อีวอนน์วางช้อนส้อมลงและเผยยิ้ม “ต้องขออภัยด้วยนะคะ คุณเทย์เลอร์ ฉันต้องรับสายนี้”“ตามสบายเลยครับ” เอลเลียตชี้ให้เธอรับสายอีวอนน์บิดร่างของเธอไปด้านข้างและคลำหากระเป๋า เมื่อเธอพบโทรศัพท์และเห็นเบอร์บนหน้าจอ เธออดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา"ใครเหรอครับ?" เอลเลียตชำเลืองมองหน้าจอโทรศัพท์ หลังจากนั้น เขาก็เพ่งสายตาของตัวเองอย่างรวดเร็วอีวอนน์ยื่นโทรศัพท์ให้เขาดู “สามีของฉันเองค่ะ”เอลเลียตเผยยิ้มเหมือนรู้ทัน “ถ้าอย่างนั้น คุณก็ควรจะรีบรับสายนะ”อีวอนน์พยักหน้า หลังจากนั้น เธอยืนขึ้นและออกจากร้านอาหารไปพร้อมโทรศัพท์ในมือ"สวัสดีค่ะ?" เธอรับโทรศัพท์ข้างถนน“อีวอนน์ เฟรย์ ผมขอให้คุณกลับมาเร็ว ๆ ไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนแล้ว?" น้ำเสียงเยือกเย็นของเฮนรี่ดังมาจากปลายสายอีกด้านพร้อมกับความวิตกกังวล “ฉันนั่งทานข้าวอยู่ข้างนอกน่ะ มีอะไรรึเปล่า?" อีวอนน์ขมวดคิ้วเข้าหากัน เธอรู้สึกประหม่า เฮนรี่สูดหายใจลึกและสงบเสียงของตัวเอง “อาการของแจ็กกี้กำลังแย่ลง โรงพยาบาลต้องจัดตารางการผ่าตัดใหม่สำหรับคืนนี้ คุณต้องไปที่นั่นและเตรียมตัวเดี๋ยวนี้เลย”ร่างกายของอีวอนน์แข็งทื่อทันที ใบหน้าของเ
“ไม่มีอะไรต้องโกรธหรอกค่ะ” อีวอนน์ดึงเก้าอี้ออกมาแล้วนั่งลงเชนยิ้มด้วยความสนใจ “พี่สะใภ้ คุณหมายถึง...”“ฉันแค่คิดว่าตัวเองไม่สามารถหยุดเขาได้น่ะ ถ้าเขาต้องการใครจริง ๆ ฉันจะไปทำอะไรได้? ในเมื่อเขาไม่ฟังฉัน แล้วฉันจะโกรธไปเพื่ออะไรกัน? ฉันก็แค่ต้องยอมรับให้ได้ แค่นั้นเอง”“แต่ดูเหมือนคุณจะใจดีเกินไปหน่อยนะครับ” เชนเผยยิ้มให้เธออย่างสนุกสนานอีวอนน์กางมือออก “ฉันจะทำอะไรได้อีกล่ะคะนอกจากต้องยอมรับ? ฉันคงทำตัวเป็นภรรยาจอมโมโหและโกรธเขาไม่ได้ใช่ไหม?""ทำไมจะไม่ได้ล่ะ? คุณเป็นภรรยาตัวจริงของเฮนรี่นะ เพราะฉะนั้น ถ้าจะต่อต้านเขา มันก็ไม่ผิดหรอก"อีวอนน์ส่ายหัว “ฉันคงทำแบบนั้นไม่ได้หรอกค่ะ มันน่าเกลียดเกินไป”ที่สำคัญที่สุด แม้ว่าจะทะเลาะกัน แต่เฮนรี่จะไม่เข้าข้างเธออย่างแน่นอนไม่ว่าจะเป็นอย่างไร เฮนรี่ก็สัญญาแล้วว่าจะมีลูกกับเธอ ตราบใดที่เขาไม่หย่ากับเธอ เธอก็จะได้กลายเป็นคุณนายแลงคาสเตอร์อย่างแน่นอน“คุณเป็นคนมีเหตุผลจริง ๆ เลยนะ” แสงสว่างสะท้อนผ่านแว่นตาของเชน "แต่คุณรู้ไหมว่าทำไมเฮนรี่ถึงเป็นห่วงคุณแจ็คเกอลีนขนาดนั้น?"อีวอนน์มองลงไปที่นิ้วของเธอ “ฉันรู้ค่ะ”"คุณรู้เหรอ?" เชน
