เพลิงตะวันจับตามองน้องสาวตั้งแต่เธอเดินออกจากประตูบ้านมา กระทั่งเดินมานั่งที่เก้าอี้ซึ่งอยู่ในซุ้มไม้ที่เขากับภรรยานั่งอยู่ก่อนแล้ว
“ช้า!” คนใจร้อนและหัวร้อนง่ายว่าน้อง แล้วมองอย่างจับพิรุธ
“ติ๊บเป็นผู้หญิงนะพี่เพลิง จะให้วิ่งผ่านน้ำหรือไงเล่า มันก็ต้องให้เวลากันหน่อยสิคะ” พลอยชมพูว่าแล้วทำปากยื่นให้พี่ชาย
“น้ำฝนไม่เห็นอาบนานเหมือนติ๊บเลย” คนข้องใจยังคงหาเรื่องจับผิดน้องต่อ
“ที่อาบไม่นานเพราะพี่เพลิงเข้าไปอาบด้วยหรือเปล่าคะ อาบไม่นาน เพราะทำอย่างอื่นด้วย” ถึงเธอจะเพิ่งเสียพรหมจรรย์มาเมื่อคืนนี้เอง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้อะไรเลย เรื่องแบบนี้ถึงไม่อยากรู้แต่ก็ได้รู้ เพราะทั้งเพื่อนฝูงคุยกัน ทั้งหนังทั้งละครมีฉากแบบนี้ออกเยอะแยะ และพลอยชมพูก็ฉลาดพอที่จะดึงน้องสาวเข้ามาจัดการพี่เพลิง
“พี่ติ๊บ!” หยาดพิรุณอุทานเรียกพี่สาวด้วยน้ำเสียงตกใจ แล้วหันไปมองสามีด้วยสายตาดุ เพราะเขานั่นแหละไปจุกจิกวุ่นวายถามจับผิดพี่สาวเธออยู่ได้ พี่ติ๊บเลยสวนหมัดกลับมา แต่แทนที่หมัดนี้จะโดนเขา กลับมาฮุกเข้าใต้ลิ้นปี่เธอเสียนี่
“ตื่นสายโด่งขนาดนี้ พี่พบเขายังจ
“ยังไม่หิวค่ะ” พลอยชมพูบอกเสียงเบา หญิงสาวไม่รู้จะทำตัวเช่นไร จึงได้แต่ยืนขัดเขินทั้งกังวลอยู่กลางห้อง รอให้เขาเริ่มพูดเรื่องนั้นขึ้นก่อน“กระติ๊บ”“คะ” คนถูกเรียกสะดุ้ง หันไปมองเจ้าของห้องที่นั่งอยู่ปลายเตียงของเขา“มานั่งตรงนี้ เราต้องคุยกัน” พบรักตบมือลงข้างๆที่ตัวเองนั่งอยู่“คุณพบพูดมาเลยค่ะ ยืนอยู่ตรงนี้ ติ๊บก็ได้ยิน”“ถ้าไม่มานั่งดีๆ ผมจะเดินไปอุ้ม”คำขู่ด้วยน้ำเสียงราบเรียบทำให้ใบหน้างามงอง้ำ พลอยชมพูพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่ ก่อนจะยอมเดินไปนั่งข้างเขา ซึ่งหญิงสาวทิ้งระยะห่างพองาม พบรักเองก็ไม่ได้คะยั้นคะยอให้เธอมานั่งชิดตัวติดกัน“กระติ๊บอยากให้ผมรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นยังไง” พบรักเอ่ยถามตรงๆไม่อ้อมค้อม คนที่ต้องตอบคำถามอึ้งไปไม่เป็น รับผิดชอบอย่างไรงั้นหรือ แต่งงานคงไม่ใช่คำตอบที่ดีเท่าไรนัก เพราะหากชีวิตคู่ของเธอเริ่มต้นจากการเสียตัวเพราะความเมา มันก็คงจบไม่สวยเท่าไรหรอกมั้ง เธอกับเขายังรู้จักกันไม่ดีพอ ยังไม่มากพอที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน“อย่าเพิ่งปฏิเสธความรับผิดชอบจากผม เราค่อยๆเรียนรู้กันไปก่อนได้ไหม”พลอยชมพูเ
