ตลอดงานทั้งงานพราวพิ้งค์ไม่ค่อยมีรอยยิ้มเท่าไรนักเพราะรู้สึกอึดอัดกับสายตาของภคพลที่เอาแต่จับจ้องเธอตลอดเวลาก็ว่าได้
ในส่วนของภคพลเมื่อได้รู้จากคนในงานว่าเด็กหญิงตัวกลมวัยสองขวบที่หน้าตาออกไปทางลูกครึ่งนั้นเป็นลูกสาวของพราวพิ้งค์เขาก็ยิ่งเกิดความสงสัยเพราะมองยังไงหน้าตาของเจ้าก้อนกลมที่วิ่งเล่นหัวเราะร่าอยู่ในงานหน้าตาเหมือนกับเขาไม่มีผิดเพี้ยน
“ดีจ่ะ..”
ยัยหนูพลอยขวัญวิ่งเล่นที่ระเบียงหน้าบ้านจนเหนื่อยแล้วมาหยุดอยู่ตรงหน้าภคพลยกมือป้อมสวัสดีคนตรงหน้าตามมารยาทที่คนเป็นแม่ได้สอน ชายหนุ่มหลี่ตามองเด็กหญิงที่ยืนเงยหน้ามองเขาตาแป๋วยิ่งมองใกล้เท่าไรยิ่งมั่นใจว่าอย่างไรเด็กคนนี้ก็ต้องมีเชื้อต่างชาติด้วยเพราะตาสีฟ้าเช่นเดียวกับเขาสีผมก็ยังเหมือนกันอีกด้วย
“ไง..เจ้าแก้มย้วย”
ภคพลย่อตัวลงยื่นมือหนาลูบพวงแก้มย้วยๆทั้งมองเด็กหญิงด้วยท่าทีเอ็นดูลึกๆแล้วยังมั่นใจว่าอย่างไรเด็กหญิงตรงหน้าคงเป็นลูกของตนแต่ก็ต้องถามกับพราวพิ้งค์ให้แน่ใจเสียก่อนว่าเธอจะตอบเขาว่าอย่างไร
“อุ้ม..”
ยัยหนูพลอยขวัญทิ้งก้นนั่งลงกับพื้นพร้อมยื่นแขนออกสองข้างหมายจะให้คนตรงหน้าอุ้มเพราะวิ่งจนเหนื่อยมากแล้ว
“หมดแรงวิ่งแล้วเหรอ”
ภคพลฉีกยิ้มกว้างสบถขำกับท่าทีน่าเอ็นดูของเจ้าแก้มย้วยเขาช้อนร่างเด็กหญิงอุ้มขึ้นด้วยแขนข้างเดียวเพราะแขนอีกข้างยังยกของหนักไม่ได้
“ท่าจะเหนื่อยจริงๆ”
ยัยหนูพลอยขวัญถูกอุ้มขึ้นมาได้ก็ทิ้งตัวซบหัวทุยกับบ่าของภคพลตาปรือชายหนุ่มจึงรีบอุ้มเข้าไปหาพราวพิ้งค์ด้านใน หญิงสาวที่เห็นลูกตัวเองอยู่กับภคภพลเธอก็รีบขอตัวจากผู้ใหญ่ที่กำลังยืนคุยด้วยปรี่เข้ามาหาลูกเธอทันที
“ยัยหนูมาหาแม่มาค่ะ”
ชายหนุ่มนึกไม่ชอบใจท่าทีของพราวพิ้งค์ที่เขามายืนอยู่ตรงหน้าอุ้มลูกของเธออยู่แบบนี้ยังไม่ยักจะคิดทักทายเขาแม้แต่คำเดียวมิหนำหน้าของเขาเธอก็ไม่คิดจะชายหางตามองแม้แต่น้อยพออุ้มลูกสาวจากอกออกไปได้ก็เดินหนีไปทันที
“คุณมี..”