เฮนรี่หรี่ตาลงและไม่พูดอะไรอีก เขาไม่รู้จะตอบคำถามของเธออย่างไรเขาไม่สามารถหาเหตุผลอื่นมาบอกได้เลย ภายในใจ เฮนรี่คิดเพียงแค่ว่าการพบกันของทั้งสองอาจนำไปสู่บางสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุมของเขาเฮนรี่ปฏิเสธที่จะเชื่อความรู้สึกของตัวเอง แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะครุ่นคิดซ้ำไปซ้ำมา เขายังไม่ได้บอกแจ็คกี้เลยว่าเขาแต่งงานแล้ว ส่วนใหญ่เป็นเพราะเฮนรี่ไม่แน่ใจว่าแจ็คกี้ยังมีความรู้สึกให้เขาอยู่รึเปล่าเพราะถ้าเธอยังรู้สึกอยู่ เฮนรี่ก็นึกไม่ออกว่าเธอจะตอบสนองต่อสถานการณ์นี้อย่างไร“เฮนรี่?” แจ็คเกอลีนดึงแขนเสื้อของชายที่เพิ่งสติหลุด "คุณคิดอะไรอยู่น่ะ?"“ไม่มีอะไรหรอก” เฮนรี่กลับมารู้สึกตัวและบีบจมูกของตัวเอง “คุณอยากเจอเธอจริง ๆ เหรอ?”“ใช่ค่ะ” แจ็คเกอลีนพยักหน้าเฮนรี่กลืนน้ำลายสองครั้ง น้ำเสียงของเขาก็แหบแห้งเล็กน้อย “ก็ได้ เดี๋ยวผมจะจัดการให้ แต่คุณต้องรอก่อน"“ก็ได้ค่ะ” แจ็คเกอลีนตอบกลับด้วยรอยยิ้มเฮนรี่หันศีรษะและชำเลืองมองที่เชนซึ่งนิ่งเงียบราวกับหุ่นกระบอกไม้เชนเลิกคิ้วมองเฮนรี่แล้วเดินตามเขาออกไป“อีวอนน์ เฟรย์อยู่ห้องไหน?”“ชั้นล่าง เดี๋ยวฉันจะพานายไปที่นั่นเอง” เ
“เรียกชื่อฉันแทนก็ได้ค่ะ” อีวอนน์พูดอย่างสุภาพแจ็คเกอลีนยืดวิกผมให้ตรง “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันทำไม่ได้หรอก ฉันจะเรียกคุณว่าคุณเฟรย์ก็แล้วกันนะคะ ฉันชื่อว่าแจ็คเกอลีน คอนราด”"ฉันรู้แล้วค่ะ""คุณรู้จักฉันด้วยเหรอ?" แจ็คเกอลีนดูประหลาดใจดวงตาของอีวอนน์เป็นประกาย “ก็... ฉันเคยอ่านเจอในอินเทอร์เน็ตว่าคุณเป็นนักบัลเลต์ที่โด่งดังมากน่ะค่ะ”“อ่า ฉันเข้าใจแล้ว” แจ็คเกอลีนรู้สึกภูมิใจไม่น้อยเมื่อได้ยินคำชม แต่ทว่า เธอพูดต่ออย่างสุภาพ “ทั้งหมดนี้ก็ต้องขอบคุณแฟน ๆ แหละค่ะ นั่งก่อนสิคะ คุณเฟรย์”“ขอบคุณค่ะ” อีวอนน์กล่าวแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียงของแจ็คเกอลีน “พอดีฉันได้ยินจากเฮน... คุณแลงคาสเตอร์ว่าคุณต้องการพบฉัน คุณคอนราด คุณต้องการอะไรรึเปล่าคะ?"โชคดีที่อีวอนน์ไหวตัวทันก่อนที่จะหลุดพูดชื่อของเฮนรี่ออกไปแจ็คเกอลีนดูเหมือนจะไม่สังเกตเห็นอะไรแปลก ๆ ในคำพูดของอีวอนน์เลย เธอยังคงเผยยิ้มอย่างอ่อนโยน “ไม่มีอะไรเป็นพิเศษหรอกค่ะ ฉันเพิ่งได้ยินมาจากเฮนรี่ว่าคุณเป็นผู้บริจาคไขกระดูกของฉัน เพราะฉะนั้น ฉันเลยต้องการพบคุณและขอบคุณเป็นการส่วนตัว”“คุณไม่จำเป็นต้องขอบคุณฉันหรอกค่ะ คุณคอนราด แม้ว่าฉันจ
