จารใจทุรยศ

จารใจทุรยศ

last updateLast Updated : 2025-04-14
By:  เพลงมีนาCompleted
Language: Thai
goodnovel18goodnovel
10
3 ratings. 3 reviews
111Chapters
2.7Kviews
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

หนึ่งครั้งที่เขาช่วยชีวิตนาง หนึ่งครั้งที่นางช่วยชีวิตเขา ‘เสิ่นฉางซี’ บุตรสาวองครักษ์วังหลวงที่รอดจากความตายพร้อมแผลเป็นบนใบหน้าและท่าเดินกะโผลกกะเผลก ชีวิตของนางเป็นของ ‘สวินเย่ว์’แม่ทัพหนุ่มผู้แข็งกระด้างผู้บังเอิญช่วยนางอย่างไม่ตั้งใจ ชะตานำพาให้ใจสองดวงให้พานพบและผูกพัน เกิดสายใยโยงหัวใจสองดวง ลมหายใจของนาง ไออุ่นจากกายของเขา ความรักที่จารในหัวใจจะยังคงเป็นเช่นเดิมไม่เสื่อมคลาย แม้นางจะย้ำเตือนตัวเองว่าเขาคือบุรุษที่นางไม่ควรรัก!

View More

Chapter 1

Chapter1. บทนำ

     รถม้าคันหนึ่งถูกไล่ล่ามากว่าครึ่งชั่วยามแล้ว   ร่างบอบบางของเด็กหญิงวัยสิบขวบที่สวมชุดเด็กชายอยู่นั้น ถูกบิดากอดไว้แนบแน่นอย่างปกป้อง  เด็กน้อยจ้องมองหัวไหล่ของบิดาที่ชุ่มโชกไปด้วยโลหิต นางกัดริมฝีปากแน่นกลั้นเสียงร้องแต่กระนั้นน้ำตาหยดใสยังไหลรินจากดวงตาคู่งาม  

            หนีมาได้ไกลถึงเพียงนี้ อีกแค่ไม่กี่สิบลี้ก็จะถึงที่หมายแล้วแท้ๆ เหตุใดสวรรค์ไม่เมตตา

            “พ่อผิดต่อเจ้าแล้ว ซีเอ๋อร์” น้ำเสียงของบิดาปลอบประโลมอยู่ริมหู หัวใจเหมือนมีมือยักษ์มาบีบเค้นจนเจ็บปวดเกินพรรณนา  ด้วยสถานการณ์บังคับ เขาในฐานะหัวหน้าองครักษ์ต้องปกป้ององค์รัชทายาท ทว่าเวลานี้กลับต้องใช้บุตรสาวเพียงคนเดียวสวมชุดรัชทายาทลวงเหล่านักฆ่ามาอีกทางเพื่อให้คนของเขาพาองค์รัชทายาทเสด็จกลับวังโดยด่วน

            “ซีเอ๋อร์อย่าได้กลัว” วงแขนโอบกอดบุตรสาวแนบแน่น ภรรยารักของเขานั้นเป็นเพียงนางกำนัลเล็กๆ ในวังหลวง เมื่ออยู่จนอายุครบกำหนดก็ออกมาใช้ชีวิตนอกวังตามกฎ เขาผู้แอบรักนางมาเนิ่นนานจึงได้แต่งงานกันอย่างเงียบๆ มีบุตรสาวที่แสนน่ารัก  ไม่คาดคิดว่าวันหนึ่งเขาจะต้องใช้ชีวิตบุตรสาวตัวเองทำการเสี่ยงอันตรายเช่นนี้  หากภรรยาผู้ล่วงลับไปแล้วนั้นรู้เข้า คงตำหนิเขาไม่น้อย

            “ท่านพ่อ...ซีเอ๋อร์ไม่กลัว” เด็กหญิงกอดบิดาแน่น  นางเข้าใจหน้าที่ของบิดาดี มารดาพร่ำสอนเสมอ แม้มารดาตายจากไปได้เพียงครึ่งปี  แต่นางก็ยังจดจำถ้อยคำคำสั่งสอนของมารดาขึ้นใจ  นางยอมสวมชุดรัชทายาทโดยไม่อิดออด  แต่นางเป็นห่วงบาดแผลของบิดา เลือดหลั่งไหลราวกับ

            “ดี! ดียิ่ง! สมกับเป็นบุตรสาวของข้า เสิ่นจางเหว่ย!”