“ผมก็เป็นเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งเหมือนกัน” คนไม่อยากให้สาวทำงานลำบากรีบเอ่ยอ้างพลอยชมพูเงยหน้าขึ้นสูดลมหายใจลึก นี่เธอกำลังคุยกับผู้ใหญ่อายุสี่สิบหรือเด็กอายุสิบขวบกันแน่นะ“ติ๊บจะไปช่วยงานคนอื่นแล้ว ห้ามตามมานะคะ ไม่อย่างงั้นติ๊บจะหนีกลับบ้านจริงๆด้วย” พลอยชมพูหันหลังเดินออกจากห้องไปทันทีที่พูดจบ คนที่ถูกเธอขู่ไม่กล้าลุกเดินตามไป พบรักทำได้เพียงถอนหายใจมองตามตาละห้อย เขากลัวเธอหนีกลับบ้าน กลัวเธอไม่อยู่ให้เขารับผิดชอบเมื่อเดินออกมาจากห้องทำงานเจ้าของรีสอร์ตได้แล้ว พลอยชมพูถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก บางทีเธอก็ไม่เข้าใจว่า การที่เธอเอาเรื่องนี้มาขู่เขานี่ถูกต้องแล้วใช่ไหม คือเธออดสงสัยไม่ได้ว่าตรรกะการได้เสียระหว่างเธอกับเขามันดูเพี้ยนๆ เขาต้องการรับผิดชอบ ในขณะที่เธอยังไม่แน่ใจอะไรทั้งนั้น และยังไม่อยากตัดสินใจอะไรตอนนี้ ไม่ใช่ว่าไม่เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอเสียใจ แต่ที่มากกว่าความเสียใจคือ เธอกลัวครอบครัวรู้ กลัวพวกท่านจะผิดหวังในตัวเธอ แต่จะให้ร้องไห้คร่ำครวญจมอยู่ในห้วงทุกข์ตลอดเวลาก็ดูจะไม่ใช่ ไม่น่าทำ เธอโตมาในครอบครัวที่อบอุ่น มีภูมิคุ้มกันภาวะจิตใจและอาร
“ไอ้หมอนั่นใคร”เสียงเข้มไม่พอใจที่ดังขึ้นข้างหลังทำให้พลอยชมพูสะดุ้ง หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนหมุนตัวกลับไปยืนประจันหน้ากับเจ้าของรีสอร์ตนิสัยเสียที่กล้าเรียกลูกค้าว่าไอ้หมอนั่น“ลูกค้าค่ะ”“รู้แล้วว่ามันเป็นลูกค้า มันรู้จักกระติ๊บด้วยเหรอ”“เป็นเพื่อนกันสมัยเรียนปอโทค่ะ”“เมื่อกี้มันขอเบอร์ด้วย”“ค่ะ” พลอยชมพูตอบแล้วหันไปคว้าถาดมาถือ เดินหนีคนช่างซัก“จะไปไหน” พบรักเดินตามติดต้อยๆ“เอาถาดไปเก็บค่ะ”“ผมช่วย” พบรักแย่งถาดจากมือบาง แต่ลูกจ้างสาวไม่ยอม พลอยชมพูดึงเอาไว้แน่น“ไม่ต้องค่ะ”“ต้อง” พบรักใช้แรงที่มีมากกว่าดึงถาดมาจากมือเธอจนได้ พลอยชมพูมองหน้าเขาด้วยความไม่พอใจ คนบ้าอะไรเนี่ย คนจะทำงาน เขาจะมาวุ่นวายวอแวอะไรกับเธอนักหนา“งั้นก็ฝากไปเก็บด้วยนะคะ ติ๊บจะไปช่วยพี่น้ำตาลค่ะ” พลอยชมพูสะบัดหน้าเดินหนีเอาดื้อๆ พบรักมองตามเธอ แล้วก้มมองถาดในมือ เรื่องอะไรจะเอาไปเก็บ เธอไม่ไป เขาก็ไม่ไป ชายหนุ่มพยักหน้าเรียกพนักงานที่ยืนอยู่ไม่ไกลให้มารับถาดไปเก็บ แล้วเดินตามไปยังเคาน์เตอร์ที่พลอยชมพูยืนอยู่กับกลุ่
“อุ๊ย!” พลอยชมพูมัวแต่โมโหคนที่ไม่ยอมปล่อยเธอสักที หญิงสาวเลยมองเมินไปยังพื้นที่สีเขียวโล่งกว้างตรงหน้า โดยไม่ทันระวังตัว พบรักก็รวบเอวคอดดึงตัวเธอขึ้นไปนั่งบนตักเขา แล้วกักกอดไว้แน่น แผ่นหลังนุ่มแนบไปกับอกกว้างกำยำ“คุณพบ! จะทำอะไรคะ ปล่อยนะ” พลอยชมพูหันหน้าไปต่อว่าเขา ใบหน้าสาวบูดบึ้งไม่พอใจอย่างที่สุด“นั่งพักสักหน่อย เดี๋ยวค่อยกลับ”“จะนั่งก็นั่งดีๆสิคะ ทำไมต้องมากอดคนอื่นแบบนี้”“คนอื่นที่ไหน