อันที่จริงการแต่งงานของทั้งสองเป็นไปตามการตัดสินใจของคุณปู่อยู่ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว...ถึงกระนั้น เฮนรี่ก็มักจะพูดกับเธอเสมอว่าเขาไม่ต้องการมีลูกเฮนรี่หันศีรษะกลับไปและสังเกตเห็นอีวอนน์นั่งอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าลำบากใจ หัวใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะ “คุณไม่ต้องกังวลมากขนาดนั้นหรอก เดี๋ยวท้ายที่สุดแล้ว ผมจะจัดการทุกอย่างเอง" จัดการทุกอย่าง? เขาวางแผนที่จะจัดการทุกอย่างด้วยวิธีไหนกันแน่? อีวอนน์เงยหน้าขึ้น เฮนรี่เปลี่ยนใจและเต็มใจที่จะมีลูกกับเธอแล้วงั้นเหรอ?“เดี๋ยวผมจะวางข้าวเช้าของคุณไว้ตรงนี้นะ คุณหมอสั่งให้คุณกินให้ตรงเวลาด้วย อีกไม่นาน เดี๋ยวแม่บ้านซูก็น่าจะมา ยังไงก็เถอะ ผมมีงานที่ต้องจัดการที่บริษัท เดี๋ยวผมขอตัวก่อน"ดูเหมือนเฮนรี่ไม่สนใจที่จะพูดต่อเรื่องมีลูกเลย หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็จากไปอีวอนน์นั่งอยู่บนเตียงด้วยความงุนงง ความเจ็บปวดในหัวใจของเธอพลันรุนแรงขึ้น... โดยพื้นฐานแล้ว เขาก็ยังสื่อออกมาเหมือนเดิม นั่นคือเขาไม่เต็มใจที่จะมีลูกกับเธอ...หลังจากพักรักษาตัวในโรงพยาบาลอีกสองสามวันเพื่อสังเกตอาการเสร็จแล้ว ท้ายที่สุด หลังจากยืนยันว่ามันเป็นเพียงอาการปวดท้องเล็กน้อย
ณ หน้าประตูโรงพยาบาล...เฮนรี่จอดรถไว้หน้าทางเข้าและมองดูนาฬิกาข้อมือ เขามารับอีวอนน์ออกจากโรงพยาบาลได้ทันเวลาพอดีเฮนรี่เปิดประตูรถเพื่อลงจากรถและเดินเข้าไปที่ตัวอาคารของโรงพยาบาลด้วยเหตุผลบางอย่าง เฮนรี่เอาแต่ครุ่นคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เขารู้สึกไม่สบายใจเลย เขาต้องไปตรวจดูอาการของอีวอนน์เสียหน่อยหลังจากที่รอมานาน แม่บ้านซูก็ยังไม่ลงมาด้านล่างสักที นั่นคือตอนที่เฮนรี่เริ่มตระหนักแล้วว่ามีบางอย่างผิดปกติและควรรีบไปตรวจดูทันทีที่เฮนรี่มาถึงแผนกผู้ป่วยใน ผู้หญิงคนหนึ่งก็เดินเข้ามาขวางทางเขาเมื่อมองเข้าไปใกล้ ๆ ผู้หญิงคนนั้นดูค่อนข้างคุ้นเคยไม่น้อย“มีอะไรให้ช่วยไหมครับ คุณผู้หญิง?”“เฮนรี่ นี่แม่เอง! เธอลืมแม่ไปแล้วเหรอ? แม่ของอีวอนน์ไง!”“เอ่อ คุณแม่เองสินะครับ” เฮนรี่มองเธออยู่สองสามครั้งแล้วครุ่นคิด"คุณแม่ครับ คุณแม่มาที่นี่เพื่อรับอีวอนน์กลับไปเหรอครับ?” เขาถามด้วยความเคารพ"อ่า ใช่ เธอจะว่าแบบนั้นก็ได้” แม่ของอีวอนน์ทำตัวแปลกอย่างเคย เธอไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับเฮนรี่เลยเฮนรี่ขมวดคิ้ว เขารู้สึกราวกับว่าเธอกำลังปิดบังอะไรบางอย่างอยู่“ตอนนี้อีวอนน์อยู่ไหนครับ คุณแม่
