คำพูดของแจสเปอร์ทำให้จูเลียนประทับใจ แน่นอนว่า เขาไม่ต้องการทำผิดกฎหมายหากเป็นไปได้ มันจะสำคัญอะไร กับการที่เขาแข็งแกร่งแบบนี้? เขาสามารถต่อสู้กับกฎหมายได้งั้นเหรอ? ในช่วงเวลานี้ เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่า ความแข็งแกร่งส่วนบุคคลไม่ได้มีความหมายอะไรในโลกใบนี้ ความมั่งคั่งและอำนาจเท่านั้นที่มีความสำคัญ สำหรับแจสเปอร์ ท่าทางที่สงบและไม่เร่งรีบของเขาตั้งแต่เริ่มต้น ทำให้เขามีพลังมากกว่ามาร์คหรือสตีฟมาก “ผมจะเชื่อใจคุณได้ยังไง?” จูเลียนถาม แจสเปอร์หัวเราะคิกคักเมื่อรู้ว่าจูเลียนกำลังเปลี่ยนใจ “มาร์คให้เท่าไหร่ล่ะ?” “1 ล้านดอลลาร์” จูเลียนตอบอย่างตรงไปตรงมา “ไม่เห็นจะเยอะอะไรเลย” แจสเปอร์พูดเบา ๆ จากนั้นแจสเปอร์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เขาโทรศัพท์ต่อหน้าจูเลียน “สวัสดี มิสเตอร์แลมเบิร์ต นี่ผมเอง ถอนเงินสดสองล้านดอลล่าร์ ออกจากห้องนิรภัยของบริษัททีนะ คุณมีเวลา 30 นาที” จากนั้นแจสเปอร์วางสายและหันไปหาจูเลียนเพื่อพูดว่า “งั้นเรานั่งคุยกันก่อนได้ไหม?” จูเลียนจ้องไปที่แจสเปอร์อย่างตั้งใจ ก่อนจะพยักหน้า แจสเปอร์เลี้ยงอาหารเย็นจูเลียนในศูนย์อาหาร เขาอิ่มและไม่รู้สึกอยากกินอะไ
แจสเปอร์ยังคงสงบ ในขณะที่เขาแตะแขนเวนดี้เพื่อส่งสัญญาณให้เธอสงบลง “ผมจะดูแลคุณทั้งสองเอง” แจสเปอร์กล่าว เวนดี้พยักหน้าและพูดอย่างโกรธเคือง “แจส คราวนี้คุณต้องสั่งสอนพวกเขานะ” “สั่งสอนพวกเขาเหรอ?” แจสเปอร์ยิ้มขณะที่เขาพูดช้า ๆ “ผมสอนบทเรียนให้พวกเขาไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะยังไม่ได้สัมผัสกับความเป็นจริงเลย บทเรียน… ไม่เพียงพอสำหรับคนอย่างพวกเขา” แจสเปอร์ยิ้ม แต่เวนดี้รู้ว่าเขาโกรธจากการที่เขาจับมือเธอ เวนดี้รู้ว่าแจสเปอร์โกรธมาก เพราะมาร์คมีเจตนาร้ายต่อเธอ หัวใจของเธอพองโตด้วยความอบอุ่นของความรู้นั้น “ฉันมีเรื่องจะรบกวนนายนิดหน่อย” แจสเปอร์พูดกับจูเลียนว่า “โทรหาพวกเขา แล้วบอกพวกเขาว่าแผนของนายสำเร็จแล้ว” จูเลียนไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขาสัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือก ที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความสงบบนใบหน้าของแจสเปอร์ เขาพยักหน้าและหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อโทรโดยไม่ถามอะไรเพิ่มเติม ... ในร้านอาหารใกล้โรงแรมแมริออท มาร์คและสตีฟกำลังสูบบุหรี่ ขณะที่พวกเขาจ้องไปที่โทรศัพท์ที่เงียบอยู่บนโต๊ะ มันสร้างความตื่นตระหนกในตัวพวกเขา จู่ ๆ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น สตีฟรับสายทันที
