นายทหารทุกคนต่างพากันร้องเฮอย่างดีอกดีใจจนดังกึกก้องทั่วค่ายทหาร ก่อนจะลุกขึ้นโค้งตัวพลางกล่าวขอบคุณหลัวหยางโหวพร้อมกันเสียงดัง
แต่เพียงช่วงไม่กี่ลมหายใจทุกคนต่างเงียบเสียงลง ราวกับว่าตอนนี้ในค่ายทหารไร้ผู้คน เมื่อทุกคนเห็นหลัวหยางโหวก้มหน้าลงมองพื้น แต่ทว่าเพียงครู่เดียวเขาก็เงยหน้าขึ้นแล้วรินสุราลงพื้นพลางกล่าวอย่างโศกเศร้า
“สุรานี้ข้าขอใช้คารวะเหล่าสหายทหารที่สูญเสียจากการทำศึกอันยาวนานที่ผ่านมา ที่ยอมเสียสละชีวิตเพื่อปกป้องแผ่นดินและผู้คนที่อยู่เบื้องหลัง”
เมื่อผู้เป็นนายกล่าวจบทุกคนต่างพากันรินสุราตามหลัวหยางโหว และก้มหน้าเงียบอยู่ครู่หนึ่ง เพื่อไว้อาลัยให้ผู้ล่วงลับ ก่อนที่ท่านกุนซือจะเดินมายืนอยู่ด้านข้างหลัวหยางโหว และกล่าวกับทุกคนที่อยู่ในค่าย
“เราระลึกถึงผู้ที่จากไปได้ แต่อย่าจมอยู่กับความเศร้าโศกนานนัก ไม่เช่นนั้นจะทำผิดต่อผู้ที่เสียสละชีวิตเพื่อปกป้องเรา ดังนั้นพวกเราควรใช้ชีวิตให้ดี มีความสุขให้มาก เพื่อทำให้ผู้ล่วงลับจากไปอย่างสงบสุข”
ทุกคนที่ได้ยินต่างพยักหน้าเนิบนาบรับรู้ ท่านกุนซือจึงหันไปมองหลัวหยางโหว เพรา