“ของสะสมชิ้นนี้ครับเป็นที่รู้จักในนาม หัวใจเทพธิดา มันเป็นชิ้นส่วนอัญมณีที่มิสแชนนอน ไวท์ นำกลับมาจากนิวซีแลนด์มากกว่าหนึ่งทศวรรษที่แล้ว”“ตามคำบอกเล่าของมิสแชนนอน ไวท์ มีความลับอย่างหนึ่งภายในของสะสมชิ้นนี้ อย่างไรก็ตามเธอไม่รู้เลยว่าความลับนั้นคืออะไรเช่นกัน เธอไม่สามารถสืบค้นได้ แม้ว่าจะวิเคราะห์มันอย่างละเอียดมากกว่าหนึ่งทศวรรษแล้วก็ตาม”“ก่อนที่จะเสียชีวิต มิสแชนนอนต้องการนำของสะสมชิ้นนี้มาประมูล รายได้ทั้งหมดจะถูกบริจาคให้กับมูลนิธิวิจัยโลกโลหิตจาง ราคาเริ่มต้นอยู่ที่หนึ่งฮาร์เบอร์ดอลลาร์ครับ”อัญมณีชิ้นนี้กำลังขายในราคาเริ่มต้นที่ 1 ฮาร์เบอร์ดอลลาร์ดูธรรมดามากและเหมือนแค่จี้ธรรมดา ความธรรมดาในตัวมันเองถูกหลอมลงในรูปร่างนางฟ้ากำลังถือรูปหัวใจ โดยพื้นฐานของวัสดุและรูปร่างแล้ว มันดูเหมือนมีค่าสูงสุดกว่า 100,000 ฮาร์เบอร์ดอลลาร์อย่างไรก็ตาม แชนนอน ไวท์คือหนึ่งในผู้ใจบุญที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองฮาร์เบอร์ ความตายของเธอมีสาเหตุมาจากโรคโลหิตจาง เป็นเหตุของความโกลาหลที่ค่อนข้างใหญ่ ณ ตอนนั้นดังนั้น หัวใจของนางฟ้าที่มีราคาเริ่มต้นที่ 1 ฮาร์เบอร์ดอลลาร์และบางอย่างที่ถูกเรียกว่า “ค
คนเหล่านั้นซึ่งกำลังฟังเซนอยู่คิดว่าเขาดูมีเหตุผลมากเหมือนกันณ เวลานี้ คนส่วนใหญ่จากเมืองฮาร์เบอร์ยังคงรังเกียจชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก พวกเขาดูถูกคนภายนอกทุกคน โดยเฉพาะชาวแผ่นดินใหญ่พวกเขารู้สึกว่าแผ่นดินใหญ่เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยภูเขาแห้งแล้งและแม่น้ำไหลเชี่ยวที่คนป่าอาศัยอยู่ มันเป็นสถานที่ที่ป่าเถื่อนในสายตาของพวกเขา การกระทำของแจสเปอร์แสดงให้เห็นว่าเขากำลังไขว่คว้าเพื่อจะมีอิทธิพลขณะที่ไม่เต็มใจที่ใช้เงินของเขาเห็นได้ว่ามีคนจำนวนมากเห็นด้วยกับเขา เซนจ้องไปที่แจสเปอร์อย่างดูถูกเหยียดหยาม “แกเข้าใจใช่ไหม? หุบปากและนั่งอย่างเงียบ ๆ ไปซะ ไอ้หมาเอ๊ย ไม่อายตัวเองบ้างหรอ? เขากล่าวอย่างมั่นใจท่าทีของเซนเริ่มโหดร้ายขึ้นขณะที่เขาพูดว่า “ฉันรับไม่ได้กลับกลิ่นสาบหมาเมื่อฉันนั่งในห้องเดียวกับแก ไอ้หมาเน่าเอ๊ย” เขาส่งเสียงดังด้วยความโกรธ“มิสเตอร์เซน แลนแคสเตอร์เสนอที่ราคา 2 ล้านฮาร์เบอร์ดอลลาร์ 2 ล้านฮาร์เบอร์ดอลลาร์ครั้งที่หนึ่ง มีท่านใดให้ราคาหัวใจเทพธิดาสูงกว่านี้ไหมครับ?”ผู้จัดงานไม่ต้องการที่จะเข้าร่วมการต่อสู้อย่างบ้าคลั่งระหว่างสองเศรษฐีนี้ อย่างไรก็ตาม เขาต้องทำหน้าที่ของเ
