All Chapters of รัชทายาทชะตาฟ้า: Chapter 41 - Chapter 50
115 Chapters
บทที่ 41
“ร่วมมือ? เจ้าคิดว่าระหว่างเรายังมีความจำเป็นต้องร่วมมือกันหรือ?”องค์ชายใหญ่กระหยิ่มยิ้มย่อง ในดวงตาล้วนเป็นความไม่ให้ค่าและดูถูก ความร่วมมือเมื่อสามวันก่อนเป็นเพราะฉินอวิ๋นฟานจะได้ครองบัลลังก์แล้ว พวกเขาจึงจำต้องร่วมมือกันบัดนี้สถานการณ์องค์ชายใหญ่เป็นต่อ เขาย่อมไม่ร่วมมือกับองค์ชายรองง่าย ๆ“แน่นอนว่ามี คาดว่าท่านคงจะเห็นแล้ว ด้วยแนวโน้มในตอนนี้ เจ้าเจ็ดมีโอกาสชนะมาก หากไม่กำจัดมัน โอกาสของพวกเราก็จะริบหรี่ลงทุกที!”องค์ชายรองเอ่ยองค์ชายใหญ่ขมวดคิ้ว พิจารณาครู่หนึ่งแล้วจึงตอบ “ความหมายของเจ้าคือรอบสุดท้ายจะ...”คำพูดมิไม่ได้กล่าวจนจบ ทั้งสองตรวจสอบความคิดของกันและกันผ่านสายตา องค์ชายรองพยักหน้าเป็นการยืนยัน องค์ชายใหญ่หรี่ตา คล้ายกำลังตัดสินใจเรื่องใหญ่อย่างไรอย่างนั้นทางตะวันออกของตำหนักว่านฉงมีลานกว้างแห่งหนึ่ง ตรงกลางมีแท่นประลองทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ นี่คือลานฝึกยุทธ์อันศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของต้าเฉียน การประลองบู๊ การประลองทักษะต่าง ๆ รวมถึงกิจกรรมสำคัญจะประกอบจนลุล่วง ณ ที่แห่งนี้ทั้งหมด“รอบแรกของการประลองด้านบู๊คือยิงธนู! ขอเชิญองค์ชายที่ร่วมประลองประจำที่ด้วย!”เติ้
Read more
บทที่ 42
“องค์ชายใหญ่ พวกเราเจอกันอีกแล้วนะขอรับ ไม่ทราบว่าทักษะการยิงธนูของท่านก้าวหน้าหรือไม่” เยี่ยนเป่ยวางตัวเหมาะสม“หึ คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะเข้าพวกกับองค์ชายห้า เหนือความคาดหมายของข้าจริง ๆ”องค์ชายใหญ่พูดด้วยสีหน้าอึมครึม “แต่วันนี้ข้าจะไม่สู้กับเจ้าหรอก ข้าจะออมแรงเตรียมตัวกับสองรอบหลัง หวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวังนะ!”“เว่ยเหยียน!!!”องค์ชายใหญ่เปล่งเสียงทีหนึ่ง เห็นเพียงบุรุษรูปร่างสมดุล ผิวพรรณดำคล้ำแบกคันศรและธนูอยู่ที่หลังเดินขึ้นแท่นประลองมาถึงตรงหน้าองค์ชายใหญ่ช้า ๆ ทันทีที่ทุกคนเห็นเว่ยเหยียนต่างรู้สึกงุนงง“นี่ เว่ยเหยียนผู้นี้คือใครกัน? ทำไมไม่ยักเคยเห็นมาก่อน?”“การประลองสำคัญเช่นนี้ องค์ชายใหญ่กลับหาเจ้าหนุ่มคนหนึ่งมาลงแข่ง จะเห็นเป็นการเล่นแบบเด็ก ๆ ไปหน่อยหรือไม่?”......ทุกคนพากันงงงวยกับการกระทำขององค์ชายใหญ่ เห็นสีหน้าองค์ชายใหญ่มีความมั่นใจเต็มเปี่ยม สายตาของบรรดาองค์ชายและคนอื่น ๆ ต่างมีข้อกังขา ทว่าฉินอวิ๋นฟานกลับเห็นความพิเศษเล็กน้อยแม้เว่ยเหยียนจะไม่มีรูปร่างกำยำ ทว่าปัจจัยทางสรีระกลับยอดเยี่ยมอย่างแปลกประหลาด ฉินอวิ๋นฟานคือหน่วยรบพิเศษสุดยอดในยุคปัจจุ
Read more
บทที่ 43
