“จะไปไหนของเธอ มาทายาให้ฉันเดี๋ยวนี้!”
“ขอโทษนะ พอดีฉันไม่ใช่หมอ และฉันเองก็ไม่ได้มีหน้าที่ที่ต้องทำ” เฉียวสือเนี่ยนปฏิเสธอย่างเย็นชา
ฮั่วเยี่ยนฉือยิ่งไม่พอใจมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อครู่เห็นได้ชัดว่าเขาร้อนใจและเป็นกังวลมาก สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปในชั่วพริบตา เปลี่ยนเร็วยิ่งกว่าพลิกหน้าหนังสือ!
“นี่ไม่ใช่หน้าที่ของเธองั้นเหรอ ลองคิดให้ดีซิว่าฉันบาดเจ็บเพราะใคร!”
เฉียวสือเนี่ยนอยากจะพูดออกมาว่า ถ้าคุณไม่ขับรถชนด้วยความโมโห คงไม่บาดเจ็บแบบนี้หรอก
แต่เห็นได้ชัดว่าฮั่วเยียนฉือต้องการจะคิดบัญชีกับเธอ และเฉียวสือเนี่ยนก็ไม่มีอารมณ์จะโต้เถียงกับเขาอีกแล้ว
แค่ทายาเอง ใช้เวลาครู่เดียว
ป้าหวังนำกล่องยามาให้ เฉียวสือเนี่ยนขมวดคิ้วก่อนจะหยิบสำลีและแอลกฮอล์ขึ้นมา
“คุณผู้ชาย คุณผู้หญิง ป้าไปทำธุระก่อน มีอะไรเรียกป้านะคะ”
ป้าหวังไปแล้ว เฉียวสือเนี่ยนจึงเริ่มรักษาบาดแผลของฮั่วเยี่ยนฉือ
แม้ว่ารอยขีดข่วนของเขาจะไม่ได้ร้ายแรง แต่เนื้อหนังของเขาก็ถูกเปิดเผยหลายที่ แถมเลือดก็ไหลออกมาไม่น้อย
แอลกอฮอล์สัมผัสลงบาดแผล ฮั่วเยี่ยนฉือรู้สึกแสบ แต่เขาทำเพียงขมวดคิ้ว ไม่ส่งเสียงใด ๆ
เฉียวสือเนี่ยนจึงผ่อนแรงลงเล็กน้อย
“เรียบร้อยแล้ว”
หลังจากเธอได้ทายาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย บนแขนของเขาแล้ว เฉียวสือเนี่ยนก็เตรียมเก็บของและล้างมือ
“ยังมีหน้าผากอีก” ฮั่วเยี่ยนฉือไม่พอใจเล็กน้อยที่เฉียวสือเนี่ยนทำแบบส่ง ๆ
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เธอคงตื่นตระหนกใหญ่หากเขาได้รับบาดเจ็บแม้แต่ปลายนิ้ว แต่วันนี้เขาได้รับบาดเจ็บมากขนาดนี้ เธอกลับไม่สังเกตเห็นด้วยซ้ำ
เฉียวสือเนี่ยนเหลือบมองหน้าผากของฮั่วเยี่ยนฉือ มีแผลตรงบริเวณขมับใกล้กับจอนผมจริง ๆ ด้วย
อาจเป็นเพราะโดนเศษกระจกเข้า จึงมีตกสะเก็ดเลือดอยู่เล็กน้อย
เธอไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เพียงช่วยทายาให้เขาต่อ
เพื่อให้สะดวกต่อการทำแผลเฉียวสือเนี่ยนจึงยืนอยู่ด้านข้างฮั่วเยี่ยนฉือที่นั่งบนโซฟา
เธอยืนห่างจากเขาไม่มากนัก เอวบางของเธอเรียวเล็กน้อย ปอยผมของเธอยาวปรกใบหน้า กลิ่นหอมเชยเตะจมูกของฮั่วเยี่ยนฉือ
อยู่ ๆ ฮั่วเยี่ยนฉือก็รู้สึกร้อนวูบวาบ เขายื่นมือออกเพื่อปลดกระดุมใกล้ลูกกระเดือกประมาณสองสามเม็ด
“อย่าขยับ” เฉียวสือเนี่ยนใช้มือล็อกศีรษะของเขาเอาไว้แน่น
มือเล็ก ๆ ที่แสนอบอุ่นวางลงบนหน้าผากของเขา ฮั่วเยี่ยนฉือรู้สึกว่าติเขาเริ่มแห้งผาก
เขากลอกตาขึ้น เพื่อพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเอง
แต่กลับเห็นใบหน้าเล็กของเฉียวสือเนี่ยนที่กำลังใช้สมาธิอย่างใจจดใจจ่อ
หญิงสาวในขณะนี้ เธอมีผิวขาวโปร่งแสง และละเอียดอ่อนจนสามารถมองเห็นขนอ่อนเล็ก ๆ ได้อย่างชัดเจน
จมูกเล็กกระจุ๋มกระจิ๋ม ปากเชอร์รี่ดูแวววาว
น่าแปลกที่ฮั่วเยี่ยนฉือมีความต้องการอยากที่จะกัดมัน
ขณะที่หัวใจของเขากำลังเต้นไม่เป็นจังหวะ เขายื่นแขนไปโอบรอบคอของเฉียวสือเนี่ยนเอาไว้
