หลังจากพูดจบ บทสนทนาก็เปลี่ยนไป ความร้ายกาจในคำพูดโพล่งออกมาอย่างเปิดเผย "ฉันก็ไม่ได้คาดคิดหรอกนะว่าเธอจะเก่งขนาดนี้ เพิ่งหย่ากับพี่ชายฉันไปได้แปบเดียวก็มีคนใหม่แล้วงั้นเหรอ? รสนิยมไม่ดีเลยนะ หล่อรวยสู้พี่ชายฉันก็ไม่ได้ ชิชะ ถ้าเธออยากขนาดนั้นฉันก็มีตั้งมากมายให้เลือก..."โจวเพียนหรานพูดเจื้อยแจ้วไม่หยุด เมิ่งซิ่งหลวนหันกลับมาด้วยสายตาเย็นชาพูดเพียงสี่พยางค์อย่างไร้ความอดทน"พูดจบหรือยัง?"โจวเพียนหรานชะงักไปสักพัก"ตระกูลโจวของคุณไม่ได้มีอะไรพิเศษขนาดนั้น โจวเพียนหราน พี่ชายของเธอไม่ได้บอกเหรอ? ฉันต่างหากที่ใช้เขาและคนที่ถูกทอดทิ้งน่ะคือเขาต่างหาก แล้วหนุ่มๆ ที่เธอรู้จักน่ะไม่ไปใช้เองเสียล่ะ?"ประโยคสุดท้ายทำให้โจวเพียนหรานสติหลุดสักพักก่อนจะนิ่งอย่างรวดเร็วเพราะได้ยินเสียงของพี่ชายเธอ โจวยวี่ไป๋"เมิ่งซิ่งหลวน"เสียงทุ้มลึกที่เย็นชาของชายหนุ่มดังขึ้นมาทันที เขาเดินไปหาทั้งสอง ร่างสูงทำหน้าเคร่งขึมเขาได้ยินทุกอย่างที่เมิ่งซิ่งหลวนพูดอย่างไม่ขาดตกบกพร่องเหอะ เขาเป็นสามีที่ถูกทิ้งงั้นเหรอ?นี่เป็นแผนของเมิ่งซิ่งหลวนหรือเปล่า? แรกเริ่มปู่เขาก็บังคับให้แต่งงานกับเธอ แล้วเธอก
ดวงตาของโจวยวี่ไป๋เข้มขึ้นครู่หนึ่ง วินาทีถัดมาโจวเพียนหรานก็เปลี่ยนท่าทีควงแขนพี่ชายเพื่อแสดงท่าทีออดอ้อน"พี่ชาย น้องอยากได้อันนี้! พี่ไม่คิดว่ามันเหมาะกับเหยาเหยาเลยเหรอ? คืนนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดตระกูลเซิ่งพอดี ถ้าเหยาเหยาใส่ไปงานพี่ก็จะดูดีไปด้วยนะ!"ประโยคสุดท้ายตั้งใจจะแหย่เมิ่งซิ่งหลวนเมิ่งซิ่งหลวนหลงรักพี่ชายเธอแทบเป็นแทบตายไม่ใช่เหรอ?ดูเธอตอนนี้สิ หัวจรดเท้าอย่างกับตัวตลก!ทว่าใบหน้าของเมิ่งซิ่งหลวนดูไม่ได้ใส่ใจอะไร โจวยวี่ไป๋จะชอบใครก็ไม่ใช่เรื่องของเธอโจวยวี่ไป๋มองเมิ่งซิ่งหลวนอย่างหงุดหงิดแบบบอกไม่ถูกไม่กี่วินาทีต่อมา เขาก็พูดว่า "เมิ่งซิ่งหลวน เดรสนี้ไม่เหมาะกับเธอหรอก เลือกอันอื่นแล้วใช้เงินในบัตรฉันซะ"เมิ่งทิงเหยาถอนหายใจด้วยความโล่งอกเธอแอบดูท่าทีของโจวยวี่ไป๋จนถึงตอนนี้และพบว่าสายตาของเขาจับจ้องเพียงแต่เมิ่งซิ่งหลวนเมิ่งทิงเหยากลัวว่าเขาจะได้สติขึ้นมายังดีที่ชายคนนั้นยังถือข้างเธอจนถึงที่สุดเธอมองไปที่เมิ่งซิ่งหลวนด้วยชัยชนะ เหอะๆ ดูสิ เธอเป็นลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลเมิ่งแล้วอย่างไรล่ะ? ครอบครัวของนาง เพื่อนหรือแม้กระทั่งคนที่นางชอบอยู่ข้างเธอทั
