อยด้วยเหตุผลบางอย่างทันทีที่มองไปยังใบหน้าสุดซีดเซียวของหญิงสาวตรงหน้า“เกรงว่าจะไม่นะครับ” คุณหมอส่ายศีรษะ “แต่ยังไงเสีย ปัญหาโรคกระเพาะของคุณก็ไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้น แค่รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และตรงเวลาก็พอครับ อีกไม่นาน เดี๋ยวคุณก็ดีขึ้น"คุณหมอให้คำแนะนำบางอย่างแก่อีวอนน์แล้วบอกให้เธอกลับไปพักผ่อน หลังจากนั้น นางพยาบาลคนหนึ่งก็นำยามาให้ ทันทีที่ประตูห้องปิดลง บรรยากาศรอบตัวพลันตึงเครียดอีวอนน์กำมื
ทันทีที่อีวอนน์ตื่นขึ้น สายน้ำเกลือก็ถูกถอดออกจากหลังมือของเธอเรียบร้อยอีวอนน์ขยี้ตาและเห็นหมอเดินเข้ามา “คุณหมอคะ ฉันคิดว่าตอนนี้อาการฉันดีแล้วค่ะ ฉันจะออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อไหร่เหรอคะ?”“ผมเกรงว่ายังไม่ได้นะครับ คุณแลงคาสเตอร์บอกกับผมว่าเขาต้องการให้คุณนอนพักอยู่ในโรงพยาบาลอีกสักสองสามวันเพื่อสังเกตอาการ แต่หลังจากที่เราแน่ใจว่าโรคกระเพาะของคุณดีขึ้นจริง ๆ แล้ว คุณก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วแหละครับ""แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนเหรอคะ?"อีวอนน์ลุกขึ้นนั่งด้วยความประหลาดใจ ถ้าเธอต้องอยู่ในโรงพยาบาลเพื่อสังเกตอาการ เธอจำเป็นต้องลาป่วยกับที่ทำงานก่อน"คุณแลงคาสเตอร์ออกไปข้างนอกได้สักพักหนึ่งแล้วครับ เขาบอกผมว่าจะกลับมาอีกทีพรุ่งนี้ คุณอีวอนน์ครับ ผมคิดว่าการที่เขากังวลเรื่องสุขภาพของคุณถือเป็นเรื่องดีนะครับ ปัญหาโรคกระเพาะอาจแตกต่างกันไปตามความรุนแรง มันจะถือเป็นการดีที่สุดสำหรับคุณที่จะเฝ้าดูอาการก่อนครับ"ทันทีที่คุณหมอให้คำแนะนำเสร็จ เขาก็เดินออกจากห้องไป หลังจากนั้นไม่นาน นางพยาบาลคนหนึ่งก็เดินเข้ามาแทน เนื่องจากอีวอนน์ไม่สามารถขัดความต้องการของเฮนรี่ได้ เธอจึงทำได้เพียงนอนอยู่บ
อันที่จริงการแต่งงานของทั้งสองเป็นไปตามการตัดสินใจของคุณปู่อยู่ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว...ถึงกระนั้น เฮนรี่ก็มักจะพูดกับเธอเสมอว่าเขาไม่ต้องการมีลูกเฮนรี่หันศีรษะกลับไปและสังเกตเห็นอีวอนน์นั่งอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าลำบากใจ หัวใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะ “คุณไม่ต้องกังวลมากขนาดนั้นหรอก เดี๋ยวท้ายที่สุดแล้ว ผมจะจัดการทุกอย่างเอง" จัดการทุกอย่าง? เขาวางแผนที่จะจัดการทุกอย่างด้วยวิธีไหนกันแน่? อีวอนน์เงยหน้าขึ้น เฮนรี่เปลี่ยนใจและเต็มใจที่จะมีลูกกับเธอแล้วงั้นเหรอ?