Share

บทที่ 10 กลิ่นคาวยังแรงอยู่ไหม

เมื่อเริ่มจะเข้าใจเรื่องราวคร่าว ๆ แล้ว หลังจากที่ฉันวางสายไปก็ได้สอบถามหลิวหลงถิงว่าพวกเราจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร เพราะท้ายที่สุดแล้วงูก็เป็นสัตว์ประเภทเดียวกันกับหลิวหลงถิง

หลังจากที่หลิวหลงถิงฟังคำพูดของหม่าเจี้ยนกั๋วจบ สีหน้าของเขากลับไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ บอกฉันว่าจะไปจัดการกับพวกนั้น และไม่จำเป็นต้องเตรียมอะไรไปเลย เราสามารถเดินทางไปที่นั่นได้ทันทีที่พร้อม

บ้านของหม่าเจี้ยนกั๋วห่างจากบ้านฉันมาก บ้านของเขาอยู่ที่เถียหลิง ฉันยังไม่ได้มีรถส่วนตัวจึงทำได้แค่จองตั๋วรถไฟเท่านั้น มันใช้เวลาห้าถึงหกชั่วโมงเลยนะ!

ตอนแรกฉันคิดว่าตัวเองจะต้องทนทุกข์อยู่รถเพียงลำพัง ก็เลยไม่อยากออกไปไหนแล้ว ทว่าหลิวหลงถิงกลับบอกให้ฉันเตรียมกระเป๋าเดินทางให้เขาด้วย แล้วเขาก็จะขึ้นรถไปกับฉันเอง

นี่มันน่าอึดอัดเสียจริง แต่ฉันกลับไม่รู้สึกรังเกียจที่เขาจะไปกับฉันเลย แต่ทำไมเขาถึงอยากนั่งคันเดียวกันกับฉันด้วยล่ะ ตลอดทางฉันไม่มีอะไรจะพูดกับหลิวหลงถิง พวกเราสองคนนั่งด้วยกันเงียบ ๆ แบบนั้นไปจนสุดทาง

เพราะในเมื่อหลิวหลงถิงพูดออกมาแบบนี้แล้ว ฉันก็จะทำตามสิ่งที่เขาต้องการและนั่งรถไปพร้อมกันกับเขา

และเนื่องจากมีเพียงฉันที่สามารถเห็นเขาได้ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้บัตรประชาชนเพื่อยืนยันอะไรสำหรับอีกคนเลย บนรถมีผู้โดยสารอยู่น้อยมาก ทว่าจู่ ๆ ก็มีร่างสูงก็มานั่งอยู่ข้าง ๆ ฉัน หน้าตาของเขานั้นแสนจะดูดี ถ้าเกิดว่าเขาไม่เป็นเทพ อาจจะมีสักครั้งที่ฉันเปิดเผยให้คนอื่นเห็นว่าเขาคนนี้เขาคือแฟนของฉัน ตอนนั้นฉันก็คงจะสวยระเบิดไปเลย

ระหว่างทางเราไม่ได้พูดกันสักประโยค และมันก็ไม่ค่อยสะดวกที่จะพูด ก่อนลงจากรถไฟหม่าเจี้ยนกั๋วก็โทรหาฉัน และบอกว่าเขามารอฉันอยู่ที่ทางออกสถานีรถไฟแล้ว

ครั้งที่ยังไม่ได้เห็นตัวตนของหม่าเจี้ยนกั๋ว ฉันคิดว่าเขาคงเป็นชายวัยกลางคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างโชกโชน แต่ที่ไหนได้ เมื่อฉันเห็นเขาฉันกลับรู้สึกประหลาดใจมาก ๆ คาดไม่ถึงว่าเขากลายเป็นชายหนุ่มใส่ชุดสูทและผูกเน็คไท ที่มีผิวพรรณเปล่งปลั่งพร้อมออร่าผู้ดี ดูจากลักษณะภายนอกแล้วเขาดูไม่เหมือนคนอายุมากกว่าสี่สิบปีเลย และเขาดูไม่เหมือนคนที่เจ็บปวดจากการสูญเสียมาตลอดทั้งปีด้วย แต่กลับเหมือนนักธุรกิจที่แสนเก่งกาจเสียอย่างนั้น