เมียทั้งคน”ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง มองหน้าคนที่เรียกตัวเองว่าเมียด้วยสายตาแตกตื่น พบรักมองสีหน้าตกใจของเธอแล้วยิ้มขำ พอเห็นคนที่เอาแต่ตกตะลึงตาค้างกับตำแหน่งใหม่ที่เขามอบให้ แถมริมฝีปากอิ่มที่เผยอน้อยๆนั่นก็ยั่วใจเขาเหลือเกิน ชายหนุ่มจึงอดใจไม่ไหว เขาโน้มใบหน้าลงไปใกล้อีกนิด หวังจะชิมความหวานจากปากนุ่ม แต่ดูเหมือนคนกำลังจะถูกเขารังแกจะรู้ตัวเสียก่อน มือบางสองข้างจึงถูกยกขึ้นมาปิดกั้นปากเขาไว้แล้วดันออกสุดแรงจนหน้าแทบหัน“จะทำอะไรคะ” พลอยชมพูถามเสียงขุ่น หญิงสาวดึงมือกลับมาเช็ดๆถูๆกับกางเกง มองค้อนคนจ้องจะเอาเปรียบเธอปากเขานุ่มชะมัด บ้าจริ
ใบหน้าที่หลับตาพริ้ม อ้าปากเผยอครางเสียงหวานดังผะแผ่ว ทำให้พบรักเร่งมือเพื่อส่งเธอไปสุดปลายทางล่วงหน้าก่อน เขาสอดนิ้วกลางเข้าสู่ร่องสาวคับแน่น ชักเข้าออกกระทุ้งแรง รับรู้ได้ถึงกล้ามเนื้ออ่อนที่บีบรัดรอบจากปลายสุดโคนนิ้ว ชายหนุ่มสูดลมหายใจยาว เขาแข็งขึงทรมาน อยากจะพาสัดส่วนที่ขยายใหญ่โตสอดลึกในตัวเธอแล้ว ทว่าก็ได้แต่ยับยั้งใจไว้ก่อน ความสดใหม่ของเธอทำให้เขาต้องรีดเค้นน้ำหวานออกมาให้ได้มากที่สุด เพื่อไม่ให้เธอต้องเจ็บตัวมากเหมือนครั้งแรก“คุณพบ!” พลอยชมพูหลับตาแน่น เงยหน้าขึ้นครวญครางเรียกชื่อคนที่กำลังปรนเปรอเธอด้วยนิ้วมืออย่างดุดัน เมื่อไม่อาจต้านทานบทเพลงกามาที่บรรเลงโดยนิ้วเรียวยาวที่พร่างพรมลงใจกลางความเป็นหญิง สะโพกสวยก็ขยับเร็วเพื่อจะไปให้ถึงบทสุดท้ายของเพลงรัก เผลอให้ความร่วมมือไปโดยไม่รู้ตัว“กระติ๊บ...” พบรักจับจ้องมองใบหน้าน่ารักไม่วางตา เขากระซิบเรียกเธอซ้ำๆ จูบปลายคางเล็ก แล้วอ้าปากงับเบาๆ เร่งขยับซอยนิ้วมือกระทั่งส่งเธอข้ามพ้นขอบเขตความอดกลั้น หญิงสาวระเบิดตัวเองหยาดน้ำใสฉีดล้นซอกขาเปรอะเปื้อนเต็มหน้าตักเขาพลอยชมพูหอบหายใจแฮกๆ หญิงสาวเอนกายซวนซบอกกว
พลอยชมพูหลับตา แหงนเงยหน้าเชิดสูง พร้อมกับกรีดร้องออกมาด้วยความซ่านเสียวสะใจ เธอต้องบ้าไปแล้วแน่ๆที่รู้สึกไปกับเขามากมายขนาดนี้ และเมื่อเขาเริ่มโยกกายถอดถอนสลับเติมเต็มในจังหวะเชื่องช้า หญิงสาวก็ครางเบาๆอย่างกับลูกแมวน้อย มันเสียวสะท้านก็จริง ทว่าเธอคิดว่ามันอ่อนโยนเกินไป หญิงสาวจึงโยกสะโพกกลับไปด้านหลัง ในจังหวะที่เขาสอดเสยเข้าหาเธอพอดี เสียงเนื้อสะโพกหนั่นแน่นปะทะกับหน้าขาจึงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ต่างคนต่างใส่แรงเข้าหากันไม่มีใครยอมใคร แต่คนแรงน้อยกว่าสูญเสียอธิปไตยในน่านน้ำตัวเองไปหลายครั้ง กว่าเธอจะรีดรัดคนแข็งแกร่งห้าวหาญจนเขายอมพ่ายแพ้ก็ใช้เวลาร่วมชั่วโมง “ไปเดินอีท่าไหนให้หกล้มหัวเข่าถลอกแบบนี้คะ” ลำดวนถามคนที่ตนกำลังทำแผลให้ หญิงสาวนั่งอยู่บนโซฟาในบ้านพักของเจ้าของรีสอร์ตพลอยชมพูตวัดสายตาดุขึ้นมองตัวต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องหัวเข่าถลอก เขายืนกอดอกตีหน้านิ่งอยู่ใกล้ๆ แต่เมื่อสบสายตากับเธอ เขาก็ยิ้มบางบนใบหน้า แถมยังยักคิ้วข้างหนึ่งใส่เธอด้วย คนเจ็บตัวเพราะความหื่นปรอทแตกของเขาจึงสะบัดค้อนให้จนคอแทบเคล็ด
“เดือนนี้ไม่หักแล้ว จะให้เพิ่มด้วย” พบรักบอกยิ้มๆ“ให้เพิ่มทำไม ติ๊บไม่ได้ทำงานอะไรเพิ่มสักหน่อย” คนไม่อยากเอาเปรียบนายจ้างปฏิเสธไม่รับเงินค่าจ้างเพิ่มโดยที่เธอไม่ได้ทำอะไรเพิ่มพบรักถอนหายใจบางเบา เขาลุกขึ้นเดินอ้อมโต๊ะไปนั่งเก้าอี้ข้างหญิงสาว ดูเหมือนเธอจะหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงเหตุการณ์เร่าร้อนที่เขาและเธอเพิ่งทำกันไปเมื่อครู่ใหญ่“กระติ๊บ” พบรักจับมือบางทั้งสองข้างมากุมไว้ เขามองหน้าหญิงสาวด้วยสายตาดุ ไม่พอใจที่เธอไม่เรียกร้องอะไรจากเขาเลย ทั้งๆที่เขาอยากให้เธอเรียกร้องเอาทุกอย่างจากเขา เอาไปให้หมดเลยก็ได้ ทั้งตัว หัวใจ เงินทอง ทรัพย์สมบัติต่างๆ เขาพร้อมจะยกให้เธอทั้งหมด“อะ...อะไรคะ” พลอยชมพูเอนตัวหลบคนที่อยู่ดีๆก็เดินมาจับมือถือแขนเธอ ที่จริงเธอก็ไม่ควรตกใจอะไรหรอก เพราะมากกว่ามือเขาก็จับมาแล้ว แต่บอกตรงๆว่าเธอยังไม่ชิน ถึงจะไม่ได้รังเกียจเขา แต่ก็ใช่ว่าเธอจะชอบที่เขาเข้ามาใกล้ชิดแบบนี้ เพราะมันทำให้หัวใจเธอสั่น“คุณไม่คิดจะเรียกร้องอะไรจากผมหน่อยหรือ”พลอยชมพูมองหน้าเขานิ่งอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนระบายยิ้มหวานสดใสให้เขา“แล้วคุณพบอยากใ
พลอยชมพูกะพริบตาปริบๆ รีบลงจากเตียงแล้วเดินไปที่หน้าต่าง พอหญิงสาวเปิดม่านออกก็มองเห็นเขายืนโบกไม้โบกมืออยู่ข้างล่าง เธอปิดม่านแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ เมื่อกลางวันแค่เธอคุยกับเขานิดเดียว แถมยังมีผู้คนอยู่ด้วยตั้งมากมาย พบรักยังจับเธอไปลงโทษด้วยบทรักเร่าร้อนท้าแสงแดด นี่ถ้ามาเห็นเธอคุยกับเขาที่หน้าบ้าน เธอจะโดนอะไรอีกไหมเนี่ยแต่สุดท้ายแล้วพลอยชมพูก็ต้องลงไปคุยกับเพื่อนชายที่ซุ้มไม้หน้าบ้าน เธออุตส่าห์ทำตัวเป็นผู้ฟัง ไม่ซักไม่ถาม วิศรุตถามคำเธอก็ตอบคำ หวังว่าเขาจะเบื่อแล้วกลับห้องพักไปก่อนที่เจ้าของบ้านจะกลับมา แต่อีตานี่ก็หน้าด้านหน้าทนกว่าที่คิด ขุดเรื่องตั้งแต่สมัยปีมะโว้มาคุยกับเธอได้เป็นคุ้งเป็นแคว แหม...รู้สึกคิดถูกมากๆที่ไม่สนใจเขาตั้งแต่ตอนที่เขาเข้ามาจีบใหม่ๆ เพราะไม่งั้นเธออาจจะเบื่อตายไปเลยก็ได้ เธอไม่ชอบผู้ชายพูดมาก เพราะลำพังตัวเธอเองก็พูดมากอยู่แล้ว เธอชอบคนที่พร้อมจะฟังมากกว่า เหมือนคุณพบนั่นไง พอคิดถึงคนที่ฟังเธอเสียเป็นส่วนมาก เขาก็โผล่มาพอดีพบรักจอดรถกอล์ฟที่หน้าบ้าน แล้วเดินหน้าบึ้งเข้ามาหาเธอกับวิศรุตที่ซุ้มไม้“ที่นี่เป็นที่พักส่วนตัวของผม ไม่
