อนิเมะแฟนตาซีเรื่องใดมีเพลงประกอบที่คนไทยชอบ?

ท่วงทำนองหนักแน่นของ 'Attack on Titan' ทำให้คนไทยจำนวนมากจำเพลงประกอบของเรื่องนี้ได้ทันที แม้จะไม่ใช่แฟนตัวยงของซีรีส์ก็ตาม Hiroyuki Sawano สร้างบรรยากาศตึงเครียดและยิ่งใหญ่ด้วยการใช้คอรัสผสมออเคสตรา ขณะที่เพลงเปิดของ Linked Horizon ให้ความรู้สึกสงครามและการเรียกร้องอย่างทรงพลัง ซึ่งมักถูกยกมาเป็นตัวอย่างของเพลงเปิดอนิเมะที่กระตุกอารมณ์คนฟังอย่างรุนแรง

สิ่งที่ผมชอบเป็นพิเศษคือความสามารถของซาวด์แทร็กในการเปลี่ยนฉากนิ่งให้กลายเป็นโมเมนต์ของความหมาย พอเพลงหนักขึ้น ฉากธรรมดาก็รู้สึกเป็นชะตากรรม เพลงของเรื่องนี้เลยถูกนำไปใช้ในมุมต่าง ๆ — งานแฟนเมด มิกซ์วิดีโอ หรือแม้แต่การนำมาเป็นแบ็กกราวนด์ในท่าทางคอสเพลย์ ทำให้มันไม่เพียงแค่โดดเด่นในแง่ศิลป์ แต่ยังฝังตัวในวัฒนธรรมแฟนๆ ของบ้านเรา

เพลงเปิดอย่าง 'Gurenge' ที่ LiSA ร้องให้กับ 'Demon Slayer' เป็นเพลงที่คนไทยรู้จักกันแพร่หลายและมักโผล่ในเพลย์ลิสต์ฟิตเนสหรือคาเฟ่แนววัยรุ่น เมโลดี้กระชับ คอรัสติดหู และพลังเสียงของ LiSA ทำให้เพลงนี้เข้าไปอยู่ในหัวได้ง่าย ๆ มากกว่าซีรีส์อื่น ไม่นานหลังจากอนิเมะออก เพลงก็กลายเป็นหนึ่งในเพลงคาราโอเกะยอดนิยมของกลุ่มแฟนอนิเมะในเมืองใหญ่

ผมเห็นการนำเพลงนี้ไปใช้ในวิดีโอคัฟเวอร์ต่าง ๆ ทั้งในโรงเรียนและบนโซเชียล มีคนไทยหลายรุ่นชอบเอาส่วนคอรัสมาร้องท้าทายเสียงเพราะมันมีพลังแบบที่แสดงอารมณ์ได้ชัดเจน เพลงนี้จึงไม่ได้เป็นแค่ธีมของอนิเมะ แต่กลายเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมย่อยที่คนไทยหลายคนสามารถร้องตามได้โดยไม่ต้องรู้เนื้อเรื่องทั้งหมด

เพลงประกอบของ 'Your Name' เคลื่อนไหวจิตใจคนดูได้อย่างแรงกล้า เพราะมันไม่ได้เป็นแค่ซาวด์แทร็กประกอบภาพ แต่เป็นอีกตัวละครหนึ่งที่ดึงอารมณ์เรื่องให้พุ่งขึ้นลงตามจังหวะเพลง เสียงกีตาร์และเปียโนในบางช่วงฉุดให้ลมหายใจหยุดชั่วคราว ส่วนคอเพลงไทยมักคุ้นกับเพลงอย่าง 'Zenzenzense' และ 'Sparkle' ที่มักถูกเอามาร้องคัฟเวอร์ตามงานแฟนมีตติ้งหรือเวทีร้องเพลงเล็กๆ

ความทรงจำของผมต่อเพลงจากภาพยนตร์เรื่องนี้ผสานกับภาพท้องฟ้าและแสงไฟของเมืองอย่างลงตัว บ่อยครั้งที่เพลงบางท่อนจะกลับมาทำหน้าที่เรียกภาพบางฉากในหัวให้ชัดขึ้นโดยไม่ต้องมีภาพพยาน การที่ RADWIMPS ผสมผสานซาวด์สมัยใหม่กับเมโลดี้อารมณ์ลึก ทำให้เพลงจาก 'Your Name' กลายเป็นเพลงที่คนไทยหลายวัยฟังแล้วเข้าใจความหมายและย้ำให้อยากดูซ้ำ

เพลงจากอนิเมะญี่ปุ่นคลาสสิกอย่าง 'Spirited Away' ก็มีบทบาทคล้ายกัน แต่ในแนวที่ต่างออกไป เสียงออร์เคสตราเรียบหรูของ Joe Hisaishi ให้ความรู้สึกถวิลหาและลึกลับ ซึ่งคนไทยที่เติบโตมากับผลงานของสตูดิโอเดียวกันมักจะเชื่อมโยงเพลงเหล่านี้กับความทรงจำวัยเด็กได้เสมอ นี่แหละคือเหตุผลที่บางเพลงยังคงถูกเปิดซ้ำในงานแสดงหรือคอนเสิร์ตแอนิเมะจนถึงทุกวันนี้

ไม่มีใครลืมเสียงเปียโนแจ๊สและบีทเร้าใจจาก 'Cowboy Bebop' ได้ง่าย ๆ เพราะเพลงเปิด 'Tank!' ของวง The Seatbelts นั้นเป็นเหมือนคำนิยามของสไตล์ซีรีส์ ผู้ชมไทยที่โตมากับยุคปลาย 90s หรือนักฟังแจ๊สสมัยใหม่ต่างก็ชื่นชมการผสมผสานแจ๊ส บีบอัพ และฮิปฮอปในบางชิ้นที่ทำให้มันข้ามพรมแดนของอนิเมะไปสู่คนที่ไม่ใช่แฟนอนิเมะได้อย่างราบรื่น

ฉันเองมักหยิบเพลงจาก 'Cowboy Bebop' มาเปิดเวลาทำงานเพื่อให้ได้บรรยากาศคล่องแคล่วและมีสไตล์ เพลงเหล่านี้ไม่ใช่แค่วงประกอบ แต่เป็นส่วนหนึ่งของเหตุผลที่หลายคนเริ่มสนใจดนตรีแนวใหม่ ๆ ผ่านการดูอนิเมะเรื่องนี้