“เรียกชื่อฉันแทนก็ได้ค่ะ” อีวอนน์พูดอย่างสุภาพแจ็คเกอลีนยืดวิกผมให้ตรง “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันทำไม่ได้หรอก ฉันจะเรียกคุณว่าคุณเฟรย์ก็แล้วกันนะคะ ฉันชื่อว่าแจ็คเกอลีน คอนราด”"ฉันรู้แล้วค่ะ""คุณรู้จักฉันด้วยเหรอ?" แจ็คเกอลีนดูประหลาดใจดวงตาของอีวอนน์เป็นประกาย “ก็... ฉันเคยอ่านเจอในอินเทอร์เน็ตว่าคุณเป็นนักบัลเลต์ที่โด่งดังมากน่ะค่ะ”“อ่า ฉันเข้าใจแล้ว” แจ็คเกอลีนรู้สึกภูมิใจไม่น้อยเมื่อได้ยินคำชม แต่ทว่า เธอพูดต่ออย่างสุภาพ “ทั้งหมดนี้ก็ต้องขอบคุณแฟน ๆ แหละค่ะ นั่งก่อนสิคะ คุณเฟรย์”“ขอบคุณค่ะ” อีวอนน์กล่าวแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียงของแจ็คเกอลีน “พอดีฉันได้ยินจากเฮน... คุณแลงคาสเตอร์ว่าคุณต้องการพบฉัน คุณคอนราด คุณต้องการอะไรรึเปล่าคะ?"โชคดีที่อีวอนน์ไหวตัวทันก่อนที่จะหลุดพูดชื่อของเฮนรี่ออกไปแจ็คเกอลีนดูเหมือนจะไม่สังเกตเห็นอะไรแปลก ๆ ในคำพูดของอีวอนน์เลย เธอยังคงเผยยิ้มอย่างอ่อนโยน “ไม่มีอะไรเป็นพิเศษหรอกค่ะ ฉันเพิ่งได้ยินมาจากเฮนรี่ว่าคุณเป็นผู้บริจาคไขกระดูกของฉัน เพราะฉะนั้น ฉันเลยต้องการพบคุณและขอบคุณเป็นการส่วนตัว”“คุณไม่จำเป็นต้องขอบคุณฉันหรอกค่ะ คุณคอนราด แม้ว่าฉันจ
แจ็คเกอลีนพิงหน้าอกของเฮนรี่แล้วพูดเบา ๆ ออกมา “ฉันสบายดีค่ะ ฉันไม่ได้ล้มหนักขนาดนั้น เลยไม่เจ็บมาก ไม่ต้องห่วงฉันหรอก..."เธอปิดปากและไอเล็กน้อยอยู่สองสามครั้งเฮนรี่ขมวดคิ้วลึกเข้าไปอีก “เดี๋ยวผมจะเรียกหมอมา”"ไม่ต้องค่ะ!" แจ็คเกอลีนรีบคว้ามือของเฮนรี่ซึ่งกำลังเอื้อมมือไปกดปุ่มโทรออก “เฮนรี่ ฉันไม่เป็นอะไรจริง ๆ ไม่จำเป็นต้องเรียกหมอหรอก”“คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอ?” เฮนรี่หรี่ตามองเธอริมฝีปากของแจ็คเกอลีนขดเป็นรอยยิ้ม "แน่ใจค่ะ ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน คุณถามคุณเฟรย์ก็ได้ ฉันไม่ได้ล้มแรงขนาดนั้น" เฮนรี่พลันตระหนักได้ว่าเธอก็อยู่ในห้องด้วยเขาช่วยแจ็คเกอลีนพิงหมอนแล้วดึงผ้าห่มมาคลุมเธอก่อนจะหันไปมองอีวอนน์ “บอกผมทีว่าเกิดอะไรขึ้น แจ็คกี้ล้มลงได้ยังไง?”อีวอนน์อารมณ์เสียทันทีที่ได้ยินคำถามของเฮนรี่ เธอหยิบสร้อยคอขึ้นมาจากพื้นแล้วลุกขึ้นยืน เธอกำลังจะพูด แต่ทว่า แจ็คเกอลีนกลับพูดแทรกขึ้นมา “เฮนรี่ มันไม่ใช่ความผิดของคุณเฟรย์เลยนะคะ เธอไม่ได้ตั้งใจผลักฉัน ฉันแค่ทรงตัวไม่อยู่และล้มลงเอง”ว่ายังไงนะ?อีวอนน์มองแจ็คเกอลีนด้วยความตกใจและสับสน เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าแจ็คเกอลีนไม่เพียงโกหกเท่านั