ถ้าแจสเปอร์แพ้ไปอย่างง่าย ๆ แซคคารีจะเชื่อใจแจสเปอร์ได้มากพอที่จะใช้เวลาพักผ่อนเพื่อสุขภาพในเวลาสำคัญเช่นนี้ได้อย่าง?ตระกูลลอว์จะมั่นใจได้อย่างไรขณะที่วางเดิมพันก้อนใหญ่ไว้กับเขา?บทสนทนาภายในห้องโถงดังเซ็งแซ่ไม่ขาดสายอำนาจทางการเงินและความกล้าหาญของแจสเปอร์ทำให้ผู้คนจำนวนมากต้องตกตะลึงถ้าเขาสามารถถอนเงินสดจำนวน 100 ล้านฮาร์เบอร์ดอลลาร์ได้ คงไม่มีใครมองว่าหัวใจเทพธิดาจะมีมูลค่า ๆ จริงเท่าไหร่ 100 ล้านฮาร์เบอร์ดอลลาร์คงเพียงพอที่จะทำลายท่าทีที่เย่อหยิ่งของเซน แลนแคสเตอร์ท่าทีมืดมนปรากฏขึ้นบนสีหน้าของเซน แจสเปอร์เสนอราคาประมูลเพิ่มขึ้นถึงขีดสุดไม่มีทางที่เขาจะประมูลต่อจากนี้ได้เขาที่เย่อหยิ่งและพอใจกับตัวเองมากจนกระทั่งไม่กี่วินาทีต่อมา เขาหัวเราะเยาะออกมาทันที “ก็ได้ ก็ได้ แกเก่ง เครื่องประดับชิ้นนี้มีค่าแค่ขีดสุดของไม่กี่หมื่นฮาร์เบอร์ดอลลาร์ เจ้าโง่นี่ซื้อมันในราคา 100 ล้านฮาร์เบอร์ดอลลาร์จริง ๆ แกไม่รู้เหรอว่าคนอื่นแค่มองแกเป็นคนโง่ในตอนนี้?”“ดูเหมือนแกไม่ใช่แค่หมานะ แกเป็นไอ่โง่ ปัญญาอ่อนตัวหนึ่ง”ลืมคนอื่นไปได้เลย แม้แต่พี่น้องตระกูลลอว์ก็รู้สึกตะลึงกับราคาประมูลนั
เพชรสีชมพูเรืองแสงเบา ๆ ภายใต้แสงไฟ แต่ความสุกสกาวของมันดูเหมือนทำให้สายตาของทุกคนมืดบอดภายในห้องโถงงานเซนพูดไม่ออกด้วยความตกตะลึง เขาจ้องไปที่เพชรสีชมพูในมืองของแอนนาอย่างไม่เชื่อเป็นที่สุดตอนนั้น เซนรู้สึกถึงหน้าที่กำลังด้านชาเป็นแบบนี้ได้อย่างไร?เป็นไปได้อย่างไรที่ของประดับไร้ค่าที่แจสเปอร์ซื้อโดยไม่คิดมาก กลายเป็นสมบัติที่ประเมินค่าไม่ได้?แม้ว่าจะไม่ได้มาจากอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับและเป็นคนหนึ่งในตระกูลเศรษฐี เซนได้เห็นของมีค่ามากมายกว่าคนทั่วไปดังนั้น เขาจึงบอกได้ง่าย ๆ เมื่อเห็นบางอย่างที่มีค่าเพชรสีชมพูเม็ดนี้ไม่ใช่ของที่มีมูลค่าต่ำอย่างแน่นอน!มันรู้สึกราวกับว่ามีหมัดที่มองไม่เห็นซัดเข้าที่หน้าของเขาอย่างจังจนปูดบวมไปหมดเซนกัดฟันขณะที่เลือดขึ้นหน้า เขารู้สึกอิจฉามากที่เขากำลังจะเสียมันไปในตอนนี้ เขาดูเหมือนจะเป็นแค่คนโง่ที่ยุ่งอยู่กับการสร้างความสนุกสนานให้กับตัวเองอยู่แค่นั้นโดยใช้คำพูดเหยียดหยามและดูถูกแจสเปอร์“หัวใจเทพธิดามีความลับซ่อนอยู่จริง ๆ งั้นเหรอ?”มิชท์ แลงดอนบ่นพึมพำเสียงดัง เขาไม่เชื่อสถานการณ์นี้เช่นกันคำพูดของเขาเป็นตัวแทนความคิดข
