Share

บทที่ 3 ทางผีผ่าน

หวังหงพูดเหมือนกับว่าฉันไปติดหนี้อะไรเขาไว้เลย

ฉันรู้สึกไม่สบายใจทันที พลันรีบไล่เขาออกไปให้เร็วที่สุด “ถ้าฉันไม่ใจดีแล้วนายมาหาฉันทำไม ไป ไป ไป นี่ฉันเห็นแกความเป็นเทพบุตรประจำโรงเรียนหรอกนะ ถึงให้นายเข้ามานั่งกินน้ำกินท่าแบบนี้ ไม่อย่างนั้น แม้แต้หน้าประตูหน้าบ้าน ฉันก็ไม่ให้นายเข้ามาหรอกนะ!”

“ป๋ายจิ๋ง ทำไมเธอกลายเป็นคนหยาบคายได้ขนาดนี้ล่ะ เธอฟังฉันนะป๋ายจิ้ง...”

หวังหงยังคงยืนอยู่ด้านนอกประตูเพื่อจะขอร้องฉัน เห็นแบบนั้นฉันจึงรีบปิดประตูอย่างเร็ว ฉันขี้เกียจที่จะฟังเขาพูดจาบังคับขู่เข็ญแล้ว

แต่จะว่าไปเรื่องของหวังหง คงเป็นหลิวหลงถิงที่เป็นคนชักใยอยู่เบื้องหลังแน่ ๆ ดูแล้วหลิวหลงถิงก็คงจะใส่ใจกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ถ้าหากว่าหลิวหลงถิงเกิดรู้เรื่องที่ฉันไล่หวังหงกับไป เขาจะลงโทษฉันไหมนะ

ตอนแรกฉันก็รู้สึกลังเลอยู่ในใจ แต่สุดท้ายฉันก็ตัดสินใจว่าจะไม่สนใจเขาแล้ว และไม่สนว่าเขาจะลงโทษฉันอย่างไร เขาก็ต้องมาขอร้องฉันเอง ตราบใดที่เขาไม่เอาลูกงูของเขาออกไปจากท้องของฉัน ฉันจะไม่ยอมเป็นร่างให้เขา แค่คิดถึงตอนที่จะต้องคลอดออกมา และวาดภาพงูที่ค่อย ๆ เลื้อยกันยั้วเยี้ยออกมาจากตัวฉัน แค่คิดก็รู้สึกขยะแขยงและน่าสะพรึงกลัวแล้ว

หวังหงยังคงยืนอยู่หน้าประตูและพยายามออกแรงเคาะประตู ส่วนฉันก็นอนเอนหลังอยู่บนโซฟา พลางดูละครต่ออย่างสบายอกสบายใจ ในขณะนั้นเองก็มีน้ำเสียงผู้ชายดังขึ้นมาจากข้างหลังฉัน “ เป็นไง ละครสนุกไหม?”

“ก็สนุกสิ”

หลังจากที่ฉันตอบไปอย่างไม่ได้ใส่ใจ จู่ ๆ ก็สังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติไป ร่างบางหันไปมองข้างหลังอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเห็นว่าหลิวหลงถิงกำลังพูดและวางมืออยู่บนพนักพิงโซฟา เขาแสยะยิ้มพร้อมจ้องมองตรงมาที่ฉัน

“ผั๊วะ!” เมื่อเสียงดังขึ้นทีวีก็ปิดลงโดยอัตโนมัติ ทำให้ฉันตกแทบช็อค ฉันมองไปที่หน้าจอทีวีสีดำสนิท และรีบเดินไปที่ทีวีแล้วพยายามกดสวิตช์เปิดปิด แต่ทีวีไม่การตอบสนอง ฉันหันไปดึงปลั๊กออกแล้วเสียบเข้าไปใหม่ก็ยังไม่มีการตอบสนอง! ขาเรียวเดินไปหาหลิวหลงถิง ไม่คิดเลยว่าเขาจะพังทีวีของฉันแบบนี้!

“ไป ไปเรียกหวังหงเข้ามา” หลิวหลงถิงออกคำสั่ง

เมื่อกี้ฉันพึ่งอารมณ์เสียกับหวังหงไป แล้วตอนนี้หลิวหลงถิงก็มาเผาทีวีของฉันอีก ตอนนี้ในใจมีคำพูดมากมายแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป ถ้าไม่ใช่เพราะฉันไม่ได้เก่งเท่าหลิวหลงถิง ป่านนี้ฉันก็คงไล่ผู้ชายคนนี้ออกไปแล้ว!

