“ท่านพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร? ท่านจะกินเลือดกินเนื้อของฉัน หรือว่าจะไปเข้าห้องหอกับฉัน?” ฉันถามชายหนุ่มก็คงเพราะได้รับอิทธิพลจากนิยายท่านประธานจอมเผด็จการไร้ยางอายเหล่านั้น ดังนั้นพูดกำกวมที่ว่า ข้าอยากกินเจ้า จึงมักจะทำให้คนอื่นคิดเลยเถิดกันไปใหญ่คงน่าจะเพราะคำถามของฉันมันดูตลก ชายคนนั้นวางมือที่ยกส้มขึ้นลง แล้วถามฉันด้วยความสนใจว่า “นี่เจ้าไม่กลัวข้าเลยหรอ? แม้แต่ร้องไห้ก็ยังไม่ร้องเลย”ฉันกลัวสิ! ฉันกลัวจนแทบอยากจะวิ่งลงจากภูเขาไปเสียตอนนี้เลย ใครจะไปอยากอยู่กับเทพที่ดูแปลก ๆ แบบนี้กัน ถ้าเขาต้องการจะฆ่าฉันล่ะก็ มันก็ทำได้ง่าย ๆ เหมือนบี้มดตัวหนึ่งเลยนะ แต่ฉันจะแสดงออกไปไม่ได้ว่าฉันกลัวเขามาก ถึงอย่างไรอีกสักครู่ฉันก็จะหลอกให้เขากินยาลูกกลอนลงไปอยู่แล้ว จึงพูดกับเทพขุนเขาไปว่า “เพราะท่านช่างหน้าตาดีขนาดนี้ ใครจะไปกลัวคนที่หน้าตาดีกันล่ะคะ?”จู่ ๆ ชายคนนั้นก็หัวเราะขึ้นมา พลางยื่นส้มในมือส่งให้ฉัน ดูเหมือนว่าเขาจะอารมณ์ดีมาก เขาเดินมานั่งที่เก้าอี้ข้าง ๆ ฉัน พลันเอ่ย “น่าสนใจดีนะ ไหนบอกมาสิว่าข้าดูดีที่ตรงไหน?”ถ้าไม่ใช่ว่าฉันถูกขังอยู่ในวัดบนภูเขาแห่งนี้ หรือถ้าคนตรงหน้าไ
หรือว่าจิตวิญญาณของเทพเจ้าแห่งขุนเขามาประทับอยู่ในร่างฉันแล้ว?แต่ฉันก็รู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้ ถึงอย่างไรถ้าเขามาประทับอยู่ในร่างของฉัน หลิวหลงถิงก็ต้องสังเกตเห็นมันได้สิหลังจากที่งูหลายร้อยตัวกินเลือดกินเนื้อของเทพแห่งขุนเขาจนหมดแล้ว พวกมันก็ค่อย ๆ กลายเป็นควันและหายไปต่อหน้าต่อตาเราทันใดนั้นนอกเหนือจากคราบเลือดบนพื้นแล้ว ทุกอย่างภายในวิหารก็เงียบสงบลง มันเงียบจนได้ยินเสียงลมหายใจของเราทั้งสองคน“อะแฮ่ม...!”ฉันใช้เสียงกระแอมในลำคอเพื่อดึงความสนใจจากหลิวหลงถิง และเตือนให้เขาไม่อย่าลืมว่าฉันยังติดอยู่ในสภาพนี่นะหลิวหลงถิงได้ยินเสียงของฉันก็หันกลับมองทันที เมื่อเห็นว่าฉันเอนตัวอยู่บนเก้าอี้ไม่สามารถพูดได้ แถมร่างกายก็ขยับไม่ได้ด้วย เขาก้เอ่ยถาม “ทำไมล่ะ เจ้าก็กินยาเม็ดนั้นด้วยหรือ?”มันก็ปกติไม่ใช่เหรอ? ถ้าฉันไม่กินยาเม็ดนั้นเข้าไป เขาจะมีโอกาสโจมตีเทพแห่งขุนเขาได้ยังไงล่ะ?แต่ในตอนนี้ฉันยังพูดไม่ได้อีก จึงได้แต่ใช้แรงส่งเสียงสะอื้นหนัก ๆ สองสามครั้ง เพื่อขอให้เขาช่วยฉันหาทางกลับสู่สภาพเดิมหลิวหลงถิงเข้าใจสิ่งที่ฉันหมายถึง ทันใดนั้นเขาเดินมาหาฉันและมองมาที่ฉันอย่างพินิจพิเ