“คุณคือหม่าเจี้ยนกั๋วใช่ไหมคะ?” ฉันลองถามเขาไป

“สวัสดีครับ คุณคือแม่หมอป๋ายสินะ ผมหม่าเจี้ยนกั๋วเองครับ แม่หมอยังดูเด็กอยู่เลยนะครับ คุณดูสวยมากเลยจริง ๆ” ทว่าขณะที่หม่าเจี้ยนกั๋วกำลังชมฉันอยู่นั้น เขาก็หันหน้ามามองที่ว่างข้าง ๆ ฉันแล้วถามว่า “เขาเป็นใครเหรอครับ?”

ฉันหันหน้าเหลือมองหลิวหลงถิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ คนอื่นมองไม่เห็นเขาไม่ใช่เหรอ? แล้วหม่าเจี้ยนกั๋วมองเห็นหลิวหลงถิงได้อย่างไรกัน? จู่ ๆ ก็ถูกหม่าเจียนกั๋วก็ถามขึ้นแบบนี้ ฉันก็ไม่รู้จะอธิบายความสัมพันธ์ของเราอย่างไรดี

“ฉันเป็นคนรักของเธอ และมาที่นี่เพื่อช่วยเธอ” หลิวหลงถิงมองไปที่ใบหน้าของหม่าเจี้ยนกั๋วที่อยู่ ๆ ก็ดูหงอยลงไปทันที ก่อนจะใช้คำพูดที่ทำให้ความสัมพันธ์ของเราดูสนิทสนมมากกว่าเดิม

แต่หม่าเจียนกั๋วยังมีความกระตือรือร้น พลันปรับใบหน้าให้ยิ้มแย้ม และพูดติดตลกเชิงไม่คิดว่าฉันจะแต่งงานเร็วขนาดนี้ น่าเสียดายจริง ๆ...

อาจเป็นเพราะเสียงหัวเราะของหม่าเจี้ยวกั๋วที่แตกต่างจากเสียงร้องไห้ทางโทรศัพท์มาก จู่ ๆ ฉันก็เกิดความประทับใจที่ดีในตัวเขาแล้ว ก่อนจะฉันพูดกับเขาไปตรง ๆ “ลูกสาวของคุณอยู่บ้านไหมคะ? คุณพาฉันไปถามเธอหน่อยว่า สรุปแล้วงูสองตัวนี้พูดกับเธอว่าอย่างไรบ้าง?”

หลังที่ฉันเตือนหม่าเจียนกั๋วเข้าให้รีบเข้าเรื่อง ให้สมกับที่เขาเชิญฉันมา เขารีบบอกว่ามีสามคนรออยู่ที่นั่น หลังจากนั้นก็เชิญฉันขึ้นรถและตรงไปที่บ้านของเขาทันที

บ้านของเขาอยู่ในแถบชานเมือง มันอาคารสไตล์ตะวันตกหลังเล็ก ๆ ที่มีรูปแบบการตกแต่งค่อนข้างหรูหรา แต่หลังจากที่ฉันเดินเข้าไปในบ้านฉัน ก็ได้กลิ่นคาวแรงมากตลบอบอวนอยู่ในบ้าน กลิ่นคาวลักษณะนี้คล้ายกับตอนที่หลิวหลงถิงเข้ามาในห้องฉันตอนกลางคืน แต่กลิ่นกลับแรงกว่ามาก เรายืนอยู่ในบ้านของพวกเขา ราวกับกำลังยืนอยู่ในถ้ำงู มันทำให้ฉันรู้สึกไม่เป็นตัวเองและอยากรีบออกจากนี่ไปทันที

