“สุดท้ายแล้ว คุณอยากจะเป็นเหมือนกับซินเดอเรลล่าในละครไหม? คุณอยากจะเลือกความรักไหม?” ชายชราสจ๊วตมองไปที่เจนด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่มบนใบหน้าที่มีอายุ และเหี่ยวย่นของเขาเห็นได้ชัดว่าเขากำลังหัวเราะเยาะกับมุมมองของเจนที่มีต่อคำว่า "ความรัก"เจนหัวเราะกับตัวเองเบา ๆ เธอต้องการจุดจบของเจ้าชาย และเจ้าหญิง และมันเป็นเพียงครั้งเดียวในชีวิตของเธอที่เธอรู้สึกตกหลุมรักคน ๆ หนึ่ง อย่างไรก็ตามมันกลับกลายเป็นเรื่องตลกในสายตาของคนอื่นโดยไม่ได้ตั้งใจหลังจากนั้นไม่นานการจ้องมองของเธอก็เฉียบคม เป้าหมายของชายชรามันไม่ง่ายอย่างที่คิดชายชราอาจมีเป็นพันวิธีที่จะไล่เธอออกไป เขาไม่จำเป็นต้องใช้วิธีที่โง่ที่สุดเช่นนี้นอกจากนี้ถ้าเขาอยากจะไล่เธอออกไปจริง ๆ ทำไมเขาถึงทำตอนนี้ล่ะ?ทำไมเขาถึงไม่ทำก่อนหน้านี้หรือหลังจากนี้? ทำไมต้องเป็นตอนนี้?สายตาของเจนจ้องไปที่อูโน่ที่ยืนอยู่ข้างหลังของชายชรา สมองของเธอทำงานอย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่ที่ฌอนปรากฏตัวในเอ๋อไห่เธอไม่ได้เห็นอูโน่เลยจนกระทั่งถึงขณะนี้สิ่งนี้มันหมายความว่าพวกเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับอูโน่เลย มีโอกาสที่เขาเป็นลูกจ้างกับฌอนครึ่งหนึ่งและว่างงานอีกคร
เป็นไปไม่ได้ที่จะเรียกรถแท็กซี่บริเวณรอบ ๆ คฤหาสน์เก่าแก่ของสจ๊วตเธอจะต้องเดินไปตามทางเรื่อย ๆ จนถึงทางแยกของถนนที่จะมีรถวิ่งผ่านเจนลากร่างที่อ่อนล้าของเธอแล้วเดินไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ ชายชราสจ๊วตไม่แม้แต่จะทำตามมารยาทขั้นพื้นฐานในการส่งแขกกลับด้วยซ้ำชายชราทิ้งเธอไว้ลำพัง เขาไม่แม้แต่ที่จะขอให้ใครขับรถไปส่งเธอกลับบ้าน หรืออย่างน้อย ๆ ก็มาส่งเธอเรียกแท็กซี่เสียด้วยซ้ำเจนเดินออกจากคฤหาสน์เก่าแก่สจ๊วต และไปตามทางพื้นที่ส่วนตัวนั้น จนถึงบริเวณทางแยกของถนนที่เป็นพืนที่สาธารณะที่รถทั่ว ๆ ไปสามารถวิ่งผ่านไปมาได้"เดี๋ยวก่อน"มีคนร้องเรียกเธอและเธอก็หันกลับไปมองที่เสียงนั้นรถคันหนึ่งขับผ่านไปอย่างช้า ๆ ก่อนที่จะหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ กระจกหน้าต่างรถค่อย ๆ เลื่อนลงและใบหน้าของอูโน่ก็โผล่ออกมาจากรถ “ฉันจะขับรถไปส่งคุณเอง”เขาใจดีจริง ๆ หรือ? เจนมองเขานิ่ง ๆ สักพัก เธอคลี่ริมฝีปากเป็นรอยยิ้ม “ขอบคุณ”เธอเปิดประตูและเข้าไปนั่งภายในรถอูโน่สตาร์ทรถขับออกจากทางแยกและออกสู่ถนนสายหลักเมื่อถึงทางยกระดับมีรถอยู่รอบ ๆ ไม่มากนัก ที่เบาะหลังเจนถูหลังที่เจ็บของเธอ "บอกฉันหน่อย"มือของคนขับบนพวง