“กลัวเข็มไม่ใช่หรือเรา ตอนฉีดยากอดใครเหมือนตอนเป็นเด็กหรือเปล่า” นิ่งเงียบได้ครู่เดียว เพลิงตะวันก็ตั้งข้อสงสัยถามน้องอีกจนได้“ติ๊บโตแล้วนะคะพี่เพลิง ติ๊บเลิกกลัวเข็มไปตั้งนานแล้วนะคะ” พลอยชมพูตอบไม่เต็มเสียง“ก็ดี...ว่าแต่ คืนนี้นอนที่นี่ใช่ไหม” เพลิงตะวันถามเชิงรุก คนที่ไม่ได้ตั้งตัวว่าจะมานอนที่ไร่ภูอิงฟ้าหน้าเหวอ หันไปมองคนที่นั่งข้างๆอย่างขอความเห็น อากัปกิริยาของน้องไม่ได้รอดพ้นสายตาของพี่ชายสู่รู้อย่างเพลิงตะวันเลย“ไม่” พบรักตอบสั้นๆ คำตอบของเขาทำให้คิ้วเข้มของเพลิงตะวันกระตุก“ผมถามน้องผม ไม่ได้ถามพี่ครับ” เพลิงตะวันหรี่ตามองคนที่ตอบคำถามแทนน้องสาวเขาด้วยสายตาจับผิด“เอ่อ...ติ๊บต้องทำงานแต่เช้าค่ะพี่เพลิง ติ๊บขอกลับไปนอนที่รีสอร์ตนะคะ เอาไว้วันหลังติ๊บจะมาหาใหม่ แล้วจะมานอนค้างด้วยนะคะ” พลอยชมพูรีบขยายความให้พี่ชายฟัง หญิงสาวเหล่ตามองคนที่ตอบคำถามแทนเธอเมื่อสักครู่ เขาจะตอบให้มันยาวๆแบบหยิบยกเหตุผลที่น่าเชื่อถือมาประกอบด้วยไม่ได้หรือไงนะ ตอบไปแบบนั้นพี่เพลิงผู้สู่รู้ก็ยิ่งสงสัยไปกันใหญ่“งั้นหรือ ก็แล้วแต่ติ๊บแล้วกัน เอาไว้ว่างๆพี่
“ซุบซิบอะไรกันวะนั่น หนูพรรณ...ช่วงนี้พี่วีเขามีอะไรแปลกๆไหม”พรรณดารามองตามสายตาพี่ชายแล้วหัวเราะ“อะไรแปลกๆหมายถึงอะไรล่ะคะ”“ก็อย่างเช่นแอบมองลูกน้องผู้ชาย หรือไม่ก็พักนี้ไม่สนใจเมีย”“นี่พี่เพลิงกำลังคิดว่าพี่วีกับพี่พบเป็นมากกว่าเพื่อนกันหรือคะ”“ก็มันน่าสงสัยไหมล่ะ ตอนกินข้าวพี่วีก็แอบมองพี่พบบ่อยๆ พอกินข้าวเสร็จก็ปลีกตัวไปยืนคุยกันกะหนุงกะหนิงสองต่อสอง” เพลิงตะวันยังจ้องมองบุคคลน่าสงสัยสำหรับเขาทั้งสองคนไม่วางตา“คงปรึกษากันเรื่องงานมั้งคะ” พรรณดาราบอกแล้วหันกลับมาสนใจผลไม้และของหวานที่หยาดพิรุณและพลอยชมพูยกออกมา และเมื่อสาวๆรวมตัวกันก็เริ่มพูดคุยอย่างสนุกสนาน ไม่มีใครสนใจเพลิงตะวันเลย กระทั่งพบรักและกวีเดินกลับมานั่งลงที่เดิม เพลิงตะวันก็หรี่ตามองทั้งสองอย่างจับผิด“หน้ากูเหมือนกิ๊กมึงหรือไง จ้องจริง” กวีมองหน้าคนที่เอาแต่จ้องเขาและพบรักสลับกันไปมา“ปากแบบนี้มันน่าไล่ออกให้พ้นสภาพน้องเขย แล้วหาผัวใหม่ให้หนูพรรณแทน” เพลิงตะวันว่าแล้วหันไปโอบกอดเมียรัก เพราะเธอกำลังมองเขาด้วยสายตาแปลกๆ“อย่าไปฟังคนขี้อิจฉาอย่างพี่ว