ภคพลยังไม่ทันได้ถามคำถามให้หายคาใจว่าพราวพิ้งค์นั้นมีลูกกับใครแต่เบลล่านางแบบสาวที่เขาเคยควงก็โผล่มาดึงแขนเขาเอาไว้เสียก่อน
“คุณพอลคะ”
เบลล่านางแบบสาวสวยร่างสูงในชุดเดรสเกาะอกสั้นสีเทาเข้ามารวบกอดเอวของภคพลเอาไว้แน่นโดยไม่แคสายตาของผู้คนในงาน
“เบล..คุณมาที่นี่ได้ไง”
ภาพเกาะแกะกันของสองหนุ่มสาวเป็นที่จับตาของผู้คนที่กำลังนั่งทานอาหารกันในงานเพราะคนที่นี่ไม่ค่อยได้เห็นใครมาโอบกอดนัวเนียกันกลางแจ้งเท่าไรเพราะแถบชนบทนี้ยังเคร่งในวัฒนธรรมไทยที่ผู้หญิงต้องรักนวลสงวนตัวเป็นพิเศษ
พราวพิ้งค์ที่เห็นเช่นนั้นเธอก็มีสีหน้าไม่ชอบใจอย่างเห็นได้ชัดจึงรีบอุ้มลูกสาวตัวกลมหนีไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุดไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไรภคพลก็ทำให้เธอได้เห็นแล้วว่านิสัยของเขาไม่เคยเปลี่ยนแม้แต่น้อยยังคงเปลี่ยนผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าเช่นเดิมเธอเลือกถูกแล้วที่เดินออกมาจากชีวิตของเขาในครั้งนั้น
“เบลคิดถึงคุณนี่คะ..ก้องภพบอกว่าคุณอยู่ที่นี่เบลก็เลยรีบมาหา”
ภคพลรีบดึงแขนของเบลล่าออกจากตัวเพราะเห็นสายตาที่พ่อของเขามองมาไม่ดีเท่าไรนักเขารีบลากนางแบบสาวออกมาจากในบ้านเพื่อมาคุยกันในที่ลับตาคน
“ผมไม่ชอบอะไรคุณก็น่าจะรู้”
ภคพลเอ่ยเสียงแข็งใส่นางแบบสาวด้วยท่าทีไม่พอใจ
“เบลคิดถึงคุณพอลนี่คะ..”
เบลล่ายังคงทำทีออดอ้อนไม่หยุด
“คิดถึงผมหรือคิดถึงเงิน”
เมื่อถูกตั้งคำถามจี้ใจดำเบลล่าก็ถึงกับเงียบก้มหน้าบุ้ยปากเล็กน้อยอันที่จริงเงินเธอก็ต้องการแต่ต้องการที่จะอยู่กับภคพลบ้างมากกว่า
“เอาเป็นว่าผมจะโอนเงินให้คุณตอนนี้แล้วก็กลับไปซะ”
“ขออยู่กับคุณพอลที่นี่คืนเดียวไม่ได้เหรอคะ”
“ไม่ได้ที่นี่ไม่ใช่บ้านผม...ผมไม่ชอบคนพูดไม่รู้เรื่องถ้าไม่กลับไปดีๆก็ไม่ต้องเอาสักบาท”
“ก็ได้ค่ะ...กลับก็ได้”
กว่าจะเคลียธุระน่ารำคาญใจตรงนี้เสร็จได้ภคพลก็เสียเวลาไปพักใหญ่ หลังจากเบลล่ายอมกลับไปแล้วภคพลก็รีบเดินตามหาพราวพิ้งค์ทันทีเพราะต้องการจะคุยเรื่องยัยหนูพาขวัญให้รู้ว่าใครเป็นพ่อของแกกันแน่
