เด็กปลอดภัยแล้ว เมื่อ ซอง อันยีได้ยินหมอพูดแบบนั้นกับ ฮัน อี้เฉินหัวใจที่เคยเต้นร้อนผ่าวอย่างตื่นตระหนก ก็ค่อย ๆ สงบลงดังเดิมแม้ว่าความเครียดและความกังวลจะลดลงมากโข ทว่ามือทั้งสองก็ยังสั่นเครือไม่หยุด รวมทั้งน้ำตาที่รื่นรินออกมาไม่ขาดสายทัง โรลชูวจึงยื่นแขนออกไปคว้าตัวอีกคนมากอดปลอบไว้แน่น และเอ่ยปลอบอย่างนุ่มนวล “ไม่ไปไรแล้วนะ อันยี”“เด็กนั่นโชคดีจริงนะ” หยิง เสี่ยวเซียวพึมพำออกมาเบา ๆ ทว่าสายตาคมสวยของทัง โรลชูวกลับตวัดมองเธอด้วยความไม่พอใจหญิงสาวพลันรีบอธิบายจนลิ้นแทบพัน “ฉันหมายถึงเธอคนนั้นเข้มแข็งดี”หยาง เฉียนเฉียนโดนส่งตัวกลับเข้าห้องพักฟื้น แต่ทัง โรลชูว และคนอื่น ๆ ไม่ได้เดินตามเธอไปด้วย พวกเขาเลือกที่จะออกจากโรงพยาบาลแทนไม่นานอันยีก็ได้รับสายจากโมเฟย อีกฝ่ายพูดว่าเพิ่งรู้ว่าพวกเขาอยู่ที่โรงพยาบาล และต้องการจะมาหา แต่อันยีห้ามคนปลายสายไว้ก่อน พร้อมบอกให้รออยู่ที่ รอยัล ไดนาสตี้ ไฮท์หลังจากนั้นทุกคนในที่นี่ก็รีบขับรถมุ่งไปยัง รอยัล ไดนาสตี้ ไฮท์ ทันที…“เกิดอะไรขึ้น?” ลู เซียวเหยาถามขึ้นทันควันเมื่อเห็นคนทั้งหมดกำลังเดินเข้ามาในพื้นที่เคหะลู เซียวเหยาเริ่มคิ
ขาเรียวจึงก้าวเท้าเข้าไปหาอีกคน พลางเอ่ย “ถ้าชอบก็ลองสวมดูนะ”พลันได้ยินเสียง ทัง โรลชูวก็ชะงักราวได้สติ เมื่อหันไปเห็นว่าเป็นซอง อันยี เธอก็เอ่ยตะกุกตะกักเชิงปฏิเสธ “ฉันจะไปทำงาน ไม่จำเป็นต้องสวมชุดแบบนี้หรอก”“เอาน่า ลองใส่ดูหน่อยเถอะ”ไม่พูดพร่ำทำเพลง อันยีก็ถือชุดพร้อมลากแขนของโรวชูวไปทางห้องลองเสื้อผ้า พร้อมยัดเยียดเดรสสวยให้อีกฝ่าย เธอส่งยิ้มบาง “ลองหน่อยนะ”หลังจากนั้นอันยีก็หมุนตัวเดินออกไปพอก้มมองชุดสวยในมือ ทัง โรลชูวก็ไม่แน่ใจว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี แต่เธอก็อดยอมรับไม่ได้ว่าชอบเดรสชุดนี้อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวเอาเถอะ ไหนไหนก็เข้ามาแล้ว ก็ลองใส่ดูหน่อยแล้วกันวันนี้ ลู ชินจินไม่ได้ทำงานล่วงเวลา และก่อนที่จะเลิกงาน เขาก็ได้โทรบอกทัง โรลชูวแล้วว่าจะไปรับเธอกลับบ้านพร้อมกัน ทว่าจู่ ๆ กลับได้ยินว่าเจ้าตัวไปเลือกชุดกับเสี่ยวเซียวและอันยีเสียก่อนดังนั้น ลู ชินจินเลยหักพวกมาลัยเปลี่ยนทางไปยังสตูดิโอร้านรับจัดงานแต่งงานแทน การปรากฏตัวโดยพละการของชายหนุ่ม ต่างทำให้พนักงานในร้านแตกตื่นจนรีบกุลีกุจอออกมาต้อนรับแทบไม่ทันแหม พวกหล่อนจะปล่อยโอกาสในการพรีเซนเตอร์ตัวเองกับหนุ่
