Share

บทที่ 6 กินคน

ฉันไม่อยากเชื่อหูตัวเองเลยจริง ๆ! คาดไม่ถึงหลิวหลงถิงจะให้ฉันถวายตัวเป็นเครื่องเซ้นไหว้แด่เทพเจ้าแห่งขุนเขา!

“ไม่ใช่ว่าการเซ้นไหว้เทพเจ้าแห่งขุนเขานี้จะต้องใช้เด็กผู้หญิงอายุสิบสามปีเต็มหรือ? ฉันเป็นผู้ใหญ่แล้วนะ และก็คงไม่เข้าตาเทพแห่งขุนเขาหรอก” ฉันพูดกับหลิวหลงถิง

“ทำได้แน่นอน ต่อให้เจ้าจะมีชีวิตอยู่มาหลายร้อยหลายพันปีแล้วก็ตาม มันก็เป็นแค่การประมาณอายุคร่าว ๆ เท่านั้น อายุสิบสามและยี่สิบปี หน้าตาไม่ต่างกันเลย แต่สิ่งที่ทำให้แบ่งแยกได้ก็คือลักษณะทางกายภาพของพวกเขา เด็กที่อายุต่ำกว่าสิบสามจะมีร่างกายที่เรียบเนียนเกลี้ยงเกลา เพียงแค่เจ้าต้องโกนขนที่อยู่ใต้คอลงไปของเจ้าให้หมด และแต่งตัวเหมือนเด็กผู้หญิง แบบนั้นถึงจะปลอมได้เหมือนจริง”

ขนที่ขึ้นใต้คอลงไป นอกจากรักแร้แล้วก็ไม่ใช่ว่ามีที่ตรงนั้นอีกหรือ หลิวหลงถิงชายร่างใหญ่ยืนอยู่ข้างหน้าและพูดสิ่งเหล่านี้กับฉันหน้าตาเฉย ทำให้ฉันกลืนไม่เข้าคายไม่ออกขึ้นมาทันที

“นอกจากนี้วิธีนี้แล้ว ยังมีวิธีอื่นอีกหรือไม่?” ฉันถามหลิวหลงถิงอย่างเก้อเขิน

หลิวหลงถิงคงคาดเดาได้ว่าในใจฉันกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ก็ไม่ยอมลดราวาศอกให้ฉันเลย “ก็มีวิธีนี้ที่เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด หรือถ้าเจ้าไม่เต็มใจล่ะก็ พรุ่งนี้เช้าเราก็กลับกันเลยก็ได้ เพราะยังไงเราก็ไม่ขาดเหลืออะไรกับอิแค่ธุรกิจนี้ธุรกิจเดียว”

แบบนั้นไม่ได้นะ ฉันมาถึงเขาที่มีปัญหาแล้วกับย่าหลี่แล้ว ถ้าจู่ ๆ ฉันเปลี่ยนใจ หญิงสูงวัยอย่างท่านจะผิดหวังในตัวฉันมากแค่ไหน อีกอย่างก็จะต้องคร่าชีวิตหญิงสาวไร้เดียงสาไปอีกคนหนึ่งด้วย

ช่างมันเถอะ ก็แค่โกนขนใช่ไหม? ก็ไม่ใช่ว่าจะไปตายสักหน่อย ฉันก็แค่โกนขนเอง

ฉันตอบตกลงหลิวหลงถิง และย่าหลี่ก็ไปหามีดโกนในหมู่บ้านมาให้ฉัน อย่างไรก็ตามไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน หลังจากที่หาเกือบทั้งคืน ฉันพบเพียงมีดเล่มหนึ่งที่ชาวบ้านเคยใช้โกนขนหมูตายในช่วงวันหยุดปีใหม่เท่านั้น

ฉันมองดูมีดโกนเล่มนี้ที่ไม่มีต่างอะไรกับมีดปอกผลไม้บ้านเรา ตอนนี้ฉันไม่สามารถบรรยายความรู้สึกของฉันได้เลยจริง ๆ ใบมีดใหญ่ขนาดนี้ ฉันจะโกนได้อย่างไร?

