“ประธานลู, เมื่อกี้คุณว่าคุณต้องการแต่งงานให้เร็วที่สุดใช่ไหม, คุณคิดว่าฉันเป็นยังไงล่ะ พอจะได้ไหม?” ทัง โรลชูว ยื่นข้อเสนอการแต่งงานให้กับคนแปลกหน้าหลังจากที่เธอถูกหักหลังโดยคู่หมั้นของเธอ ต่างคนต่างก็มีเหตุผลในการแต่งงาน, แต่ที่น่าประหลาดใจที่สุด, การแต่งงานนี้กลายเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของเธอ ไม่มีใครรู้เลยว่า - เธอจะต้องเจ็บปวด เสียใจ, หรือเขาจะบอกรักเธอด้วยความรัก, หรือเขาจะเป็นคู่ชีวิตของเธอ ?
ดูเพิ่มเติมซู ซินเล่ยยิ้มขำไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดนั้น ก่อนจะหันมองเซียวเหยาพร้อมความรู้สึกบางอย่างที่ถูกเก็บไว้ “เซียวเหยา ในเมื่อพวกนายกลับมารักกันดีแล้ว หลังจากนี้ก็จับมือเธอไว้ให้แน่น ๆ อย่าปล่อยเธอไปอีกล่ะ”พูดเสร็จกันหันไปยิ้มจริงใจให้เสี่ยวเซียว “พี่เสี่ยวเซียว ขอบคุณที่ตรงไปตรงมากับฉันเมื่อวันก่อนนะ ทั้ง ๆ ที่ในทางกลับกันแล้ว ในอดีตฉันเคยวางแผนทำอะไรไม่ดีใส่พี่ ทั้งเป่าหูแฟนพี่ แถมยังทำร้ายความรู้สึกของพี่อีก ฉันขอโทษจริง ๆนะคะ!”ทว่าการปรากฏตัวและคำขอโทษกระทันหันของเธอกลับทำให้หยิง เสี่ยวเซียวสงสัย “แล้วเธอจะมาหลอกอะไรฉันอีก?” ซู ซินเล่ยยิ้มบาง “ฉันไม่ได้มาหลอกค่ะ ฉันแค่อยากจะมาอวยพรให้ทั้งสองคนเท่านั้น”พลันซินเล่ยก็เม้มปากสูดหายใจเรียกกำลังใจให้ตัวเอง “เซียวเหยา พี่เสี่ยวเซียว ฉันขออวยพรให้ทั้งสองคนมีความสุขตลอดไปเลยนะคะ”ความจริงใจที่ถูกส่งมาจากซินเล่ย ทำให้เสี่ยวเซียวรู้สึกประทับใจในตัวอีกคน “ขอบคุณนะ ซินเล่ย”สองสาวหันมายิ้มให้กันราวกลับเรื่องผิดใจในอดีตนั้นไม่เคยเกิดขึ้น ความขุ่นมัวในใจถูกชะล้างไป เหลือเพียงมิตรภาพที่ดีต่อกันเฉกเช่นวันแรกที่ซินเล่ยเจอกับเสี่ยวเซียว…ก่อนวันงานแ
หลิน เสวียจีที่กังวลว่าสองพี่น้องจะพูดอะไรแปลก ๆ ใส่ชายแก่ เธอจึงรีบเดินตามคนทั้งสองขึ้นไปด้านบน เธอหลบและแอบฟังสิ่งที่เกิดขึ้นด้านในพอได้ยินว่าลู ชินจินจะออกจากตระกูลลู หญิงสาวก็ดีใจจนเนื้อเต้น มากกว่าตกใจเสียอีกส่วนชินจินที่เดินออกมาจากห้องทำงานของพ่อ ก็เหลือบเห็นหลิน เสวียจีทางหางตา ใบหน้าหล่อแสยะยิ้มใส่หล่อนแล้วเดินต่อถึงจะไม่พอใจการกระทำของลู ชินจิน ทว่าพอนึกถึงเรื่องที่เด็กนั่นยอมถอนตัวเองออกจากตระกูลด้วยความยินยอมของตัวเอง เธอก็มีความสุขจนลืมความโกรธเคืองก่อนหน้านี้ไปเลยเสวียจีอดทนรอจนกระทั่งเซียวเหยาเดินออกมาจากห้อง ค่อยแอบย่องเข้าไปในห้องทำงานของลู ติงแบง พลันเบิกตากว้างเมื่อเห็นชายแก่กำลังกวาดโยนทุกอย่างลงบนพื้นด้วยแรงโกรธที่กำลังครุกกรุ่นหลิน เสวียจีเริ่มกลัวจนตัวสั่น “ทำอะไรของคุณเนี่ยติงแบง?!”สายตาของลู ติงแบงที่เต็มไปด้วยความโกรธเคืองจ้องเขม็งมาที่เธอราวกับจะฆ่าแกง “ช่วยติดต่อหานักข่าวให้ฉัน ฉันจะปล่อยข่าวเรื่องตัดหางปล่อยวัดลู ชินจินกับลู เซียวเหยาออกจากตระกูลลู”“ติงแบง นี่คุณกำลังคิดจะทำอะไร?” หลิน เสวียจีแสร้งไม่เข้าใจ ทั้ง ๆ ที่ในใจกำลังเต้นพ่านอย่างดีใจ
