"เขา มองแล้วมองอีก!" ทัง โรลชูวหยิบเมาส์จากมือของเขาแล้วลากเคอร์เซอร์ไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ เมื่อเธอไปถึงจุดหนึ่ง เธอดึงมันกลับมาเล็กน้อยแล้วพูดว่า “นายไม่คิดว่า สองภาพนี้มันดูขัดขัดหรอ ทำไมมันถึงรู้สึกเหมือนถูกตัดต่อ และประกอบกลับเข้าด้วยกัน?”ลู เซียวเหยา มองไปที่มันอย่างจริงจังและพยักหน้า “จริงสิ ถ้าวิดีโอนี้ถูกตัดต่อและรวมเข้าด้วยกันอีกครั้ง มันจะพิสูจน์ได้ว่ามีคนทำบางอย่างกับมัน และส่วนที่สำคัญที่สุดของวิดีโอนั้นถูกลบไปแล้ว เราก็แค่มองไม่เห็น มันเท่านั้นเอง”ทัง โรลชูวมองไปที่ลุงจ้าว ในวิดีโออย่างตั้งใจ ขณะที่เขาเดินไปรอบ ๆ ทันใดนั้นดวงตาของเธอก็สว่างขึ้น เธอชี้ไปที่ลุงจ้าวและอุทาน "นี่ไม่ใช่ลุงจ้าว!""นั่นไม่ใช่ลุงจ้าวงั้นเหรอ?" ลู เซียวเหยาตกใจมาก“ฉันแน่ใจมากว่าไม่ใช่เขา ลุงจ้าวได้รับบาดเจ็บที่ขาเมื่อตอนที่เขายังเด็ก ขาเขาจึงกะเผลกขาเล็กน้อยเมื่อเดิน แต่คนนี้ในวิดีโอเขาเดินได้ปกติดี ไม่เหมือนกับลุงจ้าว!”ลุงจ้าว เริ่มทำงานที่ครอบครัวทัง เมื่อ ทัง โรลชูวยังเป็นเด็ก ดังนั้นเธอจึงรู้ลักษณะของลุงจ้าวมากกว่าใคร ๆลู เซียวเหยาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า "พี่สะใภ้ พี่ย้อนกลั
“ลูกว่าอะไรนะ ลุงจ้าวยังมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ?” เซา เสี่ยวหวัน ก็ลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าท่าทางที่ตกใจมากแม้ว่า กู โรลโรลไม่ต้องการที่จะเชื่อความจริงที่ว่านี้เท่าไหร่ แต่เธอก็ยังคงพยักหน้า “ใช่ และทัง โรลชูว ได้หาเขาเจอแล้ว”เธอรับไม่ได้กับข่าวพวกนี้ เซา เสี่ยวหวันทรุดตัวลงบนเก้าอี้ และพึมพำกับตัวเองว่า “จบแล้ว จบแล้ว จบแล้ว ชีวิตฉันจบแล้วแน่ ๆ”เมื่อเห็นแม่ของเธอเสียสติ กู โรลโรลก็รู้สึกทรมานใจมาก เธอรีบก้าวไปข้างหน้า และนั่งลงตรงหน้าเธอ เธอจับมือ เซา เสี่ยวหวันไว้แน่น “แม่ ไม่ต้องกลัว ลุงจ้าวยังคงหมดสติอยู่ ตอนนี้ ทัง โรลชูวจะยังคงไม่รู้ว่าเราทำอะไรลงไป”“หมดสติอยู่?” พระเจ้าให้โอกาสเขาหรือไม่?เซา เสี่ยวหวันอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “พระเจ้าอยู่ฝ่ายฉันจริง ๆ!”หลังจากสงบสติอารมณ์แล้ว เธอพูดกับ กู โรลโรลว่า “โรลโรล ลูกบอกให้หลี่วูมาหาแม่ที แม่จะจัดการเรื่องนี้กับเขา” เซา เสี่ยวหวันพูดพร้อมกับสายตาที่เย็นชา ในวันนั้น เธอได้ขอให้หลี่วู 'จัดการ’ ลุงจ้าวด้วยการฆ่าเขา แต่เธอไม่คิดว่าหลี่วูจะสงสารเขา และส่งเขาไปรักษาที่โรงพยาบาลแทน นี่ไม่ใช่สิ่งที่นักเลงจะทำกัน“ตกลงค่ะแม่ หนูจะโทรหาเขาเด