แต่ไม่อยากโกนก็ต้องโกน และถ้าจะโกนก็ต้องโกนให้เสร็จ ตาคมมองมีดโกนเล่มนี้ ถึงจะเป็นมีดโกนที่เคยใช้โกนขนหมู แต่มันก็ถูกฝนจนคมมากอยู่ ช่างมันเถอะ ถู ๆ ไถ ๆ ใช้มันอย่างระมัดระวังก็แล้วกัน และหลิวหลงถิงก็เรียกฉันไปสั่งงานต่อ เนื่องจากพิธีเซ้นไหว้จะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้แล้ว

พิธีการเซ้นไหว้ของหมู่บ้านฉีผานจัดขึ้นอย่างเป็นทางการมาก ไม่เพียงแต่มีเทศกาลประจำปีเพื่อบูชาเทพเจ้าแห่งขุนเขาเท่านั้น แต่บนยอดเขาซึ่งอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านก็มีการสร้างวัดอยู่หลายแห่ง ทุกวัดมีความวิจิตรงดงามมากกว่าบ้านคนในหมู่บ้านเสียอีก ด้านในฝังด้วยทองและเงินที่แกะสลักเป็นรูปปี่เซียะ รวมทั้งภาพวาดหงส์ที่แสนงดงาม ซึ่งพิธีไหว้บรรพบุรุษที่ทุก ๆ สิบปีจะจัดขึ้นหนึ่งครั้งก็ได้จัดขึ้นในวัดบนภูเขาเหล่านี้เช่นกัน เมื่อทำพิธีเสร็จตัวแทนก็จะพาหญิงสาวที่เตรียมไว้เพื่อเซ้นไหว้ไปขังไว้ในวัดบนภูเขา กระดูกเดิมจะถูกนำออกและใส่เด็กสาวคนใหม่เข้าไป เพื่อเตรียมให้เทพแห่งขุนเขาได้เสพสุขอย่างเพลิดเพลิน จนกว่าจะถึงการสังเวยในครั้งต่อไป

หลังจากเข้าใจขั้นตอนทั้งหมดแล้ว ไม่รู้ว่าหลิวหลงถิงไปควานหาเม็ดกัญชาจากที่ไหนมาได้ เขายื่นมันให้ฉันแล้วบอกว่า “ข้าไม่ใช่เทพที่มาจากเขาในบริเวณนี้ เพื่อไม่ทำให้เทพแห่งขุนเขาเกิดความสงสัยขึ้นมา ข้าจึงไม่สามารถขึ้นเขาไปพร้อมกับเจ้าได้ ส่วนเม็ดกัญชาเม็ดนี้ รอให้เจ้าพบกับเทพแห่งขุนเขาก่อน ถ้าเกิดว่าเขาจะทำร้ายเจ้า เจ้าก็หลอกให้เขากินมันให้ได้ ซึ่งมันมีผลสามารถทำให้เขาสลบได้ เพื่อถ่วงเวลาไว้สักพักและรอให้ข้าขึ้นไปช่วยเจ้า”

ฉันถือเม็ดกัญชาก้อนขนาดเท่าลูกปิงปองขึ้นมา ในใจก็พลางคิดไปว่ามันใหญ่มากขนาดนี้ และมันยังดูดำ ๆ ต่อให้เงินเสนอเงินฉันฟรี ๆ สองสามร้อย ฉันก็ยังไม่อยากจะกิน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเทพแห่งขุนเขาเลยใช่ไหมล่ะ? ดังนั้นฉันจึงถามหลิวหลงถิงว่า “แล้วถ้าฉันหลอกให้เขากินไม่ได้ ฉันควรทำยังไง ฉันจะตายไหม?”