เซิน โมเฟยโน้มเข้าไปบีบแก้มของอันยีอย่างหมั่นเขี้ยว “งั้นตอนนี้เราก็กลับบ้านกันได้แล้ว”พอเรื่องทุกอย่างจบลงได้ดี ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะอารมณ์ดีมากโข วันนี้โมเฟยไปอยากไปไหนอีกแล้วนอกจากกลับบ้านตอนแรกอันยีเตรียมบอกแฟนหนุ่มเรื่องที่เธอเจอซู เหวินจิง ทว่าเห็นท่าทางรีบร้อนกลับบ้านของโมเฟยแล้วก็ต้องเงียบไว้ก่อน ใบหน้าสวยหวานยิ้มตอบกลับไป “โอเคค่ะ งั้นกลับบ้านกันเถอะ”…เมื่อหลิน เสวียจีเห็นลู ชินจินกับลู เซียวเหยากลับมาที่คฤหาสน์พร้อมกัน เธอก็เริ่มคิดไม่ตก แต่ก็ใช้รอยยิ้มปิดบังความรู้สึกขุ่นมัวนั่นไว้ “กลับบ้านมาพร้อมกันแบบนี้ พ่อของพวกเธอต้องดีใจแน่ ๆ”“พ่อผมอยู่ไหน?” เซียวเหยาเป็นฝ่ายถาม“อยู่บนห้องทำงานชั้นบนน่ะ”พอได้คำตอบที่ต้องการ สองพี่น้องก็พากันเดินผ่านหน้าเธอขึ้นบันไดไปทันทีการกระทำนั่นยิ่งสร้างความไม่พอใจให้กับเธอมากกว่าเดิม เสวียจีตวัดสายตามองแผ่นหลังของสองพี่น้องด้วยสายตาไม่พอใจที่ปิดไม่มิดยามนี้ผู้นำของตระกูลลูอย่าง ลู ติงแบงกำลังใช้สมาธิและความสงบฝึกฝนการเขียนตัวอักษรจีนด้วยพู่กันอยู่ พลันมือข้างที่ถือด้ามพู่กันอยู่จำต้องหยุดมือเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าที่เข้ามาใกล้
โมเฟยเดินเข้าไปด้านในห้องพักผู้ป่วยของปู่เซิน และพอชายชราได้ยินเสียงเคลื่อนไหวก็รับหันกลับไปพูด เพราะคิดว่าคนที่เดินเข้ามานั้นเป็นเหวินจิง “เหวินจิง เธอ…” ทว่าเมื่อเห็นคนที่เดินเข้ามาชัด ๆ เสียงเรียกนั่นก็เงียบไปยามเห็นใบหน้าของหลานชาย แวบหนึ่งนัยน์ตาของปู่เซินนั้นฉายชัดไปด้วยความสุข ทว่ากลับแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาอย่างไว “แกมาทำอะไรที่นี่?”“ก็มาเยี่ยมปู่นั่นแหละ”ขายาวก้าวฉับไปยังปลายเตียงคนป่วยเพื่อเผชิญหน้ากับปู่ตัวเอง“มาดูว่าฉันตายหรือยังใช่ไหมล่ะ?” เสียงแหบแห้งพูดแซะอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ เมื่อนึกถึงหลายวันก่อนที่หลานรักไม่ยอมมาเยี่ยมหากันเลยเขาผิดที่หลอกหลายเรื่องป่วย แต่ไอ้เด็กนี่ก็หัวดื้อพอกัน จนวันนั้นเผลอหลุดปากไล่มันไป ก็ตอนนั้นเขาทั้งโกรธแล้วก็เสียใจจากของการกระทำของมันเซิน โมเฟยขมวดคิ้ว “ปู่ คิดจะพูดกระท่อนกระแท่นใส่กันไปถึงไหน?”ปู่เซินเหยียดยิ้ม “แล้วใครมันทำให้ฉันเป็นแบบนี้กันล่ะ?เมื่อเห็นว่าปู่ยังคงวางฟอร์มไม่ยอมลงให้กันง่าย ๆ ชายหนุ่มก็หัวเราะลั่น “ก็ได้ครับคุณปู่ เอาล่ะ ในเมื่อผมตั้งใจมาเยี่ยมปู่ เรามาคุยกันดี ๆ หน่อยเถอะครับ โอเคไหม?”ชายชราตวัดตามองหน้าหลา