อีวอนน์ยังไม่ได้สติจากเหตุการณ์เมื่อครู่ เธองงกับคำถามไม่มีปี่มีขลุ่ยของเฮนรี่ “คุณหมายความว่ายังไง?”เฮนรี่กล่าวอย่างเย็นชา เขาเดินเข้าไปหาชารอนและจับมือเธอเอาไว้ “ใครอนุญาตให้คุณสวมสร้อยคอเส้นนี้? ตอนนี้คุณคงพอใจแล้วใช่ไหมที่แจ็คกี้ถูกส่งไปที่ห้องฉุกเฉินน่ะ?”“หมายความว่ายังไงที่บอกว่าฉันคงพอใจ?” ดวงตาของอีวอนน์เบิกกว้างด้วยความโกรธเพราะกระตุ้นด้วยคำพูดของเฮนรี่วิธีที่การที่เฮนรี่พูดออกมานั้นเหมือนกับว่าอีวอนน์ต้องการให้แจ็คเกอลีนตายไว ๆ “อีวอนน์ เฟรย์ ผมบอกคุณแล้วไม่ใช่รึยังไงว่าอย่าเปิดเผยอะไรเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเรากับแจ็คกี้?” เฮนรี่เหวี่ยงมืออีวอนน์ออกไปอีวอนน์ก้าวถอยหลัง เธอเอาหลังพิงกับกำแพงและคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด “แต่ฉันไม่ได้บอกอะไรเธอเลยนะ”“แล้วเรื่องสร้อยคอล่ะ? ใครบอกให้คุณสวมสร้อยเส้นนั้นออกมา?” เฮนรี่กัดริมฝีปาก อีวอนน์ตกตะลึงกับคำพูดของเฮนรี่ หลังจากผ่านไปชั่วครู่ เธอก็พลันกล่าวคำพูดออกมา “คุณกำลังว่าฉันงั้นเหรอ? เพียงเพราะคุณคอนราดเห็นฉันสวมสร้อยเส้นนี้ คุณก็โทษว่าฉันเป็นคนผลักเธอแล้วงั้นเหรอ?"เฮนรี่สูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่และไม่ตอบเธอ แต่คำตอบของเขาก็
อีวอนน์อ้าปากด้วยความประหลาดใจ “คุณ...”"หยุดพูดได้แล้วน่า!" เฮนรี่บีบมือเธอด้วยกำลังที่มี “เดี๋ยวผมจะไปกับคุณเอง ทำไมคุณถึงดื้อนักล่ะ? เรารีบไปกันก่อนเถอะ!"เฮนรี่ลากเธอออกจากห้องของแจ็คเกอลีนระหว่างทางขึ้นชั้นบน อีวอนน์คอยจ้องมองที่มือของเธอซึ่งอยู่ถูกเฮนรี่คว้าเอาไว้ หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็กลับมารู้สึกตัวอีกครั้งพร้อมกับเผยยิ้มออกมาถ้ามีเฮนรี่อยู่ตรงหน้า สนามรบเธอก็จะไม่กลัว นับประสาการผ่าตัดบริจาคไขกระดูกถึงกระนั้น เธอก็ยังเข้าใจความจริงที่ว่าเฮนรี่ยังคงมีความรู้สึกกับแจ็คเกอลีนอยู่ แต่ไม่ว่าอย่างไร อีวอนน์ก็เป็นเพียงคนเดียวที่เขาแต่งงานด้วย เนื่องจากเฮนรี่บอกแล้วว่าเขาจะไม่กลับไปคบกับแจ็คเกอลีน นั่นคือความมั่นใจทั้งหมดที่เธอต้องการตราบใดที่อีวอนน์สามารถอยู่เคียงข้างเขาได้ อีวอนน์เชื่อว่าท้ายที่สุดเฮนรี่จะเห็นเธออยู่ในสายตาสักวันหนึ่งแน่นอนระหว่างที่กำลังคิดเช่นนั้น อีวอนน์ก็เดินไปสวมชุดผ่าตัดและมานั่งลงบนเตียงผ่าตัด ภายใต้การดูแลของเฮนรี่ เธอถูกพยาบาลผลักเข้าไปในห้องผ่าตัดเชนอยู่เหนือศีรษะเธอ เขาสวมหน้ากากผ่าตัดอยู่ "คุณพร้อมไหม?"อีวอนน์สูดหายใจอย่างประหม่า “อ่า ฉั