มาร์คและสตีฟรู้สึกราวกับว่าพวกเขากำลังจะบ้า ความอิ่มเอมใจของพวกเขาตกลงมาจากสวรรค์สู่ขุมนรก ในนาทีที่พวกเขาเห็นแจสเปอร์… พวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำยังไง พวกเขาไม่รู้จริง ๆ ว่าต้องทำยังไง ในจินตนาการของพวกเขา แจสเปอร์กำลังนอนจมกองเลือดอยู่ และพร้อมที่จะสาปแช่งหรือคุกเข่าอ้อนวอนเมื่อเห็นพวกเขา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาไม่ควรนั่งบนโซฟาแล้วจิบไวน์แดง ราวกับว่าเขากำลังรอการมาถึงของพวกเขา!? ใครคือผู้บงการวางวางแผนไว้อย่างประณีต? สตีฟเริ่มเหงื่อออกพราก ในขณะที่เขาตื่นตระหนก ริมฝีปากของมาร์คสั่นสะท้าน แววตาของเขาวาววับ ตามสัญชาตญาณ ทั้งสองมองไปที่จูเลียนพร้อมกัน จูเลียนมีสีหน้าสงบขณะเดินไปตรงโซฟาที่แจสเปอร์นั่งอยู่ เขาคอยยืนเฝ้าระวัง คำตอบที่มาร์คไม่เต็มใจที่จะยอมรับผุดขึ้นในใจของเขา ขณะที่เขามองไปที่จูเลียน ซึ่งจ้องมองกลับมาด้วยท่าทางที่ไม่แยแส พวกเขาถูกจูเลียนหักหลัง! “จูเลียน ลาเกอร์ แกกล้าหักหลังฉันงั้นเหรอ!?” สตีฟจ้องที่จูเลียนด้วยความตกใจและคำรามด้วยความโกรธ หลังจากเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น จูเลียนไม่ตอบ เขาทำเหมือนไม่ได้ยินอะไรเลย มาร์คโกรธมากจนหันหลังไปตบสตีฟ เขากัดฟัน
มาร์คร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ขณะที่เขาเดินถอยหลังโดยเอามือกุมหัวไว้ เลือดไหลออกมาระหว่างซอกนิ้วของเขา แจสเปอร์หยิบผ้าเช็ดปากเช็ดรอยเปื้อนบนนิ้วอย่างระมัดระวัง สายตาที่เขาจ้องมองมาที่มาร์คและสตีฟนั้นเย็นชาจนแทบเป็นไปไม่ได้ “เป็นเรื่องปกติที่นายต้องการโจมตีฉัน แต่ผู้ชายจะดูกันที่ความสามารถ “ถ้าฉันแพ้ แสดงว่าความสามารถของฉันยังไม่เพียงพอ และฉันควรมอบตัวกับนาย “นั่นหมายความว่า นายก็ควรทำเช่นเดียวกัน หากนายแพ้ “นายไม่ควรนำความคิดสกปรก ๆ ของนาย มาคิดกับผู้หญิงของฉันแบบนี้เลยนะ” มาร์ครู้สึกว่าหัวของเขาสั่นและหมุน ในขณะที่เขายกมันขึ้นเพื่อมองแจสเปอร์ ในขณะนั้นเขาไม่สนใจที่จะเสี่ยงอีกต่อไปและตัดสินใจ เขาพูดพร้อมกับยิ้มอย่างชั่วร้ายว่า “หยุดพล่ามและหุบปากของแกซะ! แน่นอน แกชนะแล้ว! “ฆ่าฉันสิ ถ้าแกทำได้! “แต่แกกล้าไหมล่ะ? “แกกล้าฆ่าฉันจริง ๆ งั้นเหรอ? “แกจะต้องชดใช้ทั้งชีวิต ถ้าแกฆ่าฉัน!“ฉันเป็นทายาทคนเดียวของตระกูลไซออน แกจะกล้าฆ่าฉันทั้งที่แกอยู่ในเมืองบรัคงั้นเหรอ?” แจสเปอร์หัวเราะ เมื่อเขามองมาที่มาร์คซึ่งยังคงยืนกรานที่จะพูดเป็นครั้งสุดท้าย แม้ว่าจะไม่มีทางหนีจากเขาได
