ลูน่าพานีลและเนลลี่กลับมายังบลูเบย์วิลล่าและส่งข้อความหาแอนน์ว่านีลอยู่กับเธอ“ชิ! บ้านของคนเฮงซวยนั่นเจ๋งดีนะเนี่ย” นี่เป็นครั้งแรกของนีลที่มายังวิลล่าแห่งนี้ ขณะที่สายตาเขามองความหรูหราที่ไม่เวอร์เกินไปของที่นี่เขาก็อดเยาะเย้ยไม่ได้ “ตอนอยู่ต่างประเทศพวกเราสี่คนต้องอยู่รวมกันในห้องสี่เหลี่ยมขนาดแค่สิบสองตารางเมตร ในขณะที่เขาอยู่บ้านหลังใหญ่อย่างกับวังนี่คนเดียว!”ลูน่าขมวดคิ้ว “นีล ระวังคำพูดหน่อย!” โชคดีที่ในเวลานี้เหล่าแม่บ้านเลิกงานแล้ว ไม่งั้นพวกเขาคงมีปัญหาใหญ่หากมีใครมาได้ยินเข้า!“ผมมองดูรอบ ๆ แล้ว ตอนนี้ที่นี่ไม่มีใครนอกจากเราสามคน”นีลฉีกยิ้มร่าและชูนิ้วก้อยขึ้นมาเกี่ยวนิ้วก้อยของลูน่าไว้ “คุณแม่ครับ ผมรู้ว่าคุณแม่กังวล ผมสัญญาจะเป็นเด็กดีนะ!”“เหอะ” เนลลี่กลอกตาใส่นีล เธอยกมือขึ้นกอดอกแล้วนั่งลงบนโซฟาอย่างขุ่นเคือง “ถ้าเป็นเด็กดีจริง พี่คงไม่ทำให้คุณพ่อเข้าโรงพยาบาล แล้วทำให้คุณแม่ต้องไปรับผิดแทนหรอก”ยิ่งพูดเด็กน้อยก็ยิ่งโกรธ “นีล หนูรู้ว่าพี่กับไนเจลเกลียดพ่อ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาเอาคืน! เรายังต้องการความช่วยเหลือจากพ่อเพื่ออาการป่วยของไนเจลนะ”เนลลี่พูดถึงโจชัวแล
นีลยังไม่ทันบอกอะไรไนเจลเลยด้วยซ้ำ เขาเลยอยากให้ไนเจลลองเดาเล่นยังไงล่ะ!“อย่างแรกเลยคือนายเพิ่งจะกลับไปได้ไม่นาน เลยไม่มีที่ไหนให้นายไปได้มากนักอยู่แล้ว แล้วนายยังอยากให้ฉันลองเดาอีก แสดงว่ามันต้องเป็นสถานที่ที่ฉันนึกออกแต่ไม่อยากจะเชื่อแน่ ๆ สุดท้ายสถานที่นี้ก็ฟังดูน่าสนใจแถมน่าตื่นเต้นสำหรับนาย นายก็เลยทนไม่ไหวและอยากให้ฉันรู้ด้วยยังไงล่ะ”แม้เสียงไนเจลจะยังเด็กอยู่ แต่น้ำเสียงของเขากลับดูมีวุฒิภาวะและสุขุม “จากทั้งหมดนี้ฉันจึงสันนิษฐานว่าที่ที่นายอยู่คงเป็นบ้านของโจชัว ลินช์ คนเฮงซวยนั่นยังไงล่ะ”นีลรู้สึกผิดหวังสุด ๆ “เล่นกับนายไม่สนุกเลย”“งั้นก็อย่าเล่นอะไรที่มันน่าเบื่อแบบนี้สิ” ไนเจลยิ้มอย่างอ่อนโยน “บอกมาเร็ว ทำไมนายถึงไปอยู่ที่นั่น?”นีลเม้มปากและเริ่มเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคืนนี้ให้ไนเจลฟัง“นายสะเพร่ามาก” ไนเจลพูดอย่างจริงจัง “โชคดีที่คุณแม่จัดการได้ ถ้าหากคุณแม่จัดการไม่ได้ คนเฮงซวยนั่นจะต้องรู้จนได้ว่านายเป็นอะไรกับคุณแม่ ครั้งต่อไปไม่ว่านายจะไปที่ไหนทำอะไรในเมืองนี้เขาจะรู้ โจชัวเป็นคนขี้สงสัย เขาจะเจอความจริงแน่ไม่ช้าก็เร็ว”“เฮ้อ! รู้แล้วน่า ฉันรู้แล้วว่าที่ทำ