“ฉันไม่ทำ ถ้าท่านต้องการให้ฉันเป็นร่างทรงให้ ท่านก็ต้องเอาพวกงูน้อยในท้องของฉันออกไปก่อน ไม่งั้นฉันก็จะไม่ยอมเป็นร่างทรงให้กับท่าน”

เมื่อเห็นฉันพูดเช่นนี้ หลิวหลงถิงก็ไม่มีทีท่าว่าจะโกรธ แต่เขากลับเดินเลี่ยงมาทางโซฟาแล้วนั่งลงข้าง ๆ พร้อมรั้งตัวฉันเอาไว้ มือหนาจับแก้มฉันไว้มั่นแล้วออกแรงบีบให้มองหน้าเขา “แล้วเจ้าไม่กลัวข้าแล้วหรือ?”

ดวงตาเรียวยาวของหลิวหลงถิงอยู่ห่างจากฉันไม่ถึงยี่สิบเซนติเมตร เมื่อจ้องตาเขาใกล้ ๆ แบบนี้ ฉันกลัวว่าความถี่ในการเต้นของหัวใจมันจะเร่งเร็วขึ้น แต่ฉันก็ไม่สามารถที่จะยอมรับได้ง่าย ๆ “ไม่กลัว ขอเพียงแค่คุณเอางูที่อยู่ในท้องฉันออกมา ฉันจะเชิญหวังหงเข้ามาทันที”

พลันเสียงหัวเราะก็ดังขึ้น หลิวหลงถิงมองทั่วใบหน้าของฉัน ฉันประหม่าจนใจเต้นไม่เป็นจังหวะ แล้วไหนจะความเคลื่อนไหวบางอย่างในท้องของฉันอีก เขาเอ่ยปากว่า “ลูก ๆ แม่ของลูกบอกว่าพวกลูกไม่มีค่า เธอจะฆ่าลูกแล้ว พวกลูกพร้อมที่จะแสดงให้เธอเห็นหรือยัง?”

เหมือนว่าลูกงูในท้องของฉันที่ยังไม่โตจะได้ยินสิ่งที่เขาพูด ฉันอยากจะหัวเราะออกมา ทว่ากลับมีอะไรบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงในท้องของฉัน ฉันรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาเล็กน้อยตรงส่วนบนของหน้าท้อง ยังไม่ทันจะได้ลูบมัน ความเจ็บปวดก็แผ่ซ่านจากหน้าท้องไปทั่วตัว ดูเหมือนมีอะไรบางอย่างในท้องกำลังกัดอวัยวะภายในของฉัน ความเจ็บปวดที่แสนจะทรมาน ราวกับถูกมีดบาดนับไม่ถ้วน ในจังหวะนั้นฉันเจ็บจนตกลงจากโซฟา พร้อมจับท้องแล้วกลิ้งไปตามพื้น!

“ตอนนี้เจ้าจะยอมเป็นร่างทรงให้ข้าหรือไม่” หลิวหลงถิงเอนตัวลงบนโซฟา ตาคมมองฉันที่กลิ้งไปกลิ้งมาบนพื้น ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยร้อยยิ้มสะใจ

“ไม่…” ฉันพยายามตอบหลิวหลงถิง

หลิวหลงถิงไม่ได้พูดอะไร แต่ความเจ็บปวดที่ท้องของฉันมันหนักกว่าเมื่อครู่มาก ความเจ็บปวดแบบนี้เป็นความเจ็บปวดที่ปวดเข้าไปยันกระดูก แม้แต่ความตายก็ยังง่ายกว่านี้เป็นร้อยเท่า!

ฉันตะโกนเหมือนคนบ้าคลั่งอยู่บนพื้น สุดท้ายฉันก็ทนความเจ็บปวดไม่ไหว ร่าบางคลานไปหาหลิวหลงถิง พร้อมใช้มือทั้งสองกอดขาของเขาไว้แน่น แล้วพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า “ท่านบอกให้พวกมันหยุดลงเถอะ ฉันยอมเป็นร่างทรงแล้ว ฉันจะยอมทำตามทุกอย่างเลย”

“จริงเหรอ ต่อไปเจ้าจะไม่สร้างปัญหาอีกแล้วใช่มั้ย?” หลิวหลงถิงถามฉันกลับ

ฉันพยักหน้าอย่างรวดเร็ว แล้วตอบว่าฉันจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว ฉันจะฟังเขาทุกอย่าง

