Share

บทที่ 0015

ฮั่วเยี่ยนฉือสวมเสื้อสูทสีดำ รูปร่างหน้าตาของเขาหล่อเหลาและสง่า กำลังเดินย่างกายเข้ามา

เขามาได้อย่างไร?

เมื่อเจอเธอ ดวงตาของฮั่วเยี่ยนฉือดูเย็นชาลงเล็กน้อย ราวกับเขาพยายามข่มอารมณ์ของตัวเองไว้

ทำไมถึงทำหน้าแบบนั้น หรือว่ายังโกรธเรื่องเมื่อเช้าอยู่?

“คุณตาครับ”

ขณะที่เฉียวสือเนี่ยนกำลังสงสัย ฮั่วเยี่ยนฉือก็ทักทายคุณตาของเธออย่างนอบน้อม

“เยี่ยนฉือมาแล้วเหรอ หิวไหม รีบนั่งเถอะ มากินข้าวด้วยกัน พวกเรากำลังรอหลานอยู่เลย!”

คุณตาเอ่ยทักทายเขาน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความรัก “หลานนั่งข้างเนี่ยนเนี่ยนเถอะ ปลาเก๋านึ่งที่หลานชอบวางอยู่ตรงนั้นพอดี”

ได้ยินอย่างนั้น เฉียวสือเนี่ยนจึงดันจานปลาเก๋านึ่งให้มาอยู่ตรงกลางแทน “ไปนั่งตรงข้ามนู่น”

“เนี่ยนเนี่ยน ทำอะไรของหลานน่ะ ทำไมทำตัวเสียมารยาทขนาดนี้”

หลังจากเฉียวตงไฮ่เอ่ยตำหนิเธอ เขาก็หันมาพูดกับฮั่วเยี่ยนฉืออย่างไม่มีทางเลือก “เยี่ยนฉือ เนี่ยนเนี่ยนเด็กคนนี้โดนฉันโอ๋จนเสียนิสัย เลยเอาแต่ใจไปหน่อย”​

“หลานให้อภัยเธอหน่อยนะ อย่าคิดเล็กคิดน้อยเลย ที่จริงเธอเป็นคนที่จิตใจดีมากเลยนะ”

ฮั่วเยี่ยนฉือไม่ได้โต้แย้งเฉียวตงไฮ่ เพียงนั่งลงตรงข้ามกับเฉียวสือเนี่ยน แล้วเอ่ย “เข้าใจแล้วครับคุณตา”

ตั้งแต่เด็กฮั่วเยี่ยนฉือเป็นคนที่ได้รับการสั่งสอนเรื่องมารยาทอย่างเคร่งครัด แม้ว่าจะไม่ชอบเธอ แต่ต่อหน้าคุณตาเขาจะไม่ล้ำเส้นจนเกินไป

แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีข้อยกเว้น

ชาติก่อน เขาจำเป็นต้องส่งเธอเข้าโรงพยาบาลจิตเวช เพื่อป๋ายอีอี แม้คุณตาจะขอความเมตตา เขาก็ยังไม่ไว้หน้า ‘ในเมื่อคุณตาสอนเธอได้ไม่ดี ผมก็จะสอนเธอเอง’

เมื่อคิดถึงเรื่องที่เกิดในชาติก่อน ความอยากอาหารของเฉียวสือเนี่ยนก็หายวับไปกับตา

เธอตักข้าวขึ้นมากินทีละคำ แต่ก็ไม่เต็มคำ

เฉียวตงไห่และฮั่วเยี่ยนฉือพูดคุยเกี่ยวกับข่าวคราวเรื่องเศรษฐกิจ

“ใช่แล้วเนี่ยนเนี่ยน” จู่ ๆ เฉียวตงไห่ก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “ตัวอย่างน้ำหอมที่หลานผสมครั้งล่าสุด ลูกค้าชอบกันมากเลยล่ะ เขามาถามตาว่าหลานจะผลิตลอตใหญ่เมื่อไหร่!”