อันที่จริง อีวอนน์ไม่ได้แต่งงานกับเฮนรี่เพราะเงิน เธอแต่งงานกับเขาเพราะเธอแอบชอบเขามานานหลายปีแล้ว“แต่ผมคิดว่าคุณต้องการนะ”สีหน้าของเฮนรี่เปลี่ยนไป ไม่เคยมีใครปฏิเสธข้อเสนอแบบนี้กันหรอก“ยังไงก็เถอะ ฉันต้องไปหาแม่ก่อน คุณช่วยไปส่งหน่อยได้ไหมล่ะ?”เธอออกมานานแล้ว นอกจากนี้ เธอก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแม่ของตัวเองยังรออยู่ที่โรงพยาบาลรึเปล่า หรือบางที แม่อาจจะกลับบ้านไปแล้วก็ได้"ได้"เฮนรี่หันรถกลับและพาอีวอนน์ไปส่งที่บ้านแม่ ด้วยความสุภาพ เฮนรี่ยังลงจากรถและเดินไปกับอีวอนน์ด้วยอีวอนน์กำกระเป๋าของตัวเองอย่างงุ่มง่าม แม้ว่าพวกเขาจะแต่งงานกันมานานแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เฮนรี่มาบ้านของเธอ“เรายังไม่ถึงอีกเหรอ?”"ใกล้แล้ว! ใกล้แล้ว!"อีวอนน์เร่งฝีเท้าและหน้าแดง เธอไม่กล้ามองหน้าเฮนรี่เลยเมื่อพวกเขามาถึง ประตูหน้าก็แง้มไว้อีวอนน์ผลักเปิดประตู “แม่คะ กลับมาแล้วเหรอ?”“ทำไมลูกหายไปนานจังล่ะ?! ลูกได้เงินคืนรึเปล่า? ไหนเอามาให้แม่ดูหน่อยสิ!"แม่ของอีวอนน์เดินออกมาจากห้องแล้วเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าของเธอโดยไม่ทันสังเกตเห็นเฮนรี่ที่ตามหลังมาเลยผู้เป็นแม่หยิบเงินทั้งหมดในกระเป๋าของล
“เฮนรี่ ทำไมคุณถึงให้เงินแม่ฉันขนาดนั้นล่ะ?” อีวอนน์ถามในระหว่างที่กำลังเดินลงบันไดทำไมเฮนรี่ถึงให้เงินแม่มากขนาดนั้นล่ะ?มันเป็นเพราะเขาเป็นห่วงแม่ของเธอ หรือเขาเพียงแค่คุ้นเคยกับการวัดค่าของใครสักคนด้วยเงินกันแน่?“ไม่มีเหตุผลอะไรพิเศษหรอก”ความคิดของเฮนรี่ยังคงเย็นชาเช่นเดิม หลังจากสั่งให้อีวอนน์ขึ้นรถและคาดเข็มขัดนิรภัยแล้ว เฮนรี่ก็สตาร์ทรถ คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันตลอดเวลาเมื่อมองย้อนกลับไป การกระทำของเฮนรี่ไม่อยู่ในความคาดหมายของตัวเองเลย อันที่จริง เฮนรี่ค่อนข้างแปลกใจที่รู้สึกว่าจริง ๆ แล้วเขาดูจะโกรธผู้หญิงจอมโลภอย่างคุณแม่ของอีวอนน์ส่วนเงินที่ให้ไป... เดี๋ยวเฮนรี่ก็จะทำให้อีวอนน์ต้องชดใช้ด้วย"แต่ว่า..."อีวอนน์อยากจะพูดอย่างอื่น แต่เธอพลันกลืนคำพูดของตัวเองลงไปพร้อมกับความรู้สึกผิดในลำคอทันทีที่เห็นสีหน้าของเฮนรี่หลังจากได้รับเงินจำนวนมากโดยไม่มีเหตุผลแบบนี้ อีวอนน์เองก็ไม่รู้เลยว่าเธอจะชดเชยเขาอย่างไรดีเมื่อทั้งสองกลับบ้าน เฮนรี่ก็บอกให้เธอไปพักผ่อน หลังจากนั้น เขาก็ออกไปอีวอนน์รู้สึกกระวนกระวายใจไม่น้อย เธอพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงทั้งคืน เธอแทบนอนไม่หลับเลย