“ถ้าคุณไม่เข้าไป งั้นเราก็กลับบ้าน” มาพูดให้เธอรู้สึกผิดแบบนี้ก็แย่สิ และถ้าไม่เข้าไปมีหวังโมเฟยก็ไม่ยอมคุยกับปู่ หรือมาหาปู่อีกเลย“โมเฟย” ซอง อันยีกระซิบ “รู้ไหมว่าคุณกำลังทำให้เรื่องมันวุ่นวายกว่าเดิมน่ะห๊ะ? เอาล่ะ เข้าไปคุยดี ๆ กับปู่ได้แล้ว บางทีท่านอาจจะเอ็นดูฉันกว่าเดิมก็ได้นะ แต่ถ้าคุณหันหลังกลับบ้าน ปู่จะไม่มีวันยอมรับฉันแน่ แล้วท่านก็จะมองว่าฉันเป็นผู้หญิงนิสัยเสีย รั้งตัวหลานชายตัวเองไว้ไม่ยอมปล่อยให้คุณไปเจอท่าน”“แต่ว่า…” โมเฟยรู้สึกแย่แทนแฟนสาว“โมเฟย ฉันรู้ว่าคุณมาที่นี่เพื่ออะไร เพราะฉะนั้นเดินเข้าไปเถอะ” พอเห็นสายตาอ่อนโยนของอันยี โมเฟยก็ทำได้เพียงถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ “ผมนี่เทียบคุณไม่ได้เลยนะ”เสียงเข้มว่าอย่างนั้น “งั้นก็รอผมอยู่นี่ก่อนนะ” ร่างสูงพูด ก่อนจะโน้มตัวลงมากดจูบหน้าผากเนียนแผ่วเบา พลันหมุนตัวเปิดประตูเดินเข้าไปด้านในห้องซอง อันยีก้มหน้าอมยิ้มมองประตูที่ปิดลง ไม่นานก็เดินหาที่นั่งรอแถว ๆ กำแพงด้านนอก ใบหน้าสวยเงยขึ้นพลันเหลือบไปเห็นซู เหวินจิงที่ยืนอยู่ไม่ไกลเธอตกใจเล็กน้อย แต่ก็รีบเผยรอยยิ้มให้อีกคนเหวินจิงก้าวเท้าเข้ามาหาเธอช้า ๆ แล้วหยุด
โรลชูวกลับไปบอกชินจินเรื่องที่เซียวเหยาเผลอไปต่อรองกับพ่อของพวกเขาไว้ พลันใบหน้าหล่อเหลาของแฟนหนุ่มก็เคร่งขรึมกว่าเดิม หลังจากฟังจบลู ชินจินไม่พูดอะไรออกมาอีกเลยทว่าแฟนสาวอย่างโรลชูวก็สัมผัสได้ถึงออน่าทมิฬรอบ ๆ ตัวชายหนุ่มเขากำลังโกรธร่างบางได้แต่แอบถอนหายใจ เซียวเหยาใจเร็วเกินไปจริง ๆ และผลที่ตามมาก็คือ ชินจินที่นั่งหน้าเครียดปานจะฆ่าคนได้อยู่ตรงนี้ผ่านไปพักใหญ่ เสียงเข้มก็เอ่ยบอก “ชูวชูว บอกเซียวเหยาให้มาพบผมด้วย”ทัง โรลชูวทำมือโอเค ก่อนจะรีบโทรหาน้องเขยทันทีพอได้รับสายตรงจากพี่สะใภ้ว่าพี่ชายเรียกตัวเข้าพบ คนเป็นน้องอย่างเซียวเหยาหรือจะกล้าหือ ต่อให้เกรงกลัวอารมณ์ของพี่ชายในตอนนี้ เขาก็ต้องบึ่งรถไปหาตามคำสั่งเมื่อย่างก้าวเข้าไปในห้องรับแขก เซียวเหยาก็รับรู้ได้ถึงออร่าขุ่นมัวจากตัวพี่ชาย ขณะเดียวกันพี่สะใภ้ก็พยายามใช้สายตาปลอบใจเขาเซียวเหยารู้อยู่แล้วว่าพี่ชายคงโกรธมากที่เขาไปตกลงกับตาแก่แบบนั้น ชายหนุ่มจึงทำใจเตรียมรับการดุด่าจากพี่ชายตนไว้แล้ว“พี่ใหญ่” เซียวเหยาทักทายเสียงแผ่วลู ชินจินเงยหน้ามองน้องชายด้วยสายตาเรียบตึง ผ่านไปสักพักก็เริ่มบทสนทนา “นายไม่เชื่อใจฉัน
เธอเข้าใจว่าเขาทำเพื่อเสี่ยวเซียว แต่เซียวเหยาใจร้อนเกินไปจนลืมกระทั่งมาปรึกษาปัญหานี้กับเธอและชินจินเสียก่อนตอนนี้ตาแก่คงกำลังเริงร่าเป็นแน่หลังจากได้ฟังสิ่งที่พี่สะใภ้พูด เซียวเหยาก็เริ่มกลัวขึ้นมาเล็กน้อย “แต่พี่… ที่ผมทำแบบนี้เพราะทันไม่มีทางอื่นแล้ว”โรลชูวยิ้มปลอบ “ฉันเข้าใจว่านายรู้สึกยังไง