“ยายติ๊บเป็นไงบ้างพี่พบ น้องสาวผมปรับตัวได้หรือยัง พี่ใช้งานน้องหนักเกินเงินเดือนกระจอกๆที่ให้หรือเปล่า”ปากอย่างมันเนี่ย ถ้าเอาขี้เถ้ายัดปากตอนนี้ทันไหม พบรักได้แต่ครุ่นคิดในใจ เพราะยังไม่อยากมีเรื่องกับมันให้เสียอารมณ์ อีกอย่าง เดี๋ยวคนที่เขาพามาจะไม่พอใจด้วย เพราะแม้เพลิงตะวันจะเป็นหมาบ้ากัดคนนั้นคนนี้ไปทั่ว แต่มันก็เป็นพี่ชายที่น้องรักและเคารพ“ก็ดี ไม่มีปัญหาอะไร” มีคำพูดมากมายอยู่ในใจเป็นล้านคำ ส่วนมากล้วนแล้วแต่เป็นคำด่า แต่พบรักก็เลือกที่จะตอบให้สั้นกระชับที่สุด ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดกับมัน“ก็ลองมีปัญหาสิ ผมจะยกคนไปถล่มรีสอร์ตพี่แน่นอน” เพลิงตะวันมองหน้านายจ้างของน้องด้วยสายตาเอาจริง“มึงนี่อันธพาลจริงๆ คนอื่นเขาอยู่ดีๆ ยังจะเปิดประเด็นหาเรื่องเขาอยู่ได้” กวีว่าแล้วส่ายหน้า ทว่าเขาก็ต้องสะดุ้งน้อยๆ เมื่อศรีภรรยาที่นั่งเคียงข้างหยิกเบาๆที่ต้นขา แล้วจิกตาปรามไม่ให้เขาพูดต่อ“ก็มันไม่น่าไว้ใจ เพื่อนกันอาจจะนิสัยเหมือนกันก็ได้” เพลิงตะวันยิ้มเยาะ“นิสัยอะไร มึงพูดดีๆนะไอ้เชี่ยเพลิง” กวีชี้หน้าพี่เมีย“ก็นิสัยขี้โกหกไง โกหกจน
ตกเย็นพบรักกลับถึงบ้านพักก็พบว่า คนที่เขาคิดถึงหน้าทั้งวันหนีเข้าห้องไปแล้ว เขาเดินวนไปวนมาหน้าห้องเธออยู่หลายรอบ กว่าจะกล้าเคาะประตูห้อง ซึ่งก็ต้องรอหลายอึดใจกว่าที่เธอจะยอมเปิดประตู“เอ่อ...ถ้ากระติ๊บเหนื่อย พรุ่งนี้ผมให้หยุดงานหนึ่งวันก็ได้” เห็นหน้าบึ้งตึงของเธอแล้วเขาใจไม่ดี พอนึกได้ว่าตั้งแต่เธอมาทำงานที่นี่ เธอยังไม่เคยได้หยุดงานเลย จึงให้วันหยุดโดยที่เธอไม่ต้องร้องขอ หวังให้เธออารมณ์ดีขึ้น“หยุดได้หรือคะ” พลอยชมพูยิ้มกว้าง ลืมเลือนเรื่องที่งอนว่าเขาทำตัวงี่เง่าไร้เหตุผลเมื่อกลางวันไปจนสิ้น“ได้สิครับ พรุ่งนี้ผมให้กระติ๊บหยุด อยากไปเที่ยวไหนไหม หรืออยากไปซื้อของในเมืองหรือเปล่า ผมจะพาไป”“ไปซื้อของในเมือง แล้วก็แวะไปไร่ภูอิงฟ้าด้วยได้ไหมคะ”พบรักชะงักไปครู่หนึ่ง ลำพังไปซื้อของในเมืองเขาไม่มีปัญหา แต่ให้พาไปไร่ภูอิงฟ้าที่มีไอ้หมาบ้าเพลิงอยู่ด้วยนี่ชักไม่ค่อยดีเท่าไร“ถ้าคุณพบไม่สะดวกใจไปเจอพี่เพลิง ติ๊บไปเองก็ได้นะคะ”“ผมพาไปเอง”พอเขารับปากจะพาไปพลอยชมพูก็ยิ้มกว้าง ดวงตาคู่งามมีประกายสุกใส“ขอบคุณมากนะคะ งั้นติ๊บจ
“ดะ...เดี๋ยวค่ะ” พลอยชมพูขยับริมฝีปากเจ่อนิดๆของเธอห้ามเขาเสียงสั่นพร่า“พูดมา” เห็นไหมเขาก็เป็นคนนิสัยดีระดับหนึ่ง เปิดโอกาสให้เธอได้พูดในสิ่งที่อยากพูด เพียงแต่ขณะที่เธอจะพูด เขาก็ผละออกมายืนข้างเตียงแล้วถอดเสื้อผ้าตัวเองออกอย่างว่องไวปานสายฟ้าแลบพลอยชมพูหันหน้าหนี หลับตาแน่น กระทั่งคนหน้าไม่อายขึ้นเตียงมาคร่อมทับเธอไว้ทั้งตัว หญิงสาวจึงลืมตาขึ้น“คุณพบ ไหนบอกให้ติ๊บพูดไง แล้วนี่อะไรแก้ผ้าเตรียมพร้อมขนาดนี้” พลอยชมพูทุบบ่าเขาไปหนึ่งที