และแล้ววันเวลาก็ผ่านไปร่วมอาทิตย์ที่สามพราวพิ้งค์ก็ยังไม่มีทีท่าใจอ่อนคุยกับภคพลง่ายๆจนทุกคนต่างก็เห็นใจชายหนุ่มพอสมควรในตอนนี้ภูริชก็เข้ามาพักฟื้นที่บ้านของแดนไทยยัยหนูพลอยขวัญที่ปู่ไปรับมาทุกวันจึงทำให้ภคพลนั้นได้อยู่กับลูกนานๆบ้างนับว่าความสุขนี้ได้จากบารมีของคนเป็นพ่อล้วนๆ“งานหินเลยสิ..”ภูริชหันมาถามภคพลที่กำลังนั่งมองลูกสาวตัวกลมนั่งทานขนมไม่วางตา“หินจริงๆครับคุณพ่อ”ภคพลหันมาพยักหน้ากับคนเป็นพ่อหน้าเจื่อน“ทีหลังจะเล่นอีกหรือเปล่า”“เข็ดแล้วครับ”“ฮ่าๆๆ..”ภูริชหัวเราะร่าเมื่อเห็นพราวพิ้งค์จะเป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้ลูกชายจอมเอาแต่ใจของเขาใจเสียได้นานขนาดนี้เช้าวันต่อมาพราวพิ้งค์ไปส่งยัยหนูให้ภูริชที่บ้านของแดนไทยเรียบร้อยเธอจึงขับรถมาที่ไร่เพียงกมลเพื่อมาหาฟองจันทร์ด้วยรู้ว่าหญิงสาวจะไปจากที่นี่เพื่อไปทำงานที่กรุงเทพในอีกวันสองวันที่จะถึง“เลือกทางนี้จริงๆใช่ไหม”พราวพิ้งค์มาที่นี่เพื่อคุยกับฟองจันทร์ให้แน่ใจว่าสิ่งที่หญิงสาวเลือกนั้นตรงกับใจที่ต้องการจริงๆหรือเปล่า“จันทร์ว่าจันทร์ขอออกไปอยู่คนเดียวก่อนดีกว่าค่ะ... แล้วค่อยคิดดูว่าตอนนั้นจะอยู่ได้หรือเปล่า”ฟองจันทร์เงียบค
วันต่อมาพราวพิ้งค์มาถึงโรงพยาบาลในช่วงเช้าเธอต้องตกใจเมื่อเห็นแคทเธอรีนกำลังจะเดินเข้าไปในห้องของภคพลจึงรีบรั้งตัวหญิงสาวเอาไว่ก่อน“คุณมาที่นี่ทำไมคะ”“พอลโทรให้ฉันมาหาบอกว่าอยากให้ฉันมาดูแล”แคทเธอรีนตอบกลับพราวพิ้งค์หน้าระรื่น“งั้นก็กลับไปเถอะค่ะ..เพราะหน้าที่นี้เป็นของฉันค่ะ”“ไม่กลับค่ะ..ฉันไม่รู้หรอกนะคะว่าคุณเป็นอะไรกับพอลแต่ในเมื่อพอลเลือกที่จะให้ฉันมาดูแลคุณนั่นแหละที่ต้องกลับ”แคทเธอรีนว่าจบก็เปิดประตูเข้าห้องภคพลไปโดยมีพราวพิ้งค์ตามหลังเข้ามาติดๆ“ฉันมาแล้วค่ะพอล”แคทเธอรีนเอ่ยทักทายภคพลที่กำลังนั่งเลื่อนมือถืออยู่บนเตียงเสียงใส“ฉันบอกแล้วไงคะว่าคนที่จะดูแลคุณได้คือพยาบาลที่นี่”พราวพิ้งค์ค่อนข้างมีท่าทีเดือดดาลพอสมควรดวงตากลมโตจ้องมองภคพลเขม็งอย่างไม่วางตา“ก็ผมต้องการให้แคทมาดูแลคุณมีปัญหาอะไรอยากจะพักผ่อนผมก็ให้โอกาสคุณได้พักแล้วไง”“บอกให้เธอกลับไปเดี๋ยวนี้”“ไม่..”ภคพลตวัดหางตาคมมองหญิงสาวด้วยสายตากวนประสาท“ได้..เดี๋ยวได้รู้กัน”พราวพิ้งค์เดินกัดฟันกรอดออกนอกห้องไปไม่นานนักเหล่าชายฉกรรจ์คนของภูริชสามสี่คนก็เข้ามาลากตัวของแคทเธอรีนกลับไปส่งที่อยู่ของเธอครู่ต่อมา“