            เสิ่นจางเหว่ยไม่เคยสอนบุตรสาวฝึกฝนวรยุทธ์ ด้วยหวังใจให้เติบโตเช่นเด็กสาวทั่วไป เขาเห็นการแก่งแย่งแข่งขันมามากนัก จึงหวังให้บุตรสาวเติบโตใช้ชีวิตเรียบง่าย ทว่าไม่คิดว่าชะตานำให้ต้องมาพบเจอเรื่องเช่นนี้

            ‘เสิ่นฉางซี’ รู้สึกได้ถึงรถม้าที่เหวี่ยงผิดทิศทาง  แม้ร่างของนางอยู่ในอ้อมกอดของบิดา จนกระทั่งรถม้าเสียหลักพลิกคว่ำหลายตลบ ด้วยการป้องกันของบิดา นางขดตัวกลมหลับตาแน่นไม่รับรู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น  ร่างของทั้งสองกระแทกฝารถม้าหลายครั้ง นางรู้สึกเหมือนรถม้ากำลังร่วงสู่ตีนเขา หูของนางอื้ออึงไม่ได้ยินเสียงใด  จนกระทั่งทุกอย่างหยุดนิ่ง บิดาคลายอ้อมแขนแล้ว นางยกมือเรียวขึ้นแตะศีรษะที่ปวดหนึบพลันสัมผัสถึงเลือดสีสดที่ไหลออกมา  ซ้ำที่ข้อมือยังเป็นรอยถลอกยาว   นางมิได้สนใจความเจ็บปวดของตนเอง รีบยันกายลุกขึ้นมองบิดาที่หายใจรวยริน ร่างกายชุ่มโชกด้วยเลือด มือเล็กยื่นไปจับแขนหมายเขย่าเรียกสติ กลับพบบิดาแขนหัก กระดูกสีขาวทะลุผิวหนังออกมา  

            “ท่านพ่อ”  นางเรียกเสียงแหบแห้ง  ยืดตัวขึ้นหมายจะหาคนช่วย

ทว่านางกลับพบว่ามีกลุ่มคนกระโจนเข้ามาล้อมรถม้าที่แตกออกเป็นชิ้นๆ นี้  กลิ่นไอสังหารที่รายล้อมทำให้นางดึงปกเสื้อคลุมตัวนอกที่สวมอยู่ขึ้นมาเพื่อปิดบังใบหน้า  มือเล็กควานรอบกายได้กระบี่ของบิดาที่ตกอยู่ไม่ไกลนัก นางจับกระบี่เปื้อนเลือดของบิดาด้วยมืออันสั่นเทา  นางเคยจับกระบี่ของบิดาแต่ไม่เคยจับกระบี่เปื้อนเลือดเช่นนี้  กระบี่หนักอึ้งจนนางยกแทบไม่ขึ้น ทว่ามือใหญ่เอื้อมมาประคองมือเรียวเล็กที่สั่นเทาของนาง

            “ท่านพ่อ!”

 “พ่อ?”

             หนึ่งในนั้นได้ยินก็ขมวดคิ้ว แม้แต่งกายชุดดำมีผ้าปกปิดใบหน้า ทว่าดวงตาที่จ้องมองมายังร่างเล็กเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว ยื่นมือมากระชากร่างของเด็กสาวที่สวมชุดบุรุษใหญ่โตเกินตัว

            “ช่างกล้านัก!”

            ร่างของนางถูกแกว่งไปมา เท้าเล็กลอยเหนือพื้น เสิ่นฉางซีดิ้นรน นางจ้องมองบิดาที่ใช้กระบี่พยุงกายลุกขึ้นยืน แขนข้างหนึ่งห้อยทิ้งตัวราวกับไม่มีกระดูก

            “เจ้าทำข้าเสียเวลา ข้าจะให้บุตรสาวของเจ้าชดใช้”

            “ซีเอ๋อร์!”

            “กรี๊ดดดดดด”

            เด็กหญิงถูกฝ่ามือใหญ่บีบกะโหลก  ความเจ็บปวดที่ไม่เคยได้พบทำให้นางกรีดร้องสุดเสียง ครู่ต่อมาร่างของนางถูกเหวี่ยงลงพื้น  ตามด้วยเท้าใหญ่กระทืบซ้ำที่ท้องน้อย เด็กหญิงกรีดร้องและกระอักโลหิตออกมา ทว่าเสียงร้องอันน่าสงสารไม่ได้ช่วยอะไร เท้าใหญ่ข้างนั้นกระทืบซ้ำที่ต้นขาของเด็กหญิง เสียงกระดูกลั่นทำให้ผู้คนที่ยืนอยู่ถึงกับกลั้นหายใจ

