เสียงกุกกักดังอยู่หน้าบ้านนานแล้ว...
ทอยส์รู้สึกประหลาดใจ หลายครั้งที่เขาขมวดปลายคิ้วงุนงงสงสัย เสียงอะไรมันดังไม่เลิก ทำลายสมาธิในการอ่านหนังสือในเวลาดีๆ อย่างที่สุด สุดท้าย ก็อดไม่ได้ที่จะผุดลุกขึ้นจากเตียงผ้าใบชายหาดตรงระเบียงนั่น เพื่อก้าวเดินออกไปดูให้หายข้องใจ
หากเพียงก้าวเดินถึงประตูรั้วเท่านั้น เจ้าเหมียวขาวปลอดทั้งตัว ก็แทบจะวิ่งหูกางทางชี้ ขนฟูฟ่องเข้ามาชนน่องขาวๆ ของเขาที่โผล่พันจากกางเกงขาสั้นสบายๆ ในเช้าวันหยุด จนต้องก้มลงมองพร้อม ๆ กับรู้สึกได้ถึงสายตาคมกริบที่มองประจันหน้าจากภายนอก
โฮ่ง...โฮ่ง...
เสียงสุนัขตัวเขื่อง เท่าเสียงดังขึ้น ทำเอาปลายคิ้วขมวดมุ่นด้วยความประหลาดใจ บ้านรั้วติดกันนั่น ปล่อยขายและให้เช่า จนเกือบจะกลายเป็นบ้านร้างไปแล้ว โดยที่เขาไม่ทันสังเกตว่ามีคนเข้ามาอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ต่อเมื่อเงยหน้าขึ้นมอง แวบแรกก็อดสะดุดกับใบหน้าคมเข้ม คิ้วหนา จมูกโด่งเป็นสัน ที่ทำเอาใจเต้นแรกขึ้นมาไม่ได้ แต่ชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น ที่พยายามดึงใจตัวเองกลับ บอกตัวเองด้วยว่า
นั่นน่ะ ! ตัวต้นเหตุที่ทำเจ้าเหมียวน้อยของเขาวิ่งขนฟูกลับมาบ้านเชียวนะ
"นี่มันอะไรกัน คุณเป็นใคร..มาทำอะไรลับๆ ล่อๆ ที่หน้าบ้านผม !"
"ผม...ก็แค่สงสัย คุณเลี้ยงแมวยังไง ให้ไปวุ่นวายขโมยปลาทูที่บ้านผมกิน"
"อ้อ สรุปว่าคุณตามแมวผมมา"
"งั้นสิ ก็แมวคุณมันวิ่งหูกางหางชี้ ขนฟูฟ่อง เข้าไปแวบๆ นั่น"
"แล้วไงครับ หมาของคุณ ไอ้ที่วิ่งหูตั้ง ทางตกไล่เจ้าเหมียวของผมมานั่น มันก็นักเลงอันธพาลดี ๆ นี่เอง ถ้าไม่เห่า ไม่วิ่งไล่ แมวผมคงไม่วิ่งหูตั้ง หางชี้มาแบบนี้หรอก"
"อ้อ ! สรุปว่าหมาผมผิด ทั้ง ๆ ที่แมวคุณเป็นขี้ขโมยเนี่ยนะ”
“โอ.เค.ๆ แล้วคุณจะเอาไงว่ามา ปลาทูของคุณกี่ตัว ตัวละเท่าไหร่ เดี๋ยวผมจะเข้าไปเอาเงินมาให้"
"ดีนะ คุณนี่ ถ้าเป็นแม่คนนะ เขาเรียกว่าพ่อแม่รังแกฉันได้เลย ลูกทำผิด แต่กลับไม่สอนลูก จะเอาเงินไปชดใช้ความผิดให้ดื้อๆ ซะงั้น"
"นี่คุณ...มันจะมากไปแล้วนะ กะแค่ไอ้เรื่องแมวไปขโมยกินปลาตัวสองตัวแค่นี้ ลองให้หมาคุณ มากินไก่บ้านผมสิ ผมจะไม่เอาเรื่องเลย นึกว่าทำทานให้หมามันกิน !"
