Share

บทที่ 12 ข้อตกลงแห่งความตาย

ทันทีที่เสียงหายไป เงาขาวคลุมเครือก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของฉัน เงาร่างนั่นใช้มือง้างปากหญิงสาวที่เขมือบหัวฉันไปเกือบครึ่งหัวแล้วบอกให้ฉันหลบไป

ฉันไม่แทบรู้จะร้องเรียกใครเพื่อช่วยเหลือกันในยามขับขันได้เช่นนี้ แต่เมื่อฉันหันไปพบหน้าเขา คนที่อยู่ตรงหน้ากลับเป็นซานเซินเทพเจ้าแห่งขุนเขา!

เขายังไม่ตายหรอ? ทำไมยังมีชีวิตอยู่!

เมื่อเห็นเทพแห่งขุนเขาในช่วงหน้าสิวหน้าขวานเช่นนี้ ฉันรู้สึกราวกับว่าเพิ่งออกจากปากเสือแล้วตกลงไปในถ้ำหมาป่า อีกทั้งตอนนี้เขาดูโทรมไปมาก ชุดคลุมอันตระการตาที่เคยประดับบนตัวเขาก็ไม่มีแล้ว สวมเพียงแค่เสื้อขาวขาดรุ้งริ้งตัวเปื้อนเลือด ผมกระเซอะกระเซิง ถ้าไม่ใช่เพราะใบหน้าอันงดงาม เขาก็ดูเหมือนนักโทษสมัยโบราณที่ซอมซ่อสุด ๆ

ไม่กี่วันก่อนที่ร่างของเขาถูกทำลาย ก็เพราะแผนของฉันกับหลิวหลงถิง ตอนนี้เขายังมีชีวิตอยู่ มันจบแล้ว อีกไม่นานฉันจะต้องดับอย่างอนาถ โคตรอยากหนีไปจริง ๆ!

ศรีษะหญิงสาวถูกซานเซินจับไว้แน่น หางสีดำตะหวัดถังน้ำข้างหลังยกขึ้นและกำลังกวาดหางมาที่ฉันกับซานเซิน ซานเซินกดฉันลงเพื่อให้หลบซ่อนตัว หางอันใหญ่สีดำพัดลมแรงเหนือศรีษะพร้อมทั้งเปล่งเสียงคำราม

“ยังไม่รีบไปช่วยสามีของเธออีก ยังไม่ไปอีก ไม่นานเขาก็จะตายแล้วนะ”

เทพแห่งขุนเขาปกป้องฉันพลางเอามือง้างปากหญิงสาวเอาไว้ หัวหญิงสาวเหลือบมองเขาอย่างงุนงง เทพแห่งขุนเขาเตือนงูตัวนั้นราวกับว่าเขาจะเปลี่ยนเป้าหมายใหม่เป็นชั้นสอง และดูเหมือนว่าหล่อนจะมีลางสังหรณ์ถึงอันตรายบางอย่าง หญิงสาวหัวโตกลายร่างเป็นงูทันทีแล้วเลื้อยหนีไปอย่างรวดเร็ว และหมอกหนาพร้อมงูใหญ่ก็อันตรธานหายไป

ในเวลานี้รอบตัวเหลือเพียงฉันกับเทพแห่งขุนเขา ฉันไม่เข้าใจว่าเทพแห่งขุนเขาช่วยฉันออกมาจากปากงูนั้นทำไม หรือว่าเขาเพียงแค่ต้องการฆ่าฉันด้วยตัวของเขาเองเพื่อล้างแค้นที่ก่อไว้?

“ขอบคุณเทพแห่งขุนเขาที่ช่วยชีวิตน้อย ๆ ของฉันไว้”

ฉันก้มหัวขอบคุณเขา อย่างไรก็แล้วแต่ ถ้าเขาจะปลิดชีวิตฉัน ถึงจะขอร้องไปก็ไม่มีประโยชน์ ทว่าสิ่งที่ทำให้คาดไม่ถึงคือเมื่องูใหญ่นั้นลับตาไป ในทันทีขาของเขาก็อ่อนแรงล้มลงกับพื้นพร้อมเงาขาวจาง ๆ ดูอ่อนแอเหลือเกิน!