“คุณตาคะ หนูไม่มีอะไรทำ ก็เลยทำมันขึ้นมาเล่น ๆ เองค่ะ คุณตาก็รู้ว่าส่วนผสมค่อนข้างหายาก จะผลิตเยอะ ๆ ได้ยังไงกันคะ”

“จริงสิ ตาก็ลืมไปเลย” เฉียวตงไห่หัวเราะออกมาพลันส่ายศีรษะ “แต่เนี่ยนเนี่ยน หลานของตามีความสามารถมากเลยนะ เยี่ยนฉือหลานว่าจริงหรือเปล่า?”

เฉียวตงไห่เอ่ยถามฮั่วเยี่ยนฉือขึ้นมา

ฮั่วเยี่ยนฉือยังคงท่าทีเคารพผู้อาวุโสกว่า เขาพยักหน้าเห็นด้วย

เมื่อเห็นสีหน้าของคุณตาดูที่ภาคภูมิใจ เฉียวสือเนี่ยนก็รู้สึกผิดและเสียใจ

คุณตาตั้งใจชมเธอ เพราะอยากให้ฮั่วเยี่ยนฉือรู้ว่าเธอก็มีข้อดีเยอะมากแค่ไหน เขาจะได้ชอบเธอมากขึ้นอีกหน่อย

แต่น่าเสียดายที่ในใจของฮั่วเยี่ยนฉือ เธอไม่เคยทำอะไรถูกใจเขาสักอย่าง

จะเอ่ยชมมากเท่าไร ก็ไร้ประโยชน์

หลังจากทานข้าวและดื่มน้ำชาเสร็จ ท้องฟ้าก็มืดลงแล้ว

เฉียวตงไห่หัวเราะเบา ๆ และเอ่ย “ตอนนี้ดึกแล้ว อย่างนั้นตาจะไม่ยื้อหลานไว้ที่นี่ พวกหลานรีบกลับไปพักผ่อนกันเถอะ”

“คุณตาคะ หนูไม่กลับนะคะ หนูจะอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนตาเองค่ะ~” เฉียวสือเนี่ยนอ้อนขึ้นมา

เธอไม่ได้เจอคุณตานานมากแล้ว จึงอยากใช้เวลากับคุณตานาน ๆ วันนี้แค่วันเดียวมันไม่เพียงพอสำหรับเธอหรอกนะ

เฉียวตงไห่เคาะหน้าผากของเธอ พร้อมเอ่ย “เด็กคนนี้นี่ เยี่ยนฉืออุตส่าห์มารับ ทำไมไม่กลับบ้าน จะอยู่กับตาทำไมล่ะ?”

“เยี่ยนฉือ ตารู้ว่าเรางานยุ่ง หากมีเวลาว่าง ก็กลับมาที่นี่กับเนี่ยนเนี่ยน มากินข้าวด้วยกันสักมื้อนะ”

“ได้ครับคุณตา” ฮั่วเยี่ยนฉือว่าพลางพยักหน้า

ก่อนขึ้นรถ เฉียวตงไห่ดึงมือของเฉียวสือเนี่ยนเอาไว้ พูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “เนี่ยนเนี่ยน อย่าทะเลาะกับฮั่วเยี่ยนฉืออีก มีอะไรก็พูดกันดี ๆ สามีภรรยาไม่ควรโกรธกันข้ามวันข้ามคืนนะ”

เมื่อขึ้นมาบนรถ เฉียวสือเนี่ยนนั่งหดตัว และหันหน้าไปทางหน้าต่าง

คุณตาไม่ยอมเชื่อว่าเธอไม่ได้ทะเลาะกับฮั่วเยี่ยนฉือ

วันนี้จึงตั้งใจเรียกฮั่วเยี่ยนฉือมากินข้าวด้วยกัน และพยายามคลี่คลายความบาดหมางระหว่างสามีภรรยา

คุณตาเองก็อายุมากขนาดนี้แล้ว แต่ก็มักกังวลเกี่ยวกับเรื่องของเธออยู่เสมอ

เพื่อไม่ให้ตาเป็นกังวล เมื่อครู่เธอจึงกลั้นน้ำตาเอาไว้ แต่ตอนนี้ เธออดทนไม่ได้แล้วจริง ๆ

“เธอจะปิดโทรศัพท์ทำไม?”

