เมื่อเริ่มจะเข้าใจเรื่องราวคร่าว ๆ แล้ว หลังจากที่ฉันวางสายไปก็ได้สอบถามหลิวหลงถิงว่าพวกเราจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร เพราะท้ายที่สุดแล้วงูก็เป็นสัตว์ประเภทเดียวกันกับหลิวหลงถิงหลังจากที่หลิวหลงถิงฟังคำพูดของหม่าเจี้ยนกั๋วจบ สีหน้าของเขากลับไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ บอกฉันว่าจะไปจัดการกับพวกนั้น และไม่จำเป็นต้องเตรียมอะไรไปเลย เราสามารถเดินทางไปที่นั่นได้ทันทีที่พร้อมบ้านของหม่าเจี้ยนกั๋วห่างจากบ้านฉันมาก บ้านของเขาอยู่ที่เถียหลิง ฉันยังไม่ได้มีรถส่วนตัวจึงทำได้แค่จองตั๋วรถไฟเท่านั้น มันใช้เวลาห้าถึงหกชั่วโมงเลยนะ!ตอนแรกฉันคิดว่าตัวเองจะต้องทนทุกข์อยู่รถเพียงลำพัง ก็เลยไม่อยากออกไปไหนแล้ว ทว่าหลิวหลงถิงกลับบอกให้ฉันเตรียมกระเป๋าเดินทางให้เขาด้วย แล้วเขาก็จะขึ้นรถไปกับฉันเองนี่มันน่าอึดอัดเสียจริง แต่ฉันกลับไม่รู้สึกรังเกียจที่เขาจะไปกับฉันเลย แต่ทำไมเขาถึงอยากนั่งคันเดียวกันกับฉันด้วยล่ะ ตลอดทางฉันไม่มีอะไรจะพูดกับหลิวหลงถิง พวกเราสองคนนั่งด้วยกันเงียบ ๆ แบบนั้นไปจนสุดทางเพราะในเมื่อหลิวหลงถิงพูดออกมาแบบนี้แล้ว ฉันก็จะทำตามสิ่งที่เขาต้องการและนั่งรถไปพร้อมกันกับเขาและเนื่องจากมีเพ
ร่างน้อยชะงักไปครู่หนึ่ง ท่าทางเช่นนี้ช่างน่าอายจริง ๆ ขณะเดียวกันก็ผลักหลิวหลงถิงออก แล้วถามเขาว่า “อะไร ได้กลิ่นอะไร? นายรีบปล่อยฉันออกไปเดี๋ยวนี้นะ”“กลิ่นอะไร? ก็กลิ่นคาวของงูไง? หรือเธอรังเกียจที่ฉันมีกลิ่นคาวงูกันแน่?” เมื่อหลิวหลงถิงพูดอย่างนั้นแล้ว ฉันก็พยายามผลักเขาออก ทว่าเขาดันเอื้อมมือมาจับที่ขาของฉันและยกขึ้นอย่างรวดเร็วน้ำจากฝักบัวที่โปรยลงราวกับฝนตกหนักบนศรีษะของฉันกับหลิวหลงถิง ทำให้ผ้าขนหนูของฉันเปียกชุ่มไปด้วยน้ำร้อนที่จริงก็อยากจะโกรธตานั่นอยู่หรอก ทำแบบนี้มันหมายความว่าอย่างไร? เขาจงใจทำให้ฉันเปียกเหมือนไก่ตกน้ำ แต่เมื่อฉันเงยหน้าขึ้นมองเขา กลับเห็นไอน้ำที่ปกคลุมใบหน้าอันมีสเน่ห์ อีกทั้งผมดกดำที่เปียกน้ำจนทำให้เห็นจอนเล็ก ๆ ข้างหนึ่ง เขาจ้องมองฉันด้วยสายตาที่แพรวพราว ช่างเย้ายวนใจเหลือเกินฉันกลืนน้ำลายไปอึกหนึ่ง และไม่กล้าจะมองไปที่ดวงตาอันมีสเน่ห์พร้อมกับผมที่เปียกปอนของหลิวหลงถิง ฉันรีบเบือนหน้าหนีและพูดกับเขาว่า “ตัวนายไม่คาวแล้ว ไม่มีอะไรน่ารังเกียจ” “ถ้าไม่รังเกียจล่ะก็ งั้นฉันจูบนะ”เมื่อหลิวหลงถิงพูดเช่นนั้นแล้ว เขาก็ก้มหัวลงและประกบลงที่ริมฝีปากขอ