เดิมทีฉันเคยคิดว่าจะจัดการกับเขาอย่างไร แต่เมื่อได้เห็นเขาอย่างนี้แล้วเขาช่างดีเหลือเกิน เป็นเพราะเขาเพิ่งช่วยชีวิตฉันไว้ ถ้าฉันไม่ถามเขาสักหน่อยว่าเป็นอย่างไรบ้าง ฉันก็คงจะดูเป็นคนใจแคบ

ว่าแล้วก็รีบนั่งลงข้าง ๆ เทพแห่งขุนเขา และถามไถ่เขาว่าเป็นอย่างไรบ้าง? แล้วเขาออกมาจากร่างฉันได้อย่างไร?

เมื่อเขาเห็นแววตาที่ประหลาดใจของฉัน เทพแห่งขุนเขาก็ถอนหายใจเบา ๆ พลางพูดกับฉันว่า “อันที่จริงแล้วตอนที่ฉันเห็นเธอ ฉันก็รู้ว่าเธอคือคนที่ชาวบ้านสั่งให้มาฆ่าฉัน เมื่อฉันกินยาที่กลั่นโดยตระกูลหลิวร่างกายของฉันก็ถูกทำลาย ถ้าแต้มบุญไม่สูงพอ ฉันคงถึงที่ตายไปแล้ว เพื่อจะมีชีวิตอยู่ฉันจึงสิงอยู่ในร่างของเธอและหวังว่าเธอจะไม่ว่าอะไร”

ได้ยินเขาพูดเช่นนั้น ฉันก็เข้าใจในทันที ตอนแรกคิดว่าการตายของเทพแห่งขุนเขานั้นเป็นไปได้ยาก หลิวหลงถิงถึงต้องบำเพ็ญฌาณมาเป็นร้อยปีจะเป็นไปได้อย่างไรที่จะเอาชนะเขา แต่แล้วก็คาดไม่ถึงสาเหตุหลักของเรื่องนี้คือเม็ดยากัญชา นึกว่ามันเป็นแค่ยาสลบคาดไม่ถึงว่าจะมีฤทธิ์ร้ายแรงเช่นนี้ แค่ครึ่งเม็ดก็สามารถทำลายร่างของเทพแห่งขุนเขาได้

“งั้นถ้าคุณรู้ว่ายานี้มันร้ายแรงทำไมถึงกินมัน? คุณไม่กลัวตายเหรอ?”

“เพราะมันถึงเวลาของฉันแล้ว ต่อให้พวกเธอไม่ฆ่าฉันพวกชาวบ้านก็คงไม่ปล่อยฉันไป ฉันทำชั่วมามากมายไม่ช้าก็เร็วสักวันก็ต้องรับผลกรรมอยู่ดี แทนที่จะรอให้ถูกฆ่าฉันถือโอกาสนี้หาหนทางเอาตัวรอดเองดีกว่า”

ดู ๆ แล้วเทพแห่งขุนเขาก็ไม่ได้เลวร้ายจนดูไม่มีศีลธรรม เขารู้ว่ากำลังทำอะไรที่ดีหรือไม่ดี

“งั้นตอนนี้คุณเลือกที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไร?”

เมื่อฉันพูดจบ น้ำเสียงของเขาก็ค่อย ๆ ลดลง ราวกับว่าเขาต้องการบอกความลับบางอย่างกับฉัน “เธอขยับมาหน่อยเอาหูมาใกล้ ๆ แล้วฉันจะบอกเธอ”

ตอนนี้เขาจะมีชีวิตอยู่ต่ออย่างไรฉันไม่ได้อยากรู้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นหลิวหลงถิงพวกเขากำลังต่อสู้อยู่กับงูใหญ่ที่ชั้นบนจะเป็นไปได้อย่างไรที่จะมาดูแลฉันที่อยู่ด้านล่าง

แต่เมื่อเห็นท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ ของเทพแห่งขุนเขาก็อดไม่ได้ที่จะสงสัย ฉันลังเลอยู่ครู่หนึ่งก็ได้เอาหูแนบที่ริมฝีปากของซานเซิน