            โทสะของเสิ่นจางเหว่ยทำให้เขาเรียกกำลังเฮือกสุดท้าย พุ่งไปหมายปกป้องบุตรสาว ทว่ากลับถูกอีกฝ่ายตวัดดาบแทงหน้าอกทะลุไปด้านหลัง  เด็กหญิงเบิกตากว้างมองดาบเล่มนั้นทะลุร่างของบิดา เพียงอีกฝ่ายชักดาบออกจากร่าง เลือดสีสดก็พุ่งออกมา  ร่างของเขาโงนเงนอยู่ครู่หนึ่งก่อนล้มลงใกล้ร่างของบุตรสาวที่บาดเจ็บจนขยับตัวไม่ได้

            “ท่านพ่อ ท่านพ่อ!”

            “ซีเอ๋อร์ พ่อ...ขอโทษ”

            “ไม่! ไม่! ท่านพ่อ”

            “ไม่ต้องกลัว ข้าจะสงเคราะห์พ่อลูกให้ได้อยู่กันพร้อมหน้าในปรโลก!”

            ดาบใหญ่ถูกง้างขึ้นเหนือศีรษะหมายจะปลิดชีพคนทั้งสอง ทว่าธนูดอกหนึ่งพุ่งแหวกอากาศทะลุทรวงอกของชายผู้นั้น  เจ้าของร่างใหญ่ก้มมองหน้าอกตนเห็นธนูหัวเหล็กโผล่ทะลุเกราะที่สวมอยู่ ความเจ็บปวดเริ่มแทรกเข้ามาในโสตประสาท  เขาอ้าปากส่งเสียงร้องราวสัตว์บาดเจ็บ

            “บาปกรรม บาปกรรม”

            “ไต้ซือก็อยู่ส่วนไต้ซือ อย่าได้ยุ่งเรื่องทางโลก”

            “เห็นแล้วไม่ช่วยเหลือ ย่อมเป็นบาปกรรม”

            ไต้ซือรูปหนึ่งเอ่ยขึ้น ในมือยังถือลูกประคำ อีกมือถือไม้เท้าเรียบง่าย แต่เด็กหนุ่มในชุดดำด้านหลังกำลังขึ้นลูกธนูเล็งมาทางชายชุดดำ

            “สวินเย่ว์”  

เสียงสงบเยือกเย็นของไต้ซือทำให้เด็กหนุ่มเบ้ปาก

            “ไฉนท่านย้ำนักหนามิให้ข้าลงมือสังหารคน!”

            “ข้าให้เจ้าช่วยคนต่างหาก”

            เด็กหนุ่มเค้นเสียงในลำคอ ลดธนูในมือลงเหวี่ยงไปด้านหลังแล้วชักกระบี่ออกมาพุ่งใส่กลุ่มคนชุดดำ

            เลือดสีเข้มไหลเข้าตา เสิ่นฉางซีมองเห็นภาพเบื้องหน้าไม่ชัดเจน เด็กหนุ่มเพียงคนเดียวสามารถต่อสู้กับคนนับสิบได้อย่างสบายมือ  นางรู้สึกถึงแรงบีบที่ฝ่ามือทำให้เหลือบตามองบิดาที่บีบมือนาง

            “ท่าน...พ่อ...”

            ร่างกายของนางขยับไม่ได้ ทำได้เพียงกลอกตาไปมา จนกระทั่งนางเห็นไต้ซือผู้นั้นค่อยๆ นั่งลงตรงหน้านาง  ยื่นมือไปแตะมือใหญ่ของบิดาที่กำมือของนางแน่น

            “ประสก โปรดปล่อยวางเถิด แม่นางน้อยยังชะตาไม่ถึงคาด ประสกจงจากไปอย่าอาวรณ์”

