Share

บทที่ 7

อีกด้านหนึ่ง --

ที่ลานตำหนักหลัก ม่อหยิงก็เดินไปทางหลิงเฟิงซั่วอยู่

“ท่านอ๋องท่านกลับมาแล้ว”

เขาโค้งคำนับและพูดอย่างกังวล"ระยะนี้ที่ซีฉีประสบกับความโกลาหลบ่อยครั้ง และข้าพระองค์ได้ยินมาว่าก่อนที่จะกลับตำหนัก จักรพรรดิก็เรียกท่านเข้าวังอย่างกะทันหัน แต่ยังต้องออกไปทำสงครามอีกครั้งหรือไม่ขอรับ?"

"อืม"

หลิงเฟิงซั่วตอบกลับ"มาเตรียมการและออกเดินทางในอีกห้าวัน!"

ม่อหยิงพยักหน้าแล้วจึงเริ่มรายงานกิจการทางราชการสำหรับในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

แต่เมื่อรายงานมาถึงเจียงหยุนลั่ว ก็อดไม่ได้ที่จะหยุดชะงักลง

ทันใดนั้นคิ้วของหลิงเฟิงซั่วก็ขมวดเข้าหากันจนย่น นัยตาก็ฉายร่องรอยของความรังเกียจ"นางเป็นอะไรไป?"

เมื่อเข้าไปในพระราชวังครั้งนี้ ก็ถูกถ่ามไถ่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับเจียงหยุนลั่วอีก ช่างน่ารำคาญใจจริงๆ!

“องค์หญิงนาง...”

ม่อหยิงชะงัก สีหน้าอารมณ์ก็เปลี่ยนไปอย่างน่าประหลาดใจเล็กน้อย

หลิงเฟิงซั่วครั้งนี้ไม่ให้เขาตามไปด้วย แต่กลับให้เขาอยู่ที่นี่เพื่อสอดส่องคอยดูเจียงหยุนลั่วเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดปัญหาใด ๆ ขึ้น

เพียงแต่......

แม้ว่าช่วงนี้องค์หญิงจะเงียบไปจริงๆ แต่ดูเหมือนว่า...

ก็ไม่ได้กำลังนั่งสำนึกผิดอยู่เลยนี่!

นอกจากออกกำลังกายทั้งวันแล้ว ยังปลูกผักอีกด้วย!

ทั้งยังลงมือทำชิงช้านั่งสองอันด้วย!

ช่างน่ายินดีจริงๆ!

“หืม?”

หลิงเฟิงซั่วพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ ย่างไม่ค่อยพอใจนัก

ม่อหยิงบอกได้แค่ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้

ทันใดนั้นสีหน้าของหลิงเฟิงซั่วก็เคร่งขรึมขึ้นอย่างมาก เขาลุกขึ้นยืนและเดินออกไปทันที!

ใน สวนร้าง——

เจียงหยุนลั่วกำลังสอนหยานเอ๋อถึงวิธีดูแลผักเหล่านี้ที่หน้าสวนผักเล็กๆ

หยานเอ๋อกลับถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า

“องค์หญิงเจ้าคะ ไม่รู้ว่าท่านจะถูกขังอยู่ที่นี่อีกนานเท่าใด...หากท่านไม่รู้และเข้าใจเรื่องเหล่านี้เราคงอดตายกันไปแล้ว! ตำหนักอ๋องแห่งนี้กลั่นแกล้งคนเหลือทนจริงๆ! ไม่รู้ว่ายังต้องส่งของเหลือให้เราจนถึงเมื่อไรกัน...”

“ของเหลือ?”

เจียงหยุนลั่วตะคอกอย่างเย็นชา"หยานเอ๋อ เจ้าคงไม่ได้คิดว่าอาหารเหล่านั้นเป็นเพียงของเหลือจริงๆ ใช่ไหม"

"มันไม่ใช่หรือเจ้าคะ?"