สตีฟตัวสั่น เมื่อได้ยินสิ่งที่แจสเปอร์พูด เขารู้อะไรบางอย่าง เพียงแค่ฟังมาร์คพูด ซึ่งก็คือ แจสเปอร์ใช้วิธีบางอย่างจัดการกับมาร์ค ไม่เพียงแต่ครอบครัวไซออนทั้งหมดต้องประสบกับความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง จากนั้นเขาก็จำได้เมื่อได้พบกับมาร์คในวันนี้ มาร์คมีรอยมือบนใบหน้าของเขาและโกรธมากจนเขาไม่สามารถรอที่จะกลืนกินแจสเปอร์ทั้งตัว… สตีฟตระหนักว่าตอนนี้เขากำลังมีปัญหาอย่างมาก เขาไม่ได้มีพื้นฐานที่แข็งแกร่งเท่าของมาร์ค ครอบครัวของเขาไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นครอบครัวอันทรงเกียรติ บริษัทของครอบครัวเขาเป็นเพียงบริษัทมีชื่อเสียง และมีอำนาจเพียงเล็กน้อยในเมืองบรัคเท่านั้น... ด้วยทุนเพียงเล็กน้อยนี้ เขาจะต่อสู้กับแจสเปอร์ที่อาจทำให้ครอบครัวไซออนต้องสูญเสียอย่างย่อยยับได้อย่างไร? “แจสเปอร์ เราเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันนะ… เราเป็นเพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลายมาสามปีเต็ม นายยังจำเรื่องนั้นได้ใช่ไหม? “ฉันรู้ว่าฉันทำผิดพลาด ฉันจะคุกเข่ากับนายยังไงดี? ฉันจะคุกเข่าขอโทษ!” ขณะที่เขาพูด สตีฟคุกเข่าและต่อยตัวเองโดยไม่ลังเลต่อหน้าแจสเปอร์ สตีฟทุ่มสุดตัวเพื่อพยายามมีชีวิตอยู่ เขาต่อยหน้าตัวเองแรง ๆ หลายครั
“ทำในสิ่งที่คุณควรจะทำ พรุ่งนี้จะไม่มีธนาคารใดในเมืองบรัคที่จะออกเงินกู้ให้กับฟิวเจอร์ อินดัสทรีส์ และพวกเขาจะเริ่มเรียกร้องการชำระเงินสำหรับเงินกู้ที่ได้ดำเนินการไปแล้ว” เมื่อแจสเปอร์พูดจบ เขาไม่รอคำตอบที่น่าประหลาดใจของซาเวียร์ก่อนจะวางสาย ในขณะนั้น สตีฟรู้สึกว่าศีรษะของเขาชาขณะที่จ้องมองแจสเปอร์ แจสเปอร์กำลังจะฆ่าทั้งครอบครัวของเขา! “อะไร… นายกำลังทำอะไร! เรียกใครมา!?” เสียงของสตีฟสั่นขณะที่เขาถาม “ใครล่ะ ที่จะสนุกที่สุดที่ได้เห็นฟิวเจอร์ อินดัสทรีส์ในเมืองบรัคย่อยยับทั้งหมด?” แจสเปอร์ถามอย่างใจเย็น สตีฟตัวสั่นเมื่อเขาคำราม “นายต้องการจะทำอะไรกันแน่!” แจสเปอร์ไม่สนใจสตีฟ เป็นเพราะ ฮาร์วี่ย์ ไซออน มาถึงแล้ว ฮาร์วี่ย์กำลังคุยกันเรื่องกลวิธีกับพี่น้องของเขา เมื่อตอนที่มาร์คโทรหาเขา คำสั่งซื้อทั้งหมดสำหรับบริษัทต่อเรือของพวกเขาถูกยกเลิก และเมืองฮาร์เบอร์ปฏิเสธที่จะให้โอกาสพวกเขาในการเจรจา ฮาร์วี่ย์ไม่สามารถเก็บเป็นความลับจากพวกเขาได้ แม้ว่าเขาจะพยายามแล้วก็ตาม ความสัมพันธ์ในธุรกิจของครอบครัวเป็นสิ่งที่ซับซ้อน ฮาร์วี่ย์อาจเป็นหัวหน้าครอบครัว แต่เขาก็ยังไม่อยู่ในจุด