นีลใช้เวลาเกือบชั่วโมงในห้องทำงานของโจชัวก่อนจะกลับออกมาเขาเดินกลับไปที่ห้องนอนสำหรับรับรองแขกอย่างระมัดระวัง ทันทีที่อยู่ใต้ผ้าห่ม หนุ่มน้อยก็ส่งข้อความ [ไนเจล ให้กล้องวงจรปิดทำงานต่อได้เลย][อืม]ไนเจลพิมพ์ข้อความขณะทำการควบคุมระบบ [ทำไมนายหายไปนานจัง?]ถึงโฟลเดอร์ของโจชัวจะมีขนาดใหญ่ แต่ก็ไม่น่าใช้เวลานานถึงขนาดนั้นนีลเงียบไปชั่วขณะก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาตอบกลับ [พอดีฉันเจออะไรบางอย่างในคอมพิวเตอร์เครื่องนั้น ฉันคัดลอกมาแล้วเรียบร้อย เดี๋ยวจะส่งไปให้พร้อมเอกสาร มันเกี่ยวกับคุณแม่][ได้เลย]เมื่อเป็นเช่นนั้น ไนเจลจึงรีบตอบกลับผู้เป็นน้องว่า [ฉันเพิ่งเริ่มระบบใหม่ อาจจะช้านิดหน่อยกว่าจะเสร็จ พักผ่อนเถอะ ไว้ค่อยส่งให้ฉันพรุ่งนี้ก็ได้][โอเค!]หลังส่งข้อความตอบกลับ นีลก็วางโทรศัพท์ไว้ใต้หมอน และยกมือกอดอกขณะสายตาจับจ้องไปที่เพดานในความมืดมิดเขาอยู่ภายใต้การหล่อหลอมของผู้เป็นแม่มาตลอดและมองโจชัวเป็นเจ้ามารร้ายจอมทรยศที่ทำทุกวิถีทางเพื่อกำจัดแม่ทว่า สิ่งที่เด็กน้อยเห็นในคอมพิวเตอร์นั้น...นีลถอนหายใจ เขารู้สึกสับสนเรื่องโจชัวยิ่งกว่าเก่า ผู้ชายคนนั้นช่างแตกต่างไปจากภาพที่เข
ผ่านไปครู่หนึ่งโจชัวจึงโบกมือ “ออกไปได้แล้ว”ลูคัสพยักหน้า ก่อนจะหันและเดินออกไป เขาปิดประตูลงตามหลังโจชัวหรี่ตามองเอกสารการสืบสวนสอบสวนทั้งสองฉบับซึ่งวางอยู่เบื้องหน้าขณะทุบโต๊ะไม่นานเขาก็ยิ้มออกมาอย่างขมขื่นเมื่อนำเอกสารทั้งสองมารวมกัน มีอยู่ชื่อเดียวเท่านั้นที่ปรากฏอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง ออร่า กิบสันเธออยากให้เนลลี่ตาย อยากกำจัดทุกคนที่พยายามทำดีกับเด็กหญิงตัวน้อยโจชัวหลับตาลงออร่าคือน้องสาวสุดที่รักของลูน่า กิบสัน แม้ก่อนจะจากไป ลูน่ายังเขียนพินัยกรรมขอร้องให้โจชัวดูแลน้องสาวของตัวเองอย่างดีที่สุดส่วนอีกคนคือลูกสาวของเขาที่เกิดกับลูน่า กิบสัน“ลูน่า คุณให้โจทย์ที่แก้ยากที่สุดกับผมซะแล้ว”…ณ คฤหาสน์ลินช์ออร่านั่งรออยู่ที่ห้องโถงเกือบครึ่งชั่วโมงขณะถือกล่องของขวัญซึ่งห่ออย่างประณีตไว้ในอ้อมแขน“คุณย่าลินช์ยังไม่ตื่นอีกเหรอ?”เมื่อเห็นบรรดาคนใช้ทั้งหลายมัวเดินเอ้อระเหยอยู่รอบ ๆ คฤหาสน์ ออร่าก็ชักหมดความอดทนคนรับใช้มองเธอด้วยสายตาดูหมิ่น “ท่านใกล้ตื่นแล้วค่ะ คุณกิบสัน ถ้าไม่อยากรอก็เชิญคุณกลับไปก่อนได้เลยค่ะ คุณย่าลินช์ไม่ชอบพบแขกแต่หัววันแบบนี้ค่ะ”ออร่ากัดริมฝี