ฉันยังเรียนไม่จบมหาลัยเลยนะ ไปให้ไปนัดบอดได้ยังไง? ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะมีข้าราชการสักกี่คนที่ยังโสดอยู่ ต่อให้ในสมัยนี้ยังมีคนหนุ่มสาวที่เชื่อในโชคลาภ แต่มันก็หาเจอยากมาก หรือว่าฉันคงต้องไปหาลุงวัยสามสิบสี่สิบปีแล้วแต่งงานกับเขาแทน?ความคิดนี้ช่างไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงเลย แต่ไม่มีวิธีไหนที่ดีไปกว่านี้แล้ว ฉันจึงถามแม่หมออิงว่ามีอะไรบ้างที่จะให้ฉันทำต่อ?เมื่อเห็นว่าฉันมีความตั้งใจอยากจะจัดการงานให้เธอ แม่หมออิงก็รีบก้มไปหากระดาษข้อมูลติดต่อสองสามใบในลิ้นชักโต๊ะข้างเตียง แล้วบอกว่านี่เป็นสองสามบริษัทนี้ค่อนข้างเร่งด่วน แล้วก็ยังมีใบรายการส่งมาเมื่อเดือนที่แล้ว เธอไม่สะดวกออกไปข้างนอกจึงทำได้เพียงรบกวนฉันแทนเท่านั้นฉันพับข้อมูลเบอร์โทรศัพท์สองสามเบอร์ไว้ในมือ แต่ยังไม่ทันจะถามแม่หมออิงว่าเกิดอะไรขึ้นกับสิ่งเหล่านี้ ที่ด้านนอกก็มีคนร้องเรียกหาแม่หมอเสียงดัง ส่วนแม่หมออิงก็ใช้เสียงโทนต่ำด่าด้วยท่าทีรำคาญ เธอไม่มีเวลาคุยกับฉันอย่างละเอียด แต่บอกให้ฉันโทรไปหาพวกเขาเหล่านั้นแล้วบอกว่าเธอเป็นคนที่ฉันส่งมา และตอนท้ายยังมอบงานให้ฉันอีกสองสามเรื่อง ซึ่งล้วนแต่เป็นเรื่องที่เร่งด่วนมาก แล
เมื่อเริ่มจะเข้าใจเรื่องราวคร่าว ๆ แล้ว หลังจากที่ฉันวางสายไปก็ได้สอบถามหลิวหลงถิงว่าพวกเราจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร เพราะท้ายที่สุดแล้วงูก็เป็นสัตว์ประเภทเดียวกันกับหลิวหลงถิงหลังจากที่หลิวหลงถิงฟังคำพูดของหม่าเจี้ยนกั๋วจบ สีหน้าของเขากลับไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ บอกฉันว่าจะไปจัดการกับพวกนั้น และไม่จำเป็นต้องเตรียมอะไรไปเลย เราสามารถเดินทางไปที่นั่นได้ทันทีที่พร้อมบ้านของหม่าเจี้ยนกั๋วห่างจากบ้านฉันมาก บ้านของเขาอยู่ที่เถียหลิง ฉันยังไม่ได้มีรถส่วนตัวจึงทำได้แค่จองตั๋วรถไฟเท่านั้น มันใช้เวลาห้าถึงหกชั่วโมงเลยนะ!ตอนแรกฉันคิดว่าตัวเองจะต้องทนทุกข์อยู่รถเพียงลำพัง ก็เลยไม่อยากออกไปไหนแล้ว ทว่าหลิวหลงถิงกลับบอกให้ฉันเตรียมกระเป๋าเดินทางให้เขาด้วย แล้วเขาก็จะขึ้นรถไปกับฉันเองนี่มันน่าอึดอัดเสียจริง แต่ฉันกลับไม่รู้สึกรังเกียจที่เขาจะไปกับฉันเลย แต่ทำไมเขาถึงอยากนั่งคันเดียวกันกับฉันด้วยล่ะ ตลอดทางฉันไม่มีอะไรจะพูดกับหลิวหลงถิง พวกเราสองคนนั่งด้วยกันเงียบ ๆ แบบนั้นไปจนสุดทางเพราะในเมื่อหลิวหลงถิงพูดออกมาแบบนี้แล้ว ฉันก็จะทำตามสิ่งที่เขาต้องการและนั่งรถไปพร้อมกันกับเขาและเนื่องจากมีเพ