สุดท้าย ทัง โรลชูวก็ไม่ได้ซื้อเดรสหวาบหวิวนั้นกลับบ้านและถึงแม้ว่าอยากจะซื้อ ชินจินก็ไม่เห็นด้วยอยู่ดีมีหรือที่เขาจะยอมให้เธอใส่ชุดที่โชว์รูปร่างสวยงามต่อหน้าผู้คนมากหน้าหลากตาแบบนั้น? ความงามของเธอต้องเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้นใช่ จะว่าเขาเป็นพวกขี้หึงก็ว่าได้เมื่อโรลชูวเดินออกมาจากห้องลองชุด หยิง เสี่ยวเซียวก็รีบวิ่งเข้าไปกระซิบข้างหูเร็วควัน “ชูวชูว คืนนี้ก็ขอให้โชคดีนะจ๊ะ!”โรลชูวขมวดคิ้วไม่เข้าใจกับความหมายของประโยคเมื่อครู่แต่เมื่อเธอกลับถึงบ้าน เธอก็เข้าใจในทันทีร่างเล็กเดินตามร่างสูงของชินจินเข้าไปในห้องของพวกเขา“ชินจิน ฉันอยากจะ…”ทว่าก่อนที่คำว่า ‘อาบน้ำ’ จะได้หลุดออกมาจากริมฝีปาก มือหนาก็คว้าเอวบางรั้งไว้แน่น พร้อมดึงตัวเธอให้เข้าไปใกล้ในชั่วพริบตา แรงกดทำให้รับรู้ว่าตอนนี้กำลังโดนอีกฝ่ายกักขังร่างทั้งร่างตรึงไว้กับประตูลานหนา ร่างสูงโปร่งกดทับลงมาจนช่องหว่างระหว่างชายหญิงหายไป“ฉันยังไม่ได้อาบน้ำเลยนะ” โรลชูวพึมพำเสียงเบา พลางยกมือทาบลงบนอกหนาเชิงดันตัวคนตรงหน้าให้ถอยหลังออกห่างนัยน์ตาคู่สวยหลบลงราวกับไม่กล้าโต้ตอบนัยน์ตาคู่คมที่มองเธออยู่ชินจ
“บ้าอะไรเนี่ย? เป็นแค่ดารา แต่กลับทำตัวหยิ่งยโสแบบนั้นเนี่ยนะ?” หนึ่งในแฟนคลับของเซเลบดังเริ่มโวยวายด้วยความโกรธ เพราะไม่ได้รับลายเซ็นที่ต้องการแต่พอมีคนพูดไม่ดี แฟนคลับคนอื่นก็เริ่มแย้งขึ้นบ้าง “ฉันไม่ยอมให้เธอว่าเหยียนซูแบบนั้น! เหยียนซูยุ่งมาก รู้ไหมว่าเขายอมทิ้งกองเพื่อบินมาเข้าร่วมงานเลี้ยงการกุศลเชียวนะ! เขาทั้งยุ่งและก็เหนื่อยจนไม่มีเวลามาถ่ายรูปหรือแจกลายเซ็นให้เราหรอก”ได้ยินแบบนั้น แฟนคลับหัวร้อนเมื่อครู่ก็เงียบปากลงทันที อันที่จริงแล้ว เพราะความโกรธชั่ววูบทำให้เธอพลั้งปากเสียใจดาราที่ชอบ“โอเค ยังไงเหยียนซูก็ไปแล้ว เรากลับกันเถอะ”พลันกลุ่มแฟนคลับสาวก็แยกย้ายกันออกจากอาคารจอดรถไปในไม่กี่นาที ทว่าขณะเดียวกัน ก็มีชายหนุ่มที่แอบซ่อนอยู่ตรงมุมมืดหลังเสา เดินออกมาพร้อมกล้องวิดีโอที่อยู่ในมือ พลางแสยะยิ้ม “ดูเหมือนฉันจะได้ข่าวเด็ดสำหรับวันพรุ่งนี้แล้ว”…กว่าคืนอันเร่าร้อนจะผ่านไป โรลชูวก็นอนสลบด้วยความเหนื่อยล้าจนถึงเที่ยงของอีกวัน เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าชายหนุ่มไม่อยู่ในห้องแล้ว และพอนึกได้ว่าวันนี้ตรงกับวันที่จัดงานการกุศล ลู ชินจินคงออกไปออฟฟิศของตนตั้งแต่