            นางพยายามเบิกตากว้าง เห็นเพียงร่างบิดากระตุกสองครั้งก็แน่นิ่ง

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

default avatar
sent2nutt9t
เรื่องนี้สนุกมากๆๆ​ ภาษาที่ใช้เขียนก็สวยสุดๆอ่านแล้วไม่รู้สึกสะดุเตรงไหนเลยค่ะ​
2025-04-07 09:11:51
3
default avatar
pnk.service
สนุกค่ะ อัพไวๆนะคะ
2025-03-05 19:37:15
2
user avatar
PooPoo
นางเอกสู้ชีวิตมากค่ะ
2025-03-05 14:48:20
2
111 Chapters
Chapter1. บทนำ
รถม้าคันหนึ่งถูกไล่ล่ามากว่าครึ่งชั่วยามแล้ว ร่างบอบบางของเด็กหญิงวัยสิบขวบที่สวมชุดเด็กชายอยู่นั้น ถูกบิดากอดไว้แนบแน่นอย่างปกป้อง เด็กน้อยจ้องมองหัวไหล่ของบิดาที่ชุ่มโชกไปด้วยโลหิต นางกัดริมฝีปากแน่นกลั้นเสียงร้องแต่กระนั้นน้ำตาหยดใสยังไหลรินจากดวงตาคู่งาม หนีมาได้ไกลถึงเพียงนี้ อีกแค่ไม่กี่สิบลี้ก็จะถึงที่หมายแล้วแท้ๆ เหตุใดสวรรค์ไม่เมตตา “พ่อผิดต่อเจ้าแล้ว ซีเอ๋อร์” น้ำเสียงของบิดาปลอบประโลมอยู่ริมหู หัวใจเหมือนมีมือยักษ์มาบีบเค้นจนเจ็บปวดเกินพรรณนา ด้วยสถานการณ์บังคับ เขาในฐานะหัวหน้าองครักษ์ต้องปกป้ององค์รัชทายาท ทว่าเวลานี้กลับต้องใช้บุตรสาวเพียงคนเดียวสวมชุดรัชทายาทลวงเหล่านักฆ่ามาอีกทางเพื่อให้คนของเขาพาองค์รัชทายาทเสด็จกลับวังโดยด่วน “ซีเอ๋อร์อย่าได้กลัว” วงแขนโอบกอดบุตรสาวแนบแน่น ภรรยารักของเขานั้นเป็นเพียงนางกำนัลเล็กๆ ในวังหลวง เมื่ออยู่จนอายุครบกำหนดก็ออกมาใช้ชีวิตนอกวังตามกฎ เขาผู้แอบรักนางมาเนิ่นนานจึงได้แต่งงานกันอย่างเงียบๆ มีบุตรสาวที่แสนน่ารัก ไม่คาดคิดว่าวันหนึ่งเขาจะต้องใช้ชีวิตบุตรสาวตัวเองทำการเสี่ยงอันตรายเช่นนี้
last updateLast Updated : 2025-03-02
Read more
Chapter 2. เจ้าจะได้จำได้ว่าชีวิตเจ้าเป็นของข้า
“ท่านพ่อ” นางเรียกได้เพียงแค่นั้น กลอกตามองไต้ซือครั้งหนึ่งและมองไปยังเด็กหนุ่มผู้นั้นอีกครั้ง “บาดแผลเจ้าสาหัสไม่น้อย ถึงขั้นเสียโฉม น่าเศร้าใจยิ่ง” ไต้ซือส่ายหน้าไปมา เห็นเด็กหนุ่มขับไล่ชายชุดดำไปหมดแล้วจึงพยักหน้าเรียกให้เข้ามาใกล้ เสิ่นฉางซีกลอกตามอง เพราะเลือดไหลเข้าตาทำให้นางมองไม่ชัด ก่อนสติจะหลุดลอย นางรับรู้เพียงว่ามีใครคนหนึ่งอุ้มนางไว้ แม้กายของเขาจะมีกลิ่นคาวเลือด แต่นางกลับรู้สึกได้ว่าหัวใจของเขาเต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ เสียงหัวใจใต้ใบหูของนางนั้นทำให้นางหลับใหลไปด้วยความวางใจ นางเชื่อใจว่าคนผู้นี้จะไม่ทำร้ายนาง.เด็กหนุ่มวัยสิบสี่ท่าทางเกียจคร้าน เอนกายกึ่งนั่งกึ่งนอนบนกิ่งไม้ใหญ่ สายลมโชยพัดผ่านทำเอาเส้นผมของเด็กหนุ่มที่รวบไว้อย่างไร้ระเบียบพลิ้วไหว เสียงความเคลื่อนไหวด้านล่างเรียกดวงตาที่ปิดสนิทให้ลืมตาขึ้น สองมือประสานรองศีรษะของตน แต่สายตาคู่นั้นหลุบมองตามทิศทางของเสียงที่ได้ยิน“เด็กหน้าผี!”“เด็กหน้าผี!”“เด็กหน้าผี!”“โอ๊ย!”เด็กผู้ชายกลุ่มหนึ่งล้อมวงตะโกนใส่ ซ้ำยังผลักไหล่เซไปเซมาคนละทีสองทีจนคนตัวเล็กล้มลง และค