วันต่อมาพราวพิ้งค์ใจเสียตั้งแต่เมื่อวานยังไม่หายเพราะจนป่านนี้แล้วภคพลก็ยังไม่ยอมฟื้นขึ้นมา“เมื่อไรคุณจะตื่นมาคะ..คุณจะไล่ฉันต่อว่าฉันอีกกี่คำก็ได้ขอแค่ตื่นมาได้ไหม”สาวเจ้านั่งเอ่ยเสียงอู้อี้อยู่ข้างเตียงของชายหนุ่มพรางยกมือปาดน้ำตาลวกๆ“อืม..”ขณะที่พราวพิ้งค์นั่งหน้าหน้าเคร่งเครียดอยู่พักใหญ่ภคพลก็มีทีท่าว่าจะขยับตัวตื่น“คุณพอล”มือเรียวรีบกดเรียกพยาบาลทันทีที่เห็นว่าภคพลลืมตาไม่นานนักณดลและพยาบาลผู้ช่วยอีกหนึ่งคนก็เข้ามาในห้องพราวพิ้งค์จึงหลบไปนั่งมุมห้องเงียบๆขณะที่หมอหนุ่มกำลังลงมือตรวจอาการภคพล“จำได้หรือเปล่าว่าก่อนปวดหัวเกิดอะไรขึ้น..”ณดลเริ่มถามคนที่มีอาการสะลึมสะลือภคพลยังคงเงียบเขาเปรยสายตาไปยังหญิงสาวที่นั่งใจจดใจจ่อจ้องมองมายังตัวเองอยู่ที่มุมห้องก่อนจะเงยหน้าส่ายหัวกับณดล“..ไม่รู้ฉันจำไม่ได้”“แล้วตอนนี้ยังมีอาการปวดหัวอยู่หรือเปล่า”“ไม่..ฉันโอเค.. ขอพักผ่อนก่อน”ท่าทีของภคพลดูเหนื่อยอ่อยเป็นพิเศษณดลจึงไม่ได้เค้นถามอะไรเพื่อนตนมากเมื่อไม่มีอาการปวดหัวภคพลก็ไม่ได้น่าเป็นห่วงอะไร“อีกสี่ชั่วโมงฉันจะมาดูนายอีกรอบ”“อืม..”“ฉันขออยู่เฝ้านะคะจะอยู่เงียบๆ”พราวพิ้งค์ไม
“ก็อยากดูแลไม่ใช่หรือไง”ดวงตาคมจ้องมองยังใบหน้าที่บึ้งตึงของหญิงสาวด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ทั้งยังส่งน้ำเสียงยียวนกวนประสาทเธอตลอดเวลาทำพราวพิ้งค์หน้านิ่วคิ้วขมวดเพราะเห็นท่าแล้วว่าภคพลคงจะอยากเล่นสงครามประสาทกับเธอเพราะเห็นว่าเธอดูแลเข้าหน่อยก็ใช้สารพัด“เจ้านายของนายเค้าปากไม่ค่อยตรงกับใจเท่าไรเลย”ณดลมองดูภคพลและพราวพิ้งค์ผ่านประตูกระจกด้านนอกกับก้องภพเขาดูออกว่าเพื่อนตนนั้นไม่ได้อยากจะไล่พราวพิ้งค์ไปจริงๆที่ทำไปเพียงเพราะโกรธเคืองเรื่องเธอหนีไปก็เท่านั้น“ครับ”ก้องภพเปรยสายตามองไปยังคนในห้องก็อมยิ้มอ่อนรู้ว่าจิตใจของนายเขาซับซ้อนซ่อนเงื่อนอยู่พอสมควรและที่หายวันหายคืนเช่นนี้ก็คงเป็นเพราะมีคนที่ตัวเองเอ่ยปากไล่มาอยู่ดูแลทุกวันนั่นเองRrrrr“ฉันขอตัวเดี๋ยวนะคะ”พราวพิ้งค์เห็นสายคีรินเข้ามาเธอก็รีบลุกออกจากเก้าอี้ทั้งที่ยังไม่ทันที่จะป้อนข้าวให้ภคพลเสร็จ“ค่ะคุณคีริน”หญิงสาวกดรับสายคุยกับคนที่โทรมาหาขณะที่กำลังจะเดินถึงประตูหลังจากนั้นก็เดินหายเงียบออกไปข้างนอก“คีริน”ภคพลขมวดคิ้วมองตามหลังร่างบางไม่วางตาเขารู้ว่าไม่เคยรู้จักคนๆนี้แต่ทำไมคุ้นกับชื่อคีรินที่หญิงสาวเอ่ยเรียกปลายสายแปลกๆ