"พวกเรารู้จักกันหรอ?"เจนเพิกเฉยต่อการเย้ยหยันของพวกอันธพาล และพยายามที่จะล้วงข้อมูลจากพวกเขา“คุณคือประธานจากดันน์ กรุ๊ป คุณร่ำรวย เราจะไม่รู้จักคุณได้อย่างไร?” หัวหน้าแก๊งค์อันธพาลกำลังเล่นกับไม้เบสบอลราวกับว่าเขาเป็นคนที่เจ๋งที่สุดในโลก“คนที่จ้างพวกคุณมา เขาให้เงินคุณเท่าไหร่? ฉันจะให้พวกคุณเป็นสองเท่า”“ฉันไม่สนใจเงินของคุณหรอกนะ”เจนตระหนักว่าคนเหล่านี้ไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้ เหตุผลเดียวที่พวกอันธพาลเหล่านี้ยอมทำสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่นั้นก็เพียงเพราะเงินอย่างไรก็ตามอันธพาลที่อยู่ต่อหน้าของเธอนั้นไม่ได้หวังเงินอย่างน้อยเธอก็รู้ว่าพวกเขาก็ไม่ได้ทำเพียงเพราะเงินอย่างเดียวมิฉะนั้นพวกเขาจะปฏิเสธเธอโดยไม่คิดได้อย่างไรเมื่อเธอเสนอเงินเพิ่มเป็นสองเท่า?ในขณะนั้นมีเพียงไม่กี่คนปรากฏขึ้นในหัวของเธอ เธอหรี่ตาด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ และพูดว่า “คนที่จ้างพวกคุณมาเป็นคนตัวสูงผิวคล้ำ และมีรอยแผลเป็นที่หลังมือซ้ายใช่ไหม?”แม้ว่าอีกฝ่ายจะซ่อนมันได้ดี แต่พวกเขาก็ยังคงประหลาดใจเล็กน้อยอยู่พักหนึ่ง“เราไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดถึงใคร”“คุณหนูดันน์ คุณต้องจำสิ่งหนึ่งไว้”“สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้
ท้ายที่สุดแล้วไม้เบสบอลของพอร์กเกอร์ก้ไม่ได้ฟาดลงที่เจนอย่างไรก็ตามมันถูกฟาดลงบนหลังที่หนา และกว้างของบางคนมือของพอร์กเกอร์กำลังสั่นเทา หัวหน้าอันธพาลมองไปที่คนที่โผล่ออกมาเอาตัวกำบังให้เจน เมื่อกี้เขาถูกแรงผลักออกจนติดกำแพง เขาไม่ทันตั้งตัวจากการถูกผลักออกนั้น เขามองไปที่บุคคลที่ปรากฏตัวขึ้นด้วยความตกใจ“คะ-คะ- คุณเป็นใคร?”คน ๆ นี้มาจากไหน?เขายังคงสงสัย แต่แล้วเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาไม่ได้ทำในสิ่งที่สมควรจะทำในเวลานี้ เขาเย้ยหยันและร้องตะโกนออกมาว่า “พอร์กเกอร์โจมตีเลย!”"แต่…"“ไม่มีแต่ หลังจากทำเสร็จแล้วเราจะได้รีบออกจากเมืองนี้ และเราจะไม่กลับมาที่นี่อีก "“แต่คน ๆ นี้…จะเกิดอะไรขึ้นถ้า…จะเป็นอย่างไร…”“จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ลองคิดดูสิ คิดถึงจำนวณเงินทั้งหมดที่เราจะได้รับ มันเพียงพอแล้วสำหรับพวกเราที่จะใช้ชีวิตโดยไม่ต้องกังวล หลังจากทำสำเร็จแล้วเราจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสบาย ๆ ตามที่เราต้องการได้หลังจากนี้”พอร์เกอร์กำลังลังเลหลังจากตกใจกับการปรากฏตัวของผู้ชายคนนั้นอย่างกะทันหัน หัวหน้าแก๊งค์เห็นว่าพอร์กเกอร์ลังเล เขาจึงตะโกนขึ้นว่า “นายไม่ได้ฆ่าคนหรือวางเพลิงซักหน่อย นา