“พ่อครับ เรื่องทั้งหมดแจสเปอร์เป็นคนทำ! “เขาเป็นคนที่ติดต่อกับคนที่เมืองฮาร์เบอร์! “เราทุกคนถูกเขาหลอก!” ในที่สุดมาร์คก็พบโอกาสที่จะตะโกนออกมาอย่างสิ้นหวัง เขาฟังดูน่าสังเวช ราวกับว่าในที่สุดเขาก็มีโอกาสได้นอนกับหญิงสาวสวยคนหนึ่ง แต่กลับกลายเป็นว่าเธอตัวใหญ่กว่าเขามากนัก ดวงตาของฮาร์วี่ย์เบิกกว้างหลังจากได้ยินเช่นนั้น เขาจ้องที่แจสเปอร์อย่างไม่เชื่อ สีหน้าและแววตาของเขาดูเหมือนกับที่มาร์คแสดงให้เห็นก่อนหน้านี้ จากนั้นฮาร์วี่ย์ก็หัวเราะ "ไม่เลว ฉันเดินทางไปรอบ ๆ เมืองบรัค มาเป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันมีวัยรุ่นมาวิ่งวนรอบตัวฉัน “นายคือ แจสเปอร์ เลน ใช่ไหม? ทำได้ดีนี่ ช่างบริหารชีวิตอย่างน่าอัศจรรย์” ฮาร์วี่ย์ผลักผู้คุ้มกันของเขาออกไป และจ้องตรงเข้าไปในดวงตาของแจสเปอร์ในขณะที่เขาพูดอย่างใจเย็น “นายได้พิสูจน์ตัวเองแล้ว โดยสามารถหลอกฉันได้ในวัยนี้ บอกฉันมา ว่านายต้องการอะไร?” แจสเปอร์ยืนอยู่หลังโซฟาโดยใช้มันเพื่อพักแขน ดูเหมือนว่าเขาจะยิ้มในขณะที่จ้องมองไปที่ฮาร์วี่ย์ และพูดอย่างเย็นชาว่า “คุณคิดว่าผมทำทั้งหมดนี้ เพื่อพิสูจน์คุณค่าของผมต่อคุณงั้นเหร
ใบหน้าของฮาร์วี่ย์เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ในขณะที่เขากำหมัดและคำรามเหมือนสัตว์ที่ได้รับบาดเจ็บ “เราควรทำยังไงงั้นเหรอ? ฉันจะไปรู้ได้ยังไงวะ!” ฮาร์วี่ย์จ้องมาที่มาร์ค ก่อนจะยกมือขึ้นตบหน้ามาร์คดังก้องไปทั่วห้อง “ฉันบอกให้นายมาขอโทษ ขอโทษแบบนี้ก็ได้เหรอ! ฮะ?!" ขณะที่ฮาร์วี่ย์ตะโกน เขาหน้ามืดและเกือบจะทรุดตัวลงบนพื้น ในท้ายที่สุด เขากัดฟันและพูดว่า “ตระกูลไซออนจะรักษาอำอาจทุกอย่างเท่าที่ทำได้ สำหรับส่วนที่เหลือ… เราค่อยว่ากันในอนาคต!” ... แจสเปอร์หาห้องทำงานอีกห้องหนึ่ง เพื่อที่เขาจะได้ไม่รบกวนการนอนของเวนดี้ เมื่อแจสเปอร์กลับมาพร้อมกับจูเลียน เขาพบว่าเวนดี้ขดตัวอยู่บนโซฟาอย่างเกียจคร้านและดูโทรทัศน์ “เสร็จแล้วเหรอ?” เวนดี้ถาม "ใช่ เสร็จแล้ว" แจสเปอร์พยักหน้าและถามเบา ๆ “คุณยังไม่นอนอีกเหรอ?” “ฉันกำลังรอคุณอยู่” เวนดี้ตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง แจสเปอร์หัวเราะเบา ๆ “มันประสบความสำเร็จ เราน่าจะสามารถย้ายโครงการไปแนวหน้าได้ในวันพรุ่งนี้” “คุณวางแผนจัดการกับตระกูลไซออนยังไงเหรอ?” เวนดี้ถามด้วยความสงสัย แจสเปอร์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ครอบครัวไซออนมีธุรกิจหลายอย่าง แต่มีเพีย