หม่าเจี้ยนกั๋วตะโกนไปที่ชั้นสองเพื่อเรียกลูกสาวของเขาลงมา และตัวเขาเองก็ขอตัวไปชงชาให้ฉันและหลิวหลงถิง หลิวหลงถิงเหลือบมองไปรอบ ๆ ห้อง ก่อนจะหันหน้ามาบอกกับฉันว่าให้ระมัดระวังตัวมากขึ้น เรื่องราวทั้งหมดอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่หม่าเจี้ยนกั๋วได้พูดไว้

ฉันกำลังจะถามหลิวหลงถิง แต่หม่าเจี้ยนกั๋วกลับยกชุดน้ำชาออกมาเสียก่อน ลูกสาวของเขาลงมาชั้นล่างพร้อมกับกอดตุ๊กตาไว้ในอ้อมแขน

เธอเป็นเด็กหญิงอายุเจ็ดแปดขวบที่ดูไม่ค่อยชอบพูด พอเห็นฉันกับหลิวหลงถิงเธอก็ขยี้ตาแล้วถามหม่าเจี้ยงกั๋วว่าฉันเป็นใคร?

“เธอคือแม่หมอที่มาช่วยขับไล่วิญญาณชั่วร้ายให้พวกเรา เซียวหลิง หนูบอกเธอหน่อยได้ไหมว่างูสองตัวนั้นเข้าฝันหนูได้ยังไง หนูบอกมาให้หมดเลยนะลูก”

ทันทีที่สาวน้อยได้ยินว่าฉันเป็นแม่หมอ เธอก็จ้องมองมาที่ดวงตาทั้งสองข้างของฉัน ตอนแรกใบหน้าของเธอยังดี ๆ อยู่ แต่ตอนนี้สีหน้าของเธอเริ่มบิดเบี้ยวเล็กน้อย พลันดวงตากลมก็แปรเปลี่ยนเป็นเฉียบคมราวกับมีด จ้องมาที่ฉันอย่างดุดันราวกับว่าฉันเป็นสัตว์ประหลาด และจู่ ๆ เธอก็ทิ้งตุ๊กตาที่อยู่ในมือแล้ววิ่งมาหาฉัน พร้อมอ้าปากกว้างเตรียมกัดแขน เธอกรีดร้องคร่ำครวญ “เจ้าอย่าเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้ เรื่องนี้ไม่ว่าใครก็ไม่ควรเข้ามายุ่งเด็ดขาด ใครเข้ามายุ่งข้าจะฆ่ามันทิ้งซะ!”

น้ำเสียงนั่นเย็นยะเยือก ฟังดูแล้วเหมือนออกมาจากจิตใจที่โดนกรีดแทงราวกับชอล์ที่ถูกระจกดังเอี๊ยดอ๊าด โชคดีที่ฉันสวมเสื้อผ้าหลายชั้น เด็กน้อยจึงกัดไม่เข้าเนื้อ นอกจากนี้หลิวหลงถิงยังยื่นมืออกมาอย่างรวดเร็ว พลันคว้าหัวเด็กไว้แล้วใช้แรงดันออกไปอย่างแรง จนเด็กหญิงล้มลงบนโซฟาและทรุดตัวลงนั่งร้องไห้เสียงดัง

หม่าเจี้ยนกั๋วงึมงำแล้วคุกเข่าลงบนพื้น “เธอถูกงูสองตัวนั้นสิงร่างอีกแล้ว แม่หมอ ได้โปรด คุณต้องช่วยลูกสาวของผมนะ!”