ทุกคนรู้ดีว่าถ้าเพชรสีชมพูนี้ถูกนำมาประมูลอย่างเป็นทางการ มันจะสามารถขายในราคาที่สูงมากกว่านี้สายตาและท่าทีของทุกคนเปลี่ยนไปอย่างทันที พวกเขามองที่แจสเปอร์ราวกับเขาเป็นเทพเจ้าองค์หนึ่งเขาเป็นคนแบบไหนที่สามารถมีข้อมูลเชิงลึกที่แม่นยำและเฉียบแหลมเช่นนี้?เขารู้ความลับของหัวใจเทพธิดาได้อย่างไร?“ผมได้มอบมันให้กับแอนนาแล้ว มันไม่ใช่ของขาย” แจสเปอร์กล่าวอย่างจริงจังด้วยประโยคนั้น เขาได้ปฏิเสธอย่างหนักแน่นกับโอกาสที่จะทำกำไรกว่า 200 ล้านฮาร์เบอร์ดอลลาร์ท่าทีทางสีหน้าของแจสเปอร์นั้นเงียบสงบและไม่ต่างไปจากเดิมซึ่งดูเหมือนกับเขาเพิ่งจะปฏิเสธไข่ตุ๋นที่นำมาเสิร์ฟให้ในช่วงมื้อเช้า“นั่นมันช่าง...น่าเสียดาย”ประธานรู้สึกใจสลาย เขาคืนเพชรสีชมพูให้กับแอนนนา เขาไม่มีทางเลือกอื่น ถ้าแจสเปอร์ไม่ปรารถนาที่จะขายมัน มันก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะฉกมันไปใช่ไหม?แอนนาจ้องดูเพชรสีชมพูในมือของเธออย่างตะลึงงัน ทันใดนั้นเอง เธอพบว่าตัวเองกำลังเผชิญกับการกลืนไม่ได้คายไม่ออกเล็กน้อย“นี่มันมีค่ามากเกินไปค่ะ!”แอนนาอยากที่จะคืนเพชรสีชมพูให้กับแจสเปอร์ถ้ามันเป็นแค่หัวใจเทพธิดา แอนนาคงกล้าที่จะรับมันไว้เป
“ฮ่าฮ่าฮ่า”ไมเคิล เลนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะของเหล่าผู้นำ หัวเราะเสียงดังออกมา“แซคคารี แจสเยี่ยมมากจริง ๆ!”ไมเคิลแสดงความชื่นชมแจสเปอร์อย่างเปิดเผยเหล่าผู้นำคนอื่น ๆ มองไปที่ไมเคิลด้วยความไม่พอใจ ไมเคิลมักจะอยู่ฝั่งแซคคารีอยู่เสมอ ไม่มีความจำเป็นที่เขาจะแสดงท่าทีสนับสนุนเขาในตอนนี้อย่างไรก็ตาม แม้แต่พวกเขาเองก็ปฏิเสธความจริงที่แจสเปอร์เดินหมากอย่างยอดเยี่ยมไม่ได้แซคคารียิ้มออกมาอย่างสดใส “เจ้าเด็กนี่ก็เป็นแบบนั้นเสมอแหละ” เขากล่าวแม้ว่าเขากำลังพูดด้วยน้ำเสียงปกติ แต่การเลือกใช้คำของเขาได้สะท้อนว่าเขาชื่นชมและเชื่อมั่นกับแจสเปอร์มากแค่ไหนอนิจจา ผู้นำของตระกูลลอว์คงไม่ได้แค่เรียกใคร ๆ ว่า “เจ้าเด็กนี่”นี่เป็นวิธีที่คนแกเรียกเด็ก ๆ ของเขาหรือของเธอกันแน่แซคคารีและไมเคิลต่างอารมณ์ดีกันทั้งคู่ ตรงกันข้ามกับท่าทีของบ๊อบ แลนแคสเตอร์ และเคนเนดี้ แลงดอน ที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่พวกเขาไม่ได้ร่วมการสงครามน้ำลายนั้นด้วยตัวเอง แต่ใคร ๆ ก็บอกได้ว่าลูกชายของเขาได้พ่ายแพ้ให้กับแจสเปอร์แล้วเมื่อลูกชายของพวกเขาถูกทำให้น่าขายหน้าแล้ว พวกเขายังจะมีเกียรติอะไรอีก?เหล่าผู้นำตระกูลทั้งหลายไม่