หญิงสาวปั้นหน้าบึ้งตึงใส่คนเอาแต่ใจและแก้ผ้าไวเพียงชั่วพริบตา“ก็พูดไปด้วยทำไปด้วยก็ได้ ผมเริ่มล่ะนะ”“ติ๊บเจ็บเข่าอยู่นะคะ” พลอยชมพูรีบเตือน หวังว่าเขาจะปรานีปล่อยให้เธอได้หายใจหายคอบ้าง นี่เขาลืมไปหรือเปล่าว่าเขากับเธอเพิ่งทำอะไรแบบนี้มาเมื่อกลางวันเองนะ“ไม่ต้องกังวลนะครับ มันมีหลายท่าที่ไม่เกี่ยวกับหัวเข่าเลย”“คุณพบ!” หลังจากนั้นผู้เชี่ยวชาญด้านท่าทางต่างๆก็สอนให้พลอยชมพูได้รู้ว่ามันไม่เกี่ยวกับหัวเข่าเลยจริงๆ เขาเล้าโลม ฝึกสอน ชักนำและล่อหลอกให้เธอหลงกล จนเธอต้องสนองตอบและเต็มใจกระโจนลงในหลุมพิศ
“เป็นธรรมดาที่คนสวยอย่างติ๊บจะมีคนมาชอบค่ะ” ตอบแล้วเธอก็เดินกลับไปที่ซิงค์ล้างจาน ลงมือล้างโดยไม่หันมาสนใจคนมีปัญหาคาใจกับแขกที่เข้าพักอีก พบรักรู้สึกถึงความร้อนที่แล่นพล่านอยู่บนหัว เธอรู้ว่าไอ้หมอนั่นชอบ แล้วเธอล่ะชอบมันไหม “แล้วติ๊บชอบมันไหม มันหน้าตาดีนะ” พลอยชมพูสะดุ้งตกใจเมื่อร่างสูงเดินเข้ามาประชิดด้านหลัง และเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงขุ่นไม่พอใจ “ไม่ค่ะ เฉยๆ ก็บอกแล้วว่าติ๊บทั้งสวยทั้งน่ารัก ก็ต้องมีผู้ชายมาชอบเยอะสิคะ แต่ภูมิต้านทานเรื่องผู้ชายติ๊บสูงค่ะ เพราะที่บ้านมีแต่ผู้ชายหน้าตาดี พ่อติ๊บก็หล่อ ยิ่งพี่ต่ายนี่หล่อแบบ...” พลอยชมพูเงยขึ้นมองหน้าคนที่ยืนหน้าเคร่งอยู่เบื้องหลังตัวเองสายตาครุ่นคิดา “อืม...พี่ต่ายนี่หล่อแบบเอาคุณพบสักสิบคนมามัดรวมกันก็ยังหล่อไม่เท่าพี่ต่ายเลยค่ะ” หัวคิ้วเข้มย่นแทบจะชนกัน เมื่อถูกสาวเปรียบเทียบความหล่อของตนกับพี่ชายของเธอแบบไม่ไว้หน้ากันเลย พบรักขยับตัวเข้าใกล้ ใช้แขนสองข้างกักกันเธอไว้กับเค
พลอยชมพูกะพริบตาปริบๆ รีบลงจากเตียงแล้วเดินไปที่หน้าต่าง พอหญิงสาวเปิดม่านออกก็มองเห็นเขายืนโบกไม้โบกมืออยู่ข้างล่าง เธอปิดม่านแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ เมื่อกลางวันแค่เธอคุยกับเขานิดเดียว แถมยังมีผู้คนอยู่ด้วยตั้งมากมาย พบรักยังจับเธอไปลงโทษด้วยบทรักเร่าร้อนท้าแสงแดด นี่ถ้ามาเห็นเธอคุยกับเขาที่หน้าบ้าน เธอจะโดนอะไรอีกไหมเนี่ยแต่สุดท้ายแล้วพลอยชมพูก็ต้องลงไปคุยกับเพื่อนชายที่ซุ้มไม้หน้าบ้าน เธออุตส่าห์ทำตัวเป็นผู้ฟัง ไม่ซักไม่ถาม วิศรุตถามคำเธอก็ตอบคำ หวังว่าเขาจะเบื่อแล้วกลับห้องพักไปก่อนที่เจ้าของบ้านจะกลับมา แต่อีตานี่ก็หน้าด้านหน้าทนกว่าที่คิด ขุดเรื่องตั้งแต่สมัยปีมะโว้มาคุยกับเธอได้เป็นคุ้งเป็นแคว แหม...รู้สึกคิดถูกมากๆที่ไม่สนใจเขาตั้งแต่ตอนที่เขาเข้ามาจีบใหม่ๆ เพราะไม่งั้นเธออาจจะเบื่อตายไปเลยก็ได้ เธอไม่ชอบผู้ชายพูดมาก เพราะลำพังตัวเธอเองก็พูดมากอยู่แล้ว เธอชอบคนที่พร้อมจะฟังมากกว่า เหมือนคุณพบนั่นไง พอคิดถึงคนที่ฟังเธอเสียเป็นส่วนมาก เขาก็โผล่มาพอดีพบรักจอดรถกอล์ฟที่หน้าบ้าน แล้วเดินหน้าบึ้งเข้ามาหาเธอกับวิศรุตที่ซุ้มไม้“ที่นี่เป็นที่พักส่วนตัวของผม ไม่