“มันก็ไม่ถึงกับตายหรอก แต่เจ้าก็ต้องเข้าหอกับเขาและเป็นภรรยาของเทพเจ้าแห่งขุนเขาจริง ๆ” หลังจากที่หลิวหลงถิงพูดเช่นนั้น เสียงของเขาก็กดต่ำมาหาฉันทันที “ป๋ายจิ้ง แทนที่เจ้าจะปล่อยให้คนแปลกหน้าย่ำยี ทำไมคืนนี้เราไม่ทำเรื่องที่มหัศจรรย์ตัดหน้าเขาก่อนล่ะ ฉันจะอ่อนโยนกับเธอเอง”

ตอนที่หลิวหลงถิงพูดเช่นนี้ เขาก็ยกมือขึ้นมาจะบีบคางฉัน ฉันรีบหลบออกจากมือของเขา แล้วหยิบเม็ดกัญชาที่อยู่ในมือเขามาอย่างเร็ว ฝันไปเถอะ เขาช่างเป็นงูลามกและเจ้าเลห์จริง ๆ ไม่แปลกใจเลยที่แม่หมออิงบอกว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่น่าสนุกอะไร ถ้าโดนเทพแห่งขุนเขารังแก ฉันก็ยังมีทางหนีทีไล่ที่รับจะมือกับเขาได้ด้วยตัวเอง แต่ถ้าหากถูกหลงถิงรังแก ก็จะถูกเขาแทะจนไม่เหลือแม้แต่กระดูกสักชิ้นเลยทีเดียว

เมื่อเห็นว่าฉันปฏิเสธเขา หลิวหลงถิงก็ไม่มีท่าทีว่าจะโกรธ เขาเอามือสองข้างไพล่หลัง และพูดอย่างจริงจังขึ้นมา “พรุ่งนี้หลังจากขึ้นเขาไปแล้ว ต้องระวังให้มาก ข้าสงสัยว่าเทพแห่งขุนเขาตนนี้ทุก ๆ สิบปีจะต้องการเด็กผู้หญิงแค่เพียงคนเดียว ไม่น่าจะใช่แค่เพื่อความสนุกสนาน เขาน่าจะต้องมีจุดประสงค์อะไรอย่างอื่นอีกแน่ ๆ แน่นอนไม่ว่าจะมีจุดประสงค์อะไร เจ้าจะต้องรักษาชีวิตตัวเองให้รอดออกมาให้ได้ ถึงแม้ว่าเราจะต้องยอมให้เขาก็ตาม”

หลิวหลงถิงพูดได้ดูง่ายมาก ๆ ฉันต้องพึ่งเม็ดกัญชาขนาดใหญ่ลูกนี้เพื่อรักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้อย่างนั้นหรือ? แค่ฉันคิดว่าในวันพรุ่งนี้ฉันจะหลอกเทพแห่งขุนเขาให้กินยาลูกกลอนขนาดใหญ่นี้ได้อย่างไร ฉันก็กลุ้มใจจนกินอะไรไม่ลงเลยทีเดียว

หลังจากที่ฉันตกลงได้แล้ว ในคืนวันนี้ทุกคนในหมู่บ้านก็ไม่มีใครได้นอนเลย พวกเขารีบร้อนจัดเตรียมทุกอย่างให้พร้อม วันรุ่งขึ้นในช่วงฟ้าสาง ผู้นำหมู่บ้านได้จัดเตรียมให้หญิงชราสองสามคนค่อยปรนนิบัติอาบน้ำ หวีผมและทำอะไรอย่างอื่นให้ฉันมากมาย