หยานเอ๋อตกตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งนี้

บนยอดต้นไม้ มีเงาคนร่างหนึ่งยืนซุ่มอยู่เงียบๆ

หลิงเฟิงซั่วไม่ส่งเสียงอะไร และฟังอยู่อย่างเงียบๆ

ทันใดนั้นก็ได้ยิน--

"เพื่อที่จะพุ่งเป้าหมายมาที่ข้า เขาจึงได้ออกกลอุบายเช่นนี้มา หลิงเฟิงซั่วผู้นี้คู่ควรกับผู้คนที่เรียกเขาว่าเทพแห่งสงครามจริง ๆ และก็ไม่รู้สึกผิดบาปเลย!"

“องค์หญิง!ท่านพูดกล่าวเช่นนี้ไม่ได้นะเจ้าคะ!”

หยานเอ๋อตกใจ รีบหันมองซ้ายมองขวาทันทีอย่างประหม่า

สีหน้าของหลิงเฟิงซั่วเริ่มจริงจังขึ้น แววตาแห่งความโหดร้ายฉายขึ้นในดวงตาของเขาทันที เขาเม้มริมฝีปากและกำลังจะกระโดดขึ้น!

ตัดสินเขางั้นรึ?

ผู้หญิงคนนี้ไม่มีคุณสมบัติพอด้วยซ้ำ!

วินาที ต่อมา——

"ทำไมจะไม่ได้?"

เสียงของเจียงหยุนลั่วดังขึ้นอีกครั้งและน้ำเสียงก็เต็มไปด้วยความเยือกเย็น

“มีคนนำผักสดมาส่งตำหนักทุกวัน เจ้าก็ได้เห็นกับตาของตัวเอง แม้ว่าพวกเขาจะซื้อมา พ่อค้าข้างนอกแน่นอนว่าต้องนำผักสดมาขาย หยานเอ๋อ เจ้าว่าผักเน่าเหล่านี้ส่งมาที่ลานของเรา มันมาจากไหนกัน?”

"นั่น......"

ดวงตาของหยานเอ๋อเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย

เจียงหยุนลั่วยิ้มหยัน"แน่นอนว่ามีคนจงใจทำให้ผักสดเน่าเสีย แล้วจึงนำจัดส่งมาเพื่อกลั่นแกล้งพวกเรา!"

ทันใดนั้นบรรยากาศก็เงียบลงชั่วขณะ

จิตใจของเจียงหยุนลั่วเต็มไปด้วยความทรงจำในวัยเด็กที่นางไม่อยากนึกถึง และยังคงพูดต่อเย้ยหยัน"หลิงเฟิงซั่วคงเคยเห็นผู้ลี้ภัยที่พลัดถิ่น หิวโหยจนแข็งตายมากมายนับตั้งแต่เขาเริ่มออกเดินทางในสนามรบ ได้เห็นพวกเขาแล้ว และตอนนี้เขายัง... ที่สามารถทำสิ่งนั้นได้! เป็นคนที่ร่ำรวยเต็มไปด้วยไวน์และเนื้อสัตว์ แต่นอกถนนกลับเต็มไปด้วยกระดูกแข็งตาย!”

เสียงของนางแหบต่ำด้วยความขุ่นเคือง และฟังราวกับว่านางได้เห็นเหตุการณ์เช่นนี้ด้วยตาของนางเอง!

หลิงเฟิงซั่วบีบกิ่งไม้ในมือของเขาโดยไม่รู้ตัว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

คำพูดเช่นนี้...ออกมาจากปากของเจียงหยุนลั่วจริงๆ!

คนที่หยิ่งผยองและชอบใช้อำนาจบาตรใหญ่ เห็นชีวิตคนเป็นผักปลาไร้ค่าคนนั้น!

นางกลับมีมุมมองความคิดเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?

แต่เขาได้ยินกับหูของเขาเองจริงๆ !

และไม่อาจปฏิเสธได้...ว่ามีความชื่นชมและเห็นด้วยกับมุมมองของนาง

มันทำให้เขารู้สึกไม่ชอบใจอย่างมาก!

“เอาล่ะ ไม่พูดถึงเรื่องนี้แล้ว ตอนนี้พวกเราดูแลตัวเองได้ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว!”