“เดี๋ยวผมจะวางข้าวเช้าของคุณไว้ตรงนี้นะ คุณหมอสั่งให้คุณกินให้ตรงเวลาด้วย อีกไม่นาน เดี๋ยวแม่บ้านซูก็น่าจะมา ยังไงก็เถอะ ผมมีงานที่ต้องจัดการที่บริษัท เดี๋ยวผมขอตัวก่อน"ดูเหมือนเฮนรี่ไม่สนใจที่จะพูดต่อเรื่องมีลูกเลย หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็จากไปอีวอนน์นั่งอยู่บนเตียงด้วยความงุนงง ความเจ็บปวดในหัวใจของเธอพลันรุนแรงขึ้น... โดยพื้นฐานแล้ว เขาก็ยังสื่อออกมาเหมือนเดิม นั่นคือเขาไม่เต็มใจที่จะมีลูกกับเธอ...หลังจากพักรักษาตัวในโรงพยาบาลอีกสองสามวันเพื่อสังเกตอาการเสร็จแล้ว ท้ายที่สุด หลังจากยืนยันว่ามันเป็นเพียงอาการปวดท้องเล็กน้อย
ณ หน้าประตูโรงพยาบาล...เฮนรี่จอดรถไว้หน้าทางเข้าและมองดูนาฬิกาข้อมือ เขามารับอีวอนน์ออกจากโรงพยาบาลได้ทันเวลาพอดีเฮนรี่เปิดประตูรถเพื่อลงจากรถและเดินเข้าไปที่ตัวอาคารของโรงพยาบาลด้วยเหตุผลบางอย่าง เฮนรี่เอาแต่ครุ่นคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เขารู้สึกไม่สบายใจเลย เขาต้องไปตรวจดูอาการของอีวอนน์เสียหน่อยหลังจากที่รอมานาน แม่บ้านซูก็ยังไม่ลงมาด้านล่างสักที นั่นคือตอนที่เฮนรี่เริ่มตระหนักแล้วว่ามีบางอย่างผิดปกติและควรรีบไปตรวจดูทันทีที่เฮนรี่มาถึงแผนกผู้ป่วยใน ผู้หญิงคนหนึ่งก็เดินเข้ามาขวางทางเขาเมื่อมองเข้าไปใกล้ ๆ ผู้หญิงคนนั้นดูค่อนข้างคุ้นเคยไม่น้อย“มีอะไรให้ช่วยไหมครับ คุณผู้หญิง?”“เฮนรี่ นี่แม่เอง! เธอลืมแม่ไปแล้วเหรอ? แม่ของอีวอนน์ไง!”“เอ่อ คุณแม่เองสินะครับ” เฮนรี่มองเธออยู่สองสามครั้งแล้วครุ่นคิด"คุณแม่ครับ คุณแม่มาที่นี่เพื่อรับอีวอนน์กลับไปเหรอครับ?” เขาถามด้วยความเคารพ"อ่า ใช่ เธอจะว่าแบบนั้นก็ได้” แม่ของอีวอนน์ทำตัวแปลกอย่างเคย เธอไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับเฮนรี่เลยเฮนรี่ขมวดคิ้ว เขารู้สึกราวกับว่าเธอกำลังปิดบังอะไรบางอย่างอยู่“ตอนนี้อีวอนน์อยู่ไหนครับ คุณแม่
อันที่จริง อีวอนน์ไม่ได้แต่งงานกับเฮนรี่เพราะเงิน เธอแต่งงานกับเขาเพราะเธอแอบชอบเขามานานหลายปีแล้ว“แต่ผมคิดว่าคุณต้องการนะ”สีหน้าของเฮนรี่เปลี่ยนไป ไม่เคยมีใครปฏิเสธข้อเสนอแบบนี้กันหรอก“ยังไงก็เถอะ ฉันต้องไปหาแม่ก่อน คุณช่วยไปส่งหน่อยได้ไหมล่ะ?”เธอออกมานานแล้ว นอกจากนี้ เธอก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแม่ของตัวเองยังรออยู่ที่โรงพยาบาลรึเปล่า หรือบางที แม่อาจจะกลับบ้านไปแล้วก็ได้"ได้"เฮนรี่หันรถกลับและพาอีวอนน์ไปส่งที่บ้านแม่ ด้วยความสุภาพ เฮนรี่ยังลงจากรถและเดินไปกับอีวอนน์ด้วยอีวอนน์กำกระเป๋าของตัวเองอย่างงุ่มง่าม แม้ว่าพวกเขาจะแต่งงานกันมานานแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เฮนรี่มาบ้านของเธอ“เรายังไม่ถึงอีกเหรอ?”"ใกล้แล้ว! ใกล้แล้ว!"อีวอนน์เร่งฝีเท้าและหน้าแดง เธอไม่กล้ามองหน้าเฮนรี่เลยเมื่อพวกเขามาถึง ประตูหน้าก็แง้มไว้อีวอนน์ผลักเปิดประตู “แม่คะ กลับมาแล้วเหรอ?”“ทำไมลูกหายไปนานจังล่ะ?! ลูกได้เงินคืนรึเปล่า? ไหนเอามาให้แม่ดูหน่อยสิ!"แม่ของอีวอนน์เดินออกมาจากห้องแล้วเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าของเธอโดยไม่ทันสังเกตเห็นเฮนรี่ที่ตามหลังมาเลยผู้เป็นแม่หยิบเงินทั้งหมดในกระเป๋าของล