ตั้งแต่เกิดมานี่เป็นครั้งแรกที่ฉันมีประสบการณ์แบบนี้ ไม่เพียงแต่จะโดนคนอื่นช่วยฉันอาบน้ำ แต่ยังช่วยแต่งหน้าให้ฉัน และยังช่วยสวมชุดแต่งงานสีขาวให้ฉันด้วย ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่างานแต่งงานในหุบเขานี้ทำไมถึงไม่ใช้ชุดสีแดง ย่าคนหนึ่งบอกฉันว่า ถึงอย่างไรสังคมของเรากำลังพัฒนา ในเมื่อฉันจะไปแต่งงานกับเทพแห่งขุนเขา จึงต้องสวมชุดเจ้าสาว ซึ่งอีกความหมายถึงก็คือส่งให้ไปตาย ชุดแต่งงานสีขาว คนตายก็แต่งกายด้วยสีขาวเช่นเดียวกัน และเสื้อผ้าที่ฉันสวมใส่ก็มีไว้สำหรับงานแต่งงานและงานศพ

หลังจากอาบน้ำเสร็จ ฉันก็ถูกส่งตัวขึ้นไปบนเกี้ยวที่คล้ายกับของที่ข้าราชการโบราณใช้กัน ระหว่างทางก็มีเสียงแตรและเสียงขลุ่ยซอนาบรรเลงตลอดทาง เกี้ยวพาฉันมาถึงที่วัดบนภูเขา ก่อนที่ฉันจะออกจากเก้าอี้บนเกี้ยว มีคนจำนวนไม่น้อยที่ยืนอยู่หน้าวัดเทพแห่งเทพขุนเขาเพื่อต้อนรับฉัน และมีกองกระดูกสีขาวอยู่ที่หน้าประตู ซึ่งน่าจะเป็นซากกระดูกของอดีตภรรยาเทพแห่งขุนเขาคนก่อน

ย่าหลี่เป็นห่วงฉันมาก เธอประคองฉันลงจากเกี้ยวด้วยตัวเอง แล้วถามฉันว่ารู้สึกเกร็งไปหรือเปล่า? หากหนูยังไม่มั่นใจ พวกเราก็จะถ่วงเวลาเลื่อนงานออกไปก่อน

ในเมื่อตอนนี้ลูกธนูขึ้นสายเต็มเหนี่ยวแล้ว อยากเลื่อนให้ช้าลงก็คงจะไม่ได้แล้ว ฉันส่ายหน้าให้ย่าหลี่และบอกว่าไม่เป็นไร ถ้าฉันไม่เป็นเครื่องสังเวยแทน ก็ไม่มีทางที่จะลงโทษเทพชั่วร้ายนั้นได้

ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งเชิญฉันเข้าไปที่วัดเทพแห่งเทพขุนเขาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าเรามาแล้ว แต่พวกเขากลับไม่ได้รีบร้อนลงเขาไป แถมพวกเขายังคงเป่าขลุ่ยตีกลองอยู่เกือบทั้ง จนกระทั่งท้องฟ้าเกือบจะมืด พวกเขาจึงเก็บฆ้องและกลองกลับไป

เดิมทีฉันคิดว่า มีความเป็นไปได้มากที่สุดที่ฉันจะตายด้วยน้ำมือของเทพเจ้าแห่งขุนเขา แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกหิวจนแทบหยุดหายใจ เมื่อตอนเช้ามีป้าในหมู่บ้านบอกว่าภรรยาของเทพเจ้าแห่งขุนเขาจะกินของสกปรกบนโลกนี้ไม่ได้ เธอจึงไม่ให้ฉันทานอาหารเช้าเลย ฉันหิวมาทั้งวัน หนึ่งวันเต็ม ๆ ที่ขังฉันไว้ไม่ให้ทำอะไรทั้งวัน ตอนนี้ฉันจึงฉวยโอกาสตอนที่พวกชาวบ้านกลับกันไปแล้ว รีบย่องไปที่แท่นบูชาของเทพเจ้าแห่งขุนเขา เพื่อหวังจะขโมยผลไม้ที่ตั้งอยู่หน้ารูปปั้นเทพภูเขามาทาน

แต่ยังไม่ทันจะเอื้อมมือออกไป ทันใดนั้นลมสีดำก็พัดเข้ามาจากด้านนอก และพัดแรงจนเทียนที่จุดในวิหารดับลงทั้งหมด!

