จางซิงเอ่ยด้วยสีหน้าตกตะลึง “ท่านอาจารย์อา หรือว่าบุตรแห่งนักปราชญ์กับท่านเจ้าสำนักจะ...”
ยังมิทันพูดจบ หลัวชางก็ยกมือขึ้นปิดปากเขาทันที
หลัวชางตำหนิว่า “กล้าพูดออกมาเยี่ยงนี้ เจ้าอยากตายนักรึ?”
จางซิงอกสั่นขวัญแขวน เหงื่อเย็นผุดทั่วกายด้วยความผวา
หลัวชางถลึงตาใส่คนอื่น ๆ แล้วตวาดว่า “ใครมีเรื่องอันใดก็ไปทำเสีย หากใครกล้านินทาท่านเจ้าสำนักลับหลัง จะถูกไล่ออกจากหอดารารักษ์ทันที”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น บรรดาศิษย์ก็ต่างหน้าซีดเผือด แล้วพากันแยกย้ายกันไปคนละทางอย่างอลหม่าน
บัดนี้ หน้าลานหอเหลือเพียงหยางคุนและหลัวชางเท่านั้น
หยางคุนขยับริมฝีปากเล็กน้อย แต่สุดท้ายกลับมิพูดอะไรออกมา
เขาเงยหน้ามองชั้นบนสุดแวบหนึ่ง แล้วก็หมุนตัวเดินออกไป
หลัวชางลอบอุทานในใจด้วยความตะลึง “มิน่า ท่านเจ้าสำนักถึงได้ยืนกรานให้ฉินซูเป็นบุตรแห่งนักปราชญ์ ที่แท้สองคนนี้ก็มีความสัมพันธ์เช่นนี้นี่เอง เฮ้อ”
เขาถอนหายใจเฮือกหนึ่งแล้วเดินออกไป
หากซ่างกวนอวิ๋นซีรู้ว่าหลัวซางและคนอื่น ๆ เข้าใจผิดกันหมด นางต้องโกรธจนอกแตกเป็นแน่
ยามนี้นางถลึงตามองฉินซูพร้อมกับแยกเขี้ยวยิงฟัน “เจ้าคนผีทะเล ไร้ยางอาย!”
“ข้าตั้งใจที่ไห