last updateLast Updated : 2025-03-02
Read more
Chapter 3. เสิ่นฉางซีในวัยสิบห้า
“ท่านผู้มีพระคุณ”เด็กหนุ่มมีสีหน้าฉงน ในถ้อยคำที่เอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง เขาเห็นดวงตาของเด็กหญิงมีแววตื่นเต้นดีใจ“เมื่อครู่เจ้าพูดว่าอะไรนะ”“ท่านผู้มีพระคุณ” นางยิ้มกว้างจนดวงตาหยีเล็ก “ดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก ครั้งก่อนท่านช่วยชีวิตข้า ข้ายังไม่ได้ขอบคุณท่านเลย”“เหลวไหล! ข้าไม่ได้ช่วยเจ้า” ข้าแค่ต้องการประมือกับเจ้ามือเหล็กนั่นต่างหาก! เขากลับพูดไม่ออกเมื่อเห็นรอยยิ้มจางไปจากใบหน้าของนาง แต่เพียงครู่เดียวนางก็ยิ้มออกมาอีกครั้ง“แต่ชีวิตซีเอ๋อร์ก็เป็นหนี้บุญคุณท่านแล้ว ต่อไปให้ข้าเป็นช้างม้าวัวควายรับใช้ท่านก็...”“ข้าบอกไม่ได้ช่วยไม่ได้ยินหรือไร เจ้าโดนทำร้ายจนสมองมีปัญหารึ!”คราวนี้เขาตวาดเสียงดัง หากไม่เห็นว่าคนตรงหน้าเป็นแค่เด็กหญิง คงได้ลงมือสั่งสอนนางไปแล้ว เด็กหญิงก้มหน้าลงเล็กน้อยคล้ายยอมจำนนไม่ดื้อรั้น เขาจึงปล่อยมือจากไหล่ของนาง แต่พอคิดว่านางกำลังจะฆ่าตัวตายจึงรีบเอ่ยขึ้น“ถูกแล้ว ชีวิตเจ้าข้าเป็นคนช่วยไว้ เพราะฉะนั้นข้าเป็นเจ้าของชีวิตเจ้า ห้ามเจ้าคิดฆ่าตัวตายอีก”“ฆ่าตัวตาย?” เด็กหญิงเงยหน้าขึ้นแล้วเอียงคออย่างงุนงง “ผู้ใดฆ่าตัวตายเจ้าคะ”“ก็เจ้าไง” เขาใช้นิ
last updateLast Updated : 2025-03-02
Read more
Chapter 4. เติบโต
“น้องฉางซี”เสียงเรียกเกรงใจอยู่หน้าห้องทำให้เสิ่นฉางซีงะงักมือ นางวางชุดกระโปรงสีแดงสดสวยไว้บนเตียง เดินลากขาข้างขวามาถึงหน้าประตู เจ้าของเสียงยืนรอด้วยท่าทีกระวนกระวาย เด็กสาวส่งยิ้มอ่อนหวานแล้วเอ่ยทักทายอย่างเป็นกันเอง“คุณชายกลับมาเมื่อไหร่เจ้าคะ”คำทักทายของนางมิได้สร้างรอยยิ้มให้เการุ่ยเฉียงนัก มุมปากที่กำลังยกยิ้มกลับกลายเป็นบึ้งตึง“ข้าบอกกี่ครั้งแล้ว เหตุใดเจ้ายังเรียกข้าว่าคุณชายอีก” ชายหนุ่มวัยสิบเจ็ดก้มหน้าลงจ้องเขม็งที่ใบหน้าของเด็กสาวที่ยังเผยรอยยิ้มสดใสไม่มีแววหวาดกลัวเขาเลยสักนิด แม้ปากจะเรียกเขาว่าคุณชายก็ตาม แต่นางไร้กิริยาของหญิงรับใช้ และเขาเองก็ไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น“แต่ว่า...” นางอยู่อย่างเจียมตัวมาตลอด แม้ทุกคนรักใคร่นางมากแต่นางไม่ลืมฐานะของตนเอง และไม่ลืมบุญคุณที่ช่วยเหลือทั้งรักษานางด้วยยาราคาแพงและยังให้ที่อยู่อาศัยอาหารสามมื้อในแต่ละวัน ร่างกายนางไม่แข็งแรง ฝึกยุทธ์เช่นเด็กคนอื่นไม่ได้ สิ่งที่นางทำได้ก็มีเพียงงานจิปาถะทั่วไปเช่นบ่าวไพร่ควรทำ“ไม่มีแต่ หากข้ายังได้ยินเจ้าเรียกข้าว่าคุณชายอีก ข้าจะโกรธเจ้าแล้วจริงๆ” เขาขึงตาใส่อย่างดุดัน‘อย่างนี้ไม่เ