แจ็คเกอลีนพิงหน้าอกของเฮนรี่แล้วพูดเบา ๆ ออกมา “ฉันสบายดีค่ะ ฉันไม่ได้ล้มหนักขนาดนั้น เลยไม่เจ็บมาก ไม่ต้องห่วงฉันหรอก..."เธอปิดปากและไอเล็กน้อยอยู่สองสามครั้งเฮนรี่ขมวดคิ้วลึกเข้าไปอีก “เดี๋ยวผมจะเรียกหมอมา”"ไม่ต้องค่ะ!" แจ็คเกอลีนรีบคว้ามือของเฮนรี่ซึ่งกำลังเอื้อมมือไปกดปุ่มโทรออก “เฮนรี่ ฉันไม่เป็นอะไรจริง ๆ ไม่จำเป็นต้องเรียกหมอหรอก”“คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอ?” เฮนรี่หรี่ตามองเธอริมฝีปากของแจ็คเกอลีนขดเป็นรอยยิ้ม "แน่ใจค่ะ ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน คุณถามคุณเฟรย์ก็ได้ ฉันไม่ได้ล้มแรงขนาดนั้น" เฮนรี่พลันตระหนักได้ว่าเธอก็อยู่ในห้องด้วยเขาช่วยแจ็คเกอลีนพิงหมอนแล้วดึงผ้าห่มมาคลุมเธอก่อนจะหันไปมองอีวอนน์ “บอกผมทีว่าเกิดอะไรขึ้น แจ็คกี้ล้มลงได้ยังไง?”อีวอนน์อารมณ์เสียทันทีที่ได้ยินคำถามของเฮนรี่ เธอหยิบสร้อยคอขึ้นมาจากพื้นแล้วลุกขึ้นยืน เธอกำลังจะพูด แต่ทว่า แจ็คเกอลีนกลับพูดแทรกขึ้นมา “เฮนรี่ มันไม่ใช่ความผิดของคุณเฟรย์เลยนะคะ เธอไม่ได้ตั้งใจผลักฉัน ฉันแค่ทรงตัวไม่อยู่และล้มลงเอง”ว่ายังไงนะ?อีวอนน์มองแจ็คเกอลีนด้วยความตกใจและสับสน เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าแจ็คเกอลีนไม่เพียงโกหกเท่านั
อีวอนน์ยังไม่ได้สติจากเหตุการณ์เมื่อครู่ เธองงกับคำถามไม่มีปี่มีขลุ่ยของเฮนรี่ “คุณหมายความว่ายังไง?”เฮนรี่กล่าวอย่างเย็นชา เขาเดินเข้าไปหาชารอนและจับมือเธอเอาไว้ “ใครอนุญาตให้คุณสวมสร้อยคอเส้นนี้? ตอนนี้คุณคงพอใจแล้วใช่ไหมที่แจ็คกี้ถูกส่งไปที่ห้องฉุกเฉินน่ะ?”“หมายความว่ายังไงที่บอกว่าฉันคงพอใจ?” ดวงตาของอีวอนน์เบิกกว้างด้วยความโกรธเพราะกระตุ้นด้วยคำพูดของเฮนรี่วิธีที่การที่เฮนรี่พูดออกมานั้นเหมือนกับว่าอีวอนน์ต้องการให้แจ็คเกอลีนตายไว ๆ “อีวอนน์ เฟรย์ ผมบอกคุณแล้วไม่ใช่รึยังไงว่าอย่าเปิดเผยอะไรเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเรากับแจ็คกี้?” เฮนรี่เหวี่ยงมืออีวอนน์ออกไปอีวอนน์ก้าวถอยหลัง เธอเอาหลังพิงกับกำแพงและคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด “แต่ฉันไม่ได้บอกอะไรเธอเลยนะ”“แล้วเรื่องสร้อยคอล่ะ? ใครบอกให้คุณสวมสร้อยเส้นนั้นออกมา?” เฮนรี่กัดริมฝีปาก อีวอนน์ตกตะลึงกับคำพูดของเฮนรี่ หลังจากผ่านไปชั่วครู่ เธอก็พลันกล่าวคำพูดออกมา “คุณกำลังว่าฉันงั้นเหรอ? เพียงเพราะคุณคอนราดเห็นฉันสวมสร้อยเส้นนี้ คุณก็โทษว่าฉันเป็นคนผลักเธอแล้วงั้นเหรอ?"เฮนรี่สูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่และไม่ตอบเธอ แต่คำตอบของเขาก็
