“ไม่เพียงลงโทษให้ยืนทุกวัน แต่ยังให้นางคอยปรนนิบัติสารพัด แต่ละวันไม่มีแม้แต่เวลาจะพักผ่อน กระทั่งว่าป่วยแล้วก็ยังไม่เรียกหมอมาให้นาง เจ้าว่านี่เป็นเรื่องที่คนเราทำออกมาได้อย่างนั้นรึ?”
เหยาซื่อกล่าวพลางเช็ดน้ำตาไปด้วย กระทั่งสิ่งที่เวลาปกติรู้สึกว่าชวนขายหน้า ชั่วขณะนี้ก็ยังพูดออกมาจนหมด
กู้หรูเยียนรู้ว่าเหยาซื่อเป็นคนทะนงตนมาแต่ไหนแต่ไร ในอดีตยามอยู่ต่อหน้านางก็ไม่เคยยอมรับความพ่ายแพ้ คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะตกอยู่ในสภาพนี้
สำหรับเรื่องของซ่งปี้อวิ๋น นางก็เคยได้ยินมาเหมือนกัน แม้จะแยกบ้านกันแล้ว แต่อย่างไรเสียก็เป็นญาติกัน ถึงนางจะไม่เคยถามไถ่ก็มีคนมาพูดให้ฟังอยู่ดี
“เสิ่นหวยอันผู้นั้นไม่พูดอะไร ปล่อยให้แม่เล็กของเขาทำเช่นนี้งั้นหรือ?”
“ก็ใช่น่ะสิ” เหยาซื่อเพียงเอ่ยถึงเสิ่นหวยอันก็มีน้ำโห “เจ้าหนุ่มนั้นไม่ใช่คนดีอันใดเลย ตนเองไร้ความสามารถ เอาแต่เพ้อพกอยากแต่งงานกับภรรยาดีๆ สักคน ได้ดีในก้าวเดียว!”
“เจ้าไม่รู้หรอกว่าเมื่อก่อนเขายังคิดจะแต่งงานกับองค์หญิงมู่เหยา โชคดีที่องค์หญิงไม่ถูกเขาหลอกลวงเอาได้!”
“เขาอยากแต่งงานกับองค์หญิงมู่เหยา?” ดวงตากู้หรูเยียนฉายแววประหลาดใจ มองไปทางซ่งจ