“ไม่มีอะไรแล้วแหละครับ พักผ่อนเถอะ! เดี๋ยวผมไปดูอีกคนก่อน" เชนถอดหูฟังออกและกำลังจะจากไปแต่ทว่า จู่ ๆ แม่บ้านซูก็หยุดเขาไว้ “คุณหมอซัมเมอร์สคะ ถ้าขึ้นไปชั้นบน ได้โปรดอย่าลืมแจ้งคุณเฮนรี่ด้วยนะคะว่าภรรยาของเขาตื่นแล้ว ถ้าเขามีเวลามากพอที่จะดูแลคนอื่น ก็ช่วยบอกให้เขาลงมาเยี่ยมเธอด้วยนะคะ เขาควรจะรู้ว่าใครเป็นภรรยาตัวจริง" "แม่บ้านซูคะ!" อีวอนน์ไม่คิดเลยว่าแม่บ้านซูจะพูดอะไรแบบนั้นออกไป อีวอนน์รีบตะโกนเพื่อหยุดเธอ แต่ถึงกระนั้น แม่บ้านซูแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินเธอและพูดกับเชนต่อ “เขาไปดูแลผู้หญิงคนอื่นแทนภรรยาของตัวเองได้ยังไงกัน? ในฐานะเพื่อนของเขา คุณควรเตือนเขาบ้างนะคะ คุณหมอซัมเมอร์ส!”เชนประหลาดใจกับคำพูดของแม่บ้านซู เขาขมวดคิ้ว “คุณกำลังพูดเหมือนกับว่าเฮนรี่ไม่ได้เข้ามาเยี่ยมพี่สะใภ้เลยจนถึงตอนนี้อย่างนั้นแหละ" แม่บ้านซูบ่นอย่างไม่พอใจ “คุณผู้ชายสนใจผู้หญิงคนนั้นมากไปแล้ว เขาแทบจะลืมเรื่องคุณผู้หญิงไปแล้วมั้งคะ" ใบหน้าของเชนหม่นหมองลงไป “เข้าใจแล้วครับ ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวผมจะบอกเขาเอง!”เขาตบไหล่แม่บ้านซูและเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็วดูเหมือนว่าเฮนรี่จะไม่ได้เก็บคำพูดเตือน
นี่เป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับเฮนรี่มันเป็นปัจจัยที่ใหญ่ที่สุดในการตัดสินว่าตระกูลคอนราดสามารถขึ้นเรือลำเดียวไปกับตระกูลแลงคาสเตอร์ได้รึเปล่าเชนก็จ้องไปที่เฮนรี่เช่นเดียวกันอันที่จริง เชนก็ต้องการทราบคำตอบของเฮนรี่เหมือนกันเฮนรี่จ้องตาทั้งสองอย่างเฉยเมย เขาขยับริมฝีปากและกำลังจะพูดบางอย่าง แต่ทว่า กลับมีเงาร่างเล็กผุดขึ้นมาในจิตใจของเขา ความคิดนั้นยุ่งเหยิงมากเสียจนเขาคิดอะไรไม่ถูก มันก็รบกวนจิตใจเขาไม่น้อยใครกันนะ?“เฮนรี่?” โดมินิกอดไม่ได้ที่จะเรียกชื่ออีกครั้งทันทีที่เห็นเฮนรี่ก้มหน้าลง ดูเหมือนเขาจะจมอยู่ในความคิดของตัวเองแทนที่จะตอบคำถามเฮนรี่ขมวดคิ้วทันทีที่ถูกขัดจังหวะ เขากล่าวคำพูดออกมา "อะไรนะครับ?"“คำถามน่ะ คำถามที่ฉันถามไป...”“มันเป็นไปไม่ได้แล้วครับสำหรับเราทั้งสองคน” เฮนรี่ตอบคำถามทว่า คำตอบของเขาทำให้โดมินิกตกใจมากกว่าเดิมมันเป็นไปไม่ได้อีกต่อไปแล้ว?เฮนรี่หมายความว่าเขาจะไม่มีวันกลับมาคบกับแจ็คกี้อีกต่อไปแล้วแม้ว่าเขาจะยังมีความรู้สึกต่อเธออยู่งั้นเหรอ?ถ้าอย่างนั้น มันจะเกิดอะไรขึ้นกับตระกูลคอนราดที่กำลังอยู่ในช่วงตกต่ำกัน? หากตระกูลคอนราดไม่ได้รั