last updateLast Updated : 2025-03-02
Read more
Chapter 5. นับตั้งแต่นั้น
“คุณชายเกา”ทุกคนต่างรู้ดีว่าเการุ่ยเฉียงเอ็นดูแม่นางน้อยผู้นี้มากเพียงใด หากเผลอล่วงเกินนางให้เขาเห็นเข้า คงไม่ได้อยู่ดีในสกุลเกาเป็นแน่“พ่อครัวใหญ่เตรียมของว่างอยู่หรือ? ให้ซีเอ๋อร์ช่วยนะเจ้าคะ” นางเอ่ยน้ำเสียงออดอ้อน หวังปล้นเอาวิชาความรู้การปรุงอาหารอันแสนอร่อยของพ่อครัวหลี่เจี๋ยเการุ่ยเฉียงได้แต่ส่ายหน้าไปมา เขาหวังใจปกป้องดูแลเสิ่นฉางซีไปทั้งชีวิต ไม่คิดให้นางไปใช้ชีวิตข้างนอกรั้วสกุลเกา แต่นางแสร้งทำเป็นไม่เห็นความตั้งใจจริงของเขา นางพยายามทำหลายสิ่งหลายอย่าง เพียงเพื่อจะได้ใช้ชีวิตคนเดียวโดยไม่ต้องพึ่งพาผู้ใดเขาจะต้องทำอย่างไรถึงจะรั้งนางผู้มีรอยยิ้มดุจสายลมฤดูใบไม้ผลิไว้ข้างกายตลอดทั้งชีวิตทั้งชีวิต. บุรุษผู้หนึ่งอายุเพียงสิบเก้าปีก็ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งแม่ทัพแล้ว ชาวบ้านต่างพากันหลีกทางขบวนทหารกล้าที่กำลังผ่านถนนสายหลักมุ่งหน้าสู่วังหลวง บุรุษในชุดศึกสีดำขรึมขลังบนอาชาศึกงามสง่าสะกดทุกสายตาให้หยุดมองเพียงเขา ใบหน้านั้นหล่อเหลา สุขุมและเยือกเย็นประหนึ่งเทพเซียน ดวงตาคมคู่นั้นเป็นสีนิลดุจเดียวกับบ่อน้ำลึกไร้รอยไหวกระเพื่อม เขาเป็นบุรุษที่หญิงสาวหลงใหลค
last updateLast Updated : 2025-03-02
Read more
Chapter 6. ลิขิตชีวิตตัวเอง
‘ผู้มีพระคุณรึ’ ไต้ซือซูเอ่ยซ้ำแล้วพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม ‘พบกันล้วนเกิดจากวาสนา บางทีเจ้ากับเขาอาจมีวาสนาต่อกัน บางทีอาจเป็นเจ้าที่ช่วยคนผู้นั้นได้’ ‘ข้ารึ’ นางใช้นิ้วชี้ที่ใบหน้าตนเอง ‘อย่างข้าจะช่วยผู้ใดได้’ไต้ซือซูพยักหน้าอีกครั้ง‘ขอเพียงมีความตั้งใจจริง ย่อมทำได้แน่นอน’ภายใต้การดูแลเลี้ยงดูของสกุลเกา เสิ่นฉางซีเติบโตขึ้นตามวัย ในหนึ่งปีไต้ซือซูจะแวะเวียนมาดู อาการบาดเจ็บของนางสักครั้ง นายท่านใหญ่ให้คนไปสืบข่าวจึงรู้ว่าบ้านของนางนั้นถูกไฟไหม้ ไม่มีสิ่งใดเหลือแล้ว นางรอดจากความตายมาครั้งหนึ่งแล้วนั้น จึงมุ่งมั่นที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปให้ได้ แม้มีใบหน้าที่มีรอยแผลเป็น ต้องเดินลากขาข้างขวาและยังไม่อาจให้กำเนิดบุตรได้ นางจึงพยายามเรียนรู้ทักษะหลายๆ ด้าน เพื่อที่วันหนึ่งนางออกจากสกุลเกาแล้วยังสามารถหาเลี้ยงตัวเองโดยไม่เป็นภาระแก่ผู้ใด สตรีที่ไม่สามารถมีบุตรได้นั้น ย่อมไม่มีใครต้องการ นางจึงคิดจะหาเลี้ยงชีพเพียงลำพัง ด้วยคิดเสมอมาว่าต้องอยู่คนเดียวให้ได้ จึงพยายามเรียนรู้เรื่องต่างๆ ให้มากที่สุด แม้เป็นเพียงเด็กหญิงตัวน้อย แต่ยามอยู่ในครัวก็ใช้เก้าอี้มาต่อขาเพื่
