คืนนี้ เซียวอวี้นอนหลับสนิทกว่าคืนไหน ๆ
เมื่อลืมตาตื่นในเช้าวันรุ่งขึ้น เขาก็มองคนในอ้อมกอด พลันรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นหลายเท่า
“เราจะไปว่าการเช้าแล้ว” เขากระซิบข้างหูนางเสียงเบา
“อืม” เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้ากึ่งหลับกึ่งตื่น
เมื่อเซียวอวี้เดินออกมานอกห้อง ก็เห็นอู๋ไป๋เข้ามาในเรือนพอดี
“ถวายบังคมฝ่าบาท!” อู๋ไป๋ดูเร่งรีบ
เซียวอวี้หยุดยืนนิ่ง ๆ แล้วถามเขา
“ไปไหนมา”
เมื่อคืนเขาไม่เห็นอู๋ไป๋
ในฐานะเป็นองครักษ์ข้างกายของฮองเฮา ก็ต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของฮองเฮาเป็นอันดับหนึ่ง แล้วเหตุใดถึงได้นึกอยากจะไปไหนก็ไปเช่นนี้?
อู๋ไป๋บอกตามความจริง
“พระนางให้กระหม่อมไปสืบเรื่องตระกูลมู่หรง ตอนนี้เริ่มจับทางได้แล้ว ฝ่าบาท ตระกูลมู่หรงน่าสงสัยมากพ่ะย่ะค่ะ!”
ตั้งแต่ที่จับบุคคลน่าสงสัยในตระกูลมู่หรงได้ เขาก็ทำตามที่ฮองเฮาสั่ง ไม่ได้เร่งสอบสวนในทันที แต่นำไปขังไว้ก่อนสักระยะ
ตระกูลมู่หรงเริ่มมีการเคลื่อนไหวอย่างที่คาดการณ์ไว้ เริ่มส่งคนออกตามหาแล้ว
และเขาก็หามู่หรงฉานที่อาศัยอยู่ในชนบทเจอ
คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้เบาะแสสำคัญเพิ่มมาอีกหนึ่งอย่าง
“ฝ่าบาท มู่หรงฉานผู้นั้นกล่าวว่า นางไม่ได้ป่วย