“นายทำอะไรของนายรู้ก็รู้ว่าแคททำกับนายขนาดไหนยังจะอยู่ใกล้อีก”ณดลเริ่มสวดเพื่อนของเขาหลังจากที่ห้องนี้เหลือเพียงสองคน“ฉันทำเพราะอยากให้พิ้งค์ไปไกลๆต่างหาก”ภคพลตอบปัดเสียงอ่อนคิดว่าแค่นี้เพื่อนของเขาจะรู้ใจเสียอีกว่าคนอย่างเขาไม่มีทางดีกับคนที่เคยทำร้ายตัวเองมาก่อนแน่นอน“แกโกรธคุณพิ้งค์แค่เรื่องที่เธอหนีไปแล้วไม่บอกนายแค่นั้นเหรอ”ภคพลยังคงเงียบเป็นคำตอบ ณดลเริ่มขมวดคิ้วไม่รู้ว่าเพื่อนตนที่ยังเป็นมีนิสัยเก่าๆเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องผู้หญิงด้วย“คุณพิ้งค์ก็กลับมาแล้วไงเธอกลับมาเพราะเป็นห่วงนาย...ตลอดที่นายนอนเป็นผักคนที่ดูแลนายไม่ใช่พยาบาลแต่เป็นคุณพิ้งค์..เธอคอยเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้นายพูดคุยกับนายตลอด..ตอนนายไข้ขึ้นเธอก็ไม่เคยได้หลับได้นอน..แต่พอนายฟื้นมากลับเอาแต่ไล่ให้เธอไปไกลๆมันยุติธรรมแล้วเหรอ”ณดลว่าเสียงแข็งหากเขาพูดเรื่องยัยหนูพลอยขวัญได้เขาก็อยากจะพูดใจจะขาดภคพลจะได้รู้ว่าตอนนี้ตัวเองเป็นพ่อคนแล้วไม่ควรทำตัวงี่เง่าประชดใครเหมือนเด็กแต่ติดตรงที่พราวพิ้งค์ขอเอาไว้“ตอนเธอหนีฉันไปทิ้งให้ฉันเคว้งคว้าง...ยุติธรรมกับฉันเหมือนกันหรือไง”“นายไม่ได้คิดกับเธอแค่คู่นอนใช่หรือเปล่า
ก๊อกๆๆสายตาของสองหนุ่มมองไปยังประตูที่กำลังจะมีคนเข้ามาเมื่อภคพลเห็นว่าเป็นใครเขาก็มีสีหน้าไม่สบอารมณ์ในทันที“คุณพอลคะ”พราวพิ้งค์สาวเท้าเข้ามานั่งข้างเตียงของภคพลด้วยใบหน้าระรื่นมือเรียวรีบกอบกุมมือของชายหนุ่มเอาไว้แน่นด้วยความดีใจที่เห็นเขานั้นฟื้นขึ้นมาได้เสียที“กลับมาทำไม”ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะถามไถ่อาการของภคพลกับณดลคำถามน้ำเสียงเสียงห้วนของคนเจ็บก็ทำให้พราวพิ้งค์หน้าเสียกะทันหันไม่รู้ว่าเขาจะแกล้งอะไรเธอถึงได้ทักทายกันเช่นนี้“ผมขอคุยกับคุณพิ้งค์หน่อยครับ”ณดลรีบเรียกพราวพิ้งค์ออกมาคุยกันข้างนอกเพราะมีเรื่องที่หญิงสาวจะต้องรับรู้ถึงอาการที่ไม่ค่อยจะดีนักของภคพล“พอลความทรงจำหายไป...ที่จำได้ก็น่าจะสามปีที่แล้วครับ”“สามปีที่แล้วเหรอคะ?”พราวพิ้งค์เสียงสั่นมือไม้อ่อนเท่ากับว่าภคพลคนที่เจ็บอยู่ตอนนี้ยังเป็นคนเดิมคนที่เอาแต่ใจโผงผางเจ้าชู้และข้อสำคัญคือเขายังคงมองเธอเป็นแค่คู่นอนที่ไม่ต้องการให้มีอะไรผูกมัดฟึ่บบ“คุณพิ้งค์”ณดลรีบประคองพราวพิ้งค์เมื่อร่างบางฟุบกองลงกับพื้นดั่งคนไร้เรี่ยวแรงอาการข้างเคียงหลังการบาดเจ็บของภคพลนี่คือสิ่งที่พราวพิ้งค์ไม่อยากให้เกิดที่สุดหลังจากที่ไ