last updateLast Updated : 2025-03-03
Read more
Chapter 7. นายท่านรอง
เมื่อห้าปีก่อน เกาฮ่วนปิ่งและไต้ซือซูพาเด็กหญิงตัวน้อยมารักษาอาการบาดเจ็บที่สำนักคุ้มภัยราชสีห์คำราม เขาผู้ซึ่งนับถือไต้ซือซูประหนึ่งอาจารย์ผู้สั่งสอนเรื่องสมุนไพรนั้นจึงได้เข้ามาดูอาการบาดเจ็บสาหัสของเสิ่นฉางซี เด็กหญิงตัวน้อยที่อดทนต่อความเจ็บปวด ไม่ร้องโวยวาย ได้แต่กล้ำกลืนความทุกข์ระทมทำให้เขาได้สติ นางเหมือนสัตว์เลี้ยงตัวเล็กๆ ที่เขาคอยดูแลรักษาอาการบาดเจ็บของนางไปตามลำดับขั้นตอนด้วยความใจเย็นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อนางยังเป็นเด็กน้อย บาดแผลของนางน่าเกลียดน่ากลัว มักถูกเด็กคนอื่นรังแกอยู่เสมอ นางไม่เคยตอบโต้ เขาจึงได้แต่คอยจูงมือเด็กหญิงมิให้คนอื่นมารังแก เพียงพริบตา ข้อมือเล็กๆ ที่เขาเคยจับจูง ยามนี้เป็นข้อมือของเด็กสาวเสียแล้ว อาจเป็นความคุ้นชิน มือหยาบกระด้างจับเอวของเด็กสาวยกขึ้นตัวลอยให้นางขึ้นรถม้า และเขาก็ไม่เคยถามว่าทุกครั้งที่พานางเข้าเมืองมา นางมักจะหายไปหนึ่งถึงสองชั่วยามเสมอ นางไม่เคยปริปากเล่า เขาจึงไม่เอ่ยถามอะไร แต่ไม่เคยบอกนางว่าครั้งหนึ่งเคยแอบตามนางไป เด็กหญิงตัวน้อยเดินตรงไปที่บ้านหลังหนึ่งแต่มันมอดไหม้เหลือเพียงเศษซากที่พอจะเห็นว่าเคยเป็นบ้า
last updateLast Updated : 2025-03-03
Read more
Chapter 8. ใครว่าข้าไม่แข็งแรง
“อ่อ” นางรับคำเบาๆ แล้วพยักหน้ารับ “เจ้าอยากไปหยุนหนานหรือ?” เห็นท่าทางตื่นเต้นของนางแล้วอดหัวเราะไม่ได้ เด็กคนนี้มักเก็บอาการ ไม่แสดงความต้องการสิ่งใดออกมานัก เด็กสาวพยักหน้าหงึกหงัก “ได้ยินนายท่านรองและท่านหมอหวังข่ายพูดถึงหยุนหนานบ่อยๆ ข้าจึงอยากเห็นด้วยตาตนเองสักครั้ง” เกาเทียนฉีกินรังนกจนหมดแล้วรับน้ำชาจากเสิ่นฉางซี “แท้จริงเจ้ามีเรื่องไม่สบายใจสินะ” “นายท่านรอง...” นางเอ่ยได้เพียงแค่นั้นแล้วก็พูดอะไรไม่ออกอีก “ฉางซี” เกาเทียนฉีฉีกยิ้มให้เด็กสาว “ที่เจ้าพยายามเรียนรู้อะไรมากมายเพียงเพื่อออกไปใช้ชีวิตข้างนอกนั่นมิใช่หรือ?” เสิ่นฉางซีเงยหน้ามองบุรุษที่อยู่ตรงหน้า “ฉางซิมิได้...” ยังไม่ทันพูดจบประโยค เกาเทียนฉีโบกมือห้ามไม่ให้นางพูดต่อ“สกุลเกาสร้างสำนักคุ้มภัยราชสีห์คำรามมาสองชั่วอายุคนแล้ว แต่พวกเราก็มิใช่คนลืมกำพืดตนเอง พวกเราไม่ใช่สกุลใหญ่โตเหมือนพวกคหบดีหรือวาณิช เจ้าเองอยู่ที่นี่มาห้าปีแล้วย่อมรู้ว่าคนในสำนักคุ้มภัยมีที่มาที่ไปหลากหลาย บางคนโลดแล่นในยุทธภพมาก่อน บางคนเป็