และฉันก็จะไม่โทษนายหรอกนะ”สิ่งที่ทำลงไปแล้วย่อมสายเกินกว่าจะแก้ไขสิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องทำในตอนนี้ก็มีแค่บอกชินจินถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ให้แฟนหนุ่มได้เตรียมตัวเตรียมสำหรับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นตามมาหลังจากนี้…เนื่องจากติดต่อเพื่อนสนิทอย่างหยิง เสี่ยวเซียวไม่ได้ โรลชูวจึงขับรถไปหาเพื่อนสาวที่บ้านของเจ้าตัวแทนพอคนรับใช้ตระกูลหยิงเห็นหน้าเธอ พวกเขาต่างดีใจราวเจอฮีโร่ช่วยชีวิต “คุณโรลชูว ได้โปรดขึ้นไปดูอาการคุณหนูด้านบนด้วยเถอะค่ะ ตั้งแต่กลับมาคุณหนูก็ขังตัวเองอยู่ในห้องแบบนั้น ขนาดคุณนายพยายามพูดเกลี้ยกล่อมหลายครั้ง เธอก็ไม่ยอมเปิดประตูออกมาเลยค่ะ” สาวใช้พูดเสียงสั่นเครือโรลชูวจึงรีบวิ่งขึ้นไปด้านบนทันที“เสี่ยวเซียว เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า? อย่าทำให้แม่เธอใจเสียสิ”โรลชูวพูดพร้อมวิ
หยิง เสี่ยวเซียววิ่งออกจากออฟฟิศทั้งน้ำตา จนพนักงานด้านนอกที่รู้จักเธอ ต่างพากันเลิกลั่กตกใจเพราะไม่รู้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้านในไม่นานข่าวนี้ก็ถึงหูของทัง โรลชูวเสี่ยวเซียวร้องไห้เหรอ?คิ้วเรียวขมวดแน่น คนแรกที่เธอนึกถึงคือเซียวเหยา ในหัวเริ่มครุ่นคิดว่าชายหนุ่มทำอะไรไม่ดีใส่เพื่อนตัวเองหรือไม่นิ้วเรียวกดโทรออกหาเพื่อนรักหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีคนรับสายจนในที่สุดโรลชูวก็ตัดสินใจขึ้นไปหาลู เซียวเหยาที่ออฟฟิศ เมื่อใจเริ่มกระวนกระวายกลัวหยิง เสี่ยวเซียวเป็นอะไรไปพอลิฟต์เคลื่อนตัวถึงชั้นทำงานของผู้จัดการสาขา ทันทีที่ประตูเหล็กเปิดออก นัยน์ตากลมก็ต้องเบิกกว้างเมื่อเห็นหญิงสาวอีกคนที่ยื่นรอลิฟต์อยู่ด้านนอกตรงหน้าเธอโรลชูวขมวดคิ้วนิด ๆ แล้วเดินออกจากลิฟต์ทั้งที่ยังไม่ละสายตาจากใบหน้าของหล่อน เธอคนนั้นหันมายิ้มทักทายให้ พลางเกินเข้าไปกดปุ่มด้านใน เมื่อประตูปิดลง ภาพตรงหน้าก็ตัดฉับเหลือเพียงประตูเหล็กโรลชูวยังคงยืนมองประตูลิฟต์ที่ปิดสนิทพร้อมระดมความคิดทางด้านลู เซียวเหยาที่เดินออกมาจากออฟฟิศก็ชักงะไปนิดเมื่อเห็นร่างของคนที่ยืนอยู่หน้าลิฟต์ คิ้วเข้มเลิกสงสัย ก่อนจะก้าวฉับไป
Welcome to Goodnovel world of fiction. If you like this novel, or you are an idealist hoping to explore a perfect world, and also want to become an original novel author online to increase income, you can join our family to read or create various types of books, such as romance novel, epic reading, werewolf novel, fantasy novel, history novel and so on. If you are a reader, high quality novels can be selected here. If you are an author, you can obtain more inspiration from others to create more brilliant works, what's more, your works on our platform will catch more attention and win more adimiration from readers.