"หน้าคุ้น?" อีวอนน์ตกตะลึงโดมินิกยิ้มเศร้า ๆ “ใช่ คุณหน้าคล้ายกับใครคนหนึ่งที่ผมเคยรู้จักในอดีต ถ้าคนคนนั้นไม่ตาย ผมคงเข้าใจผิดคิดว่าคุณคือลูกสาวของเธอ...”โดมินิกรู้สึกประหลาดใจทันทีที่เดินเข้ามาผู้หญิงคนนี้มีความคล้ายคลึงกับแนนซี่จริง ๆดวงตาของเธอก็เหมือนกัน“เอ่อ... เธอคนนั้นเป็นใครเหรอคะ คุณคอนราด?” อีวอนน์กะพริบตาอย่างสงสัยและถามขึ้นเฮนรี่กัดริมฝีปากและจ้องมองโดมินิกอย่างจดจ่อ เห็นได้ชัดว่าเฮนรี่ก็อยากรู้คำตอบเช่นกันโดมินิกเพียงแค่ยักไหล่ “เธอคนนั้นเสียชีวิตไปเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้วน่ะ ช่างมันเถอะ มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะหยิบยกอดีตขึ้นมาพูดหรอก”“โอเคค่ะ ฉันเข้าใจ” อีวอนน์เข้าใจดี เธอสังเกตเห็นความเจ็บปวดที่ซ่อนอยู่ในดวงตาของชายตรงหน้า เธอมีลางสังหรณ์ว่าบุคคลนั้นน่าจะเป็นอดีตคนรักของเขาหรือไม่ก็เป็นญาติสนิทคนหนึ่ง“ตอนนี้ก็ดึกมากแล้วด้วย” โดมินิกมองดูนาฬิกา หลังจากนั้นเขาตบต้นขาแล้วลุกขึ้นยืน “ฉันควรไปได้แล้วสินะ เฮนรี่”“ได้สิครับ” เฮนรี่ตอบอย่างเย็นชาเมื่อเห็นว่าเฮนรี่ไม่ได้ตั้งใจจะลุกออกไป โดมินิกก็ถอนหายใจดูเหมือนว่าทุกอย่างระหว่างเฮนรี่กับแจ็คกี้จะจบลงแล้
อีวอนน์นึกขึ้นได้ว่าวันนี้เป็นวันที่สิบห้า วันนี้เป็นวันเงินเดือนออกโดยปกติแล้ว แม่ของอีวอนน์มักจะโทรหาเธอแต่เช้าเพื่อขอเงิน“ดิฉันไม่รู้เหมือนกันค่ะ” แม่บ้านซูส่ายหน้าหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งอีวอนน์ไม่อยากจะเชื่อเท่าไหร่ แม่ของเธอมักจะยุ่งแต่เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ อยู่เสมอ ดังนั้น มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่แม่จะไม่มาถามถึงเรื่องนี้เลย“โทรศัพท์ของฉันอยู่ไหน?” อีวอนน์หันศีรษะไปทางซ้ายและขวาพยายามมองหาโทรศัพท์ “นี่ค่ะ” แม่บ้านซูหยิบโทรศัพท์ของอีวอนน์ออกมาจากลิ้นชักโต๊ะข้างเตียงอีวอนน์ไม่สามารถลุกขึ้นได้ เธอทำได้เพียงแค่อยู่บนเตียงเท่านั้น โชคดีที่มือซ้ายของเธอยังใช้การได้ เธอยังเล่นโทรศัพท์ได้อยู่ แม้ว่าเธอจะรู้สึกเจ็บข้อมือเล็กน้อยเวลายกขึ้นมาก็ตามอีวอนน์ตรวจสอบประวัติการโทรซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอตกใจมากที่ไม่พบเบอร์ของแม่ตัวเองเลย“แปลกจังที่แม่ไม่โทรมาขอเงิน!" อีวอนน์ถือโทรศัพท์ด้วยมือสั่นคลอนแม่บ้านซูรับใช้เธอมาสามปีแล้ว เธอรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องครอบครัวของอีวอนน์ เธอหัวเราะออกมาทันทีที่ได้ยินคำพูดของอีวอนน์ “ดิฉันว่ามันดีแล้วนะคะ คุณผู้หญิงจะได้อยู่อย่างสงบ ๆ สักที" “มัน