ผู้จัดการร้านยังไม่ทันวางสาย เธอหันไปมองเมิ่งทิงเหยาด้วยรอยยิ้มจริงใจเมิ่งทิงเหยาและคนอื่นตกตะลึงเธอจ้องมองไปที่ผู้จัดการด้วยความสับสนเมิ่งทิงเหยาจำไม่ได้ว่าเคยพบกับดีไซน์เนอร์ชื่อดังคนนี้จากไหน มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย?ก่อนที่เธอจะเข้าใจ โจวเพียนหรานก็คว้าแขนเมิ่งทิงเหยาอย่างตื่นเต้นเสียงแหลมดัง "เหยาเหยา! เธอรู้จักกับมาสเตอร์ดีมาตลอดเลยเหรอ! ทำไมเธอไม่เห็นเคยบอกฉันเลย พวกเราไม่ใช่เพื่อนรักหรือไง?"เมื่อได้ยินเช่นนี้ เมิ่งทิงเหยาก็ยิ้มจางๆ ดวงตาเป็นประกาย "บางทีอาจเป็นเพื่อนที่ฉันเจอในต่างประเทศ..."เธอไม่ได้บอกว่าผู้จัดการร้านทำผิดพลาด ดังนั้นเธอจึงรับแบบอ้อมแอ้มผู้จัดการร้านยื่นโทรศัพท์ให้เธอ "คุณเมิ่ง มาสเตอร์ดีมีเรื่องอยากพูดกับคุณนิดหน่อย"ในสถานการณ์เช่นนี้ เมิ่งทิงเหยาไม่มีทางที่จะปฏิเสธ เธอไม่มีทางเลือกอื่นจึงต้องยอมรับมัน ทันทีที่เธอพูดบางอย่าง เสียงปลายสายกลับพูดขึ้น"นั่นใครน่ะ?"มือถือของผู้จัดการร้านถูกเพิ่มเสียงให้ดังที่สุด เมื่อรวมกับบรรยากาศอันเงียบสงบภายในร้าน เสียงของซ่งฉือเว่ยก็ดังเข้าหูทุกคนอย่างชัดเจนสีหน้าของเมิ่งทิงเหยาซีดเผือดวินาทีถัดมาเธอก็นึ
โจวยวี่ไป๋และเมิ่งซิ่งหลวนเผชิญหน้ากันทุกคำพูดของชายหนุ่มนั้นราวกับมีดเสียดแทงที่หัวใจของหญิงสาวเมิ่งซิ่งหลวนยกมุมปากขึ้นเยาะ สายตาจ้องมองไปที่เขาอย่างเย็นชา "ฉันไม่เห็นจำได้เลยว่ามีน้องสาวกับเขาด้วย? ไม่ใช่เธอเองหรือไงที่รีบยอมรับว่ารู้จักซ่งฉือเว่ย? ตอนนี้สิ่งที่เธอโกหกก็ถูกเปิดเผย คุณโจว คุณกำลังทำตัวมีปัญหาโดยไม่มีเหตุผลอยู่นะรู้ไหม?"เสียงเย็นชาของหญิงสาวเปล่งขึ้น ทุกคำพูดต่างชัดเจนและเหินห่างสีหน้าของโจวยวี่ไป๋เข้มสนิท บรรยากาศรอบตัวเย็นยะเยือกและอารมณ์ที่อธิบายไม่ถูกพลุ่งพลานขึ้นมาเมิ่งซิ่งหลวนตัวจริงนี่ช่างปากจัดจริงๆ!เว่ยเหิงยังคงคอยใส่ไฟเพิ่ม "ให้ฉันพูดเถอะนะ ประธานโจว คุณมันสองมาตรฐานจริงๆ ครั้งก่อนฉันเห็นเพื่อนๆ ของคุณดูถูกเหยียดหยามพี่เมิ่งของเรา คุณก็ปล่อยให้พวกเขาทำเช่นนั้น ทำไมพอเป็นทีของนังแมงมุมเจ้าเล่ห์นั่น คุณกลับปกป้องเสียเหลือเกิน?"เมิ่งทิ่งเหยาไม่เคยโดนเหยียดหยามขนาดนี้มาก่อนเธอบีบฝ่ามือแน่นดวงตาแดงก่ำ แต่พยายามทำตัวแข็งแรงและอดกลั้นอารมณ์"พี่สาว ฉันผิดไปแล้ว ฉันขอโทษ! ในช่วงสองปีที่ผ่านมาที่ต่างประเทศ ฉันก็ได้เพื่อใหม่มากมาย หนึ่งในนั้นก็เป็นดี
"ใส่ตอนนี้เลย"……*ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง แต่คฤหาสน์ตระกูลเซิ่งคึกคักและสว่างไสววันนี้เป็นวันเกิดปีที่แปดสิบของแม่เฒ่าเซิ่งผู้คนที่ได้รับเชิญล้วนแต่เป็นผู้มีชื่อเสียงและผู้มีอิทธิพลในไห่เฉิงลูกชายคนโตของตระกูลทยอยรับแขกอยู่ วินาทีต่อมาหญิงชราก็เรียกเข้าไปหาหญิงชราสวมชุดคอจีนที่ปักอย่างประณีตด้วยฝีมือช่างที่มีคุณภาพสูง ผมขาวของเธอถูกมัดเป็นมวย สีหน้าแววตาบ่งบอกถึงความสุข เธอกล่าว "ชูหลี่ หลวนหลวนมาถึงหน้าประตูแล้ว ไปรับเธอที"เซิ่งชูหลี่ดูเผินๆ เหมือนเป็นคนเรียบง่าย ทว่าจริงๆ แล้วเขาเจ้าเล่ห์และเด็ดขาดเป็นคนที่ไม่สามารถรับมือได้ง่ายๆได้ยินคำขอของหญิงชราแล้ว เซิ่งชูหลี่ก็พยักหน้าก่อนจะให้น้องชายและน้องสาวรับผิดชอบหน้าที่รับแขกแทนในมุมหนึ่งของห้องจัดเลี้ยง โจวยวี่ไป๋และเมิ่งทิงเหยายืนเคียงข้างกันโดยมีคนอื่นล้อมรอบเมื่อถูกเพื่อนๆ แซว เมิ่งทิงเหยาก็กล่าวอย่างเขินอายว่าเธอกับโจวยวี่ไป๋ไม่ได้มีความสัมพันธ์กันแบบนั้น จากนั้นเธอจึงมองผ่านคนอื่นๆ ไป ราวกับจะมองหาคนสักคนโจวยวี่ไป๋มีสีหน้าเย็นชาอยู่ตลอดเวลาแม้จะมีคนเข้ามาคุยกับเขา เขาก็ตอบกลับอย่างเป็นมารยาทเท่านั้นคนที่ช่างสั
เสียงแผ่วเบาของเมิ่งทิงเหยาสั่นเล็กน้อยเธอจไม่รู้ได้อย่างไรว่าโจวยวี่ไป๋โกรธเพราะเมิ่งซิ่งหลวน?ทั้งที่เห็นได้ชัดว่าโจวยวี่ไป๋ไม่ได้รักเมิ่งซิ่งหลวนเลย แต่ทำไมเขาถึงสติหลุดเพราะเธอได้ขนาดนี้ตอนนี้?เมิ่งทิงเหยารู้สึกหวาดระแวง เมื่อเห็นโจวยวี่ไป๋ไม่ตอบสนอง เธอก็เรียกเขาอีกสองสามครั้งในที่สุดโจวยวี่ไป๋ก็ละสายตาจากเมิ่งซิ่งหลวนได้ เมิ่งทิงเหยาแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอกอดแขนชายหนุ่มไว้แน่นและแกล้งเปรย "ฉันไม่ยักจะรู้ว่าพี่สาวมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเซิ่งชูหลี่ขนาดนี้.. ยวี่ไป๋ พี่สาวฉันเคยบอกพี่ไหม?"โจวยวี่ไป๋ควบคุมอารมณ์ที่คุกกรุ่นภายในและพูดอย่างเย็นชาเป็นครั้งแรกกับเมิ่งทิงเหยา"มีเพื่อนต่างเพศมันแปลกตรงไหนล่ะ?"เสียงทุ้มลึกที่ตอบมาทำให้ใจของเมิ่งทิงเหยารู้สึกหวิว เธอไม่แน่ใจว่าคำพูดของโจวยวี่ไป๋นั้นเพราะเธอหรือเพราะตัวเขาเอง"ไม่ ไม่แปลก"เมิ่งทิงเหยาลดศีรษะลง บีบมือเธอแน่น สายตาเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองเธอหันไปจ้องมองตัวเอกของงานวันนี้แม่เฒ่าเซิ่งหญิงชรายิ้มกว้าง ความสง่างามของเธอนั้นดูราวกับเครื่องประดับต่อหน้าเมิ่งซิ่งหลวน เธอจับมือของเมิ่งซิ่งหลวนอย่างอบอุ่นจริงใจ "
"อืม.. ฉันขอให้ยายเซิ่งมีอายุยืนยาว มีแต่ความสงบสุขเจริญรุ่งเรือง"เสียงเย็นชาของหญิงสาวและท่าทีของเธอแปรเปลี่ยนเป็นนุ่มนวลเล็กน้อยเมื่อมองไปยังหญิงชรากล่องเปิดออกเห็นเป็นลูกประคำจากไม้จันทน์สีทองวางอยู่อย่างเงียบๆ ร้อยด้วยไหมสีทองและเรซิ่นผสานเข้าด้วยกันทำให้มีการไล่สีไปตั้งแต่เข้มจนสว่างราวกับถืออำพันบนมือแม่เฒ่าเซิ่งชอบของขวัญชิ้นนี้มากเพียงแค่สวมใส่เท่านั้นเธอไม่รู้ว่าเธอจินตนาการไปเองรึเปล่า แต่รู้สึกได้เลยว่าเธอหายเหนื่อยไปครู่หนึ่งคุณหญิงโจวท่ามกลางฝูงชนมองด้วยใบหน้าเคร่งขรึม จ้องไปที่สร้อยข้อมือลูกประคำบนมือของหญิงชราถึงแม้ว่ามันจะคล้ายกับที่เมิ่งซิ่งหลวนให้เธอ แต่เมื่อพิจารณาจากความแวววามและเนื้อสัมผัสแล้วอันนี้ดีกว่าอย่างชัดเจนเมิ่งซิ่งหลวนกล้าดีอย่างไรให้ของที่ด้อยคุณภาพกว่ากับเธอ!นี่เป็นเพียงความคิดเดียวในใจของคุณหญิงโจว เธอพยายามควบคุมความโกรธที่ถาโถมเข้ามาอย่างรุนแรง แต่โจวเพียนหรานลูกสาวของเธอกลับพูดออกมาทันที"เมิ่งซิ่งหลวน นี่เธอให้สร้อยลูกประคำพังๆ นี่กับแม่เฒ่าเซิ่งเหรอ"น้ำเสียงของโจวเพียนหรานเต็มไปด้วยการเสียดสีโดยไม่ปิดบัง ทันทีที่หลุดปากออกไป ท
มือของชายหนุ่มที่วางอยู่บนเอวของเมิ่งซิงหลวน ค่อยๆลูบผิวเนียนที่ไม่มีอาภรณ์ปกปิด แต่ก่อนที่โจวยวี่ไป๋จะทำอะไรมากกว่านั้น เมิ่งซิงหลวนก็หยุดมือเขาไว้มือของหญิงสาวขาว เรียวยาว เล็บที่ผ่านการปรนนิบัติอย่างดีเป็นมันเงาโจวยวี่ไป๋เมินเฉยต่อคำพูดของหญิงสาว นัยน์ตาสีเข้มของเขาตอนนี้สะท้อนภาพใบหน้าที่สวยงามของเมิ่งซิงหลวนเท่านั้น เขาเอ่ยถามออกไปอย่างอัตโนมัติว่า “เธอเป็นอะไรกับเซิ่งชูหลี่”เขาไม่สามารถละสายตาจากเมิ่งซิงหลวนได้ตั้งแต่เธอเดินเข้ามาในห้องจัดเลี้ยง และยิ่งรู้สึกร้อนรุ่มในใจมากขึ้น ยามที่เห็นเธอจับมือกับเซิ่งชูหลี่โจวยวี่ไป๋ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมเขาถึงโกรธขนาดนี้ความเงียบเข้าปกคลุมบรรยากาศรอบๆ คนทั้งคู่เงียบไปได้เพียงอึดใจ เมิ่งซิงหลวนก็กระตุกยิ้มเย้ยมุมปาก และตอบกลับไปว่า: “คุณโจว เราหย่ากันแล้วนะ ฉันคงไม่ต้องรายงานเรื่องส่วนตัวของฉันให้คุณรู้หรอก ใช่ไหม?”พูดจบ เธอก็ผลักเขาออกเบาๆ ระยะอันตรายที่ใกล้ชิดก็กว้างขึ้นจุดที่หญิงสาวสัมผัสนั้นร้อนผ่าวขึ้นทันใด และถ้าดูใกล้ๆ ก็จะเห็นรอยแดงจางๆโจวยวี่ไป๋ชะงัก สีหน้าหม่นลงเล็กน้อย เขาหงุดหงิดที่เมิ่งซิงหลวนตอกย้ำสถานะความสัมพ