อีวอนน์อ้าปากด้วยความประหลาดใจ “คุณ...”"หยุดพูดได้แล้วน่า!" เฮนรี่บีบมือเธอด้วยกำลังที่มี “เดี๋ยวผมจะไปกับคุณเอง ทำไมคุณถึงดื้อนักล่ะ? เรารีบไปกันก่อนเถอะ!"เฮนรี่ลากเธอออกจากห้องของแจ็คเกอลีนระหว่างทางขึ้นชั้นบน อีวอนน์คอยจ้องมองที่มือของเธอซึ่งอยู่ถูกเฮนรี่คว้าเอาไว้ หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็กลับมารู้สึกตัวอีกครั้งพร้อมกับเผยยิ้มออกมาถ้ามีเฮนรี่อยู่ตรงหน้า สนามรบเธอก็จะไม่กลัว นับประสาการผ่าตัดบริจาคไขกระดูกถึงกระนั้น เธอก็ยังเข้าใจความจริงที่ว่าเฮนรี่ยังคงมีความรู้สึกกับแจ็คเกอลีนอยู่ แต่ไม่ว่าอย่างไร อีวอนน์ก็เป็นเพียงคนเดียวที่เขาแต่งงานด้วย เนื่องจากเฮนรี่บอกแล้วว่าเขาจะไม่กลับไปคบกับแจ็คเกอลีน นั่นคือความมั่นใจทั้งหมดที่เธอต้องการตราบใดที่อีวอนน์สามารถอยู่เคียงข้างเขาได้ อีวอนน์เชื่อว่าท้ายที่สุดเฮนรี่จะเห็นเธออยู่ในสายตาสักวันหนึ่งแน่นอนระหว่างที่กำลังคิดเช่นนั้น อีวอนน์ก็เดินไปสวมชุดผ่าตัดและมานั่งลงบนเตียงผ่าตัด ภายใต้การดูแลของเฮนรี่ เธอถูกพยาบาลผลักเข้าไปในห้องผ่าตัดเชนอยู่เหนือศีรษะเธอ เขาสวมหน้ากากผ่าตัดอยู่ "คุณพร้อมไหม?"อีวอนน์สูดหายใจอย่างประหม่า “อ่า ฉั
“ไม่มีอะไรแล้วแหละครับ พักผ่อนเถอะ! เดี๋ยวผมไปดูอีกคนก่อน" เชนถอดหูฟังออกและกำลังจะจากไปแต่ทว่า จู่ ๆ แม่บ้านซูก็หยุดเขาไว้ “คุณหมอซัมเมอร์สคะ ถ้าขึ้นไปชั้นบน ได้โปรดอย่าลืมแจ้งคุณเฮนรี่ด้วยนะคะว่าภรรยาของเขาตื่นแล้ว ถ้าเขามีเวลามากพอที่จะดูแลคนอื่น ก็ช่วยบอกให้เขาลงมาเยี่ยมเธอด้วยนะคะ เขาควรจะรู้ว่าใครเป็นภรรยาตัวจริง" "แม่บ้านซูคะ!" อีวอนน์ไม่คิดเลยว่าแม่บ้านซูจะพูดอะไรแบบนั้นออกไป อีวอนน์รีบตะโกนเพื่อหยุดเธอ แต่ถึงกระนั้น แม่บ้านซูแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินเธอและพูดกับเชนต่อ “เขาไปดูแลผู้หญิงคนอื่นแทนภรรยาของตัวเองได้ยังไงกัน? ในฐานะเพื่อนของเขา คุณควรเตือนเขาบ้างนะคะ คุณหมอซัมเมอร์ส!”เชนประหลาดใจกับคำพูดของแม่บ้านซู เขาขมวดคิ้ว “คุณกำลังพูดเหมือนกับว่าเฮนรี่ไม่ได้เข้ามาเยี่ยมพี่สะใภ้เลยจนถึงตอนนี้อย่างนั้นแหละ" แม่บ้านซูบ่นอย่างไม่พอใจ “คุณผู้ชายสนใจผู้หญิงคนนั้นมากไปแล้ว เขาแทบจะลืมเรื่องคุณผู้หญิงไปแล้วมั้งคะ" ใบหน้าของเชนหม่นหมองลงไป “เข้าใจแล้วครับ ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวผมจะบอกเขาเอง!”เขาตบไหล่แม่บ้านซูและเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็วดูเหมือนว่าเฮนรี่จะไม่ได้เก็บคำพูดเตือน