“ฉันรู้เธออยากจะหลุดพ้นจากการกักขังของหลิวหลงถิง ฉันสามารถช่วยเธอกำจัดหลิวหลงถิงได้นะ ทว่าตอนนี้พลังฉันถูกทำลายเสียหายมาก ถ้าเธอยอมให้ฉันสิงร่างเธอเพื่อซ่อมแซม โดยไม่ให้ใครมารบกวนเพื่อฟื้นคืนพลังให้กลับมา ฉันจะตอบแทนเธอด้วยการช่วยกำจัดหลิวหลงถิงและยินดีที่จะทำทุกอย่างเพื่อเธอ”

กำจัดหลิวหลงถิงเหรอ? พอได้ยินคำนี้ฉันก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที ถ้าหลิวหลงถิงไม่อยู่กวนฉันอีก ตอนนี้ฉันควรจะมีความสุขอยู่ที่บ้านไปแล้ว ไม่ใช่มาใช้ชีวิตที่เสี่ยงอันตรายแบบนี้

“ที่คุณพูดมาจริงเหรอ?” ฉันถามเทพแห่งขุนเขาเบา ๆ สุดท้ายแล้วถ้าเรื่องนี้เข้าหูหลิวหลงถิงฉันกับเทพแห่งขุนเขาคงได้ทิ้งชีวิตไว้ที่นี่แน่ ๆ

“ถึงแม้ว่าเธอกับหลิวหลงถิงต้องการกำจัดฉัน แต่อย่างไรเสียวันนี้ฉันก็สิงอยู่ในร่างเธอเพื่อหนีภัยครั้งนี้ ไม่ว่าอย่างไรเธอก็คือผู้มีพระคุณ เรื่องที่สัญญาไว้ฉันจะไม่คืนคำ”

“งั้นก็ได้ ฉันสัญญา”

เมื่อลั่นวาจานี้ออกไป ก็อึ้งไปชั่วครู่ นี่ฉันเกลียดหลิวหลงถิงขนาดนั้นเลยเหรอ? เกลียดจนอยากจะฆ่าเขาเลยเหรอ? ฉันก็ไม่รู้สิ ก่อนหน้านี้ฉันอยากลองไตร่ตรองกับเทพแห่งขุนเขาดูสักพัก ทว่าหลังจากตบคำรับปากกับเทพแห่งขุนเขาไป ก็ปรากฏเป็นควันสีเขียวพุ่งเข้ามาในร่างฉัน

ฉันเปล่งเสียงเรียกเขาอีกครั้ง แต่เขากลับไม่พูดกับฉันอีกเลย

หลังจากที่งูใหญ่หายไป ควันทั่วบริเวณก็เริ่มเปิดกว้างให้มองเห็นโต๊ะและเก้าอี้ชัดเจนขึ้น ชั้นบนเองก็เงียบสงบลงจนน่าแปลกใจ ฉันรีบวิ่งขึ้นบันไดเอื้อมมือเปิดประตูทีละห้องเพื่อหาหลิวหลงถิง ฉันอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา?

ขณะที่ฉันผลักประตูบานที่มีรูปแมวแขวนอยู่นั้น สายตาก็กวาดไปเห็นหลิวหลงถิงยืนอยู่บนพรมไม่ไกลจากหน้าประตูนัก สองนิ้วมือคีบยันต์สีเหลืองที่เขียนด้วยชาดแดง เขากดมันลงตรงมุมปากแล้วร่ายคาถาอย่างรวดเร็ว

หม่าเจี้ยนกั๋วที่นั่งกอดลูกสาวอยู่ข้างกำแพงเขาใช้ผ้าห่มปิดตาลูกสาวไว้ บนพื้นนั่นมีงูดำสองตัวหล่นอยู่ ตรงหน้าผากของงูดำทั้งสองก็มียันต์สีเหลืองติดอยู่