แรงส์ ร้ายกาจ !
ก็ด้วยแรงโมโหล้วนๆ ของทอยส์นี่ล่ะ อะไรกันนักหนา เช้าวันหยุดแบบนี้ อากาศก็ดีแสนดี น่าอ่านหนังสือ ฟังเพลงเบา ๆ แต่กลับต้องมายืนเผชิญหน้า ทุ่มเถียง กับชายหนุ่มที่คะเนอายุแล้วก็น่าจะอยู่ในวัยไล่เลี่ยกัน จะหนีกันไปบ้างก็คงไม่เกิน 1 หรือ 2 ปีหรอก
หากดูเหมือนเขาทำตัวเหมือนเด็กไม่มีผิด !
"คุณแน่ใจนะที่พูด"
"แน่ใจ...แล้วจะทำไม"
"ถ้างั้น ก็ลองดูมั้ยล่ะ ไอ้โด่ง ลุยเลยลูก !"
หลังเสียงประกาศกร้าวนั้นของชายหนุ่มหน้าเข้มนั่น โดยที่ทอยส์ไม่ทันตั้งตัว ก็แทบหูผึ่งราวกับสุนัขรับใช้ของเขา ที่เพียงออกคำสั่งกับเจ้าหมาหูตั้ง ที่ท่าทางมันจะฉลาดแสนรู้ไม่เบา ก็แทบจะวิ่งปรู๊ดเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว ให้เจ้าของบ้านได้แต่มองตาค้าง ตกตะลึงพรึงเพริศ คาดไม่ถึงไปกับความร้ายกาจของอีกฝ่ายนั่น
ผู้ชายอะไรร้ายกาจชะมัด !
"เฮ้ ! คุณ นี่จะบ้าเหรอ คุณสั่งให้หมาคุณ ออกมาเดี๋ยวนี้นะ"
"ไม่ต้องห่วงหรอกครับคุณผู้ชาย เดี๋ยวไอ้โด่งมันเจอของอร่อย มันก็จะออกมาเองนั่นล่ะ"
คนพูดใช่พูดเปล่า หากยักคิ้วแผล๊บเข้าให้ อย่างกวนอารมณ์และความรู้สึกสุดๆ อีกต่างหาก ขณะที่ทอยส์ ได้แต่ทันรีหันขวางไม่รู้ว่าจะอะไรยังไงต่อดี ต่อเมื่อเจ้าหมาแสนรู้ของชายหนุ่ม วิ่งกลับออกมาพร้อมกับไส้กรอกสองชิ้นในปาก เท่านั้นแหละ ทอยส์ถึงกับสตั๊นไปอีกครั้ง
"เฮ้ย คุณ นั่นมัน...นั่นมัน.."
"มันคือไส้กรอกรมควัน หนังกรอบกรุ๊บ ๆ ใช่มั้ยล่ะ"
"ก็เออสิ มันคือไส้กรอกของผม ที่เตรียมไว้พร้อมจะกินกับกาแฟเช้านี้เชียวนะ!"
"อืมม์ แล้วไงดีล่ะ ปลาทูนั่น มันก็คือมื้อเช้า และมื้อกลางวันของผมเหมือนกัน ไหนคุณว่า...ให้ทานหมามันกินไง”
ทอยส์ ชะงักกึกในคราวนี้ โดนย้อนเข้าไปเต็ม ๆ แถมเป็นคำยอกย้อนที่เขาได้ประกาศกร้าวเอาไว้เองอีกต่างทาก
อวสานอาหารเช้าละไอ้ทอยส์เอ๊ย !