ทันทีที่เสียงหายไป เงาขาวคลุมเครือก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของฉัน เงาร่างนั่นใช้มือง้างปากหญิงสาวที่เขมือบหัวฉันไปเกือบครึ่งหัวแล้วบอกให้ฉันหลบไปฉันไม่แทบรู้จะร้องเรียกใครเพื่อช่วยเหลือกันในยามขับขันได้เช่นนี้ แต่เมื่อฉันหันไปพบหน้าเขา คนที่อยู่ตรงหน้ากลับเป็นซานเซินเทพเจ้าแห่งขุนเขา!เขายังไม่ตายหรอ? ทำไมยังมีชีวิตอยู่!เมื่อเห็นเทพแห่งขุนเขาในช่วงหน้าสิวหน้าขวานเช่นนี้ ฉันรู้สึกราวกับว่าเพิ่งออกจากปากเสือแล้วตกลงไปในถ้ำหมาป่า อีกทั้งตอนนี้เขาดูโทรมไปมาก ชุดคลุมอันตระการตาที่เคยประดับบนตัวเขาก็ไม่มีแล้ว สวมเพียงแค่เสื้อขาวขาดรุ้งริ้งตัวเปื้อนเลือด ผมกระเซอะกระเซิง ถ้าไม่ใช่เพราะใบหน้าอันงดงาม เขาก็ดูเหมือนนักโทษสมัยโบราณที่ซอมซ่อสุด ๆไม่กี่วันก่อนที่ร่างของเขาถูกทำลาย ก็เพราะแผนของฉันกับหลิวหลงถิง ตอนนี้เขายังมีชีวิตอยู่ มันจบแล้ว อีกไม่นานฉันจะต้องดับอย่างอนาถ โคตรอยากหนีไปจริง ๆ! ศรีษะหญิงสาวถูกซานเซินจับไว้แน่น หางสีดำตะหวัดถังน้ำข้างหลังยกขึ้นและกำลังกวาดหางมาที่ฉันกับซานเซิน ซานเซินกดฉันลงเพื่อให้หลบซ่อนตัว หางอันใหญ่สีดำพัดลมแรงเหนือศรีษะพร้อมทั้งเปล่งเสียงคำราม“ยังไม่รีบไปช่
“ก็ใช่สิ! ทำไมเหรอ?”เมื่อฉันเปล่งประโยคนี้ออกมาจากปาก ก็เหลือบไปมองหลิวหลงถิงที่หน้าตาเรียบเฉย มันทำให้ฉันรู้สึกกังวน ถ้าหลิวหลงถิงสังเกตเห็นอะไรบางอย่างและรู้ว่าฉันรับข้อตกลงกับเทพแห่งขุนเขาที่จะกำจัดเขา และถ้าเทพแห่งขุนเขาตายฉันก็ต้องตาย ใครกันจะเมตตาคนที่หมายจะเอาชีวิตตัวเองในเวลานี้ ฉันรู้สึกเสียใจกับข้อตกลงที่ให้ไว้กับเทพแห่งขุนเขา อันที่จริงการได้อยู่กับหลิวหลงถิง แม้ว่าจะหนื่อยไม่ค่อยสะดวกสบายแต่ก็รู้สึกดี และแม้ว่าเขาจะบังคับให้ฉันทำเรื่องอย่างว่า ฉันก็ยังพอใจกับมัน แล้วทำไมฉันต้องฆ่าเขาด้วยล่ะ? “เขาเจอฉัน” เอ่ยปากตอบหลิวหลงถิง“เธอไม่มีอิทธิฤทธิ์ ทำไมถึงจัดการกับเขาได้?” หลิวหลงถิงถามกลับถึงตอนนี้ ถ้าฉันสารภาพผิดไปก็ไม่ดี ไม่สารภาพไปก็ไม่ดี ฉันครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงตอบกลับเขาไปว่า “ฉันไม่ได้จัดการเขาเอง มีคนหนึ่งมาช่วยฉันไว้ เขาบอกให้ฉางชุยหงกลับไปช่วยสามีตัวเอง จากนั้นเขาก็จากไป”ฉันคิดในใจว่าหลิวหลงถิงต้องถามฉันแน่ ๆ แต่แล้วหลิวหลงถิงก็ไม่ได้ถามว่าคนที่ช่วยฉันคือใคร? กลับบอกให้ฉันโทรหาแม่หมออิงว่าเรื่องนี้จบแล้ว ให้เขาเก็บรายงานไว้เอง และเมื่อกลับถึงบ้านเขาจะสอ