หลี่วูพยักหน้า “เธอเป็นแม่ของคุณโรลโรล ใช่ไหมครับ?”"แล้วไง" เสวีย จือกังหัวเราะอย่างเย็นชา "ฉันเพียงต้องการปกป้องโรลโรลแค่นั้น ต่อให้ต้องเสียสละเท่าไหร่ฉันก็ทำเพื่อปกป้องโรลโรล"หลี่วูขมวดคิ้วเล็กน้อย “พี่ใหญ่ ผมต้องทำยังไงดีครับ?”“ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ไปหา เซา เสี่ยวหวันก่อน” เสวีย จือกังเหลือบมองเขาและพูดต่อ “ถ้าเธอจะทำอะไรแก ก็บอกเธอว่าฉันสั่งให้แกทำแบบนั้นเอง ถ้าเธอต้องการจะจัดการเรื่องนี้ต่อ บอกเธอให้มาหาฉัน”หลี่วูพยักหน้า "เข้าใจแล้วครับ"...สถานการณ์ของลุงจ้าวค่อนข้างเป็นไปในทางที่ดี ขอแค่ให้เขาฟื้นมา ทัง โรลชูว และคนอื่น ๆ ก็จะได้รู้ว่าใครเป็นคนทำให้เขากลายเป็นแบบนี้ แม้ว่าพวกเขาจะมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว แต่มันก็เป็นเพียงการสันนิษฐานเท่านั้น พวกเขาไม่มีแม้แต่หลักฐานพิสูจน์ว่า เซา เสี่ยวหวันเป็นคนทำ พวกเขาต้องรอให้ลุงจ้าวฟื้นขึ้นมา และเป็นคนชี้ว่า เซา เสี่ยวหวันเป็นคนทำให้เขากลายเป็นแบบนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ลุงจ้าวตกเป็นเหยื่ออีกครั้ง ลู ชินจินจึงย้ายเขาไปที่โรงพยาบาลอื่น ในเวลาเดียวกัน เขายังจัดให้มีบอดี้การ์ดสองสามคนผลัดกันดูแลวอร์ดของเขาตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องก
“ใช่ ผมแค่สั่งสอนเขาน่ะ”ทัง โรลชูวบอก ลู ชินจินว่า เธอได้เจอกับ ลู เฉินซีที่โรงพยาบาล และพูดติดตลกว่า ที่ ลู เฉินซีได้รับบาดเจ็บแบบนั้นเพราะเขาเป็นคนทำใช่ไหม เธอก็แปลกใจที่เขายอมรับมันอย่างใจเย็นทัง โรลชูวตกตะลึงครู่หนึ่ง จากนั้นเธอก็ส่ายหัวและพูด "คุณโหดร้ายเกินไปไหม!"“โหดร้ายงั้นเหรอ?” คิ้วที่เหมือนดาบของลู ชินจิน กระตุกเล็กน้อย และเขามองที่เธอด้วยรอยยิ้มที่คลุมเครือ“โหดร้าย! โหดร้ายมาก!” ทัง โรลชูวพยักหน้ายืนยัน "แต่..."เธอหยุดแล้วยิ้มอย่างสดใส "ฉันชอบมันนะ"ลู เฉินซีเป็นคนไร้ค่าซึ่งอาศัยแต่อิทธิพลของครอบครัว และจีบสาวสวยทุกคนที่เขาเห็น ในความเห็นของเธอ การลงโทษนี้มันยังน้อยเกินไป!ลู ชินจินยิ้มและล้อเล่นกับเธอ "ดูเหมือนว่าผู้หญิงของผม จะเป็นคนโหดร้ายไปแล้วนะเนี่ย"เขาล้อเธอ เพราะสิ่งที่เธอเพิ่งพูดออกไปทัง โรลชูวเม้มริมฝีปากของเธอ "ฉันโหดร้ายกับคนที่รังแกฉัน หรือคนที่ฉันห่วงใยเท่านั้น"ลู ชินจินพยักหน้าเพราะเห็นด้วย "ก็จริง"ทัง โรลชูวหัวเราะ เธอก็มีคำถามหนึ่งพูดขึ้นมาในหัวของเธอ เธอมองที่เขาและถามว่า "ชินจิน พ่อของคุณจะโกรธไหม เมื่อเห็น ลู เฉินซีกลับบ้านพร้อมกับอ