เดอะ เบ็นนิ่ง ซิตี้ สปอร์ต เซ็นเตอร์ นั้นครึกครื้นเต็มไปด้วยแสงสีและเหล่าแขกของงานที่ต่างแต่งองทรงเครื่องกันมาในแนวทีมแฟนซีล้มหลาม หากมองจากห้องวีไอพีที่อยู่ชั้นสามลงไป ก็สามารถเห็นกลุ่มก้อนหลากสีหลากสไตล์ของชุดพวกนั้นได้อย่างชัดเจนเมื่อตอนที่เปิดประกาศของตั๋วเข้าร่วมงาน เพียงไม่กี่นาทีก็โดนเหล่าเซเลบไฮโซกว้านซื้อจนเกลี้ยงส่วนเหตุผลนั้นก็คือ การมาหาคอนเน็คชั่นหรือเส้นสายภายในวงการธุรกิจด้วยกันจากนักธุรกิจหรือคนใหญ่คนโตที่มีชื่อเสียงอยู่ในขณะนี้ไม่คว้าโอกาสนี้ไว้ก็บ้าแล้ว! แค่ตั๋วใบเดียวแต่สามารถพบเจอคนในแวดวงไฮโซได้ครบครันแบบนี้! ใครล่ะจะปฏิเสธ ถูกไหม?นอกจากนี้เงินที่ได้จากการขายบัตรจะถูกถูกรวมเป็นยอดบริจาคในชื่อของคนที่ซื้ออีกด้วยมีแต่ได้กับได้ทั้งนั้นทัง โรลชูวเบนสายตาออกจากวิวนอกหน้าต่าง ก่อนจะหันกลับมามองชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนโซฟาคืนนี้ ชินจินอยู่ในชุดสูทสีดำสั่งตัดเนื้อดี ที่ขลับให้ร่างสูงนั้นดูสูงเด่นและแข็งแกร่งสมชายชาตรี ผมนุ่มลื่นถูกดัดให้เป็นลอนเล็ก ๆ เสริมให้ใบหน้าหล่อเหลาดูอ่อนเยาว์ลง พอบวกกับแสงของสปอร์ตไลท์ด้านนอกที่กระทบลงมาก็ยิ่งทำให้ร่างตรงหน้าดูสง่าอ
เนื่องจากตอนนี้ทำรายการอาหารมื้อค่ำยังไม่เริ่ม ทำให้มีเพียงกลุ่มคนไม่กี่คนนั่งอยู่บริเวณโซนวีไอพีแต่ฝั่งของผู้ชมด้านหลังโซนวีไอพีนั้นเต็มไปด้วยแฟนคลับมากมายที่กำลังชูป้ายไฟ และแบนเนอร์ให้กับดาราหรือเซเลบไฮโซที่ตนชื่นชอบและรวมทั้งทางเข้าฝั่งตะวันออก ก็มีกลุ่มแฟนคลับที่มายืนรอดาราที่ตนชอบอยู่คับคั่งเช่นกันท่ามกลางผู้คนมากมาย ในที่สุดโรวชูวก็หาเสี่ยวซูเจอ ถึงแม้ว่าจะต้องใช้พลังงานในการแทรกตัวเดินเข้าไปอีกคนเยอะมากก็ตาม“พี่โรลชูว ไปอยู่ที่ไหนมาเนี่ย? เรามารอนานแล้วนะ” เมื่อเห็นโรลชูวปุ๊บ อีกฝ่ายก็เอ่ยปากถามปั๊บโรลชูวทำเพียงส่งยิ้มเขินอายตอบกลับ “โทษทีนะ ฉันติดธุระนิดหน่อยเลยมาช้า” “ไม่เป็นไร พี่โรลชูว ยังไงพวกดาราก็ยังไม่ได้เดินเข้างานมาอยู่ดี” เสี่ยวซูพูดพลางยื่นกล้องไปให้โรลชูว ถือไว้ “พี่ช่วยผมถ่ายรูปได้ไหม? คนเยอะแบบนี้ ผมก็กลัวตัวเองจะพลาดถ่ายใครไปซักคนเหมือนกัน”“ได้สิ” โรลชูวนิ้วให้พร้อมตอบตกลง และรับกล้องมาสวมสายคล้องไว้ที่คอตัวเองพรมแดงถูกปูยาวไปตามทางตั้งแต่ตรงหน้าทางเข้ายาวไปยังโซนวีไอพียาวจนโรลชูวเหนื่อยแทนพวกดาราที่ต้องเหนื่อยเดินไกลขนาดไหนกว่าจะถึงที่นั่งของต