เจนรู้สึกถึงความเปียกบนใบหน้า มันคือเหงื่อที่ไหลออกมาจากหน้าผากของชายคนนี้เธอรู้สึกจุกในลำคอ และผลักเขาออกสุดกำลัง คนตรงหน้าของเธอเซไปข้างหลัง “เจนนี่อย่า…”"ทุกอย่างจะโอเค" เธอเอื้อมแขนไปจับแขนของคนที่กำลังจะวิ่งเข้ามาหาเธออีกครั้ง ผู้ชายกล้ามโตเห็นเธอแล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ“ฉันกำลังกังวลว่าจะตีเธอไม่ได้ แต่เธอเป็นผู้หญิงที่ดีมาก อยู่เฉย ๆ ซะนะ"จากปลายหางตาของเธอ เธอเห็นไม้เบสบอลที่พอร์กเกอร์ทิ้งลงบนพื้นก่อนหน้านี้ เธอหมอบลง และหยิบมันขึ้นมา เธอเหวี่ยงมันไปทั่วบนอากาศอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าเธอไม่มีประสบการณ์ในการต่อสู้ เธอไม่มีทักษะใด ๆ เธอไม่รู้ว่าเธอตีโดนใครบ้างหรือเปล่า อย่างไรก็ตามในขณะนี้เธอต้องการที่จะอยู่รอดและต้องการที่จะต่อสู้กลับ“ไป!”"ไปให้พ้น!”“อย่าเข้ามา!”“ฉันบอกให้ทพวกคุณทุกคนไปให้พ้น! พวกคุณได้ยินฉันไหม?"เธอเหวี่ยงไม้เบสบอลอย่างไร้จุดหมายเธอยังคงตะโกนว่า "ไปให้พ้น" ด้วยเสียงแหบแห้ง และเกรี้ยวกราดเธอลืมความรู้สึกนี้ไปแล้ว เธอลืมไปว่านานแค่ไหนแล้วที่เธอต่อสู้ด้วยความเข้มแข็งปีที่เธอถูกจองจำ เธอต้องเผชิญกับการทรมาน และการกลั่นแกล้งทุกรูปแบบ เธอเคยต่อสู้ แล
พอร์กเกอร์อยากจะทำอะไรบางอย่าง แต่อย่างไรก็ตามเขาจำดวงตาคู่นั้นได้ เขาไม่เคยเห็นดวงตาแบบนั้นมาก่อนตลอดช่วงชีวิตของเขาไม่มีคนปกติทั่วไปที่จะมีดวงตาเช่นนั้นพอร์กเกอร์ลังเล"นายนี่มันขี้แยชะมัด!"เจนรู้สึกกระวนกระวาย เธอเฝ้าดูพอร์กเกอร์มองไปรอบ ๆ อย่างลังเลคนเดียวที่สามารถทำบางอย่างได้ในตอนนี้คือพอร์กเกอร์ หัวหน้าแก๊งค์ และคนตัวโตต่างก็เจ็บหนักทั้งคู่“ปล่อยเราไป ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่ตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนี้ นอกจากนี้พวกคุณยังบาดเจ็บสาหัส แน่ใจหรือว่าคืนนี้พวกคุณจะสามารถออกจากเมืองเอสนี้ได้?” เธอพูดในขณะที่ขู่และสัญญา “ในส่วนของเงิน ฉันจะให้พวกคุณล้านเหรียญเพื่อแบ่งปันระหว่างพวกคุณเอง ถ้าไม่…” เธอมองไปที่คน ๆ นั้น เขาบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน หากพวกเขายังคงดำเนินการต่อไปเรื่อย ๆ เธอก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ในขณะที่กำลังตื่นตระหนกเหตุผลของเธอก็เริ่มกลับมาหาเธอ ดวงตาของเธอคมขึ้น“พวกคุณมีสองทางเลือก”“หนึ่งปล่อยเราไป ฉันจะไม่ตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ฉันจะโอนเงินหนึ่งล้านเหรียญไปยังบัญชีของคุณในวันพรุ่งนี้ ทุกคนก็จะมีความสุข”“ประการที่สองเราทำให้เก
