Cari
Pustaka
Beranda / รักโบราณ / จารใจทุรยศ / Chapter 8. ใครว่าข้าไม่แข็งแรง

Chapter 8. ใครว่าข้าไม่แข็งแรง

2025-03-03 21:37:22

            “อ่อ” นางรับคำเบาๆ แล้วพยักหน้ารับ

            “เจ้าอยากไปหยุนหนานหรือ?” เห็นท่าทางตื่นเต้นของนางแล้วอดหัวเราะไม่ได้ เด็กคนนี้มักเก็บอาการ ไม่แสดงความต้องการสิ่งใดออกมานัก

            เด็กสาวพยักหน้าหงึกหงัก “ได้ยินนายท่านรองและท่านหมอหวังข่ายพูดถึงหยุนหนานบ่อยๆ ข้าจึงอยากเห็นด้วยตาตนเองสักครั้ง”

            เกาเทียนฉีกินรังนกจนหมดแล้วรับน้ำชาจากเสิ่นฉางซี

            “แท้จริงเจ้ามีเรื่องไม่สบายใจสินะ”

            “นายท่านรอง...” นางเอ่ยได้เพียงแค่นั้นแล้วก็พูดอะไรไม่ออกอีก

            “ฉางซี” เกาเทียนฉีฉีกยิ้มให้เด็กสาว “ที่เจ้าพยายามเรียนรู้อะไรมากมายเพียงเพื่อออกไปใช้ชีวิตข้างนอกนั่นมิใช่หรือ?”

            เสิ่นฉางซีเงยหน้ามองบุรุษที่อยู่ตรงหน้า “ฉางซิมิได้...”

            ยังไม่ทันพูดจบประโยค เกาเทียนฉีโบกมือห้ามไม่ให้นางพูดต่อ

“สกุลเกาสร้างสำนักคุ้มภัยราชสีห์คำรามมาสองชั่วอายุคนแล้ว แต่พวกเราก็มิใช่คนลืมกำพืดตนเอง พวกเราไม่ใช่สกุลใหญ่โตเหมือนพวกคหบดีหรือวาณิช เจ้าเองอยู่ที่นี่มาห้าปีแล้วย่อมรู้ว่าคนในสำนักคุ้มภัยมีที่มาที่ไปหลากหลาย บางคนโลดแล่นในยุทธภพมาก่อน บางคนเป็นช่างตีเหล็กหรือเป็นชาวนาที่แข็งขัน เจ้าเองเป็นบุตรสาวสหายรักของพี่ใหญ่ข้า พวกเราเลี้ยงดูเจ้าธรรมดายิ่ง ตัวเจ้าเองพยายามตอบแทนบุญคุณเสมอมา เรื่องนี้ต่อให้คนตาบอดก็ยังรู้ หากเจ้ามีสิ่งที่ปรารถนาจะทำ มีสถานที่ที่อยากไป เจ้าจงทำมันเสีย อย่าได้คิดว่าการไปจากที่นี่เป็นการอกตัญญูเลย”  

            ดวงตาของเด็กสาวจ้องมองบุรุษที่เอ่ยด้วยน้ำเสียงเนิบช้าราวกับพูดเรื่องดินฟ้าอากาศ ซ้ำยังแสดงท่าทีเกียจคร้านออกมา

            “เจ้าอยากไปหยุนหนานก็เตรียมตัวให้พร้อม ข้าจะบอกพี่ใหญ่กับพี่สะใภ้เอง”

            “ขอบคุณนายท่านรองมากเจ้าค่ะ”

            เกาเทียนฉีพยักหน้าขึ้นลง “การรักษาอาการบาดเจ็บของเจ้าใช้เงินทองไปมากก็จริง แต่ที่ผ่านมาเจ้าเองมิได้อยู่เฉย หากเจ้าต้องการไปหรือมีสิ่งใดที่เจ้าต้องการทำ ข้ายินดีสนับสนุน แต่ที่เป็นกังวลเพราะร่างกายของเจ้ายังไม่แข็งแรงดีนัก”