น้ำเสียงของเจียงหยุนลั่วกลับมาสดใสอีกครั้ง จึงได้ดึงความคิดในหัวของหลิงเฟิงซั่วกลับมา

และหลังจากฟังนางสอนไม่กี่ประโยคเกี่ยวกับการรดน้ำให้ผัก เขาก็กระโดดลงจากยอดไม้โดยไม่พูดอะไรสักคำ และเดินจากไปอีกทางหนึ่งด้วยใบหน้าขรึม

“ท่านอ๋อง! ! !”

ม่อหยิงรีบตามไปและพูดอย่างระมัดระวัง"ให้ข้าพระองค์ไปอธิบายให้องค์หญิงฟังดีไหมขอรับ ว่าท่านอ๋องไม่รู้เรื่องการขนส่งอาหารนี้... "

"ไม่จำเป็น"

หลิงเฟิงซั่วปฏิเสธด้วยสีหน้าเย็นชา

ม่อหยิงจึงได้แต่พูดว่า"ท่านอ๋อง องค์หญิงเป็นดังเช่นนี้มาหลายวันแล้ว ดูเหมือนนางไม่มีท่าทีไม่พอใจกับการใช้ชีวิตในสวนร้าง ตรงกันข้าม...นางค่อนข้างสนุกสนานกับมัน และทั้งวันอยู่อย่างสงบเรียบง่าย ไม่ก่อความเดือดร้อน…”

“ม่อหยิง”

จู่ๆ หลิงเฟิงซั่วก็ขัดจังหวะ

“เจ้ารู้สึกหรือไม่ว่าผู้หญิงคนเมื่อกี้นี้ไม่ใช่เจียงหยุนลั่วเลย!”

ม่อหยิงชะงักไป

หลังจากไตร่ตรองเงียบๆ อยู่ไม่กี่วินาทีเขาก็ตอบว่า"ผู้ใต้บังคับบัญชาของข้าพระองค์ก็รู้สึกว่ามีความคลาดเคลื่อนบางอย่างกับองค์หญิงหยุนลั่วตามในข่าวลือขอรับ... "

"แค่นิดหน่อยรึ?"

หลิงเฟิงซั่วขมวดคิ้วย่น

จากสิ่งที่เขารู้เกี่ยวกับเจียงหยุนลั่ว ดูเหมือนว่านางจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคนจากเดิมไปอย่างสิ้นเชิง!

และยังคำพูดเหล่านั้นเมื่อครู่ด้วย...

“ท่านอ๋องหมายความว่า...”

ม่อหยิงถามรอดูอีกฝ่ายตอบ ไม่กล้าคาดเดาใดๆ

ผ่านไปครึ่งค่อนวัน--

หลิงเฟิงซั่วพูดอย่างเย็นชา

"อ๋องอย่างข้าแทบไม่เชื่อว่าผู้หญิงที่ชอบก่อปัญหาไม่หยุดหย่อนอย่างเจียงหยุนลั่วทั้งยืนกรานจะแต่งงานกับข้าเช่นนั้นจะอยู่ในโอวาสและไม่นอกลู่นอกทางได้! ม่อหยิง เจ้าให้คนจับตาดูนางต่อไป! หากมีปัญหาใด ๆ ให้รายงานข้าทันที!"

เขาทิ้งคำพูดสุดท้ายไว้แล้วเดินจากไป

ในใจกลับมีแต่อารมณ์ความรู้สึกมากมายที่สับสนบอกไม่ถูกอธิบายไม่ได้

เจียงหยุนลั่วไม่ใช่คนจิตใจเมตตาอย่างแน่นอน!

นางต้องการทำอะไรกันแน่?

......