“เหลวไหล!”น้ำตาของออร่าทำให้คุณย่าลินช์มีน้ำโห หญิงชรากระแทกถ้วยชาลงกับโต๊ะกาแฟอย่างเดือดดาล“ย้อนกลับไปตอนที่โจชัวอยากหมั้นหมายกับเธอ ไม่มีใครในตระกูลเห็นด้วยเลยสักคน แต่เจ้าตัวก็ยืนยันเสียงแข็งจะหมั้นให้ได้ อ้างว่าตัวเองกำลังทำตามความต้องการของลูน่า!”“พอถึงตอนนี้ก็ผ่านมาห้าปี ครอบครัวของเราก็ยอมรับเธอได้แล้ว หมอนั่นกลับคิดจะยกเลิกงานแต่งอย่างนั้นเหรอ? เขาคิดว่ากำลังเล่นพ่อแม่ลูกอยู่หรือยังไง?”คุณย่าลินช์มองดูเครื่องประดับบนโต๊ะก่อนหันไปทางออร่าอย่างมีเมตตา “ออร่า อย่ากังวลเลย เธอเป็นคนกตัญญู ฉันจะช่วยเหลือเธอเอง โจชัวก็แค่โดนสาวใช้คนนั้นยั่วยวน เขาถึงได้สับสนจนบอกว่าอยากถอนหมั้นกับเธอ ไม่ต้องคิดมาก ฉันจะไม่ยอมให้โจชัวล้มเลิกงานแต่งแน่นอน”ออร่ากัดปากขณะที่ความรู้สึกเต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์ “คุณย่าคะ หนูรู้สึกโล่งใจที่ได้ยินแบบนี้ คุณย่าช่างใจดีกับหนู...”จากนั้น ออร่าก็เช็ดน้ำตา “เป็นเพราะคุณย่าใจดีกับหนูมาก หนูก็ต้องทำดีกับคุณย่าเหมือนกัน โปรดรับของขวัญชิ้นนี้ไว้เถอะนะคะ หนูจำได้ว่ายังมีเครื่องเพชรของคุณวายอีกชุดหนึ่ง หนูจะซื้อเป็นของขวัญวันเกิดให้คุณย่า ดีไหมคะ?”เมื่อค
“ไม่ต้องหรอก”ลูน่ายิ้ม “เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ น่ะ” จากนั้นเธอจึงหันหลังเดินไปหาบอดี้การ์ดสองคนอย่างงามสง่า “ไปกันเถอะ”ด้วยกิริยาอาการอันนุ่มนวลและเด็ดเดี่ยวของหญิงสาว เล่นเอาบอดี้การ์ดทั้งสองตกตะลึง แม้แต่คนขับรถเองก็เช่นกันผู้หญิงคนนี้เป็นแค่แม่บ้านจริง ๆ น่ะเหรอ? ทำไมถึงดูเป็นผู้รากมากดี แถมรับมือเหตุไม่คาดฝันได้อย่างใจเย็นขนาดนี้ได้?“ไปกันได้แล้ว”ขณะที่เหล่าบอดี้การ์ดยังคงอึ้งตะลึงงัน ลูน่าจึงเดินผ่านพวกเขาและมุ่งหน้าไปยังรถเก๋งซึ่งจอดอยู่ข้าง ๆ พร้อมกับเปิดประตูก้าวขึ้นรถทันทีที่สองบอดี้การ์ดรู้สึกตัว ทั้งคู่จึงรีบขึ้นรถก่อนจะขับออกไปเมื่อรถเก๋งหายลับไปจากสายตา คนขับรถจึงค่อย ๆ ยกโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาลูคัส “คุณบีนครับ...”...คุณย่าลินช์กำลังรอลูน่าอยู่ภายในห้องรับประทานอาหารส่วนตัวของภัตตาคารแห่งหนึ่งบอดี้การ์ดผลักประตูให้เปิดออกก่อนลูน่าจะเดินเข้ามาอย่างสุขุม เธอนั่งลงตรงหน้าคุณย่าลินช์ “สวัสดีค่ะ”“เธอคือลูน่าสินะ?”คิ้วของคุณย่าลินช์ขมวดเข้าหากันเล็กน้อยขณะพิจารณาสุภาพสตรีเจ้าของใบหน้างดงามละเอียดลออตรงหน้า “คิดไว้ไม่ผิด เธอเป็นคนใช้หน้าตาดึงดูดคนอื่นสินะ”ไ