ฮั่วเยี่ยนฉือเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“หากทำอะไรผิด ถ้าไม่ไปหาคุณย่า ก็มักมาซ่อนตัวกับคุณตาแบบนี้ เฉียวสือเนี่ยน เธอหยุดสักทีได้ไหม”

“คุณตายังพูดอีกว่าเธอจิตใจดี แต่ดูจากเรื่องที่เธอทำแล้ว ช่างห่างไกลกับคำว่าจิตใจดีมากเลยล่ะ”

เมื่อเห็นเฉียวสือเนี่ยนนั่งข้างหน้าต่างรถไม่เอ่ยอะไรออกมา ในใจของฮั่วเยี่ยนฉือก็รู้สึกรำคาญใจ จึงดึงเธอเข้ามาหาตัวเอง “เธอ——”

ยังพูดไม่ทันจบ น้ำเสียงของฮั่วเยี่ยนฉือก็ถูกกลืนหายไป

แท้จริงแล้ว ใบหน้าอันงดงามของเฉียวสือเนี่ยนกลับมีน้ำตาไหลออกมาทั้งสองข้าง

ก่อนหน้านี้เฉียวสือเนี่ยนมักร้องไห้พร้อมเอะอะโวยวายเสียงดังตลอด

เธอเหมือนเด็กที่ไม่ได้กินลูกอม ร้องไห้ออกมาอย่างบ้าคลั่ง ได้แต่ถามเขาว่าทำไมถึงเมินเธอ ทำไมถึงไม่อยู่กับเธอ ไม่รักเธอ

เฉียวสือเนี่ยนขณะนี้ไม่ส่งเสียงอะไรออกมา ดวงตาของเธอแดงก่ำ ริมฝีปากเป็นสีแดงระเรื่อ เช่นเดียวกันกับจมูกของเธอ

ดูเหมือนว่าเธอจะมีความรู้สึกเปราะบางบางอย่างที่พูดออกมาไม่ได้

ฮั่วเยี่ยนฉือรู้สึกทนไม่ได้น่าประหลาด เขาปล่อยมือเธอออก กดน้ำเสียงต่ำลงเล็กน้อย

“อย่าคิดว่าเล่นละครแบบนี้แล้ว จะไม่ต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตัวเองทำนะ”

เฉียวสือเนี่ยนเช็ดน้ำตาออก “มีสองประเด็นที่ฉันต้องชี้แจง หนึ่ง : ฉันไม่รู้ว่าฉันทำเรื่องอะไร ถึงต้องรับผิดชอบให้คุณแบบนี้”

“ข้อที่สอง : เดิมทีฉันไม่ใช่คนจิตใจดีและไม่ใกล้เคียงกับคำว่า ‘จิตใจดี’ เลย ดังนั้นไม่ต้องให้คุณมาย้ำเตือนหรอก!”

“เธอ!” เมื่อเห็นท่าทางที่ไม่ละอายใจของเฉียวสือเนี่ยนแบบนี้แล้ว ฮั่วเยี่ยนฉือก็รู้สึกว่าการที่เขาทนไม่ได้กับท่าทางเมื่อกี้นี้ ช่างเป็นเรื่องน่าขำ

“เฉียวสือเนี่ยน เธอมันไร้เหตุผลจริง ๆ เธอทำกับป๋ายอีอีขนาดนั้น ยังแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอีกเหรอ?”

“ฉันไปทำอะไรเธอ?” เฉียวสือเนี่ยนรู้สึกประหลาดใจ!

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status