last updateLast Updated : 2025-03-03
Read more
Chapter 9. สวินเย่ว์        
"ไฉนไม่ยื่นมือช่วยเหลือกันบ้าง” เสียงบ่นพลางเหนี่ยวตัวขึ้นไปนั่งบนกิ่งไม้ สวินเย่ว์ขยับกายนั่งห้อยเท้าทั้งสองข้าง ใบหน้ายังคงเรียบเฉยไร้ความรู้สึกแต่แววตามีรอยขบขันที่เห็นผู้ที่มาเยือนสวมชุดขันที “เป็นถึงรัชทายาทต้องใช้ชีวิตหลบซ่อนเช่นนี้เชียวหรือ” “หากเลือกได้ ข้าขอเกิดเป็นสามัญชนเช่นเจ้าดีกว่า” บุรุษหนุ่มเอ่ยแล้วสูดลมหายใจลึกๆ อากาศนอกรั้ววังหลวงนี้ช่างสดชื่นดีแท้ “ท่านคงมิได้ลอบออกจากตำหนักบูรพาเพื่อสูดอากาศเท่านั้นหรอก”สวินเย่ว์คุ้นชินกับนิสัยของรัชทายาทฝูหรงเป็นอย่างดี ยามนี้เขาสวมชุดขันทีเช่นนี้ เขาจึงเอ่ยปากสนทนาด้วยถ้อยคำธรรมดาสามัญ “เจ้าไม่ไปเยี่ยมเยือนข้าเลยนี่ ข้าจึงยอมลดตัวมาหาเจ้า” “ตำหนักบูรพาน่าเข้าไปนักหรือ?” เขาเบ้ปากเล็กน้อย “ได้พบท่านครั้งแรก ท่านก็สวมชุดขันทีเช่นนี้” รัชทายาทฝูหรงหัวเราะออกมา มีแต่เวลานี้เท่านั้นที่เขาสามารถหัวเราะได้อย่างเต็มเสียงและปลอดโปร่ง หากสบโอกาสเขามักลอบออกจากตำหนักเพื่อติดตามหาข่าวใครคนหนึ่งเสมอ และนั่นทำให้เมื่อสามปีก่อนบังเอิญได้พบสวินเย่ว์
last updateLast Updated : 2025-03-03
Read more
Chapter 10. เก็บสมุนไพร
“เจ้าเป็นถึงบุตรชายคนโต เป็นแม่ทัพ เจ้าจะออกไปไหนมาไหนก็ไม่เห็นจะ...โอ๊ย!” ยังไม่ทันพูดจบประโยคดี ใบหน้าหล่อเหลาขององค์รัชทายาทที่อยู่ในชุดขันทีก็ถูกหมัดของแม่ทัพหมาดๆ ซัดเข้าใส่เต็มเบ้าตา! ฝูหรงไม่ทันตั้งตัวและหลบไม่ทันจึงรับหมัดเข้าไปเต็มๆ ซ้ำยังหงายหลังร่วงลงจากต้นไม้ โชคดีที่ไม่สูงนัก สวินเย่ว์ได้ยินเสียงก่นด่าพลางฉีกยิ้ม แค่นี้เขาก็ออกจากจวนได้อย่างสบายใจ…. “เมื่อครู่ท่านลุงว่าอะไรนะเจ้าคะ” เด็กสาวอ้าปากค้าง นางนั่งฟังท่านลุงวัยหกสิบที่เพิ่งกลับมาจากในเมืองบอกเล่าเรื่องแม่ทัพสวินเย่ว์ “ข้าฟังเขาเล่ากันมา แต่น่าจะเป็นเรื่องจริง ท่านแม่ทัพสวินเย่ว์ชกหน้ารัชทายาท แต่ฮ่องเต้ทรงเมตตาไม่ลงโทษสถานหนักเพียงแค่ให้ท่านแม่ทัพไปประจำที่หน้าด่านแทน” “เหตุใดท่านแม่ทัพทำเช่นนั้นนะ” เสิ่นฉางซีโคลงศีรษะไปมา เพิ่งได้กลับเข้าจวนแท้ๆ เหตุใดถึงได้ทำร้ายองค์รัชทายาทจนต้องถูกขับออกมาอีกเล่า นางได้แต่งุนงงไม่อาจหาคำตอบให้ตนเองได้เพราะยามนี้นางไม่ได้อยู่ในสำนักคุ้มภัยราชสีห์คำราม โดยปกตินายท่าน
last updateLast Updated : 2025-03-03
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status