“เฮนรี่ ทำไมคุณถึงให้เงินแม่ฉันขนาดนั้นล่ะ?” อีวอนน์ถามในระหว่างที่กำลังเดินลงบันไดทำไมเฮนรี่ถึงให้เงินแม่มากขนาดนั้นล่ะ?มันเป็นเพราะเขาเป็นห่วงแม่ของเธอ หรือเขาเพียงแค่คุ้นเคยกับการวัดค่าของใครสักคนด้วยเงินกันแน่?“ไม่มีเหตุผลอะไรพิเศษหรอก”ความคิดของเฮนรี่ยังคงเย็นชาเช่นเดิม หลังจากสั่งให้อีวอนน์ขึ้นรถและคาดเข็มขัดนิรภัยแล้ว เฮนรี่ก็สตาร์ทรถ คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันตลอดเวลาเมื่อมองย้อนกลับไป การกระทำของเฮนรี่ไม่อยู่ในความคาดหมายของตัวเองเลย อันที่จริง เฮนรี่ค่อนข้างแปลกใจที่รู้สึกว่าจริง ๆ แล้วเขาดูจะโกรธผู้หญิงจอมโลภอย่างคุณแม่ของอีวอนน์ส่วนเงินที่ให้ไป... เดี๋ยวเฮนรี่ก็จะทำให้อีวอนน์ต้องชดใช้ด้วย"แต่ว่า..."อีวอนน์อยากจะพูดอย่างอื่น แต่เธอพลันกลืนคำพูดของตัวเองลงไปพร้อมกับความรู้สึกผิดในลำคอทันทีที่เห็นสีหน้าของเฮนรี่หลังจากได้รับเงินจำนวนมากโดยไม่มีเหตุผลแบบนี้ อีวอนน์เองก็ไม่รู้เลยว่าเธอจะชดเชยเขาอย่างไรดีเมื่อทั้งสองกลับบ้าน เฮนรี่ก็บอกให้เธอไปพักผ่อน หลังจากนั้น เขาก็ออกไปอีวอนน์รู้สึกกระวนกระวายใจไม่น้อย เธอพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงทั้งคืน เธอแทบนอนไม่หลับเลย
“พี่สะใภ้ คือว่า...”“อีวอนน์ เฟรย์ คุณกำลังทำอะไรอยู่ข้างนอกน่ะ?”น้ำเสียงที่เย็นชาและไม่พอใจของเฮนรี่ดังออกมาจากห้องทำงาน!เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่าอีวอนน์จะกล้าหว่านเสน่ห์ใส่คนอื่นต่อหน้าเขา!คราวที่แล้ว เฮนรี่ได้บอกใบ้ให้เธอรู้ตั้งแต่อยู่นอกสถานีตำรวจแล้ว แต่ดูเหมือนผู้หญิงคนนี้จะไม่ได้จริงจังกับคำพูดของเขาเลยสักนิด!แม้ว่าพวกเขาจะเป็นเพียงแค่สามีภรรยากันในนาม แต่เธอไม่มีจิตสำนึกของเลยหรือว่าตัวเองแต่งงานแล้วน่ะ?“ไม่-ไม่มีอะไรหรอกค่ะ!” อีวอนน์กลับมามีสติและถอยห่างจากเชนอย่างรวดเร็ว เธอเหลือบมองเขาพร้อมก้มศีรษะเชิงขอโทษ หลังจากนั้น เธอก็ส่งเอกสารในมือให้เฮนรี่"ประธานแลงคาสเตอร์คะ นี่คือข้อมูลที่ฉันได้รวบรวมมาให้ค่ะ ตรวจดูได้เลยนะคะ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวก่อน”เฮนรี่พลิกดูเอกสารและทำหน้าบูดบึ้ง “คุณแน่ใจนะว่าได้ทำการตรวจสอบเอกสารพวกนี้แล้ว?”“ใช่คะ ฉันตรวจดูหมดแล้ว” อีวอนน์ตกตะลึง “มีปัญหาอะไรรึเปล่าคะ ประธาน?”“งั้นดูเหมือนว่าคุณจะต้องตรวจสอบอีกครั้งแล้วแหละ!" เฮนรี่รีบปิดแฟ้มเอกสาร “สัญญากับบริษัทโครเมติก เอนเตอร์เทนเมนต์ยังไม่ได้ลงนามอย่างเป็นทางการเลย เรากำลังดำเนินการ