“ทำไมคุณถึงไปอยู่ที่นั่นได้?”พวกเขาทั้งสองประคับประคองกันไปตลอดทาง เมื่อพวกเขากลับถึงบ้าน เธอก็เปิดประตู และเดินเข้าไปเธอหันกลับมา และจ้องมองชายคนนั้น ขณะที่รอคำตอบจากเขาเขาไปอยู่ที่นั่นได้อย่างไรในช่วงเวลานั้น?ราวกับว่าชายคนนั้นไม่ได้สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในการแสดงออกของเธอ เขาชี้ไปที่ระเบียงอย่างไร้เดียงสา “เจนนี่ไปทำงานทุกวัน และฌอนก็จะยืนอยู่ที่นั่นเพื่อดูรถของเจนนี่แล่นออกไปเช่นกัน”“ผมรู้เวลาที่คุณเลิกงานนะเจนนี่”สิ่งที่เขาหมายถึง ก็คือเขาจะรออยู่ที่ระเบียงทุกวันเพื่อดูรถของเธอขับออกไปและกลับเข้ามาเธอตกใจมาก เธอได้คิดถึงคำตอบทั้งหมดที่เป็นไปได้ แต่เธอไม่คาดคิดว่า…อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้คาดหวังที่จะได้คำตอบเช่นนี้“ตึกนี้สูงมาก คุณจะเห็นฉันด้วยหรอ?” เธอรู้ตัวในทันใดใครคนนั้นดึงเธอไปที่ระเบียง “พี่เรย์ให้สิ่งนี้กับผม”เจนเห็นว่าที่ระเบียงมีของเยอะมาก เธอตกใจอีกครั้ง“ผมใช้เวลามากมาย ในการรวบรวมสิ่งนี้เข้าด้วยกัน” คน ๆ นั้นยังคงส่งเสียงเจื้อยแจ้วข้าง ๆ เธอ และมันก็ดังก้องอยู่ในหูของเธอเธอลดสายตาลง ใช้เวลามากมาย ในการรวบรวมสิ่งนี้เข้าด้วยกันเลยหรอ?อย่างไรก็ตาม
เรย์มึนงง ฌอนห้ามไม่ให้เขาไปที่บ้านของเจนอีกต่อไป นอกจากนี้เมื่อแพทย์ของเขาได้ให้ยากับฌอนเสร็จ และกลับไป ใบหน้าของเขาก็ดูกังวลเป็นอย่างมาก เรย์รู้สึกว่าเจนต้องรู้อะไรบางอย่างแน่ ๆในท้ายที่สุดเมื่อเขาโทรหาเจนมันก็เหมือนกับว่าเธอได้กินระเบิดเข้าไป เธอทั้งกล่าวหา และตะโกนดุด่าเขาว่า "เพลย์บอย" "ปฏิบัติต่อชีวิตของคนเหมือนเกม" และ "สอนแต่เรื่องชั่ว ๆ ให้กับคนอื่น"เรย์รู้สึกแปลกยิ่งขึ้นเมื่อเขามองไปที่การโทรที่สิ้นสุดลงแล้ว เจนก็ตัดสายเขาทิ้งเธอเรียกเขาว่าเพลย์บอย…แปลกมาก เพราะนี่ไม่ใช่วันแรกที่เจนรู้ว่าเขาเป็นเพลย์บอย และเจ้าชู้แล้วมันเกี่ยวข้องอะไรกับเธองั้นเหรอ?นอกจากนี้เธอยังบอกว่าเขาสอนบางคนในสิ่งที่ไม่ดี ... เธอหมายถึงใครกัน?เรย์สงสัยเรื่องนี้มาก ๆ แต่อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถคาดเดาความจริงได้เลยเจนวางสายไปแล้ว แต่เธอก็ยังโกรธอยู่ถ้าเธออธิบายเรื่องงี่เง่านั้นเป็นอย่างดี เธอก็จะบอกว่าเขาไร้เดียงสา ถ้าเธอพูดอย่างหยาบคาย เขาก็จะดูโง่เง่าที่สุด ความทรงจำ และไอคิวของเขานั้นมันเหลือเพียงแค่เด็กแปดขวบคนงี่เง่านั้นจะรู้เรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร?เขาหมายถึงอะไรกันที่บอกว่าร้อ