“เธอเป็นคนตบเนลลี่”ออร่าทำหน้ามุ่ยเล็กน้อยและพูดต่อ “ตอนเธอเข้ามาในห้อง เธอก็ต่อว่าเนลลี่ที่ทำตัวไม่ดีกับฉันจากนั้นเธอก็ตบเนลลี่ ฉันห้ามเธอเอาไว้ไม่ทัน”เธอแสร้งกังวลใจในขณะที่คุกเข่าลงและเอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าของเนลลี่ “คงจะเจ็บมากเลยใช่ไหมหนู?”เนลลี่จ้องมองออร่าเขม็ง ดวงตาของเด็กหญิงเต็มไปด้วยความเกลียดชังในขณะที่เธอปัดมือของออร่าออกและดิ้นหลุดจากอ้อมแขนของโจชัวก่อนที่จะวิ่งไปหาลูน่าและประสานมือจับกับมือของลูน่า “คุณ…เป็นอะไรหรือเปล่าคะ?”ลูน่าเหยียดหลังตรง ถึงแม้ว่าเธอจะรู้สึกเจ็บปวดจากการถูกเตะ แต่เธอก็ตอบเพียงแค่ว่า “ฉันไม่เป็นอะไร”ออร่าได้ทุ่มกำลังทั้งหมดของเธอในการเตะ และลูน่าเองก็ยังมีรอยแผลเก่าจากอุบัติเหตุเมื่อหกปีที่แล้วหลงเหลืออยู่ การเตะครั้งนี้เกือบจะทำให้เธอไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้ด้วยซ้ำ เนลลี่รู้เรื่องนี้ดี เธอจับมือของลูน่าด้วยความวิตกกังวลและพาลูน่าไปนั่งลงที่โซฟา “เจ็บมากไหมคะ?”น้ำเสียงและท่าทางที่เต็มไปด้วยความกังวลของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ทำให้โจชัวเลิกคิ้วเล็กน้อย“ออร่า คุณบอกว่าเธอตบเนลลี่เหรอ?”มือของออร่าที่อยู่ข้างกายกำหมัดแน่นเธอไม่คาดคิดว่าเด็กเ
“ยังเจ็บหรือเปล่า?”ภายในห้องนอนเล็กที่ชั้นบน ลูน่าคุกเข่าลงตรงหน้าเนลลี่ในขณะที่เธอกำลังทายาให้เด็กหญิงตัวเล็กด้วยสำลีก้านอย่างระมัดระวัง“เจ็บค่ะ!” เนลลี่มองลูน่าทั้งน้ำตา “คุณแม่ หนูเจ็บ”“ชู่ว” ลูน่าขมวดคิ้วและยกนิ้วชี้ขึ้นที่ปากของเธอ “ระวังคำพูดหน่อยสิ ฉันคือพี่เลี้ยงของหนู หนูจะต้องเรียกฉันว่าคุณน้า”“อื้อ”เนลลี่ปาดน้ำตาขณะที่ดวงตาคู่โตและเปียกโชกเต็มไปด้วยความทุกข์ทน “คุณน้าคะ ตั้งแต่ที่หนูเกิดมา ยังไม่เคยมีใครตบตีหนูแบบนี้เลย” ร่างเล็ก ๆ ของเธอสั่นสะท้านจากการสะอื้นไห้หัวใจของลูน่าบีบแน่นด้วยความเจ็บปวดในขณะที่ปลายจมูกของเธอเปลี่ยนเป็นสีชมพูทั้งหมดเป็นความผิดของเธอเธอไม่ควรปล่อยให้เนลลี่อยู่ในวิลล่าแห่งนี้ตามลำพังเพื่อแผนการของเธอเลยเธอหายใจเข้าและจับมือเนลลี่ ในแววตาของเธอเต็มไปด้วยการโทษตัวเอง “มันไม่ใช่ความผิดของหนูเลย เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะผู้หญิงไม่ดีคนนั้น”เนลลี่เม้มริมฝีปาก ”หนูเกลียดเธอที่สุด!"“ห้ามพูดแบบนี้อีกเด็ดขาด” ลูน่าเม้มปากและพูดต่ออย่างนุ่มนวล “เธอคือคนที่คุณพ่อของหนูชอบ และถ้าหนูทะเลาะกับเธอคุณพ่อของหนูก็จะต้องลำบากใจมาก เพราะฉะนั้น ต่อจ