แสงไฟบนถนนที่ส่องเข้ามาสะท้อนให้การตกแต่งภายในตัวรถดูหรูหราขึ้นกว่าเดิม ส่วน ทัง โรลชูวก็ได้แต่จมอยู่ในความคิดของตัวเอง เหยียนซูไม่ได้เอ่ยขัด ทว่าเลือกที่จะจ้องมองดูอย่างเงียบ ๆ แทน และพอรู้ว่าตอนนี้เธอกำลังใจลอย ชายหนุ่มก็ปล่อยให้ความรู้สึกส่งผ่านสายตาตัวเองออกมาเต็มที่แม้จะมีแสงไฟเพียงน้อยนิด แต่ความสวยงามของเธอก็ตรึงเก็บอยู่ในความทรงจำของเขาไม่เปลี่ยนสวยจนละสายตาไม่ได้ และได้แต่หวังให้เวลาหยุดเดินอยู่ในช่วงที่มีเพียงสองเราแบบนี้ตลอดไปตราบใดที่ยังเห็นเธออยู่ในสายตาและมีเธออยู่ข้างกายแบบนี้ เขาก็มีความสุขแล้ว ถ้าพ่อของชินจินตกลงจัดงานดูตัวขึ้นที่เป่ยหนิงจริง หลังจากนั้นโรลชูวคงไม่มีที่ยืนเคียงข้างชินจินอีกแล้วหญิงสาวนวดศีรษะที่ตึงเครียดของตน พลันชะงักไปพร้อมขมวดคิ้ว ‘อย่าบอกนะว่า ลู เฉินตงมาที่นี่เพื่อคุยเรื่องนี้กับชินจิน?’‘แสดงว่าชินจินต้องรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว แต่เลือกที่จะเงียบ’‘เพราะเขากลัวว่าฉันจะคิดมากใช่ไหม?’ริมฝีปากบางเม้มแน่น มือเรียวค่อย ๆ ละจากศีรษะลงมาวางที่ตักดังเดิมถ้าดูจากนิสัยของชินจินแล้วก็คงเป็นอย่างที่คิดไว้ อีกฝ่ายไม่อยากให้เธอมานั่งคิดเล็กคิดน้
“หรือที่พี่พูดแบบนั้น เพราะพี่ไปรู้เรื่องวงในอะไรมาหรือเปล่านะ พี่โรลชูว?” เสี่ยวซูไม่เข้าในในสิ่งที่โรลชูวต้องการจะสื่อ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เธอจะรู้เรื่องลึกตื้นหนาบางของวงการ เพราะพี่สาวคนนี้นั้นค่อยข้างเป็นที่รู้จักสำหรับคนในแวดวงสื่อสารมวลชน พอคิดแบบนั้น น้องชายอย่างเขาก็เริ่มหายเครียดถ้าพี่โรลชูวยืนยันว่าอีกไม่นานเขาก็จะได้สัมภาษณ์คุณลู หากเป็นอย่างนั้นจริง คงไม่ต้องเครียดแล้วถ้าวันนี้ไม่ได้สัมภาษณ์…หยิง เสี่ยวเซียวที่นั่งอยู่ด้านหน้าเวทีบริเวณพื้นที่วีไอพี เอาแต่ก้มหน้าเล่นเกมมือถือที่มีเสียงเปียโนดังออกมาจากเกมอย่างหงุดหงิด เพราะผู้เป็นบิดาก็คุยโวเรื่องธุรกิจกับคนในวงการไปทั่ว อีกทั้งเสียงกรี๊ดจากแฟน ๆ ที่ดังไม่หยุดนั่นอีก สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้เธอรู้สึกเพียงอย่างเดียวคือน่ารำคาญ!ไม่นานเสี่ยวเซียวก็แพ้ให้กับฝั่งตรงข้าม แถมยังโดนเพื่อนในทีมด่าทออีกต่างหาก หญิงสาวโมโหจนเลิกเล่นเกมแล้วโยนโทรศัพท์ไปไกลตัวทันทีสองแขนกอดอกพร้อมเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ นัยน์ตาสวยมองไปยังดอกไม้ที่ประดับอยู่บนโต๊ะด้วยความหงุดหงิด ซึ่งอารมณ์คลุกกรุ่นนี้ไม่ได้มีสาเหตุมาจากเกม ทว่ามาจาก