            “ใครว่าข้าไม่แข็งแรง ข้าแข็งแรงราวกับวัวเชียวนะ” นางหัวเราะพลางแอบเช็ดน้ำตาที่เอ่อคลอเบ้า

            “ข้ารู้” ชายหนุ่มโคลงศีรษะไปมา “เอาอย่างนี้ ระหว่างที่ข้าขึ้นเขาไปหาสมุนไพรหายาก เจ้าไปเฝ้าสวนสมุนไพรที่กระท่อมเชิงเขา ที่นั่นใกล้บ่อน้ำพุร้อน เจ้าไปแช่ตัวอบสมุนไพรเพื่อเตรียมตัวเดินทางดีหรือไม่ เจ้าเองไม่ได้ไปที่บ่อน้ำพุร้อนนานแล้วกระมัง”

            “ก็ไม่นานนะเจ้าคะ แค่เดือนเศษๆ เอง”

            “แต่ก่อนข้าย้ำให้เจ้าไปแช่น้ำพุร้อนทุกสิบวัน เจ้าลืมไปแล้วหรือไร” เขาส่ายหน้าไปมา “ทีเรื่องของผู้อื่น เจ้าใส่ใจทุกเรื่อง แต่ไยเรื่องของตนเองกลับหลงลืมไปได้”

            เด็กสาวยิ้มทำหน้าทะเล้น

            “ฉางซี เจ้าอย่าเพิ่งถอดใจ หลายปีมานี้ สภาพร่างกายเจ้าฟื้นฟูขึ้นมาก ไม่แน่ว่าบางที...”

            “ขอบคุณนายท่านรองที่เมตตาฉางซีเจ้าค่ะ” นางลุกขึ้นยืนกล่าว

ออกมาจากใจจริง “ทุกอย่างล้วนเป็นชะตากำหนด”

            “วัวดื้ออย่างเจ้าเชื่อเรื่องชะตากำหนดเรอะ” เขายื่นมือไปดีดหน้าผากเด็กสาวอีกครั้ง “ชีวิตเป็นของเจ้า เจ้าต้องลิขิตเองสิ”

            “ลิขิตชีวิตตัวเอง?”

            “เจ้าอายุยังน้อย อย่าเพิ่งสิ้นหวังกับชะตากรรมของตนเอง”

เขายื่นมือทำท่าจะดีดหน้าผากนางอีกครั้ง แต่เห็นนางหลับตาปี๋เขาก็อดยิ้มไม่ได้ จึงแค่ยื่นมือไปลูบศีรษะของนางเบาๆ เด็กสาวอายุสิบห้าแล้ว แต่ไม่อาจเกล้าผมหรือปักปิ่นเช่นเด็กสาวในวัยเดียวกันได้ หากนางไม่ถักเปียไว้หลวมๆ ก็จะเห็นนางใช้ผ้าเส้นเล็กๆ รวบมัดเส้นผมไว้ ปลายนิ้วกร้านเกลี่ยเส้นผมที่ใบหน้าเปิดโคนเส้นผมที่หน้าผากของนางขึ้น รอยแผลเป็นคล้ายรอยไหม้ที่ตีนผมยังเห็นเป็นรอยสีชมพู เขายังจำสภาพของนางที่พี่ใหญ่พานางกลับมาที่สำนักคุ้มภัยได้เป็นอย่างดี ต่อให้เป็นผู้ชายตัวโตเห็นสภาพของเด็กหญิงวัยสิบขวบเปื้อนเปรอะโลหิตเช่นนั้นยังอดสะเทือนใจมิได้

            ‘ฝ่ามืออัคคี’