หลังจากที่นีลนั่งลงไม่นาน พนักงานก็เริ่มเสิร์ฟอาหารให้ออร่านีลเอื้อมมือไปหยุดพนักงานที่กำลังเสิร์ฟอาหารให้ออร่าด้วยดวงตากลมโต เขาถามว่า “ขอโทษนะครับ เมนูนี้คือเมนูอะไรเหรอครับ?”เด็กน้อยคนนั้นน่ารักและมารยาทดีจนพนักงานอดไม่ได้ที่จะหยุดและยิ้มให้เขา “เมนูนี้คือเสต็กเนื้อสันในค่ะ ถ้าหนูอยากกินก็ให้คุณแม่สั่งมาให้นะ!”นีลมองพนักงานเสิร์ฟด้วยรอยยิ้มและพยักหน้า “ขอบคุณครับ คุณสวยมากเลยครับ!”พนักงานเสิร์ฟในวัยสี่สิบรู้สึกยินดีกับคำชมของเด็กชายตัวเล็ก ๆ และรู้สึกราวกับว่างานเสิร์ฟของเธอเบาลงไปมาก“อยากกินสเต็กนั่นไหมล่ะ?” แอนน์ขมวดคิ้วและถาม นีลยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ไม่ครับ”“แล้วทำไมถึง…?” “แม่ทูนหัว” นีลขัดจังหวะก่อนที่แอนน์จะพูดจบ“มาเดิมพันกันเถอะ”เด็กชายหยิบโทรศัพท์มือถือของแอนน์ขึ้นมาและเริ่มจับเวลา “ผมพนันได้เลยว่าผู้หญิงคนนั้นจะไม่สามารถกินต่อได้ภายในสิบวินาที”แอนน์มองเขาอย่างสงสัย “เธอเพิ่งจะเริ่มกินเองนะ”เธอเหลือบมองนีลด้วยหางตา “อิจฉาที่เธอได้กินสเต็กเหรอ?”“ห้า สี่ สาม สอง...”นีลวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะแล้วนับถอยหลังอย่างมีชัยชนะ "หนึ่ง"ปัง! ออร่าที่นั่งอยู่ไม่ไ
ลูน่าไม่แยแส เธอเดินผ่านออร่าและตรงไปยังป้ายรถเมล์ “เราไม่มีอะไรต้องคุยกัน”“ไม่มีอะไรให้ต้องคุยหรือเธอแค่กลัวที่จะคุยกับฉัน?” ออร่าเปิดประตูลงมาจากรถและคว้าข้อมือของลูน่า “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่นะ!“เธอน่าจะอายุน้อยกว่าฉันนะ เธอยังไม่เคยมีลูกและเธอก็ยังเด็กอยู่ ฉันเดาถูกใช่ไหม? ผู้หญิงที่ไม่เคยให้กำเนิดเอง แต่กลับใฝ่ฝันที่จะเป็นคนรับใช้ของเด็กอายุ 6 ขวบเพียงเพื่อเงินเดือนไม่กี่บาทต่อเดือนอย่างนั้นเหรอ?”ลูน่าสะบัดมือของเธอออก “ถ้าอย่างนั้นคุณก็บอกฉันมาสิว่าคุณคิดว่าฉันทำไปเพื่ออะไร?”ออร่าหรี่ตาลงเมื่อวานนี้ สถานการณ์วุ่นวายจนเธอไม่ได้สนใจรูปลักษณ์ของผู้หญิงคนนั้น แต่เมื่อเธอได้อยู่ใกล้กับหล่อนในตอนนี้ เธอก็พบว่าใบหน้าของหล่อนไร้ที่ติราวกับว่ามันถูกแกะสลักโดยศิลปิน“เธอก็สวยอยู่หรอกนะ แต่เธอควรรู้เอาไว้ว่าโจชัวเป็นคู่หมั้นของฉัน ฉันขอเตือนเธอว่าอย่ามองเขาอย่างไร้ยางอายจะดีกว่า!”ลูน่ายิ้มออร่าได้พิจารณาข้อเท็จจริงที่ว่าโจชัวเป็นสามีของเธอในตอนที่มีอะไรกับเขาบ้างหรือเปล่า?พอเปลี่ยนบทกัน ออร่ายังกล้าเตือนเธอว่าอย่าทำตัวไร้ยางอายอีกเหรอ?หากเรื่องพวกนี้คือการไร
ข้อมูลเกี่ยวกับลูน่ามีจำนวนสิบหน้าโจชัวตรวจสอบเอกสารทั้งหมดเป็นเวลานาน แต่ก็ไม่พบข้อบกพร่องใด ๆ เลย เขาลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย“โอเค อยู่ที่นั่นก็ดูแลตัวเองด้วยนะ” โจชัวได้ยินเสียงของเด็กบางคนอย่างชัดเจนทันทีที่เขาเข้ามาในห้องน้ำ เขาหยุดล้างมือทันทีบริษัทมีข้อกำหนดไว้อย่างชัดเจนว่า ไม่อนุญาตให้พนักงานนำบุตรหลานมาที่ทำงานด้วย แล้วเหตุใดจึงมีเด็กอยู่ในบริษัทในเวลานี้?ชายคนนั้นขมวดคิ้วและเดินตามเสียงนั้นไปก่อนที่มันจะนำเขาไปที่ห้องน้ำห้องหนึ่ง ทันทีที่เขาเดินไปถึงที่ประตูห้องนั้นและก่อนที่เขาจะทันได้เคาะประตู ประตูห้องนั้นก็ถูกเปิดออกปัง!ประตูห้องน้ำกระแทกเข้าที่หน้าผากของชายคนนั้นด้วยเสียงที่ดังจนทำให้โจชัวส่งเสียงร้องด้วยความรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย เขาเอามือจับหน้าผากตัวเองตามสัญชาตญาณนีลเดินออกมาจากห้องน้ำนั้นด้วยร่องรอยของความสะใจและเย่อหยิ่งที่แวบเข้ามาในดวงตาของเขาครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นมองโจชัวด้วยใบหน้าที่รู้สึกผิด “ผมขอโทษครับ ขอโทษจริง ๆ ผมไม่รู้ว่ามีคนยืนอยู่ข้างนอก ผมก็เลยเปิดประตูออกมา! ผมขอโทษครับ!”โจชัวปล่อยมือที่จับหน้าผากตัวเองล
มือที่ถือตะเกียบของโจชัวหยุดชะงักเล็กน้อยเขาเงยหน้าขึ้นและใช้ดวงตาสีดำมองใบหน้าของลูน่าอย่างเฉยเมย “ถ้าผมขอให้เธอย้ายเข้ามา พวกผู้หญิงที่คลั่งไคล้ผมก็คงจะไม่มีโอกาสแล้วน่ะสิ ผมพูดถูกไหม?”คำพูดของชายผู้นี้ทำให้ลูน่าหรี่ตาลงเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ยิ้ม “ฉันคิดมาตลอดว่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณลินช์และคุณกิบสันนั้นแข็งแกร่งพอ แต่ดูเหมือนว่าฉันจะคิดมากเกินไป”โจชัวเม้มริมฝีปากและถอนหายใจอย่างแผ่วเบา “แต่ถึงอย่างนั้น คนบางคนที่เข้าหาผมด้วยจุดประสงค์ตั้งแต่แรกเริ่มจะไม่มีวันได้โอกาส”“ถ้าอย่างนั้นคุณลินช์ก็เป็นคนที่ทุ่มเทให้กับความรักมากจริง ๆ” ลูน่าโต้กลับ “ดูเหมือนว่าฉันจะเข้าใจคุณผิด”เมื่อสังเกตเห็นว่าบรรยากาศบนโต๊ะอาหารเริ่มอึดอัดขึ้นเรื่อย ๆ เนลลี่จึงยื่นมือเล็ก ๆ ของเธอออกอย่างรวดเร็วและวางมันไว้ระหว่างดวงตาของพวกเขาเสมือนเป็นเกราะป้องกัน “หยุดเถียงกันได้แล้วค่ะ!”“ไม่ใช่สักหน่อย”เสียงที่เจือความกังวลของลูกสาวทำให้ลูน่ากลับมามีสติอีกครั้งเธอสงบสติอารมณ์ลงอย่างรวดเร็วและยิ้มจาง ๆ ให้โจชัว “คุณลินช์ อย่าเข้าใจฉันผิดเลยค่ะ ฉันแค่คิดว่านายหญิงในอนาคตของครอบครัวนี้เห็นฉั