หม่าเจี้ยนกั๋วเริ่มร้องไห้ ทีแรกฉันต้องการบอกหม่าเจี้ยนกั๋วว่าฉันมีวิธีดี ๆ ที่สามารถจัดการเรื่องนี้ให้เขา แต่ยังไม่ทันได้พูดออกไป หลิวหลงถิงก็แย่งคำพูดของฉันไปพูดกับหม่าเจี้ยนกั๋วแทน “ฉันรู้เรื่องครอบครัวของคุณแล้ว มันค่อนข้างยากมากเลยทีเดียว และในสองวันนี้ก็ยังไม่มีวิธีที่ดีในการจัดการเรื่องนี้ เอาอย่างงี้ดีกว่า วันนี้ก็ช่างมันไปก่อน ภรรยาของฉันนั่งอยู่ในรถนาน แถมยังเหนื่อยมากแล้ว คุณช่วยไปส่งพวกเราที่โรงแรมเพื่อพักผ่อน แล้วพรุ่งนี้เราจะมาช่วยคุณแก้ปัญหาอีกที”

ฉันตั้งใจว่าจะจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่หลิวหลงถิงกลับยืดเวลาออกไปอีก ฉันไม่เข้าใจว่าเขาคิดอะไรอยู่ แต่สุดท้ายฉันก็ร่วมมือกับเขาอยู่ดี

“เหนื่อยขนาดนี้จะไปโรงแรมให้เสียเวลาทำไมล่ะครับ? พักอยู่ที่บ้านผมไปเลยก็ได้ บ้านผมมีห้องพักแขกอยู่หลายห้อง” หม่าเจี้ยนกั๋วลุกขึ้นจากพื้น และบอกให้ลูกสาวพาพวกเราขึ้นไปชั้นบน

หลิวหลงถิงหรี่ตามองหม่าเจี้ยนกั๋วแวบหนึ่ง ก่อนลุกขึ้นเดินออกไปอีกทาง เขาเดินออกไปนอกบ้าน

พอเป็นแบบนั้นก็ช่วยไม่ได้ หม่าเจียนกั๋วคาดหวังให้เรากำจัดวิญญาณชั่วร้าย ดังนั้นเขาจึงพาเราไปที่โรงแรมในตัวเมืองและเปิดห้องห้องหนึ่งให้ แล้วพูดว่าพรุ่งนี้เช้าจะมารับพวกเราเอง

หลิวหลงถิงปิดประตูโดยไม่สนใจเขา ฉันรู้สึกสงสัยและถามหลิวหลงถิงว่าทำไมไม่รีบจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จเร็ว ๆ พวกเราจะได้กลับบ้านเร็วกว่านี้

“ในบ้านของเขามันไม่มีสิ่งชั่วร้ายอะไรเลย ในทางกลับกัน ครอบครัวของเขาอาจจะบูชาเทพก็ได้ ดังนั้นเขาจึงมองเห็นฉันได้และปฏิบัติต่อฉันเหมือนคนปกติ”

หากครอบครัวได้ถวายเครื่องบูชาแก่ผู้เป็นเทพ โดยทั่วไปแล้วพวกเขาจะไม่ถูกคุกคามจากวิญญาณชั่วร้ายเลย แต่หม่าเจี้ยนกั๋วกลับขอให้เราขับไล่วิญญาณชั่วร้ายให้ มันไม่ดูเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุไปหน่อยหรือ?

“แล้วเมื่อกี้สาวน้อยแกล้งทำเป็นเหมือนโดนสิงหรือเปล่า? แล้วไหนจะกลิ่นงูในบ้านเขาล่ะ?”

เมื่อฉันพูดถึงกลิ่นของงู หลิวหลงถิงก็เหลือบมองมาที่ฉันอย่างอธิบายไม่ถูก เขาพยักหน้าลงแล้วพูดว่า “อาจจะเป็นเพราะต้องการทำให้พวกเราสับสนจึงจัดเตรียมไว้ล่วงหน้า ถ้าเป็นไปตามที่คาดไว้ล่ะก็ จุดประสงค์ที่แท้จริงของเขาในครั้งนี้ก็คือพวกเรา”

“พวกเราไม่ได้เป็นศัตรูคู่แค้นกับเขานะ ทำไมเขาถึงต้องจัดการกับเราด้วยล่ะ?”