“พี่สะใภ้ คือว่า...”“อีวอนน์ เฟรย์ คุณกำลังทำอะไรอยู่ข้างนอกน่ะ?”น้ำเสียงที่เย็นชาและไม่พอใจของเฮนรี่ดังออกมาจากห้องทำงาน!เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่าอีวอนน์จะกล้าหว่านเสน่ห์ใส่คนอื่นต่อหน้าเขา!คราวที่แล้ว เฮนรี่ได้บอกใบ้ให้เธอรู้ตั้งแต่อยู่นอกสถานีตำรวจแล้ว แต่ดูเหมือนผู้หญิงคนนี้จะไม่ได้จริงจังกับคำพูดของเขาเลยสักนิด!แม้ว่าพวกเขาจะเป็นเพียงแค่สามีภรรยากันในนาม แต่เธอไม่มีจิตสำนึกของเลยหรือว่าตัวเองแต่งงานแล้วน่ะ?“ไม่-ไม่มีอะไรหรอกค่ะ!” อีวอนน์กลับมามีสติและถอยห่างจากเชนอย่างรวดเร็ว เธอเหลือบมองเขาพร้อมก้มศีรษะเชิงขอโทษ หลังจากนั้น เธอก็ส่งเอกสารในมือให้เฮนรี่"ประธานแลงคาสเตอร์คะ นี่คือข้อมูลที่ฉันได้รวบรวมมาให้ค่ะ ตรวจดูได้เลยนะคะ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวก่อน”เฮนรี่พลิกดูเอกสารและทำหน้าบูดบึ้ง “คุณแน่ใจนะว่าได้ทำการตรวจสอบเอกสารพวกนี้แล้ว?”“ใช่คะ ฉันตรวจดูหมดแล้ว” อีวอนน์ตกตะลึง “มีปัญหาอะไรรึเปล่าคะ ประธาน?”“งั้นดูเหมือนว่าคุณจะต้องตรวจสอบอีกครั้งแล้วแหละ!" เฮนรี่รีบปิดแฟ้มเอกสาร “สัญญากับบริษัทโครเมติก เอนเตอร์เทนเมนต์ยังไม่ได้ลงนามอย่างเป็นทางการเลย เรากำลังดำเนินการ
“อีวอนน์ เธอยังต้องจัดการกับเอกสารพวกนี้อีกนานไหมเนี่ย? เลยเที่ยงวันแล้วนะ! เราลงไปกินข้าวเที่ยงกันก่อนไหม?”“ไม่ ฉันยังกินไม่ได้" อีวอนน์เงยหน้าขึ้นพร้อมกับลูบแขนที่ปวดและมองไปยังที่ลินเนตต์ “ฉันยังมีเอกสารอีกเยอะแยะเลยให้ต้องจัดการ ลิน ถ้าวันนี้ฉันทำไม่เสร็จ ฉันคงจะต้องทำงานล่วงเวลาอีกแน่เลย มีแต่พระเจ้าเท่านั้นแหละที่จะรู้ว่าฉันจะเสร็จกี่โมง"หากเธอต้องทำงานล่วงเวลาจนถึงดึกดื่น อีวอนน์คงไม่สามารถขึ้นแท็กซี่กลับบ้านได้ บางที เธออาจต้องนอนที่ห้องทำงานแทน“ทำไมเธอถึงมีงานเอกสารให้จัดการเยอะแยะขนาดนี้ล่ะ?" ลินเนตต์ขมวดคิ้ว “เธอจำเป็นต้องทำให้เสร็จภายในวันนี้เลยเหรอ?" ให้ตายเถอะ! ใครจะไปทำเสร็จกัน? ทำไมประธานแลงคาสเตอร์ถึงได้โหดเหี้ยมขนาดนี้เนี่ย?”“เฮ้อ ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน...” อีวอนน์ถอนหายใจ “ฉันบอกเธอตั้งแต่แรกแล้วว่าประธานแลงคาสเตอร์อะไรนั้นเป็นคนซับซ้อนมาก เขาดูจะเข้มงวดและจริงจังกับทุกอย่างเลย เขารับข้อผิดพลาดอะไรไม่ได้สักอย่าง สำหรับเขาแล้วก ารจัดการงานทุกอย่างให้อย่างสมบูรณ์แบบถือเป็นความรับผิดชอบที่พนักงานทุกคนต้องปฏิบัติตาม เขาไม่สนใจด้วยซ้ำว่าเธอจะเหนื่อยรึเปล่า”อีวอ