"ได้ ได้เลย...ถ้าคุณจะเอาอย่างนั้น ก็ไสหัวออกไป ทั้งคนทั้งหมาเลยไป ไม่อย่างนั้น ผมจะโทร. เรียกตำรวจ ข้อหาบุกรุกจริงๆ"
"อ๋อ เหรอ...บุกรุก ขณะที่ผมยืนอยู่นอกรั้ว หน้าบ้านคุณเนี่ยนะ ไม่มีตำรวจที่ไหนเขามาดำเนินคดีติ๊งต๊องต้องแบบนี้ให้คุณหรอกนะ ไป...ไอ้โด่ง กลับบ้านกันเถอะลูก"
ก่อนกลับ ชายหนุ่มแปลกหน้า ยังไม่วายยักคิ้วแผล็บให้ ยั่วยวนประสาทจนทอยส์แทบอยากจะคว้าไม้ไล่ หรือเอาก้อนอิฐหน้าบ้านสักสองสามก้อนขว้างไล่หลังเขาไปเสียจริง ๆ หากไม่เกรงว่า จะกลายเป็นคนโดนแจ้งความกลับเอาเสียเอง ฐานทำร้ายร่างกาย
ช่างมัน ทั้งคนและหมาไปแล้วกัน !
บอกตัวเองอย่างนั้น ทอยส์ก็แทบหมุนตัวกลับเข้าบ้าน พร้อมความหงุดหงิดไร้สาระในอารมณ์ จนแทบไม่อยากหยิบจับงานอะไรใดๆ ในวันหยุดพักผ่อนอันแสนรื่นรมย์เอาซะเลย แต่หากเพียงเห็นจานที่ใส่ไส้กรอกเมื่อครู่ก่อน เหลือเพียงจานเปล่า ๆ ก็เกิดความฉุนกึกขึ้นจนแทบจะหันไปพาลรีพาลขวาง ส่งงานต่อให้เจ้าเหมียวตัวโปรดของตัวเองที่นั่งมองเจ้านายตาแป๋วอยู่ไม่ไกล
"เพราะแกทีเดียว เจ้าสีนวล ทำให้ฉันต้องโดนถอนหงอกแบบนี้ ทำเป็นแมวอดอยากไปได้"
"เงี้ยว..ว !"
"ไม่ต้องมาเงี้ยวมาง้าวเลย อิ่มแปล้แล้ว ก็ไปหาที่หลับที่นอนให้มันไกลหูไกลตาฉันเลย สมน้ำหน้ามั้ยล่ะ เป็นแมวขโมยแล้วยังไม่สำนึกอีก รีบไปไกลๆ เลยไป"
ตวาดแหวออกไปด้วยความโมโหติดหมัด หากได้ผลแฮะ เจ้าเหมียวน้อยมันเดินย่องเบาหายไป ให้ทอยส์ได้แต่เฝ้ามองตามตาละห้อย สงสารก็สงสาร ภาพของเจ้าสีนวล ทำเอาเขาแทบถอนใจออกมาเบาๆ
สงสารแค่ไหน ก็ต้องปรามแมวตัวเองเอาไว้บ้าง !
เออนะ...อย่าว่าแต่หมาจะฉลาดเลย แมวนี่ก็ใช่ย่อย รู้ไปหมด แต่ก็ยังทำนั่นล่ะ !
…
"ไปไอ้โด่ง..กลับไปอยู่ที่ทางของแกเลย ฉันจะทำงานต่อ เจ้านายยิ่งเร่ง ๆ อยู่ เสียอารมณ์แต่เช้าเลยวุ้ย"
ณดล เองก็ไม่ต่างทอยส์สักเท่าไหร่ เมื่อเขาเดินกลับมาถึงบ้าน เขาก็แทบจะพาตัวเองไปหยุดยืนอยู่หน้าขาตั้งวาดภาพ เตรียมวาดภาพส่งงานให้ทันตามกำหนดต่อ แต่ความวุ่นวายใจเมื่อครู่ก่อนนั่น ก็แทบจะผ่านเข้ามารบกวนใจเขาอยู่นั่น โดยเฉพาะใบหน้ายับยุ่ง กับเส้นผมชี้ ๆ ฟูๆ ของอีกฝ่าย ท่าทางคงเพิ่งตื่นนอน เตรียมไส้กรอกไว้กินกับกาแฟ !
เหอะ..สมน้ำหน้าจริง ๆ ให้โดนหมาคาบมากินแบบนี้
คนอะไร โวยวายหาช่องไฟไม่เจอเลยทีเดียว...