ลู เฉินซีรู้อยู่แก่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อเขากลับไปถึงบ้าน เขามองดูผู้หญิงคนนั้นอย่างน่าสงสาร และเริ่มบ่นว่า “แม่ครับ พ่อครับ! เขาให้ตำรวจ จับผมเข้าคุก และยังมีคนอยู่กับผมหลายคนในห้องขังเดียวกัน คนเหล่านั้นล้วนแต่เป็นพวกอันธพาลและ พวกเขารุมทำร้ายผมเมื่อพวกเขาอารมณ์ไม่ดี ผมไม่สามารถจัดการพวกเขาทั้งหมดได้ด้วยตัวผมเพียงลำพัง อย่างที่พ่อแม่เห็น... มันก็เลยกลายเป็นแบบนี้"ผู้หญิงคนนั้นคือ ลิน ซัวซี ภรรยาคนที่สองของลู ติงแบงเธอเลิกคิ้วด้วยความตกใจ “พี่ใหญ่ของลูกน่ะเหรอ”ลู เฉินซีพยักหน้าอย่างหนักแน่น "ใช่ ใช่! เป็นพี่ใหญ่เอง!"ลู ชินจิน! สายตาที่อาฆาตพยาบาลอยู่ในเปลือกตาของ ลิน ซัวซี เธอหันไปมอง ลู ติงแบงที่ยังโกรธอยู่ เธอปลอบโยนเขาอย่างอ่อนโยน "ติงแบง อย่าโกรธไปเลย เฉินซี เขาก็ไม่ต้องการให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นหรอก"แต่ว่ามันทำให้ ลู ติงแบงโกรธมากขึ้น เขายกมือขึ้นและชี้ไปที่จมูกของลู เฉินซี และดุว่า “ถ้าแกไม่ใช่ไอ้ขี้ขลาดที่ไปเที่ยวเตร่ที่กรุงเทพ พอเมาแล้วขับหลังจากที่ดื่มไปไม่ใช่เหรอ ชินจินเลยส่งแกเข้าคุก มันสมควรแล้ว!”คำพูดของลู ติงแบง เห็นได้ชัดว่าเข้าข้างลู ชินจินแววตาเป็นประ
“เธอเป็นผู้หญิงแบบไหนกันนะ?”ภาพลักษณ์ของใบหน้าขาวสะอาดและสวยงามของทัง โรลชูว เข้ามาในจิตใจของลู เฉินซี หัวใจของเขาเต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้ เธอเป็นผู้หญิงที่น่าหลงใหลในเสน่ห์มากที่สุดคนหนึ่ง“เฉินซี ลูก?” เมื่อเห็นว่าลูกชายของเธอกำลังครุ่นคิดอยู่นานไป ลิน ซัวซีจึงเรียกชื่อเขาเมื่อได้ยินเสียงของเธอ ลู เฉินซีก็กลับมาสู่ความเป็นจริง เขามองเข้าไปในสายตาที่น่าสงสัยของแม่ของเขาแล้วตอบอย่างใจเย็นว่า “เธอเป็นแค่เด็กผู้หญิงธรรมดา ๆ คนหนึ่ง”“ผู้หญิงธรรมดาจะเข้ากันได้กับชินจินได้ยังไง?” ลิน ซัวซี จงใจเน้นคำว่า 'ธรรมดา' เธอหันหน้าไป และเห็นสีหน้าของ ลู ติงแบงดูไม่ดีนัก มุมปากของเธอค่อยโค้งเป็นรอยยิ้ม “โทรไปบอกเขาให้กลับมาที่เมืองจิงเดี๋ยวนี้!” ลู ติงแบงพูด น้ำเสียงของเขาเย็นชาและจริงจังมาก ราวกับว่าเขากำลังสั่งอะไรบางอย่างลิน ซัวซีพยักหน้า “ตกลง ฉันจะโทรหาชินจินเองค่ะ”จากนั้นเธอก็มองไปที่ ลู เฉินซีด้วยสายตาที่พึงพอใจลู เฉินซีเลิกคิ้ว ดูเหมือนว่าแม่ของเขาจะจัดการกับพี่ใหญ่ได้อีกครั้ง...ซอง อันยีได้หยุดพักช่วงหนึ่ง และในที่สุดก็กลับมาทำงานอีกครั้งหลังจากที่พ่อแม่ของเธอกลับถึงบ้านโ