ตอนกลางคืน --

มีแสงเทียนสลัวๆ ในสวนร้าง

คืนนี้หยานเอ๋อดูมีความสุขเป็นพิเศษ ในขณะที่จัดเตียงให้เจียงหยุนลั่ว นางก็พูดอย่างตื่นเต้น“องค์หญิงเจ้าคะ!อาหารทุกจานที่นำมาจากครัวคืนนี้สดใหม่หมดเลยเจ้าค่ะ! คงเป็นเพราะท่านอ๋องกลับมาแล้ว และทนไม่ได้ที่จะเห็นท่านถูกปฏิบัติเช่นนี้!ไม่แน่ว่าผ่านไปอีกไม่กี่วัน ท่านก็จะได้ย้ายออกไปแล้วก็เป็นได้เจ้าค่ะ”

เจียงหยุนลั่วนั่งจิบชาและไม่คิดว่าจะใช่

ทนไม่ได้งั้นรึ?

เกรงว่าคนเหล่านั้นรู้ว่าหลิงเฟิงซั่วกลับมาแล้ว จึงกลัวว่าจะทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่บานปลาย

พอคิดเช่นนี้...หรือว่าช่วงวันนี้นางเข้าใจหลิงเฟิงซั่วผิดไป?

ก็ไม่แน่นอน

บางทีเจ้าหมานั่นอาจจะรู้ทุกอย่าง เพียงแต่คิดว่าการลงโทษก็เพียงพอแล้วเท่านั้น

เจียงหยุนลั่วขี้เกียจคิดอีกต่อไป ปัดๆ มือ"เอาล่ะ เจ้ากลับไปพักผ่อนเถอะ ข้าอยากอยู่เงียบๆ"

ตอนกลางคืนที่ผู้คนหลับนอน เป็นโอกาสอันดีในการฝึกฝนตามลำพัง

เจียงหยุนลั่วให้หยานเอ๋อกลับเข้าห้อง ถอดเสื้อผ้าที่เทอะทะออกแล้วโยนทิ้งไปอีกด้านหนึ่ง เหลือไว้เพียงชุดชั้นใน เพื่อให้เคลื่อนไหวได้ง่าย

แต่ในขณะที่เขากำลังจะนั่งลง——

ทันใดนั้นก็มีเสียงลมพัดมาวูบนึงดังที่ข้างหู!

ลูกดอกสีเงินยิงทะลุเข้ามาทางรูหน้าต่างและพุ่งตรงไปที่ใบหน้าของนาง!

"ใครกัน!"

เจียงหยุนลั่วใช้สัญชาตญาณหลบไปด้านหลัง

เสียง "ปัง"ดังขึ้น!

ลูกดอกพุ่งชนเสาเตียงโดยตรง!

ปักเข้าลึกถึงสามส่วน!

ผู้ที่มานี่เป็นจอมยุทธระดับสูง! ! !

เจียงหยุนลั่วตกตะลึงไปชั่วขณะและกำลังจะลุกขึ้น ——

ร่างเงาสีดำก็แวบเข้ามาจากประตู!

ไม่มีเสียงใดๆ เกิดขึ้น!

เทียนถูกลมพัดดับด้วยเสียง"ฮู่ว"และพริบตาเดียวทั้งห้องก็มองอะไรไม่เห็นแม้แต่นิ้วมือทั้งห้า

เจียงหยุนลั่วกลั้นหายใจและมองไปที่เงาคนในความมืด ดวงตาของนางก็เต็มไปด้วยความตกตะลึงและประหลาดใจ

นั่นหลิงเฟิงซั่ว! ! !

เขามาทำอะไรที่นี่ตอนกลางดึกกัน?

เขายังต้องการเอาชีวิตของนางอยู่หรืองั้นรึ?

แม้ว่าเขาจะถูกบังคับให้แต่งงานกับนาง แต่ก็ไม่น่าเป็นไปได้ที่ความเกลียดชังจะอย่างลึกซึ้งเพียงนี้!

ในขณะที่กำลังคิดนั้น ลมหายใจอันตึงเครียดของชายผู้นั้นก็มาปะทะที่ใบหน้า!

“หลิง…!”

ทันใดนั้นเจียงหยุนลั่วใช้มือข้างหนึ่งให้เป็นดั่งอาวุธคมทันทีและพุ่งไปข้างหน้า!

แต่พูดได้เพียงแค่คำเดียว ก็โดนกดจุดสกัดความเคลื่อนไหว จึงไม่สามารถขยับอะไรได้เลย!

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status