ประตูวิหารเปิดออก และมีแสงจันทร์ส่องสว่างอยู่ด้านนอกประตูวิหาร เงาสีเข้มสวมเสื้อคลุมยาวเดินเข้ามาจากประตูวัดอย่างเร็ว

เขาคือเทพแห่งขุนเขา

เดิมทีฉันคิดว่าเทพแห่งขุนเขาที่นี่ ถ้าไม่ใช่ปู่แก่ ๆ ชราภาพแล้ว ก็อาจจะเป็นสัตว์ประหลาดที่น่ารังเกียจ แต่หลังจากที่ชายผู้นี้เดินเข้ามาผ่านแสงเทียนที่สลัว ๆ ฉันกลับสามารถมองเห็นรูปร่างหน้าตาของเขาได้ชัดเจน เขาปล่อยผมยาวสีดำสนิท ริมฝีปากบางและดวงตาเรียวคล้ายหงส์ ใบหน้านั่นดูคล้ายคลึงกับผู้หญิง แต่ยังมีเหลี่ยมคมเสริมกลิ่นอายความแข็งแกร่งของบุรษออกมา

เทพแห่งขุนเขาเห็นว่าฉันกำลังจะขโมยผลไม้จากแท่นบูชน เขาก็ทำหน้าตกใจไปแวบหนึ่ง พลันยิ้มให้ฉันทันที “สาวน้อยของฉันหิวหรือ?”

ในใจฉันตอบไปว่าใครเป็นสาวน้อยของคุณกัน ถึงอย่างไรฉันก็ไม่ใช่ผู้หญิงอายุต่ำกว่าสิบสามจริง ๆ และรู้สึกหวั่นใจนิดหน่อย กลัวว่าเทพแห่งขุนเขาจะมองทะลุปุโปร่งว่าตัวตนของฉันคือผู้หญิงอายุยี่สิบปี ดังนั้นฉันจึงเริ่มบีบเสียงจากลำคอและพูดเสียงดังว่า “ใช่ค่ะ ที่รัก ฉันหิวเหลือเกิน”

พูดจบก็เกือบจะอาเจียนใส่ตัวเองแล้ว โชคดีที่ชายเทพแห่งขุนเขานี่เป็นเหมือนอย่างที่หลิวหลงถิงพูดไว้ เขาไม่สามารถแยกแยะระหว่างคนอายุยี่สิบปีกับเด็กอายุสิบสามปีได้ เมื่อเห็นฉันทำท่าออดอ้อน เขาก็หัวเราะออกมา มือหนาเอือมมือไปคว้าส้มมาปอกเปลือก ฉันมองดูสีและสไตล์เสื้อผ้าของเขา คอปกเสื้อไขว้กันแนบสนิทและแขนเสื้อกว้าง น่าจะมาจากยุคสมัยราชวงศ์ฉินกับราชวงศ์ฮั่น ถ้าเทพภูเขาองค์นี้มาจากราชวงศ์นั้นจริง ๆ ระยะเวลาการบำเพ็ญเพียรของเขาก็น่าจะมีอายุอย่างน้อยสองพันปี ต่อให้หลิวหลงถิงจะแข็งแกร่งแค่ไหน เขาก็ได้รับการบำเพ็ญเพียรมาเพียงแค่ไม่กี่ร้อยปีเท่านั้นเอง!

เมื่อคิดได้ถึงตรงนี้ ใจฉันก็ตื่นตระหนกในทันใด ชายคนนั้นปอกเปือกส้มเสร็จแล้ว แต่เขากลับยกมันขึ้นในอากาศเป็นเชิงว่ายังไม่ให้ฉัน เขายิ้มอย่างไร้เดียงสา “ข้าจะให้ส้มแก่เจ้า แล้วอีกเดี๋ยว เจ้าก็จะต้องให้ข้ากินนะ ข้าอยากจะกินเจ้าแล้ว”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status