เมื่อหลิวหลงถิงร่ายคาถาจบ ยันต์บนปลายนิ้วของเขาก็ถูกเผามอดด้วยเปลวไฟและงูสองตัวที่อยู่บนพื้นก็ค่อย ๆ กลายร่างเป็นคนที่แต่งกายด้วยชุดสีดำ ผมของหญิงสาวยาวเฟื้อย ริมฝีปากตกแต่งด้วยลิปสติกสีแดงระเรื่อ เปลือกตาที่แต่งแบบสโมคกี้อาย ดูเหมือนไม่เป็นที่นิยมมากนักในหลายปีก่อน ชายหนุ่มก็ไม่ค่อยหล่อเท่าไหร่ เขาผมสั้น ดูเหมือนพวกอันธพาลแต่มันก็คืองู ดูแล้วช่างแตกต่างกับหลิวหลงถิงโดยสิ้นเชิง

“สองร้อยปีที่อุตส่าห์บำเพ็ญฌาณตนมา ยังกล้าออกมาทำร้ายผู้คน วันนี้เห็นแก่การสำนึกผิดของพวกเจ้า ข้าจะให้ทางรอดคือกลับไปที่สำนักของข้า หลังจากนั้นข้าจะให้งานที่เหมาะสมและเครื่องหอมสำหรับเจ้าทั้งสอง พวกเจ้าตกลงหรือไม่?”

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะการบำเพ็ญฌาณนั้นทำให้พวกเทพเจ้าสัตว์ป่าชอบที่จะถูกบูชาหรือเปล่า แต่เมื่อหลิวหลงถิงกล่าวเช่นนั้นกับพวกเขา ทั้งสองก็ล้มคุกเข่าลงบนพื้นก้มหัวลงเพื่อขอบคุณและเรียกเขาว่าท่านบรรพบรุษ

แม้ว่าหลิวหลงถิงจะบำเพ็ญฌาณมาถึงเจ็ดแปดร้อยปีแล้ว และการที่ถูกงูน้อยสองตัวนั้นเรียกว่าท่านบรรพบุรุษช่างเป็นชื่อที่น่ายกย่อง ทว่าหลิวหลงถิงกลับเพิกเฉย เขาเอ่ยปากให้ฉันไปหยิบกระดาษและปากกามาเพื่อเขียนชื่องูสองตัวนี้ลงในกระดาษเดียวกัน ชายนามว่าฉางป้าเทียน หญิงนามว่าฉางชุ่ยหง

เมื่อหลิวหลงถิงส่งกระดาษในมือเขาให้ฉัน หม่าเจี้ยนกั๋วก็ลุกลี้ลุกลนเข้ามาขอบคุณพวกเรา แล้วเอ่ยว่าจะให้รถให้บ้าน

หลิวหลงถิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น ให้เขาเตรียมล้มละลายได้เลย เขากับสองงูนั่นวันนี้ไม่มีอะไรติดค้างกันแล้ว อีกสองวันเขาต้องย้ายออกจากคฤหาสน์หลังนี้แล้วกลายเป็นคนยากไร้ในที่สุด พูดจบเขาก็เดินออกไปอย่างไม่เหลียวหลังกลับมามอง โดยไม่เกรงใจหม่าเจี้ยนกั๋วเลยสักนิด

ขณะที่กำลังเดินทางกลับ หลิวหลงถิงที่นั่งอยู่ข้างกัน เขาเย็นชาใส่ฉันมันทำให้ฉันรู้สึกประหม่าเล็กน้อย บวกกับเมื่อครู่ที่ฉันกับเทพแห่งขุนเขาทำข้อตกลงกันไว้ มันทำให้ฉันรู้สึกผิดกับหลิวหลงถิงมาโดยตลอด ทั้ง ๆ ที่ฉันปองร้ายภรรยาของเขา แต่เขาก็ไม่ฆ่าฉัน กลับกันกลายเป็นฉันที่คิดจะเอาชีวิตเขา ที่แท้ฉันมันก็แค่คนเห็นแก่ตัวหรอ?

เมื่อกำลังจะคุยกับหลิวหลงถิงเพื่อขจัดความรู้สึกผิด หลิวหลงถิงจึงเอ่ยปากถามว่า “เมื่อกี้ตอนเธออยู่ด้านล่างคนเดียว ฉางชุ่ยหงได้ไปรบกวนเธอหรือเปล่า?”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status