            เพียงเห็นร่องรอยที่ทิ้งไว้ผู้คนก็ต่างขวัญผวา ฝ่ามืออัคนีเป็นวิชาของพรรคมาร แม้รู้เต็มอกว่าพรรคมารชั่วช้าเพียงใด แต่ไม่คิดว่าจะข้องเกี่ยวพัวพันกับราชสำนัก บิดาของเสิ่นฉางซีเป็นองครักษ์หลวง จากที่พี่ใหญ่เล่าให้เขาฟังนั้น เสิ่นจางเหว่ยแต่งงานกับนางกำนัลที่ถูกปลดส่งออกจากวังหลวง ทั้งสองมิได้ใช้ชีวิตอย่างสามีภรรยาทั่วไป เพื่อปกป้องภรรยาและลูกน้อย จึงแต่งงานกันอย่างเงียบๆ และให้ภรรยาอยู่กระท่อมในเขตชุมชนยากจน ใช้ชีวิตเรียบง่าย เมื่อมีวันหยุดจึงได้มาหาภรรยาและบุตรสาว คนทั่วไปไม่มีใครรู้ว่าเสิ่นจางเหว่ยเป็นองครักษ์ หากเข้าใจว่าเป็นพ่อค้าที่เดินทางอยู่เสมอ

            แม้ปกป้องลูกสาวมากเพียงใด เมื่อถึงเวลา คนผู้นั้นกลับเลือกหน้าที่มาก่อนชีวิตของบุตรสาวเพียงคนเดียว ยอมให้นางสวมเสื้อคลุมขององค์รัชทายาท เบี่ยงเบนความสนใจเพื่อให้องค์รัชทายาทตัวจริงปลอดภัยจากการถูกลอบสังหาร

            ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกาเทียนฉีตรวจดูรอยแผลบนศีรษะให้นาง เด็กสาวจึงไม่คิดหลบเลี่ยงหรือปัดมือออก เพียงแต่เห็นท่าทีเหม่อลอยของเขาแล้วนางจึงเรียกอีกฝ่ายเบาๆ

            “นายท่านรอง...บาดแผลของฉางซีเป็นอะไรรึเจ้าคะ”

            “อ่อ...” เกาเทียนฉีตื่นจากภวังค์แล้วชักมือกลับช้าๆ ไม่ให้อีกฝ่ายเข้าใจผิด “ดีขึ้นมากแล้ว แต่อาการปวดศีรษะของเจ้ายังเหมือนเดิมสินะ”

            เสิ่นฉางซีพยักหน้าแทนคำตอบ

            “ไปพักผ่อนได้แล้ว ระวังต้องลมเย็นเข้า”

            “ฉางซีทราบแล้วเจ้าค่ะ”

            เกาเทียนฉีโบกมือไล่เด็กสาวให้กลับไปพักผ่อน เขามองร่างของเสิ่นฉางซีเดินจากไปสุดสายตาแล้วจึงถอนหายใจอย่างหนักหน่วงแล้วคิดถึงโชคชะตาของตนเอง

            ‘ชีวิตเป็นของเจ้า เจ้าต้องลิขิตเองสิ’

            อ่า...เขาเอ่ยกับเจ้าวัวดื้อตัวน้อย เหตุใดกลับรู้สึกเหมือนบอกตัวเองอย่างไรไม่รู้ได้.

บุรุษหนุ่มสวมชุดสีดำสนิทไร้ลวดลายใด แต่กระนั้นก็ยังเป็นผ้าไหมเนื้อดี เขาเอนกาย หลังพิงลำต้นของต้นไม้ ปล่อยขาข้างหนึ่งห้อยลงมา ส่วนอีกข้างเหยียดยาวไปตามแนวของกิ่งไม้ขนาดใหญ่  ริมฝีปากบางคาบใบไม้ สายตายังคงมองเหม่อไปที่ขอบฟ้าสีคราม

            กลับเข้ามาบ้านตัวเองได้ครึ่งเดือนแล้ว เหตุใดรู้สึกไม่คุ้นเคยและว่างเปล่าเช่นนี้นะ

            แม้สายตาจะอยู่ที่ท้องฟ้า แต่ด้วยประสาทการรับรู้ไวกว่าปกตินั้นทำให้รู้ว่ามีคนไต่กิ่งไม้ขึ้นมาจนถึงกิ่งที่ใกล้เขาที่สุด        

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi