ตัวตายตัวแทน......เอ่อ คนที่อยู่ในประโยคนี้ยังต้องคิดอะไรอีกไหม? ที่ว่ามาก็น่าจะเป็นตัวเธอเองแน่ ๆเห็นได้ชัดว่าเขากำลังอธิบายเรื่องทะเบียนสมรสให้กับคนรักที่ไม่สามารถแต่งงานด้วยกันได้ของตนเองฟังสวี่ชิงฮวนรู้สึกว่าในวินาทีตนเองเหมือนกับเป็นตัวตลก! กำลังผลุบอยู่ระหว่างชายหญิงตระกูลร่ำรวยก่อนหน้านี้เธอยังคงสงสัยว่าทำไมฟู่เยี่ยนฉือถึงได้เลือกเธอ ตอนนี้ทุกอย่างกระจ่างแล้ว!มิน่าล่ะ……ไม่แปลกใจเลยที่ในตอนนั้นฟู่เยี่ยนฉือบอกว่าตนเองเหมาะสมที่สุด! สุดท้ายแล้วหากไม่ได้เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด การที่จะหาคนรักที่ไม่สามารถแต่งงานด้วยกันได้ที่มีใบหน้าละม้ายคล้ายกันก็คงนับว่าเป็นเรื่องยากมาก ตัวเองก็เป็นเพียงแค่ “ตัวแทนของเซี่ยหว่านอวี่” ตั้งแต่แรกนั่นเองในนาทีแรก สวี่ชิงฮวนไม่รู้ว่าควรจะเกลียดความบังเอิญนี้ หรือจะรู้สึกโชคดีกับความบังเอิญนี้ดี! เพราะถ้าไม่มีตำแหน่งการแทนที่นี้ คุณแม่ก็คงไม่มีเงินก้อนนั้นมาจ่ายค่ารักษาเซี่ยหว่านอวี่เห็นสีหน้าที่ยุ่งเหยิงสับสนนั้นของสวี่ชิงฮวน ก็รู้ได้ว่าเธอไม่รู้จักตัวเองอย่างแน่นอน และ......ตอนนี้ก็คงเข้าใจผิดอะไรไปกันใหญ่แน่ ๆแต่เธอชอบความเข้าใจผิดน
ด้วยความรู้สึกที่ใจไม่เป็นสุข หลังจากที่สวี่ชิงฮวนเลิกงานก็เรียกแท็กซี่ตรงไปที่อ่าวตงเยว่ทันทีป้อนรหัสล็อกประตูได้ครึ่งทาง ทันใดนั้นก็รู้สึกขึ้นมาได้ว่าไม่ควรทำอะไรแบบนี้ ถ้าเกิดจ๊ะเอ๋กันขึ้นมาทุกคนจะทำตัวไม่ถูกกันได้! เพราะงั้นจึงรีบกดกริ่งประตูไม่นาน ประตูก็ถูกเปิดออกฟู่เยี่ยนฉือเปลี่ยนชุดสูทที่สวมระหว่างวันเรียบร้อยแล้ว ปกติตอนอยู่บริษัทจะหวีผมอย่างพิถีพิถันแต่ก็ยังมียุ่งเหยิงอยู่บ้าง ร่างสูงสวมชุดอยู่บ้านสีขาว หลังจากแปลงโฉมจากมาดนักธุรกิจผู้สง่างามเรียบร้อยแล้ว เขาในตอนนี้ให้ความรู้สึกเป็นพ่อหนุ่มน้อยจอมขี้เกียจเหมือนกับว่าเพิ่งจะไปเล่นบาสเก็ตบอลในสนามกีฬากลับมา ดูเหนื่อยนิดหน่อยและเตรียมที่จะกลับห้องเรียนไปพักสวี่ชิงฮวนกลัวว่าคนรักที่ไม่สามารถแต่งงานด้วยกันได้จะอยู่ด้วย เพราะงั้นจึงไม่ยอมเข้าไปและยังคงยืนอยู่ตรงที่เดิมด้วยท่าทางที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ “ประธานฟู่ เรื่องที่คุณบอกว่าเกี่ยวกับโครงการหัวเย่”“สวี่ชิงฮวน”เขาเรียกชื่อเธอตรง ๆ ขมวดคิ้วเป็นปม "ตอนนี้ผมเลิกงานแล้ว”“.......” สวี่ชิงฮวนรู้สึกว่าตัวเองโง่เขลาซะจริงๆ ไม่เข้าใจความหมายที่เขาสื่อ! เขาเป็นคนส่งข้อค
สวี่ชิงฮวนปฏิเสธทันที “ไม่ใช่อย่างแน่นอน!”“แล้วเพื่อนของเธอได้บอกเธอหรือเปล่า ว่าผู้ชายคนนี้พออยู่บนเตียงแล้วรุนแรง? แต่ถ้าเล็กพริกขี้หนูก็ช่างเหอะ!”สวี่ชิงฮวนตอบตามจิตใต้สำนึก “ก็ไม่ขนาดนั้นนะ”“เพื่อนเธอกับเธอเคยซุบซิบเรื่องนี้กันด้วยเหรอ?” ฟู่เจียเจียเบิกตากว้าง พอพูดถึงหัวข้อแบบนี้ก็ใจฟู ฮึกเหิมขึ้นมาเลย “ไม่ต้องมาอ้อมค้อมแล้ว เพื่อนเธอคนไหน?”“…… โธ่เอ๊ย เธอไม่รู้จักหรอก เขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นของฉันนานแล้ว” สวี่ชิงฮวนกลัวว่าตัวเองอาจจะหลุดพูดอะไรออกไป จึงรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “จริงสิ วันนี้ฉันมีนัดกับคนที่รับผิดชอบโครงการหัวเย่ เธอว่างหรือเปล่า?”ฟู่เจียเจียขยับปากทำเสียง รู้สึกลำบากใจอยู่เล็กน้อย “วันนี้ไม่ได้อ่ะ สำนักงานใหญ่โอนเงินชดเชยของฮั่นหยางมาแล้ว ฉันต้องไปที่นั่น”“ไม่เป็นไร ฉันไปเองก็ได้”สวี่ชิงฮวนเก็บข้าวของ ปรินท์รายชื่อบริษัทบุคคลภายนอกที่ฟู่เยี่ยนฉือส่งเข้ามาในอีเมล์ รวมเอกสารทั้งหมดเข้าด้วยกัน เหลือบมองเวลาและออกตัวเดินทางไปยังจุดนัดหมายคนที่รับผิดชอบของหัวเย่เป็นชายวัยกลางคน แม้ว่าจะแก่กว่าไม่กี่ปี แต่ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนรักความเรียบร้อยอะไรประมาณนั้น
สติที่ทำเป็นเข้มแข็งของสวี่ชิงฮวน ในวินาทีนี้ได้พังทลายลง!เมื่อร่างกายเลือกที่จะเชื่อว่าเป็นฟู่เยี่ยนฉือตามสัญชาตญาณ ก็เลยหมดสติไปในอ้อมแขนของเขาเธอไม่ได้เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาที่ตึงเครียดและเฉียบคมของผู้ชายในเวลานี้ ดวงตาไม่เคยแสดงความรู้สึกยินดีตลอดทั้งวัน ในเวลานี้ก็เกาะเป็นน้ำแข็งขึ้นอีกชั้น“ฟู่ ฟู่เยี่ยนฉือ......”ประธานหวังงงตาแตก สั่นสะท้านไปทั้งตัว คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะได้เห็นผู้ทรงอำนาจขนาดนี้!“แกภาวนาให้เธอไม่เป็นอะไรจะดีกว่านะ”คำพูดของฟู่เยี่ยนฉือไม่มีน้ำเสียงโกรธใด ๆ แต่พอฟังแล้วกลับทำให้คนอื่นตัวสั่นเป็นลูกนก!เห็นเงาหลังที่เขาอุ้มผู้หญิงออกไป ประธานหวังก็ตกใจจนทรุดตัวลงบนเตียง จนยืนด้วยขาไม่ไหว......สวี่ชิงฮวนรู้สึกเหมือนตัวเองหลับฝันไปนานมากฉากเริ่มตั้งแต่ในตอนที่แม่ฆ่าตัวตายมีเลือดแดงสดนองเต็มพื้น ไปจนถึงห้องเรียนของโรงเรียน แล้วก็ฝันถึงใบหน้าที่โมโหสุด ๆ ของผู้จัดการจางราวกับภาพสไลด์แว็บไปแว็บมาทันใดนั้นความเจ็บปวดที่รุนแรงก็ปลุกให้เธอตื่นขึ้นขมวดคิ้วและค่อย ๆ ลืมตาขึ้นช้า ๆ เพดานสีขาวของโรงพยาบาลทำให้เธอรู้สึกไม่ค่อยสบายซักเท่าไร จึงจะยกมือขึ้นมาบั
สวี่ชิงฮวนรู้ว่าในเวลานี้ตัวเองควรจะเตือนสติฟู่เยี่ยนฉือซะหน่อย อ่าวตงเยว่เป็นบ้านของเขา ถ้าเธอไปก็ไม่นับว่ากลับบ้านหรอกแต่พอจะอ้าปาก กลับเค้นเสียงไม่ออกแค่ครั้งเดียว ที่เธออยากจะทำตามใจตัวเองแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว ความโลภได้เกิดขึ้นมาชั่วครู่ ความอ่อนโยนที่ควรจะเป็นของผู้หญิงคนอื่นในครั้งนี้“ค่ะ กลับบ้าน”……อาจเป็นเพราะว่าเมื่อวันก่อนคงจะรู้สึกเหนื่อยเกินไป เป็นประวัติการณ์ที่ฟู่เยี่ยนฉือไม่ยอมตื่นตอนหกโมงเช้าในตอนที่สวี่ชิงฮวนลืมตาขึ้นมา ผู้ชายที่นอนอยู่ข้าง ๆ ยังคงหลับอยู่มือข้างหนึ่งของเขาวางไว้บนเอวของตนเบา ๆ ตะแคงข้างเล็กน้อย ม่านถูกพัดปลิวเป็นครั้งเป็นคราว แสงแดดสาดส่องไปที่ใบหน้าที่ล้ำลึกของเขา เป็นภาพที่ดูดีจนทำให้เธอไม่อยากละสายตาออกไปเลยถ้าเกิด.....ตัวเองเป็นคนที่อยู่ในใจของเขา ก็น่าจะดีเนอะ......จู่ ๆ ความมโนนี้ก็ผุดขึ้นมา สวี่ชิงฮวนตกใจจนตัวแข็งทื่อ แล้วก็รีบลุกออกจากเตียงอย่างลนลานเธอไม่รู้ว่าทำไมถึงกล้าคิดอะไรแบบนี้ขึ้นมาได้! แน่นอนว่าถ้าเกิดคนเราได้ลิ้มรสความหอมหวานสักครั้ง ก็จะเกิดความโลภขึ้นมาได้เมื่อเดินเข้าห้องอาบน้ำ ใช้น้ำเย็นล้างหน้า สวี่ชิงฮวน
“แน่นอนอยู่แล้วค่ะ” สวี่ชิงฮวนไม่ปิดบังความกระตือรือร้นของตนเอง “ปีนี้ทีมสามเกิดเรื่องกับฮั่นหยางขึ้น ถึงแม้ว่าจะกระทบต่อโบนัสสิ้นปีของเราอย่างมาก แต่นี่ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโอกาส ที่ฉันอยากจะคว้ามันเอาไว้”ถ้าเกิดว่าในเวลานี้สามารถทำให้โครงการของหัวเย่สำเร็จได้ ทีมสามจะมีคนมาขอร้องทั่วทุกสารทิศ ผู้จัดการเฉินจะต้องดีใจมากกว่าครั้งไหน ๆ เป็นแน่ และจะยิ่งเห็นคุณค่าในตัวของเธอมากขึ้นด้วย!ฟู่เยี่ยนฉือเงยหน้ามองเธอนานมากๆ จากนั้นก็ขยับริมฝีปากบางๆเล็กน้อย “สำนักงานใหญ่วางแผนจะโยกย้ายคนสักสองสามคนจากเซิ่งสือไปศึกษาดูงานด้านการเงิน”“แล้วฉันจะได้ไหมคะ?”สวี่ชิงฮวนเอ่ยถามในทันที“อืม ถ้าคุณเชื่อฟังผม ผมก็อาจจะพิจารณาดูได้นะ”“ประธานฟู่ ฉันเชื่อฟังคุณอยู่แล้วค่ะ!”นี่ยังจะให้เขาพูดอีกเหรอ? ถึงจะไม่มีเรื่องนี้ เธอที่เป็นแค่ผู้ช่วยก็ต้องฟังประธานอยู่แล้วสิ“ผมจำได้ว่าเมื่อกี้ผมเพิ่งบอกคุณไปว่า อยู่ที่บ้านไม่ต้องเรียกผมว่าประธานฟู่”เธอชะงักเขาเลิกคิ้วขึ้น ผ่านไปเป็นเวลานาน สวี่ชิงฮวนถึงกับหยิกขาตัวเองอย่างแรง ใช้เสียงที่แทบจะไม่ได้ยินสักเท่าไรเอ่ยมาว่า “เยี่ยนฉือ......”ฟู่เยี่ยนฉ