“บางครั้งการอยากได้ชีวิตของใครซักคนก็ไม่จำเป็นจะต้องเป็นมีความแค้น ยิ่งกว่านั้นตอนนี้เราทั้งคู่กำลังฝึกฝนบำเพ็ญเพียรอยู่ เมื่อกี้ฉันรับรู้ได้ว่าพลังงานเทพของครอบครัวเขาอ่อนมาก จนแทบจะไม่เหลืออยู่แล้ว ถ้าครอบครัวที่รับดูแลเทพใช้พลังบำเพ็ญเพียรอย่างสิ้นเปลือง ก็คงจะจนตรอกเข้าสักวัน ฉันสงสัยว่าหม่าเจี้ยนกั๋วคงจะอยากได้พลังจากฉันไปบูชาให้กับเทพของบ้านเขา”

ในฐานะเทพที่บำเพ็ญเพียรมา แต่กลับหมายจะดูดเอาพลังของคนอื่นไปเพิ่มให้ตัวเอง นี่มันสิ่งชั่วร้ายชัด ๆ ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ถามให้เข้าใจเลย หลิวหลงถิงก็บอกฉันว่าเขาจะไปอาบน้ำก่อน พวกเราไม่จำเป็นต้องกลัวพวกเขา ถึงอย่างไรจากสถานการณ์ในตอนนี้ ก็ยังถือว่าพวกเรามีข้อได้เปรียบอยู่มาก

เดิมทีสำหรับฉันแล้ว หลิวหลงถิงเป็นเพียงดอกไม้ไฟที่ไม่ใช้ของมนุษย์ ถึงเขาจะอยู่ตรงหน้าฉัน และนอกจากทำเรื่องแบบนั้นกับฉันแล้ว เขาก็ดูเหมือนเทพที่ตกลงสู่โลกมนุษย์ แค่เขาบอกว่ากำลังจะไปอาบน้ำ มันกลับทำให้ฉันรู้สึกว่าเขาเหมือนคนธรรมดาทั่วไปไม่น้อยเลย ฉันรู้สึกตลกนิดหน่อย แต่ฉันก็ไม่อยากรังเขาไว้เพื่อถาม

เสียงน้ำกระเซ็นในห้องน้ำ พอฟังเสียงน้ำแล้วฉันก็เกิดจินตนาการถึงหลิวหลงถิงขึ้นมา วันนั้นตอนที่ฉันอยู่ที่วัดบนภูเขา ฉันเคยเห็นร่างกายของเขาแล้ว มันเหมือนกับนายแบบในทีวีที่มีซิกแพ็คไม่มีผิด

“ป๋ายจิ้ง ช่วยข้าหยิบเสื้อผ้าให้หน่อยสิ” หลิวหลงถิงเรียกฉันจากในห้องน้ำ

เสียงเรียกของเขาดึงความคิดของฉันกลับมาทันที พลันรู้สึกละอายใจเล็กน้อย ก่อนจะรีบหยิบชุดนอนและสิ่งที่คล้ายกันทั้งหมดไปให้เขา ทว่าเพียงเห็นหลิวหลงถิงเปิดประตูห้องน้ำออกมายืนตรง ๆ พลางปล่อยกระแสน้ำบาง ๆ ให้ไหลผ่านเรือนร่างลงไป ฉันก็ตกใจจนรีบหันหน้าหนีอย่างรวดเร็วและไม่กล้ามองเขาอีก มือเรียวยื่นเสื้อผ้าให้เขาอย่างเคอะเขิน

หลิวหลงถิงเอามือมาจับบนเสื้อผ้า แล้วดึงข้อมือกลับไป แต่เขากลับดึงแขนของฉันไว้แล้วลากเข้าไปในห้องน้ำพร้อมปิดประตูลงอย่างเร็ว มือหนากดฉันให้ติดประตู พลางใช้หน้าอกที่ยังมีหยดน้ำเกาะอยู่ดันจนชิดกับใบหน้าของฉัน แล้วถามว่า “ตอนนี้กลิ่นคาวบนร่างกายฉันยังแรงอยู่หรือเปล่า?”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status