ฉันเหลือบมองยันต์บนโต๊ะที่เขียนออกมาเหมือนไก่เขี่ย ฉันไม่อยากเชื่อว่ายันต์ผีนี้จะสามารถช่วยฉันได้ อันที่จริงก็อยากจะขอให้หลิวหลงถิงอยู่ช่วยฉันเรื่องนี้ก่อนแล้วค่อยไป แต่แล้วยังไม่ทันได้พูดอะไรสักคำ มือที่จับใบหน้าฉันอยู่จู่ ๆ ก็บีบแรงขึ้น มันทำให้ฉันปวดร้าวมาถึงแก้ม“คราวนี้ฉันไม่อยู่บ้าน ถ้าเธอกล้าทำอะไรไม่ดีกับลูกของเรา ระวังครอบครัวเธอจะถึงแก่ชีวิต”นี่เขากำลังเตือนฉันหรอ?เมื่อกี้ที่ตานั่นพยายามจะทำให้ฉันพอใจ ฉันคิดว่าเขาสนใจฉันหรือไม่ก็ชอบฉัน ไม่น่าเชื่อว่าฉันจะคิดผิด ที่หลิวหลงถิงดีกับฉันทำให้ฉันพอใจ เพียงเพราะต้องการให้ลูกงูในท้องของฉันปลอดภัยเท่านั้น!โธ่เอ้ย ฉันเปล่งเสียงสบถออกมา ฉันเอื้อมไปปัดมือตานั่นที่จับหน้าฉันออก “นายมันน่ารำคาญ ทางที่ดีอวยพรให้ฉันไม่โดนสิ่งนั้นกินจะดีกว่า ถ้าฉันตาย ลูกของนายก็ต้องตาย!”เมื่อตานั่นได้ยินที่ฉันสบท ร่างสูงก็มีท่าทางที่เหมือนคิดอะไรบางอย่าง พลันก้มลงหัวเราะเบา ๆ ที่ข้างหู “ฉันไม่ยอมให้เธอตายหรอก ไม่ต้องกังวล ถ้ามันอันตรายจริง ๆ ฉันจะส่งคนไปช่วยเธอ”ฉันอยากจะบ้าตายจริง ๆ แล้วก็อยากจะตะโกนใส่เขาว่าตกลงคิดกับฉันอย่างไรกันแน่? อยากใช้ก็ใช้
เงาขาวร่างใหญ่เหล่านี้ก็เหมือนซากศพที่ถูกต้มจนบวมเป่ง พวกเราทั้งหมดล้วนสยองขนพอง ขนาดกลางวันแสก ๆ ยังกล้าหลอกกันอีก!“งั้นเงาเหล่านี้ ใช่คนหนุ่มสาวที่จมน้ำตายในทะเลสาปไหมคะ?”ชายมีอายุจ้องมองไปที่เงาเหล่านั้น ก่อนจะส่ายหัวเล็กน้อยพลางพูดว่า “นี่ยังไม่ชัดเจน ผมไม่กล้าไปดู แต่เมื่อสองสามปีก่อนคนที่ตายในทะเลสาปเป็นนักศึกษาสาววัยรุ่น ที่ถึงตอนนี้ก็ยังปิดคดีไม่ได้ เมื่อก่อนมันก็แค่ทำให้คนกลัวเท่านั้น พอหลังจากนั้นสิบวันศพก็จะเริ่มลอยขึ้นสู่ผิวน้ำ มาหลอกคนอื่น โชคดีที่ตอนนี้อากาศหนาว ช่วงนี้เลยไม่ค่อยมีใครมาเล่นที่นี่เลย”แล้วทำไมผีพวกนี้ถึงพึ่งจะมาหลอนหลอนกันล่ะ? แต่ถ้าลองนับดูฉันก็พึ่งเป็นร่างทรงได้แค่ประมาณสิบวัน สิ่งเหล่านี้จะเกี่ยวข้องกันหรือเปล่านะพอคิดจบแบบนั้น จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองงี่เง่า ทำไมถึงเกิดเรื่องบังเอิญเช่นนี้ขึ้นได้“แม่หมอ ตอนนี้คุณรู้ว่าเราไม่ได้โกหกคุณแล้วใช่ไหม? เราควรทำอย่างไรดี!”ด้วยน้ำเสียงของหญิงผู้นี้ดูขี้ขลาด แต่ฉันเองก็หนังศรีษะชาจนไม่กล้าขยับเขยื้อน แต่เมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว คงจะหันหลังกลับไม่ได้อีก มือเรียวจึงหยิบยันต์สีเหลืองที่เขียนขึ้นเมื่อวา