หยาง เฉียนเฉียนมาทำอะไรที่นี่?ทุกคนในบริษัทต่างเงยหน้าขึ้นไปมองผู้หญิงที่จู่ ๆ ก็มาถึงและมีคนจำเธอได้ “นั่นใช่ หยาง เฉียนเฉียน แห่งหยาง กรุ๊ป ไม่ใช่เหรอ?”ทัง โรลชูวยืนขึ้น และมองไปที่หยาง เฉียนเฉียน คิ้วบางของเธอขมวดแน่น ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงมาที่นี่? สังเกตสีหน้าที่กำลังโกรธของเธอ รู้ได้เลยว่าเธอมีเจตนาที่ไม่ดีแน่นอน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอะไรขึ้นกับอันยี ทัง โรลชูวส่งข้อความถึงเซิน โมเฟย "ลงมาที่แผนกสื่อ อันยีกำลังตกอยู่ในอันตราย"หลังจากส่งข้อความ เธอเดินไปหาซอง อันยี และกระซิบว่า “ระวังตัวด้วย”ซอง อันยีพยักหน้า จากนั้นลุกขึ้นและเดินไปหา หยาง เฉียนเฉียนกับเธอพวกเขาหยุดเดิน ในขณะที่พวกเขายังอยู่ห่างจาก หยาง เฉียนเฉียนเพียงไม่กี่ก้าวซอง อันยีจ้องมองอย่างเย็นชาที่หยาง เฉียนเฉียน ซึ่งดูไม่เป็นมิตร เธอถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หยาง เฉียนเฉียน เธอมาทำอะไรที่นี่?”"ฉันมาทำอะไรที่นี่ ถามได้?" หยาง เฉียนเฉียนถอนหายใจ ดวงตาของเธอแสดงความเกลียดชังออกมาอย่างชัดเจน รอยยิ้มชั่วร้ายผุดขึ้นจากมุมปากของเธอ “ฉันมาเพื่อทำลายแกไง อีชั่ว!”ทันทีที่เธอพูดจบ เธอก็ดึงบางอย่างออกจากกระเป๋าแล้วโยนใ
เซิน โมเฟยเดินไปและจ้องมองที่ หยาง เฉียนเฉียนอย่างเย็นชาและดุดัน เขาออกคำสั่ง “เรียกรปภ.ให้ส่งคนมาลากเธอออกไป”เมื่อได้ยินว่าเธอจะถูกพาตัวออกไป หยาง เฉียนเฉียนก็เสียสติไป เธอตะโกนใส่ เซิน โมเฟยโดยตรง “เซิน โมเฟย , ซอง อันยีรองเท้าที่พังยับเยินไปแล้ว! ในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลเซิน คุณจะกล้าสวมมันได้ยังไง!”ทันทีที่เธอพูดคำเหล่านั้น ทุกคนในบริษัทก็รู้สึกว่ามีลมเย็น ๆ พัดผ่านพวกเขา พร้อมกับเสียง 'ซู่ ๆ' พวกเขาทั้งหมดรู้สึกถึงออร่าที่เย็นยะเยือกจากเจ้านายของพวกเขาทุกคนยังคงเงียบด้วยความกลัว และจ้องไปที่เจ้านายของพวกเขาอย่างระมัดระวังเจ้านายของพวกเขาเดินไปหาหยาง เฉียนเฉียน เขายื่นมือออกมา และคว้าเธอไว้ที่คอของเธอ ใบหน้าดูซีดไปในทันที“อะไร... คุณกำลังทำอะไร” เสียงของหยาง เฉียนเฉียน สั่นเล็กน้อยเซิน โมเฟยมองดูเธออย่างน่ากลัวด้วยรอยยิ้มกระหายเลือดที่มุมปากของเขา "หยาง เฉียนเฉียน ในเมืองนี้ ถ้าฉันต้องการฆ่าใครสักคน มันง่ายเหมือนการฆ่ามด เธอเชื่อไหมว่าฉันสามารถบีบคอเธอให้ตายในตอนนี้ได้เลย"ภาพลักษณ์ของ เซิน โมเฟยนั้นอ่อนโยน และมีอารยะธรรมมาโดยตลอด เขามีรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้าที่หล่อเ