“คุณนายฮั่ว ฉันลืมถามเธอไปหนึ่งคำถาม” โม่ซิวหย่วนเอ่ยอย่างชั่วร้าย
ถามเธอเหรอ?
โม่ซิวหย่วนยกโทรศัพท์ตนเองขึ้นอย่างตั้งใจ “คุณนายฮั่วคิดว่าระหว่างฉันกับคุณฮั่ว ใครจะชนะพนันกันนะ?”
จากท่าทางการยกโทรศัพท์ขึ้นของเขา เฉียวสือเนี่ยนก็เข้าใจทันทีว่าโม่ซิวหยวนหมายถึงอะไร
ก่อนหน้าที่เธอริเริ่มเก็บหมายเลขโทรศัพท์ของโม่ซิวหย่วนเอาไว้ และบอกว่าเธอต้องการขอคำแนะนำเพื่อหาเงิน ก็เพราะเธอคิดว่าโม่ซิวหยวนเก่งกว่าฮั่วเยี่ยนฉือ
คำถามนั้นของโม่ซิวหยวนไม่เพียงแต่ทำให้เธออับอายเท่านั้น แต่ที่สำคัญกว่าคือต้องการยั่วยุฮั่วเยี่ยนฉือ
เฉียวสือเนี่ยนหัวเราะออกมาอย่างแผ่วเบา พร้อมเอ่ยพูดหยั่งเชิง “การเดิมพันครั้งนี้ไม่ได้ใช้เพียงความแข็งแกร่งเท่านั้นแต่ยังต้องมีโชคด้วย”
“งั้นคุณนายฮั่วคิดว่าโชคชะตาของฉันเป็นอย่างไรล่ะ?”
“ฉันบอกไม่ได้หรอกค่ะ แต่ฉันหวังว่าโม่ฉาวฉีจะได้รับชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่”
โม่ซิวหย่วนยังคงต้องการพูด แต่ฮั่วเยี่ยนฉือกดเลื่อนกระจกรถขึ้นเพื่อตัดจบบทสนทนาระหว่างพวกเขาทั้งคู่
“เธอไปสนิทกับเขาขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่”
หลังจากเฉียวสือเนี่ยนหันหน้ากลับมา ฮั่วเยี่ยนฉือก็ไม่รีรอที่จะเอ่ยถามออกมา
เฉียวสือเนี่ยนเสยผมยาวของเธออย่างตั้งใจพลางเอ่ย “ตอนนี้ฉันไม่สนิทกับเขาล่ะ”
แต่ในอนาคตไม่แน่หรอกนะ
——ธนาคารเพื่อการลงทุนของโม่ซิวหย่วนมีอนาคตที่สดใส ซึ่งเป็นการที่ที่เหมาะแก่การทำเงิน
แต่การไปทำที่ธนาคารของโม่ซิวหย่วน นั่นหมายถึงการแสดงตัวเป็นปรปักษ์กับฮั่วเยี่ยนฉือ
แม้ว่าเธอจะไม่พอใจอย่างมากที่ฮั่วเยี่ยนฉือละเลยเธอและส่งเธอไปโรงพยาบาลจิตเวช แต่เดิมทีฮั่วเยี่ยนฉือไม่ได้มีอารมณ์ความรู้สึกอะไรกับเธอเลย เป็นตัวเธอเองที่อยากคอยตามรบกวนเขา
ดังนั้น เธอยังไม่ได้ตัดสินใจว่าไปหรือไม่ไป
ฮั่วเยี่ยนฉือเข้าใจว่าเฉียวสือเนี่ยนหมายถึงอะไร และแค่นเสียงหัวเราะเย็นชาอย่างคลุมเครือ
ไม่นานมากนักไฟจราจรก็เปลี่ยนเป็นสีเขียว ขณะนั้นโม่ซิวหย่วนก็เหยียบคันเร่งแซงนำฮั่วเยี่ยนซีไป
จากนั้นก็มาขวางหน้ารถของฮั่วเยี่ยนฉือเอาไว้ และขับอย่างช้า ๆ
เมื่อฮั่วเยี่ยนซีไปทางซ้ายเขาก็ไปทางซ้าย ฮั่วเยี่ยนซีไปทางขวาเขาไปทางขวา ไม่ให้ฮั่วเยี่ยนซีมีโอกาสได้แซงเขาเลย
แม้ว่าเฉียวสือเนี่ยนจะไม่ได้เป็นคนขับรถ แต่เธอก็ยังรู้สึกว่าโม่ซิวหย่วนทำเกินไปหน่อย
“นั่งให้ดี”
หลังจากโดนโม่ซิวหย่วนยั่วยุ จู่ ๆ ฮั่วเยี่ยนฉือก็เอ่ยออกมา
เฉียวสือเนี่ยนหันศีรษะ ใบหน้าหล่อเหลาฮั่วเยี่ยนฉือไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมา ดวงตาคมสีดำลึกคู่หนึ่งจ้องมองไปข้างหน้าด้วยสายตาเรียบเฉย
ภายในใจของเฉียวสือเนี่ยนมีความรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่นัก
“คุณ——กรี๊ด”
เฉียวสือเนี่ยนเพิ่งเอ่ยออกมาแค่หนึ่งคำ ฮั่วเยี่ยนฉือก็เหยียบคันเร่งอย่างกะทันหัน รถยนต์โลดทะยานไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว
เฉียวสือเนี่ยนยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง ก็เกิดเสียงดัง “ปัง” ดังมาจากด้านหน้ารถ ฮั่วเยี่ยนฉือชนท้ายโม่ซิวหย่วนเข้าอย่างจัง
“เอี๊ยด—.”