ร่างน้อยชะงักไปครู่หนึ่ง ท่าทางเช่นนี้ช่างน่าอายจริง ๆ ขณะเดียวกันก็ผลักหลิวหลงถิงออก แล้วถามเขาว่า “อะไร ได้กลิ่นอะไร? นายรีบปล่อยฉันออกไปเดี๋ยวนี้นะ”“กลิ่นอะไร? ก็กลิ่นคาวของงูไง? หรือเธอรังเกียจที่ฉันมีกลิ่นคาวงูกันแน่?” เมื่อหลิวหลงถิงพูดอย่างนั้นแล้ว ฉันก็พยายามผลักเขาออก ทว่าเขาดันเอื้อมมือมาจับที่ขาของฉันและยกขึ้นอย่างรวดเร็วน้ำจากฝักบัวที่โปรยลงราวกับฝนตกหนักบนศรีษะของฉันกับหลิวหลงถิง ทำให้ผ้าขนหนูของฉันเปียกชุ่มไปด้วยน้ำร้อนที่จริงก็อยากจะโกรธตานั่นอยู่หรอก ทำแบบนี้มันหมายความว่าอย่างไร? เขาจงใจทำให้ฉันเปียกเหมือนไก่ตกน้ำ แต่เมื่อฉันเงยหน้าขึ้นมองเขา กลับเห็นไอน้ำที่ปกคลุมใบหน้าอันมีสเน่ห์ อีกทั้งผมดกดำที่เปียกน้ำจนทำให้เห็นจอนเล็ก ๆ ข้างหนึ่ง เขาจ้องมองฉันด้วยสายตาที่แพรวพราว ช่างเย้ายวนใจเหลือเกินฉันกลืนน้ำลายไปอึกหนึ่ง และไม่กล้าจะมองไปที่ดวงตาอันมีสเน่ห์พร้อมกับผมที่เปียกปอนของหลิวหลงถิง ฉันรีบเบือนหน้าหนีและพูดกับเขาว่า “ตัวนายไม่คาวแล้ว ไม่มีอะไรน่ารังเกียจ” “ถ้าไม่รังเกียจล่ะก็ งั้นฉันจูบนะ”เมื่อหลิวหลงถิงพูดเช่นนั้นแล้ว เขาก็ก้มหัวลงและประกบลงที่ริมฝีปากขอ
ทันทีที่เสียงหายไป เงาขาวคลุมเครือก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของฉัน เงาร่างนั่นใช้มือง้างปากหญิงสาวที่เขมือบหัวฉันไปเกือบครึ่งหัวแล้วบอกให้ฉันหลบไปฉันไม่แทบรู้จะร้องเรียกใครเพื่อช่วยเหลือกันในยามขับขันได้เช่นนี้ แต่เมื่อฉันหันไปพบหน้าเขา คนที่อยู่ตรงหน้ากลับเป็นซานเซินเทพเจ้าแห่งขุนเขา!เขายังไม่ตายหรอ? ทำไมยังมีชีวิตอยู่!เมื่อเห็นเทพแห่งขุนเขาในช่วงหน้าสิวหน้าขวานเช่นนี้ ฉันรู้สึกราวกับว่าเพิ่งออกจากปากเสือแล้วตกลงไปในถ้ำหมาป่า อีกทั้งตอนนี้เขาดูโทรมไปมาก ชุดคลุมอันตระการตาที่เคยประดับบนตัวเขาก็ไม่มีแล้ว สวมเพียงแค่เสื้อขาวขาดรุ้งริ้งตัวเปื้อนเลือด ผมกระเซอะกระเซิง ถ้าไม่ใช่เพราะใบหน้าอันงดงาม เขาก็ดูเหมือนนักโทษสมัยโบราณที่ซอมซ่อสุด ๆไม่กี่วันก่อนที่ร่างของเขาถูกทำลาย ก็เพราะแผนของฉันกับหลิวหลงถิง ตอนนี้เขายังมีชีวิตอยู่ มันจบแล้ว อีกไม่นานฉันจะต้องดับอย่างอนาถ โคตรอยากหนีไปจริง ๆ! ศรีษะหญิงสาวถูกซานเซินจับไว้แน่น หางสีดำตะหวัดถังน้ำข้างหลังยกขึ้นและกำลังกวาดหางมาที่ฉันกับซานเซิน ซานเซินกดฉันลงเพื่อให้หลบซ่อนตัว หางอันใหญ่สีดำพัดลมแรงเหนือศรีษะพร้อมทั้งเปล่งเสียงคำราม“ยังไม่รีบไปช่