ได้ยินแบบนั้น หลิวหลงถิงถึงได้ยอมพักยก พลันความเจ็บปวดที่ท้องก็ค่อย ๆ หายไป หลิวหลงถิงยื่นมือมาประคองฉันลุกขึ้นจากพื้น เขายื่นมือมาลูบผมฉันให้เรียบ เหมือนกำลังปลอบโยน แต่คำพูดของเขานั้นทำเอาฉันขนลุกขนพองทันที “เจ้าเจ็บจนหน้าซีดไปหมดแล้ว ถ้ารู้แต่แรกแล้ว เมื่อกี้เจ้าน่าจะเชื่อฟังข้าดี ๆ จะได้ไม่ต้องทนเจ็บขนาดนี้ เจ้ารีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ พวกเราต้องออกไปบ้านแม่สามีของหวังหงตอนนี้เลย”

ฮึก ทำเป็นมาแสร้งเห็นใจ ตอนนี้ฉันไม่อยากคุยกับหลิวหลงถิงเกินความเป็นแล้ว มือบางกุมท้องแน่นแล้วกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้อง

ทว่าตอนที่จะออกจากบ้าน หลิวหลงถิงก็ประทับอยู่ในร่างฉันแล้ว

เมื่อครู่หวังหงพึ่งจะได้เห็นฉันดุใส่เขา แต่ตอนนี้นิสัยของฉันกลับตาลปัตรโดยอัตโนมัติ สีหน้าของเขาดีขึ้นกว่าเดิม และบอกว่าเขาไม่ได้ตั้งใจมาเชิญฉันไปบ้านเพื่อนดูแคลนเรื่องภรรยา แต่ถึงอย่างไรเขาจะต้องดูแลภรรยาของตนให้ดีที่สุด ส่วนเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาอย่างแน่นอน

ถ้าไม่ใช่เพราะหลิวหลงถิงบังคับฉันให้มา ฉันก็จะไม่ได้สนใจเรื่องเงินเล็กน้อยของเขาเลย ฉันตอบหวังหงอย่างส่ง ๆ สักสองสามคำ แล้วขึ้นรถไปที่บ้านแม่ยายกับเขา

บ้านแม่ยายหวังหงอยู่ในเขตชุมชน ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านฉันก็ไม่น่าจะไม่เกินหนึ่งชั่วโมงโดยประมาณ มันก็ไม่ได้ไกลกันมาก ชุมชนเล็กนี่อายุแค่ไม่กี่ปีแต่ก็ไม่เก่ามาก แถมยังตั้งอยู่ใจกลางอำเภอ เขาซื้อบ้านมือสองที่นี่โดยใช้เงินเพียงสองแสนหยวน หวังหงนี่ช่างจะโชคดีอะไรขนาดนี้

เมื่อหวังหงพาฉันเข้ามาในบ้านของแม่ยาย ทันทีที่เดินเข้าประตูไป ก็ได้กลิ่นเหม็นอับตีเข้าที่หน้าอย่างจัง พื้นที่บ้านโดยรวมถือว่าใหญ่มาก แต่ต่ำแหน่งทิศทางไม่ค่อยดีหนัก ทั้ง ๆ ที่ตอนนี้กลางวันแสก ๆ แต่ในห้องกลับอึมครึมมาก ราวกับกำลังกลั้นหายใจเฮือกใหญ่เอาไว้ แบบนั้นจะทำให้คนที่อยู่รู้สึกไม่สบายได้ง่าย

ฉันกล่าวทักทายสวัสดีกับแม่ยายที่ดูสุขภาพไม่ค่อยดี จากนั้นหวังหงก็พาฉันไปที่หน้าประตูห้องของภรรยา เขาชี้ไปยังผู้หญิงคนหนึ่งที่เหมือนกับกำลังกินอะไรอยู่ในห้องคนเดียว พลันเอ่ย “นี่คือภรรยาของฉัน หลี่จวน ที่ตอนนี้อยู่ ๆ ก็เกิดอาการบ้าคลั่งขึ้นมา”