ยางรถเสียดสีกับพื้นถนนจนเกิดเสียง ทันใดนั้นร่างของเฉียวสือเนี่ยนก็เหวี่ยงตัวไปด้านหน้าก่อนจะเอนตัวไปด้านหลังอีกครั้ง
เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นด้วยความหวาดผวา ก็เห็นว่าโม่ซิวหย่วนไม่ได้หยุดรถ แต่เขากลับพุ่งไปข้างหน้าอีกสองสามเมตร
ต่อมารถของโม่ซิวหย่วนก็ส่งเสียง “ตูม” ดังขึ้น ก่อนจะถอยหลังมาอย่างรวดเร็วและพุ่งชนรถของพวกเขา
แม้ว่าฮั่วเยี่ยนฉือจะตอบสนองได้ทันเวลา และรีบเบี่ยงรถไปด้านข้าง แต่ก็ยังถูกรถของโม่ซิวหยว่นชนจนทำให้รถหักเลี้ยวและชนกับต้นไม้ใหญ่ข้างถนน
————
จากการชนอย่างหนักหน่วงถึงสองครั้ง ทำให้เสียวฉือเนี่ยนเกือบหลุดออกจากเก้าอี้
ในขณะนี้กระจกรถแตกกระจาย เมื่อเห็นว่าเศษกระจกกำลังจะกระเด็นใส่ตนเอง เฉียวสือเนียนจึงรีบเอามือบังศีรษะตนเองเอาไว้ด้วยความตกใจ
ความเจ็บปวดที่เธอจินตนาการเอาไว้ไม่ได้เกิดขึ้น ศีรษะของเธอถูกแผงอกแกร่งปกป้องเอาไว้
ยิ่งได้ยินเสียงหัวใจที่ดังกระชั้นใกล้หูของเธอ หัวใจของเฉียวสือเนี่ยนดูเหมือนจะเต้นผิดจังหวะขึ้นมา
ในโลกก่อนหน้าของเธอ เธอแอบฉวยโอกาสขณะที่เขากำลังเมา นอนบนแผงอกของฮั่วเยี่ยนฉือ และแอบฟังเสียงหัวใจที่กำลังเต้นของเขา
มันไม่เต้นเร็วเท่าตอนนี้
ฮั่วเยี่ยนฉือกำลังเป็นห่วงเธออยู่อย่างนั้นเหรอ?
“ไม่เป็นอะไรแล้วก็ลุกขึ้นมา”
ฮั่วเยี่ยนฉือเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำและร้อนใจเล็กน้อย
มือของฮั่วเยี่ยนฉือที่วางบนศีรษะของเธอถูกผละออกอย่างรวดเร็ว เฉียวสือเนี่ยนจึงรีบหยัดตัวขึ้นนั่งตัวตรง
เมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ เฉียวสือเนี่ยนรู้สึกโกรธขึ้นมา “คุณบ้าไปแล้วเหรอ ไม่นึกเลยว่าคุณจะชนตรง ๆ —.”
เธอยังไม่ทันเอ่ยจบ ฮั่วเยี่ยนฉือก็เตะประตูออกแล้วลงจากรถ
“ลงมา อย่ามัวแต่นั่งมึนอยู่บนรถ”
ฮั่วเยี่ยนฉือยังยื่นมือมาทางเธอ โดยไม่รีรอคำสั่ง
“……”
เห็นได้ชัดว่าเขานั่นแหละที่เป็นบ้าชนรถคนอื่น แล้วทำไมถึงดูเหมือนเป็นความผิดของเธอกันล่ะ?
เฉียวสือเนี่ยนโกรธ
ประตูด้านข้างฝั่งเธอชนต้นไม้เข้า จึงไม่สามารถเปิดได้ ถ้าอยากออกไปต้องออกทางฝั่งคนขับเท่านั้น
ชีวิตของเธอตกอยู่ในอันตราย ดังนั้นเฉียวสือเนี่ยนจึงไม่ได้อารมณ์เสียใส่ฮั่วเยี่ยนฉือ เธอก้าวข้ามคอนโซลรถตรงกลางอย่างยากลำบาก ไม่สนใจมือของฮั่วเยี่ยนฉือที่ยื่นมาให้ และปีนออกมาด้วยตัวของเธอเอง
อย่างไรก็ตามเมื่อเธอลงจากรถ ศีรษะของเธอก็ชนประตูรถอย่างไม่ได้ตั้งใจ และเกือบจะล้มลง แต่ฮั่วเยี่ยนฉือยื่นมาคว้าตัวเธอเอาไว้ได้ทัน
เมื่อรู้สึกถึงฝ่ามืออันอบอุ่นบนเอวของเธอ เฉียวสือเนี่ยนเดินออกมาด้วยความไม่สบายใจ ก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว
กระโปรงด้านหน้าของรถมายบัคบุบจนเละ กระจกแตกทั้งสองบาน ด้านข้างรถเองก็มีรอยบุบและมีควันสีขาวฟุ้งกระจาย
ในเวลานี้ รถหลายคันหยุดรถและคอยมองดูจากด้านข้าง ยังมีคนหลายคนที่กำลังถอนหายใจออกมา
“รถคนนี้กลายเป็นเศษซากไปแล้ว น่าเสียดายรถดี ๆ แบบนี้!”
“นั่นน่ะสิ คันข้างหน้าเลวร้ายยิ่งกว่า ถูกชนจนถุงนิรภัยพองตัวออกมา พวกคนรวยน่ะแค่เล่นสนุกกัน”
โม่ซิวหยวนบาดเจ็บร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ
เฉียวสือเนี่ยนมองไปยังข้างหน้า———