“วันนี้หนูอยากกินเค้กจังเลยค่ะ!”ภายในห้องนอนของเนลลี่ที่ชั้นบน เนลลี่ใช้มือเล็ก ๆ ผลักประตูให้เปิดออกในขณะที่มืออีกข้างหนึ่งกำลังจับมือของลูน่าไว้ “รสแยมหวานที่หนูเคยลองทานก่อนหน้านี้”ลูน่าอดยิ้มไม่ได้และพยักหน้า “ได้เลยค่ะ”ทั้งแม่และลูกสาวลงไปที่ชั้นล่างและเพลิดเพลินอยู่ในการสนทนาของพวกเธอ ทันทีที่ลูน่าไปถึงที่บันได เธอก็ได้เห็นภาพที่แขวนอยู่บนผนังข้างบันไดเธอตัวแข็งทื่อ ภาพถ่ายนั้นแสดงให้เห็นใบหน้าของเธอตอนเมื่อก่อนเธอยืนอยู่ข้างโจชัวในชุดแต่งงานและมองมาที่เขา ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความรักและส่องประกายด้วยแสงของดวงดาวนับพันทว่าใบหน้าของโจชัวกลับยังคงเหมือนเดิม ว่างเปล่าชั่วนิรันดร์และไร้ความรู้สึกในขณะที่มองดูภาพนั้น ลูน่าก็รู้สึกเหมือนกับว่าเลือดของเธอเริ่มไหลย้อนกลับเธอจำได้ว่าเธอเลือกภาพถ่ายแต่งงานของโจชัวและตัวเองอย่างระมัดระวังทีละภาพอย่างไร เธอทุ่มเทความพยายามในโครงการเล็ก ๆ ของเธอและแขวนมันไว้ทุกที่ที่เขาจะมองเห็น เธอรู้สึกว่าวันหนึ่งเขาจะต้องเข้าใจความรู้สึกที่จริงใจของเธอที่มีต่อเขาทว่าสุดท้าย ความเป็นจริงก็ได้ตบหน้าเธออย่างแรงเธอไม่เพียงแต่สูญเสียทุกสิ่งท
ไม่นานหลังจากพยาบาลเดินออกไป ออร่าก็ถูกนำตัวมาที่ห้องทำงานของแอนน์“ระวังหน่อยแล้วกันเวลาเย็บแผล ฉันไม่อยากได้แผลเป็นเพิ่ม!” ออร่าออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชาก่อนจะเอนหลังพิงเก้าอี้และนั่งดูวิดีโอต่าง ๆ ในมือถือแอนน์รู้สึกไม่ปลื้มกับพฤติกรรมเช่นนั้น แต่เพราะเป็นคุณหมอ เธอจึงทำได้เพียงก้มหน้าก้มตาจัดการเย็บแผลของออร่าอย่างขะมักเขม้นในตอนที่แอนน์ย่อกายลงและกำลังจะเย็บแผล ขณะเดียวกันนั้นออร่าก็กำลังดูละครในมือถือของตัวเองอยู่ นีลก็บังเอิญหกล้มทับแอนน์พอดิบพอดี“โอ๊ย!”นิ้วก้อยของเด็กชายโดนเข้าที่แผลของออร่า เขาฉวยจังหวะนี้ใช้เกลือจากนิ้วป้ายที่แผลของเธอ“อ้าก!” ออร่าเจ็บเสียจนใบหน้าบูดเบี้ยวขึ้นมาในทันควันแถมยังเกือบดีดตัวออกจากเก้าอี้ไปแล้ว ซึ่งนั่นทำให้แอนน์ถึงกับสะดุ้งโหยง“ขอโทษครับ...” นีลรีบโค้งตัวลงและยอมรับผิด “คุณน้าคนสวย ผมไม่ได้ตั้งใจครับ ผมแค่… บังเอิญหกล้ม...”สีหน้าของออร่าเหยเกด้วยความเจ็บปวดขณะจ้องหน้านีลราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ “ไม่ทันระวัง? แค่นี้เหรอ?”“มันเป็นอุบัติเหตุ” นีลเม้มริมฝีปากแล้วมองหน้าออร่าด้วยสายตาน่าสงสารดุจเจ้ากวางตัวน้อย “คุณน้าคนสวยครับ ถ้าโ