เฉียวสือเนี่ยนไม่ทันระวังจึงถลาตัวลงมา ก่อนที่ริมฝีปากของเธอจะแตะริมฝีปากของเขา เธอก็รีบหันศีรษะไปทางด้านข้างอย่างทันที——
แก้มของเธอแนบชิดกับริมฝีปากบนของเขา
สัมผัสที่ละเอียดและอ่อนโยน มาพร้อมกับกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากนั้นฮั่วเยี่ยนฉือก็กระชับมือของเขาแน่นขึ้น
“ทำอะไรของคุณ!” เฉียวสือเนี่ยนพยายามลุกขึ้น และจ้องเขาเขม็ง
ฮั่วเยี่ยนฉือรู้สึกตัวขึ้นมา ก่อนจะพูดด้วยใบหน้าเย็นชา “ทายาแค่นี้ อย่าคิดจะมายั่วยวนฉัน”
“บ้าหรือเปล่า”
เฉียวสือเนี่ยนโกรธมากจนโยนสำลีในมือ หมุนตัวแล้วเดินขึ้นชั้นบนของบ้าน
เมื่อมองดูเอวคอดของเธอ ฮั่วเยี่ยนฉือก็นึกถึงความรู้สึกนุ่มนวลและเรียวยาวอย่างลึกลับที่เขาช่วยประคองเมื่อเธอล้มลง ก่อนหน้า
เขาลูบวนนิ้วของตนเอง อยู่ ๆ ฮั่วเยี่ยนฉือก็รู้สึกกระหายน้ำอีกครั้ง เขาจึงไปยังห้องครัวเพื่อเทน้ำเย็นใส่แก้ว
ในขณะเดียวกันเฉียวสือเนี่ยนกลับมาที่ห้องของตนเองและนอนลงบนเตียง หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความหงุดหงิดและรำคาญ
เธอตัดสินใจจะเลิกยุ่งวุ่นวายกับฮั่วเยี่ยนฉือแล้ว แต่ก็กังวลอย่างมากเมื่อรู้ว่าเขาได้รับบาดเจ็บ
ยิ่งกว่านั้นฮั่วเยี่ยนฉือยังรู้ว่าเธอแค่แสร้งทำเป็นพูดถึงเรื่องหย่าร้าง
……
วันที่สอง ฮั่วเยี่ยนฉือไม่ได้เข้าบริษัท เฉียวสือเนี่ยนก็หลบหน้าเขาทั้งวัน
ในวันที่สาม เฉียวสือเนี่ยนตื่นขึ้นมา อยู่ ๆ เธอก็เริ่มปล่อยวางได้แล้ว
เธอตัดสินใจแล้วว่าในชีวิตนี้เธอจะอยู่ห่างจากฮั่วเยี่ยนฉือ แต่ความรู้สึกไม่ใช่สิ่งที่จะหายไปทันที ที่อยากจะลบมัน
ถึงอย่างไรพวกเขาก็เคยรักกันมาตั้งแปดปี เป็นเรื่องปกติที่ไม่สามารถเปลี่ยนความคุ้นเคยบางอย่างได้ในทันที
เธอจะเติบโต ปล่อยวาง และมีทุกอย่างเพียบพร้อม
อาการบาดเจ็บจากการกระโดดตึกเบื้องต้นดีขึ้นมากแล้ว วันนี้ไปเยี่ยมคุณตาดีกว่า!
เฉียวสือเนี่ยนสวมชุดลำลองเป็นเสื้อทีเชิ้ตและกางเกงยีนส์
เพื่อให้เหมาะสมกับฐานะคุณนายฮั่ว เธอจึงไม่ได้สวมชุดที่เรียบง่ายตามใจชอบแบบนี้มานานแล้ว
เมื่อเดินลงมาชั้นล่าง เฉียวสือเนี่ยนพบว่าฮั่วเยี่ยนฉือไม่ได้เข้าบริษัท และมีแขกไม่ได้รับเชิญอยู่ในห้องโถง——ป๋ายอีอี
ป๋ายอีอีสวมชุดสูทสไตล์ OL ที่ดูมีรสนิยม พร้อมกับแต่งหน้าในสไตล์ที่เข้ากัน เธอกำลังนั่งอยู่บนโซฟาและพูดคุยหัวเราะกับฮั่วเยี่ยนฉือด้วยน้ำเสียงสดใส
“สือเนี่ยน เธอตื่นแล้วเหรอ”
เมื่อได้ยินเสียงเธอเดินลงมายังชั้นล่าง ป๋ายอีอีก็ทักทายเธออย่างสุภาพและเป็นธรรมชาติ น้ำเสียงดูคุ้นเคยกับเธอ ราวกับเป็นนายหญิงของบ้าน
ฮั่วเยี่ยนฉือก็หันมามองยังเธอเช่นกัน
เป็นเพราะอาการบาดเจ็บที่ไหล่ของฮั่วเยี่ยนฉือยังไม่หายดีหรือเปล่านะ ใบหน้าหล่อเหลาของเขาจึงดูไม่มีเรี่ยวแรงเหมือนเช่นเคย
ไม่เหมือนกับเมื่อก่อน เขามักแสดงความไม่พอใจและความเย็นชาทันทีที่เห็นเธอ แต่ครั้งนี้สายตาของเขายังจับจ้องไปที่เธอนานกว่าสองสามวินาที
เฉียวสือเนี่ยนเมินเฉยใส่เขา ส่งยิ้มอย่างแผ่วเบาให้ป๋ายอีอี “คุณป๋ายมาได้ยังไงคะเนี่ย?”