“เดือนนี้ไม่หักแล้ว จะให้เพิ่มด้วย” พบรักบอกยิ้มๆ“ให้เพิ่มทำไม ติ๊บไม่ได้ทำงานอะไรเพิ่มสักหน่อย” คนไม่อยากเอาเปรียบนายจ้างปฏิเสธไม่รับเงินค่าจ้างเพิ่มโดยที่เธอไม่ได้ทำอะไรเพิ่มพบรักถอนหายใจบางเบา เขาลุกขึ้นเดินอ้อมโต๊ะไปนั่งเก้าอี้ข้างหญิงสาว ดูเหมือนเธอจะหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงเหตุการณ์เร่าร้อนที่เขาและเธอเพิ่งทำกันไปเมื่อครู่ใหญ่“กระติ๊บ” พบรักจับมือบางทั้งสองข้างมากุมไว้ เขามองหน้าหญิงสาวด้วยสายตาดุ ไม่พอใจที่เธอไม่เรียกร้องอะไรจากเขาเลย ทั้งๆที่เขาอยากให้เธอเรียกร้องเอาทุกอย่างจากเขา เอาไปให้หมดเลยก็ได้ ทั้งตัว หัวใจ เงินทอง ทรัพย์สมบัติต่างๆ เขาพร้อมจะยกให้เธอทั้งหมด“อะ...อะไรคะ” พลอยชมพูเอนตัวหลบคนที่อยู่ดีๆก็เดินมาจับมือถือแขนเธอ ที่จริงเธอก็ไม่ควรตกใจอะไรหรอก เพราะมากกว่ามือเขาก็จับมาแล้ว แต่บอกตรงๆว่าเธอยังไม่ชิน ถึงจะไม่ได้รังเกียจเขา แต่ก็ใช่ว่าเธอจะชอบที่เขาเข้ามาใกล้ชิดแบบนี้ เพราะมันทำให้หัวใจเธอสั่น“คุณไม่คิดจะเรียกร้องอะไรจากผมหน่อยหรือ”พลอยชมพูมองหน้าเขานิ่งอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนระบายยิ้มหวานสดใสให้เขา“แล้วคุณพบอยากใ
พลอยชมพูหลับตา แหงนเงยหน้าเชิดสูง พร้อมกับกรีดร้องออกมาด้วยความซ่านเสียวสะใจ เธอต้องบ้าไปแล้วแน่ๆที่รู้สึกไปกับเขามากมายขนาดนี้ และเมื่อเขาเริ่มโยกกายถอดถอนสลับเติมเต็มในจังหวะเชื่องช้า หญิงสาวก็ครางเบาๆอย่างกับลูกแมวน้อย มันเสียวสะท้านก็จริง ทว่าเธอคิดว่ามันอ่อนโยนเกินไป หญิงสาวจึงโยกสะโพกกลับไปด้านหลัง ในจังหวะที่เขาสอดเสยเข้าหาเธอพอดี เสียงเนื้อสะโพกหนั่นแน่นปะทะกับหน้าขาจึงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ต่างคนต่างใส่แรงเข้าหากันไม่มีใครยอมใคร แต่คนแรงน้อยกว่าสูญเสียอธิปไตยในน่านน้ำตัวเองไปหลายครั้ง กว่าเธอจะรีดรัดคนแข็งแกร่งห้าวหาญจนเขายอมพ่ายแพ้ก็ใช้เวลาร่วมชั่วโมง “ไปเดินอีท่าไหนให้หกล้มหัวเข่าถลอกแบบนี้คะ” ลำดวนถามคนที่ตนกำลังทำแผลให้ หญิงสาวนั่งอยู่บนโซฟาในบ้านพักของเจ้าของรีสอร์ตพลอยชมพูตวัดสายตาดุขึ้นมองตัวต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องหัวเข่าถลอก เขายืนกอดอกตีหน้านิ่งอยู่ใกล้ๆ แต่เมื่อสบสายตากับเธอ เขาก็ยิ้มบางบนใบหน้า แถมยังยักคิ้วข้างหนึ่งใส่เธอด้วย คนเจ็บตัวเพราะความหื่นปรอทแตกของเขาจึงสะบัดค้อนให้จนคอแทบเคล็ด