แซคคารีส่ายหน้าและหัวเราะเสียงดังเขาขบขันเป็นที่สุด เขาจะไม่พลาดโอกาสที่จะเยาะเย้ยเคนเนดี้ แลงดอนนี้ไปอย่างที่คาดไว้ เคนเนดี้มีท่าทีที่โกรธมากเหล่าผู้นำคนอื่น ๆ หัวเราะอย่างมีความสุขหลังจากที่จ้องตากันไปมาสถานการณ์ของทั้งคู่เกิดขึ้นระหว่างการประมูลและพัวพันกับการประลองความร่ำรวยแต่ถึงอย่างไร คนที่มีอำนาจเหนือกว่าระหว่างมิทช์และแจสเปอร์คงเห็นกันได้อย่างง่าย ๆ “มิสเตอร์มิทช์ แลงดอน ได้ให้ราคาที่ 100 ล้านฮาร์เบอร์ดอลลาร์สำหรับถ้วยลายครามสีฟ้าและขาวใบนี้ นับหนึ่ง”“นับสอง”“นับสาม ปิดการประมูล! ยิน...ยินดีกับมิสเตอร์มิทช์ แลงดอนด้วยครับ” เจ้าภาพประกาศออกมาและไม่กล้าที่จะมองไปที่มิทช์ซึ่งมีสีหน้าที่สลักไปด้วยความดุร้าย เขาเริ่มการประมูลของชิ้นถัดไปหลังจากที่จบขั้นตอนประมูลของชิ้นก่อนหน้าอย่างเร่งรีบของที่ถูกนำมาประมูลได้ลดลงทีละนิดทีละหน่อย แจสเปอร์ไม่ได้เข้าร่วมประมูลของชิ้นไหนเลยหลังจากนั้นด้วยท่าทีที่เหมือนจะฆ่าสลักบนใบหน้าของเขา มิทช์ยังคงโกรธหนัก แต่ถึงอย่างไร เซน แลนแคสเตอร์ ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ มิทช์ เริ่มรู้สึกกังวลเขารู้สึกกระวนกระวายใจเป็นอย่างมากเขาไม่ได้เข้าร
“ฮ่าฮ่าฮ่า นี่มันขำท้องแข็งเลยว่ะ ดูหน้าเจ้านั่นสิ มันดูเหมือนกับเพิ่งถูกลาถีบหน้ามาอย่างนั้นเแหละ ฮ่าฮ่าฮ่า…”เมื่อเฮนรี่ ลอว์เริ่มจองหองพองขนขึ้น เขาไม่สนว่าเซนเป็นลูกชายของบ๊อบ แลนแคสเตอร์หรือเปล่า เขาด่าว่าเซนอย่างไม่สนหน้าไหน ๆ เลยหลังจากที่ได้ยินสิ่งที่เขาพูด ท่าทีของทุกคนจึงแปลกไป พวกเขาอยากหัวเราะแต่ไม่กล้าพอ การกลั้นหัวเราะไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยเซนรู้สึกโกรธแค้นมากจนแทบจะกระอักเลือด อย่างไรก็ตาม เขาไม่กล้าจะทำอะไรกับเฮนรี่ ลอว์ เขาทำได้แค่ข่มความโกรธเอาไว้ และจ้องไปยังทั้งเฮนรี่และแจสเปอร์ด้วยสายตาแห่งความโกรธแค้นการประมูลที่ใกล้ดำเนินมาถึงตอนจบได้ยุติละครฉากเด็ดเอาไว้อย่างไรก็ตาม ทุกคนรู้สึกกล่อยกับส่วนที่เหลือของการประมูลพวกเขาเพิ่งจะรับชมแจสเปอร์ปะทะกับมิทช์และเซนในมหากาพย์สองการประลอง อย่างอื่นกลับจืดชืดไปเมื่อเทียบกับเรื่องนั้นหลังจากที่การประมูลจบลง เจ้าภาพรีบลงจากเวทีขณะที่เหงื่อไหลไคลย้อย เขาลืมแม้กระทั่งกล่าวทักทายทุกคนในห้องโถงการประมูลครั้งนี้ถือว่าเป็นรอยแผลที่บาดลึกลงไปในจิตใจ และคงลืมไม่ลงตราบที่เขายังมีชีวิตอยู่เขาคงถูกลากออกไปได้ง่าย ๆ แม้ว่าเข