“นายพูดว่าให้ฉันกลับบ้านกับนายหรอ?” ฉันถามหลิวหลงถิงอย่างไม่น่าเชื่อ หลิวหลงถิงเอียงศรีษะชำเลืองตามองมาที่ฉัน จากนั้นหันศรีษะตรงไปข้างหน้าพร้อมกับก้าวเท้าเดิน “ใช่แล้ว ปีหน้าเธอก็จะไปเรียนที่ต่างจังหวัดแล้ว ฉันก็จะไปกับเธอด้วย อยู่ข้างนอกไม่สะดวกเท่าที่บ้าน ฉันจะพาเธอไปพบพวกเขา เมื่อฉันออกไปธุระไม่ได้อยู่กับเธอ กลัวเธอจะเจอกับปัญหา ก็ยังดีที่ฉันได้ไปขอความช่วยเหลือจากพวกเขาไว้ก่อน”ก่อนหน้านี้เคยได้ยินแม่หมออิงบอกว่าครอบครัวหลิวหลงถิงมีพี่น้องทั้งหมดห้าคน เขาเป็นลูกคนที่สาม ครอบครัวเขามีคนมากมาย ต้องคึกคักแน่ ๆ งั้นฉันจะกลับไปกับหลิวหลงถิง เสมือนว่าไปบ้านสามี“พี่น้องของนายก็เป็นเซียนหรอ?” ฉันถามหลิวหลงถิง“มีแค่สามคนที่เป็นเซียน น้องชายและน้องสาวฉันอีกสองคนยังคงบำเพ็ญฌาณอยู่ที่บ้าน”หลิวหลงถิงยังคงอดทนที่จะอธิบายให้ฉันฟัง เมื่อพวกเราเดินมาถึงฝั่ง คู่สามีภรรยาก็รีบเข้ามาล้อมฉันแล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้น?ฉันจึงเอาคำบอกกล่าวของศพหญิงร่างยักษ์ทั้งหมด และบอกเธอว่า ศพหญิงสาวเหล่านี้อยากกลับชาติมาเกิด ฉันได้ติดต่อตำรวจเพื่อตามหาญาติให้พวกเขาแล้วด้านหญิงผู้นี้เมื่อได้ยินว่าฉันแจ้งตำรวจแ
“อาจารย์หยินฮวาหรอคะ?” ฉันหันหัวเหลือบมองหลิวหลงถิงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ อย่างสงสัยหลิวหลงถิงที่รู้ตัวว่าหญิงมีเสน่ห์ผู้นี้จำคนผิด จึงย่างเท้าเข้าหาหญิงผู้นี้สองสามก้าวพลางพูดว่า “พี่รอง เธอคือร่างทรงของฉัน ชื่อป๋ายจิง คราวนี้พาเธอกลับมาด้วย เพราะอยากให้พี่รองกับพี่ใหญ่ดู”หลังจากที่ได้ยินหลิวหลงถิงแนะนำชื่อฉัน ป๋ายจิง หญิงผู้นี้จึงออกมาจากบ้านอย่างเปิดเผย เธอเงยหน้าขึ้นพลางฉีกยิ้มเล็กน้อย “โอ้ ดูความจำฉันสิ พอรู้ว่าหลิวหลงถิงจะกลับมาก็ทั้งดีใจทั้งสับสนไปหมด” ในขณะที่พูด ก็บิดหน้าอันบอบบางมองมาที่ฉันสองสามครั้ง ยิ้มด้วยความเขินอายเล็กน้อย และน้ำเสียงที่สนทนากับฉันก็ดูประจบประแจงเป็นพิเศษ “เป็นร่างทรงของหลิวหลงถิงนี่เอง ยังดูเด็กอยู่เลยนะจ๊ะ มาสิ มานั่งในบ้าน”หลังจากที่หลิวหลงถิงพาฉันเข้าไปในบ้าน เขาแนะนำฉันว่านี่คือพี่รอง ชื่อหลิวเลี่ยอวิ๋น มีนิสัยค่อนข้างดุดัน ปกติพี่ใหญ่ไม่ค่อยอยู่บ้าน หลิวเลี่ยอวิ๋นจึงเป็นผู้ดูแลทุกเรื่องในบ้านหลังนี้หลิวเลี่ยอวิ๋นที่ไปชงชาให้ฉันกับหลิวหลงถิง หลงเถิงและเจียวเอ่อร์ที่ยืนล้อมหลิวหลงถิงกำลังพูดคุยถึงเรื่องโลกภายนอก ฉันมองดูเด็ก ๆที่น่ารักวิ่งไปมา อี