ฉันก็พึ่งเห็นร่างทรงมาเมื่อวานนี้ เมื่อมองดูภรรยาของหวังหง ก็ไม่พบว่ามีอะไรผิดปกติเลยแม้แต่นิด เธอนั่งตัวตรงอยู่บนเตียงคนเดียว ดูเผิน ๆ ก็เหมือนเธอกำลังนั่งกินข้าวอย่างใจลอย แต่แผ่นหลังของเธอบดบังสายตาเรา ฉันจึงไม่รู้ว่าเธอกำลังกินอะไรอยู่

“เป็นอย่างไรบ้างแม่หมอป๋าย เธอเห็นอะไรบ้างไหม? ห้องนี้มีสิ่งแปลกปลอมใช่หรือเปล่า?” หวังหงถามฉัน

หากไม่มีหลิวหลงถิงฉันก็เป็นแค่คนสามัญธรรมดา ฉันจะไปมองเห็นอะไรได้ล่ะ ร่างบางกำลังเตรียมจะตอบเจ้าของบ้าน ทว่ากลับมีบางอย่างที่เย็นวาบสัมผัสเข้ากับขาใต้กระโปรงของฉัน ฉันตกตะลึงนิ่งค้างไปทั้งตัว มันเหมือนกับวันที่ป้าอิงถูกหลิวหลงถิงประทับร่าง ฉันไม่สามารถขยับตัวได้เลย และรู้สึกแค่ว่าเหมือนมีพลังมหาศาลกำลังควบคุมร่างกายของฉันอยู่!

“ฉันเห็นแล้วล่ะ บ้านหลังนี้ตั้งขวางทางผีผ่านอยู่”

ปากของฉันพูดตามสิ่งที่หลิวหลงถิงคิดอย่างรวดเร็ว ฉันกำลังถูกหลิวหลงถิงสิงร่างอยู่!

ในขณะที่หลิวหลงถิงพูดเช่นนี้ เขาก็เงยหน้าขึ้นมองเข้าไปในห้อง เมื่อครู่ฉันยังไม่เห็นอะไรเลย แต่พอตอนนี้หลิวหลงถิงเป็นเจ้าของร่างของฉันแล้ว จากห้องที่สะอาด ๆ กลับกลายเป็นห้องที่สกปรก และลักษณะการจัดว่างของในห้องก็เปลี่ยนไป เหมือนกับว่าเป็นถนนเส้นหนึ่งที่มีขยะ ถุงพลาสติก และพวกซากตับไตไส้พุงต่าง ๆ ของสัตว์เน่าเปื่อยทั่วทั้งถนนสายนี้!

หลี่จวนนั่งบนเตียงโดยไม่รู้ตัวว่าเธอเต็มไปด้วยเงาดำของเด็กสองสามคน และที่ด้านหน้าของเธอดูเหมือนจะยังมีผู้หญิงอีกคนนั่งอยู่ หล่อนมีลักษณอ้วนท้วม พุงใหญ่ ๆ แต่งกายในชุดของราชวงศ์ชิงนั่นขยับไปมาอยู่ข้างเธอ หลี่จวนปิดบังใบหน้าของหล่อนเอาไว้ ฉันมองเห็นเพียงแค่ว่าเธอกำลังหวีผมอันเงางามดูมีน้ำหนักของหล่อนอยู่

“มีทางเดินอีกตั้งมากมาย เดินทางใครทางมัน พวกเจ้าไม่ยอมที่จะกลับไปเกิดใหม่ดี ๆ แต่เลือกอยู่ที่นี่เพื่อทำร้ายโลกมนุษย์ หรือจะต้องให้ข้าเตือนพวกเจ้าดีล่ะ!” หลิวหลงถิงสีหน้าเคร่งขรึมและตวาดใส่สิ่งชั่วร้ายที่อยู่ในบ้าน

ถึงอย่างไรหลิวหลงถิงก็เป็นเทพ เมื่อได้ยินเสียงตะโกนของหลิวหลงถิง พวกมันก็ตื่นกลัวมากจนกรีดร้องและหายเข้าไปในกำแพง ทว่าผู้หญิงที่นั่งตรงข้ามหลี่จวนกลับเอื้อมมือไปกดไหล่ของหลี่จวนไว้ หล่อนหันมาพร้อมกับใบหน้าเน่าเละจนไม่สามารถแยกแยะอวัยวะบนใบหน้าได้เลย และจ้องมาที่ฉันอย่างเอาเป็นเอาตาย
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
KingKaew Sueanoi
มันน่าให้งูแดกนะ นิสัยงี้ อุตส่ารับปากเจาไว้. เขาบอกขนาดนั้นยังไม่รู้ตัว
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status