หลังจากผ่านวันทำงานแสนวุ่นวายภายในบริษัทมาได้ อีวอนน์รู้สึกเหนื่อยเกินกว่าจะยกแขนขึ้นและเข้านอนทันทีที่กลับถึงบ้านแต่ทว่า ไม่นานนัก ประตูห้องนอนก็ถูกผลักเปิดออก เฮนรี่เดินเหยียบพรมและเข้ามาในห้อง ทั้งนี้ เนื่องจากแสงไฟจากเสาไฟริมถนนนอกหน้าต่าง มันทำให้เฮนรี่เห็นว่าอีวอนน์กำลังนอนหลับอยู่บนเตียงเฮนรี่เดินช้าลงและคลานไปข้างเตียงผ้าห่มคลุมและเสื้อผ้าชุดทำงานของอีวอนน์ยับไม่น้อยเพราะท่าทางการนอนดูเหมือนว่าอีวอนน์ไม่ได้สวมใส่ชุดนอนที่เขาสั่งให้แม่บ้านซูเตรียมไว้ให้เธอเลยเมื่อมองดูรูปลักษณ์ของเธอแล้ว เธอก็คงดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ในเสื้อผ้าพวกนั้น ไม่ว่ามันจะแพงแค่ไหนก็ตาม เธอก็ควรแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่เรียบง่ายและสบายกว่านี้เฮนรี่มองผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงด้วยแววตาแสนน่ากลัว“อ่า..."ทันทีที่เห็นอีวอนน์เคลื่อนไหวอย่างกะทันหัน สีหน้าของเฮนรี่พลันบิดเบี้ยวเล็กน้อย เขาถึงกับต้องถอยหลังไปสองสามก้าวโดยไม่รู้ตัว ทว่า อีวอนน์เพียงแค่พลิกตัวไปมาพร้อมกับเสียงครางสุดนุ่มนวลเท่านั้นเธอปลดกระดุมออก บางที มันอาจเป็นเพราะเธอรู้สึกอึดอัดเวลานอนในชุดทำงานอีวอนน์พลิกร่างของตัวเองอีกครั้งแล้วส
อีวอนน์อดไม่ได้ที่จะเผยยิ้มออกมาทันทีที่คิดเช่นนั้น เธออาบน้ำเร็วกว่าปกติมากทว่า ทันทีที่เดินออกมาจากห้องน้ำ เธอก็ไม่เห็นเฮนรี่อยู่ในห้องอีกต่อไปแล้ว ภายในห้องมีเพียงเสื้อคลุมที่เขาโยนทิ้งไว้บนโซฟาเท่านั้น“เขาหายไปไหนแล้วล่ะ?” อีวอนน์พึมพำกับตัวเอง เธอปรับสายเสื้อคลุมและเดินออกมาจากห้องน้ำในตอนนี้ แม่บ้านซูยังคงกวาดพื้นอยู่ในห้องนั่งเล่นชั้นล่าง แม่บ้านซูกล่าวทักทายอีวอนน์อย่างอบอุ่นทันทีที่เห็นเธอเดินลงบันไดมา "สวัสดีค่ะ คุณผู้หญิง”“คุณเห็นเฮนรี่ไหมคะ?” อีวอนน์จับเสื้อคลุมอาบน้ำและถามขึ้นแม่บ้านซูชะงักไปครู่หนึ่งและตอบกลับ "คุณผู้ชายเพิ่งออกไปค่ะ”"ออกไปแล้ว?" อีวอนน์เลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจเขากำลังจะไปไหนกัน?แม่บ้านซูพยักหน้า “ใช่ค่ะ เหมือนจะมีคนโทรมาหาคุณผู้ชาย หลังจากนั้น เขาก็รีบออกไปเลย คุณไม่รู้เหรอคะ?"อีวอนน์ฝืนยิ้ม แต่เธอก็ไม่สามารถซ่อนความผิดหวังในดวงตาเอาไว้ได้ “เขาไม่ได้บอกฉัน...”“ถ้าอย่างนั้น มันก็น่าจะเป็นเรื่องด่วนแหละค่ะ เขาเลยไม่มีเวลาบอกให้คุณผู้หญิงทราบ อย่าคิดมากไปเลยค่ะ คุณผู้หญิง”"โอเค งั้นเดี๋ยวฉันขอกลับห้องก่อนก็แล้วกัน”อีวอนน์หันกลับมาแล