แต่ก่อนเคยคิดว่าฟู่เยี่ยนฉือเป็นเหมือนก้อนหิน แข็งสุด ๆ มีชีวิตเหมือนพระที่ไม่มีความปรารถนาและพอใจกับที่เป็นอยู่ ไม่ว่าเธอจะเป็นโลลิต้า หรือนางแบบวัยรุ่น ก็ไม่เข้าตาเลยสักนิดตอนนี้เพิ่งได้รู้แล้ว ว่าเขาก็ไม่ได้ดื้อเงียบอะไรหรอก ก็แค่รู้จักแยกแยะคนเป็นดู! การจะจีบสาวนี่ก็ต้องมีชั้นเชิงกันไหมล่ะ?แม้ว่าเธอจะไปติดต่องานกับผู้ที่รับผิดชอบ เขาประธานฟู่สือผู้สง่างามนึกไม่ถึงว่าจะลากตนเองไปคุ้มกันด้วย! ถ้าพูดอะไรไปแล้วเกิดถูกจับได้ล่ะก็ ก็แสดงว่าทั้งสองคนกำลังเจรจาเรื่องงานในร้านนี้สินะฮ่า ๆ ถือเป็นการมอบเรื่องขำขันให้เขาจริง ๆ!“นายมีธุระรึไง?”ฟู่เยี่ยนฉือไม่เคยตอบสนองกลับเรื่องซุบซิบนินทาแบบนี้แม้แต่น้อย ตั้งใจกับงานมาโดยตลอดโจวซือเจ๋อทำเสียงฮึมฮัม จงใจที่จะเข้าไปขัดจังหวะ “มีสิ! จะมาถามนายว่าทำไมถึงปิดเรื่องการลวนลามในที่ทำงานของของผู้รับผิดชอบของหัวเย่ คุมข่าวฉาวนี้ไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ให้ประธานคนเก่าของหัวเย่ยอมเซ็นอย่างเชื่อฟัง”ปลายปากกาในมือของฟู่เยี่ยนฉือชะงักแล้วขมวดคิ้ว “สวี่ชิงฮวนจะโดนสาดน้ำลายตำหนิใส่เอาได้”นี่มันเป็นชื่อเสียงความบริสุทธิ์ของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเ
ไม่รู้ว่าทำไม สวี่ชิงฮวนถึงมีปฏิกริยาตอบกลับชื่อนี้อย่างไม่พอใจ เพราะงั้นครั้งนี้เธอเลยไม่เชื่อฟัง ก็เลยแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินไปพอถึงโรงพยาบาล เธอก็หยิบกระเป๋าแล้วคิดจะบอกลาฟู่เยี่ยนฉือหลังจากลงจากรถใครจะไปรู้ว่าเขาจะคว้าข้อมือของตัวเองไว้“รอก่อน ผมจะไปกับคุณ”ฟู่เยี่ยนฉือจะเยี่ยมแม่ของเธอเหรอเนี่ย?สวี่ชิงฮวนโบกมืออย่างลนลาน “ไม่ต้องเสียเวลาคุณหรอกค่ะ อาการของแม่ฉันดีขึ้นมากแล้ว!”ในระหว่างที่เธอกำลังพูด ฟู่เยี่ยนฉือหยิบดอกไม้และของขวัญจากเบาะหลังมาวางไว้ตรงหน้าเธอเรียบร้อยแล้ว “ไปกันเถอะ” “……” ไม่มีทางเลือก สวี่ชิงฮวนทำได้เพียงจำใจพาฟู่เยี่ยนฉือเข้าโรงพยาบาลไปด้วย ตลอดทางสมองเอาแต่คิดว่าอีกเดี๋ยวตัวเองจะอธิบายสถานะของฟู่เยี่ยนฉือกับแม่ยังไงดี! เมื่อมาถึงประตูห้องพัก ในเวลานี้สวี่ชิงฮวนสวดภาวนาในใจขอให้แม่กำลังหลับอยู่ ปัญหานี้ก็จะได้หมดไป! แต่น่าเสียดาย พอเปิดประตู แม่กำลังคุยอะไรบางอย่างกับพยาบาลอยู่......ดูน่าตื่นตาตื่นใจมาก!“ฮวนฮวน” เมื่อเห็นลูกสาวเจิ้งชิวจือก็ดูมีความสุขทันที แต่ทันใดนั้นสายตาสบกับผู้ชายร่างสูงใหญ่ที่อยู่ข้างหลังเธอ สายตาก็เคร่งขรึมลงเล็กน้อยใน