“ก็ใช่สิ! ทำไมเหรอ?”เมื่อฉันเปล่งประโยคนี้ออกมาจากปาก ก็เหลือบไปมองหลิวหลงถิงที่หน้าตาเรียบเฉย มันทำให้ฉันรู้สึกกังวน ถ้าหลิวหลงถิงสังเกตเห็นอะไรบางอย่างและรู้ว่าฉันรับข้อตกลงกับเทพแห่งขุนเขาที่จะกำจัดเขา และถ้าเทพแห่งขุนเขาตายฉันก็ต้องตาย ใครกันจะเมตตาคนที่หมายจะเอาชีวิตตัวเองในเวลานี้ ฉันรู้สึกเสียใจกับข้อตกลงที่ให้ไว้กับเทพแห่งขุนเขา อันที่จริงการได้อยู่กับหลิวหลงถิง แม้ว่าจะหนื่อยไม่ค่อยสะดวกสบายแต่ก็รู้สึกดี และแม้ว่าเขาจะบังคับให้ฉันทำเรื่องอย่างว่า ฉันก็ยังพอใจกับมัน แล้วทำไมฉันต้องฆ่าเขาด้วยล่ะ? “เขาเจอฉัน” เอ่ยปากตอบหลิวหลงถิง“เธอไม่มีอิทธิฤทธิ์ ทำไมถึงจัดการกับเขาได้?” หลิวหลงถิงถามกลับถึงตอนนี้ ถ้าฉันสารภาพผิดไปก็ไม่ดี ไม่สารภาพไปก็ไม่ดี ฉันครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงตอบกลับเขาไปว่า “ฉันไม่ได้จัดการเขาเอง มีคนหนึ่งมาช่วยฉันไว้ เขาบอกให้ฉางชุยหงกลับไปช่วยสามีตัวเอง จากนั้นเขาก็จากไป”ฉันคิดในใจว่าหลิวหลงถิงต้องถามฉันแน่ ๆ แต่แล้วหลิวหลงถิงก็ไม่ได้ถามว่าคนที่ช่วยฉันคือใคร? กลับบอกให้ฉันโทรหาแม่หมออิงว่าเรื่องนี้จบแล้ว ให้เขาเก็บรายงานไว้เอง และเมื่อกลับถึงบ้านเขาจะสอ
ฉันเหลือบมองยันต์บนโต๊ะที่เขียนออกมาเหมือนไก่เขี่ย ฉันไม่อยากเชื่อว่ายันต์ผีนี้จะสามารถช่วยฉันได้ อันที่จริงก็อยากจะขอให้หลิวหลงถิงอยู่ช่วยฉันเรื่องนี้ก่อนแล้วค่อยไป แต่แล้วยังไม่ทันได้พูดอะไรสักคำ มือที่จับใบหน้าฉันอยู่จู่ ๆ ก็บีบแรงขึ้น มันทำให้ฉันปวดร้าวมาถึงแก้ม“คราวนี้ฉันไม่อยู่บ้าน ถ้าเธอกล้าทำอะไรไม่ดีกับลูกของเรา ระวังครอบครัวเธอจะถึงแก่ชีวิต”นี่เขากำลังเตือนฉันหรอ?เมื่อกี้ที่ตานั่นพยายามจะทำให้ฉันพอใจ ฉันคิดว่าเขาสนใจฉันหรือไม่ก็ชอบฉัน ไม่น่าเชื่อว่าฉันจะคิดผิด ที่หลิวหลงถิงดีกับฉันทำให้ฉันพอใจ เพียงเพราะต้องการให้ลูกงูในท้องของฉันปลอดภัยเท่านั้น!โธ่เอ้ย ฉันเปล่งเสียงสบถออกมา ฉันเอื้อมไปปัดมือตานั่นที่จับหน้าฉันออก “นายมันน่ารำคาญ ทางที่ดีอวยพรให้ฉันไม่โดนสิ่งนั้นกินจะดีกว่า ถ้าฉันตาย ลูกของนายก็ต้องตาย!”เมื่อตานั่นได้ยินที่ฉันสบท ร่างสูงก็มีท่าทางที่เหมือนคิดอะไรบางอย่าง พลันก้มลงหัวเราะเบา ๆ ที่ข้างหู “ฉันไม่ยอมให้เธอตายหรอก ไม่ต้องกังวล ถ้ามันอันตรายจริง ๆ ฉันจะส่งคนไปช่วยเธอ”ฉันอยากจะบ้าตายจริง ๆ แล้วก็อยากจะตะโกนใส่เขาว่าตกลงคิดกับฉันอย่างไรกันแน่? อยากใช้ก็ใช้