ลูน่าหยิบเช็คขึ้นมาดูใกล้ ๆ ด้วยสายตาห่างเหิน “เงินสิบล้านนี่ไม่ใช่น้อย ๆ เลยนะคะ”“ก็ใช่น่ะสิ” คุณย่าลินช์ขึ้นเสียงอย่างเย็นชา “เอาเงินไปและเก็บไว้ให้ดี แล้วอย่าหาว่าฉันไม่เตือน!”“ที่ท่านพูดก็มีเหตุผลค่ะ” ลูน่ารีบเก็บเช็คลงกระเป๋าอย่างรวดเร็ว“แต่สร้อยคอปลอม ๆ บนคอท่านอาจราคาไม่ถึงสิบล้านก็ได้ จริงไหมคะ?”เมื่อถูกทักว่าสร้อยคอเป็นของปลอม คุณย่าลินช์ถึงกับนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะหัวเราะเยาะเย้ย “ยัยคนร้ายกาจ เธอนี่เจ้าเล่ห์จริง ๆ แค่เพราะได้ยินว่าหลานสะใภ้ของฉันให้สร้อยคอเส้นนี้มา เธอเลยจงใจบอกว่ามันเป็นของเก๊อย่างนั้นเหรอ?”คุณย่าลินช์กลอกตามองลูน่าอย่างเหยียดหยาม “สาวใช้ต่ำตมอย่างเธอรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับของปลอม? ว่าที่หลานสะใภ้ของฉันน่ะเป็นเด็กเรียบร้อยสมบูรณ์แบบ ไม่มีทางซื้อของเก๊หรอก! เธอเองต่างหากที่ไม่รู้จักมูลค่าของมัน!”คุณย่าลินช์ถลึงตามองลูน่าอย่างขุ่นเคือง “ถ้าเธอรับเงินก้อนนี้ไป ฉันจะถือว่าเธอให้คำสัญญาแล้ว ไปหาข้อแก้ตัวลาออกจากบลูเบย์วิลล่าภายในสามวันซะ! ไม่อย่างนั้น อย่ามาโทษว่าฉันเสียมารยาทล่ะ!”ทันใดนั้นเอง หญิงชราก็ลุกขึ้นยืนและเดินจากไปอย่างงามสง่าโดยมีคนรับใช้
“ใช่ค่ะ”ลูน่ามองชายหนุ่มด้วยสายตาจริงจัง “ถึงยังไงสำหรับตระกูลลินช์นั้น ฉันมีค่าตัวถึงสิบล้านบาท ขอขึ้นเงินเดือนคงไม่มากไปหรอกใช่ไหมคะ?”“ไม่เลย” โจชัววางเช็คลงแล้วนั่งเอนหลัง เขาเปลี่ยนมาอยู่ในอิริยาบถสบาย ๆ พร้อมทั้งมองไปที่ลูน่า “เธอเอาเช็คนี่มาให้ฉันเพื่อขอค่าจ้างเพิ่มงั้นเหรอ?”ระหว่างพวกเขาทั้งสอง โจชัวคือฝ่ายนั่ง ส่วนเธอคือฝ่ายยืน ทว่า ชายหนุ่มกลับแผ่รังสีความเหนือกว่าออกมา จนลูน่ารู้สึกว่าตัวเองคือคนที่โดนดูถูกหญิงสาวพยักหน้า “ใช่แล้วค่ะ” ใบหน้าเธอไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ “ฉันมีเป้าหมายเล็ก ๆ และอยากให้คุณลินช์ขึ้นเงินเดือน เงินล้านมันเยอะไปสำหรับสาวใช้อย่างฉัน ฉันรู้สึกผิดที่ได้รับมันค่ะ”โจชัวยืนขึ้นและเดินตรงมายังเธอทีละก้าว “อย่างนั้นเหรอ?”“ค่ะ”เขาเอื้อมมือออกไปและเชยคางของลูน่าขึ้นด้วยสองนิ้ว เขาบังคับให้อีกฝ่ายมองเข้าไปในดวงตาลุ่มลึกไร้ที่สิ้นสุดของตัวเอง“เธอปฏิเสธเงินก้อนนี้ไม่ใช่เพราะรู้สึกผิด แต่เป็นเพราะเธอไม่อยากจากฉันไปใช่หรือเปล่า?”เสียงของเขาทุ้มต่ำชวนฟัง น่าหลงใหลและดึงดูดใจถึงแม้ว่าลูน่าจะไม่หลงเหลือความรู้สึก ๆ ใดให้โจชัวอีกต่อไปแล้ว แต่เสียงของเขายัง