“สวรรค์ของข้า นี่ก็คืออานุภาพของธนูทองคำศักดิ์สิทธิ์หรือ? องค์ชายรองยังสามารถยิงเข้าเหรียญทองแดงที่ระยะร้อยห้าสิบเมตรได้ จะน่ากลัวเกินไปแล้วกระมัง?”“สมกับที่เป็นธนูเทพอันดับหนึ่งของต้าเฉียนที่องค์อดีตฮ่องเต้ประทานให้ อยู่ในมือขององค์ชายรองยิ่งน่ากลัวเหมือนเจ้าของ ต่อให้เป็นสุดยอดนักแม่นธนูขั้นเทพเกรงว่าจะเท่านั้นเอง”“องค์ชายรองไม่เพียงแต่มีพรสวรรค์ด้านวรรณกรรมสูงส่ง ยังมีความสามารถในการยิงธนูล่าสัตว์น่ากลัวเช่นนี้อีก สมกับที่เป็นองค์ชายผู้โดดเด่นที่สุดของต้าเฉียน”......บรรดาแคว้นทั้งหลายต่างอาศัยการยิงธนูในการโจมตีระยะไกล มือธนูจึงล้ำค่าอย่างเห็นได้ชัด เหตุนี้ทุกแคว้นต่างจึงบ่มเพาะผู้มีความสามารถด้านนี้มากที่สุดลูกหลานในราชวงศ์โดยมากจะมีความเชี่ยวชาญประมาณหนึ่ง แต่หากเทียบกับนักธนูมืออาชีพเหล่านั้น มากน้อยยังต่างกันอยู่บ้าง อย่างไรเสีย พวกเขาก็เคยผ่านร้อยสนามรบ มีประสบการณ์มากมาย ฝีมือการยิงธนูที่องค์ชายรองแสดงออกมาจึงทำให้ทุกคนอึ้งที่สุด“ร้อยห้าสิบเมตร ก็งั้น ๆ แหละ”องค์ชายรองฉินอวิ๋นฮุยยักไหล่ทำหน้าสบาย ๆ ในดวงตาที่เขามองไปทางฉินอวิ๋นฟานล้วนเป็นการเสียดสี ถ้าบอกว่าฉินอว
Read more
บทที่ 44
ฉินอวิ๋นฟานโต้กลับไปโดยตรงเขายกหน้าไม้ขึ้นเบา ๆ วางลูกศรขนนกไว้ในร่อง ตามด้วยยกหน้าไม้ในระดับสายตา เล็งไปที่เหรียญทองแดง เพียงกดปุ่มเบา ๆ ลูกศรขนนกก็พุ่งออกไป เกิดเป็นเสียงผ่าอากาศ“หึ ทำท่าทำทาง!”สิ้นเสียงองค์ชายรอง ทั้งคนแข็งทื่ออยู่กับที่ ใบหน้าเปลี่ยนสีฉับพลัน ในดวงตาเต็มไปด้วยความตะลึงฉึก!!!ไม่มีใครเชื่อว่าของที่อยู่ในมือฉินอวิ๋นฟานจะมีพลังอะไรได้ ยิ่งอย่าพูดถึงว่าจะยิงโดนเป้าเหรียญทองแดง ความดูถูกดูแคลนท่วมท้นสายตาของทุกคนทันทีที่ฉินอวิ๋นฟานยิงถูกใจกลางเป้าเหรียญทองแดง ทุกคนเบิกตาโพลงอ้าปากหวอ ในดวงตาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ“เป็นไปได้ยังไง? เจ้าสิ่งนี้มีระยะการยิงที่น่ากลัวขนาดนี้เลยหรือ?”องค์ชายรองใบหน้าเปลี่ยนสีฉับพลัน เขาในเวลานี้ทรมานราวกับกินอุจจาระ เพิ่งพูดจาเสียดสีฉินอวิ๋นฟานไปหยก ๆ พริบตาเดียวก็ขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล แสดงความโง่เขลาของตัวเองออกมาจนหมดทำไมของกระจ้อยร่อยเช่นนี้จึงมีระยะการยิงและพลังโจมตีมากขนาดนี้นะ? เขาคิดไม่ตกจริง ๆ ไม่เพียงเท่านี้ ทุกคนก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน“ปัญญามีน้อย!”ฉินอวิ๋นฟานไม่สนใจการตกตะลึงขององค์ชายรอง แต่เสียดสีอย่างเย็นชาป
Read more
บทที่ 45
รอบที่สามเพิ่งจะเริ่มต้น องค์ชายรองก็ก้าวออกไปสองก้าวและประกาศอย่างจริงจัง “ร้อยแปดสิบเมตรคือขีดจำกัดของข้าแล้ว การประลองต่อจากนี้ข้าขอสละสิทธิ์!”ซ่า...ทั้งสนามมีเสียงดังระงม การประลองมาถึงช่วงสำคัญที่สุด คิดไม่ถึงว่าองค์ชายรองจะสละสิทธิ์?กล่าวถึงความสามารถ เยี่ยนเป่ยคืออันดับหนึ่งด้านการยิงธนูของต้าเฉียน มีเขาอยู่ ถึงองค์ชายรองจะเก่งสักแค่ไหนไม่มีทางเอาชนะเขาได้จริง ๆ คิดดูแล้วการที่องค์ชายรองจะสละสิทธิ์ก็ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผลอีกอย่างเว่ยเหยียนที่องค์ชายใหญ่เชิญมา เห็นชัดว่าเป็นยอดฝีมือยิงธนูชั้นเลิศแน่นอน การประลองครั้งนี้เกรงว่าจะยิ่งน่าสนุกเยี่ยนเป่ยไม่ลังเล ในแววตาคือความเผด็จการที่ราบรื่นตลอดทาง แววตาคมกริบประหนึ่งเหยี่ยวนั้นกำลังจ้องกลางเป้าเหรียญทองแดงตรงจุดสองร้อยเมตร เห็นเพียงเขาหรี่ดวงตาทั้งสองข้าง ลูกศรขนนกในมือพุ่งตัวออกไป จากนั้นก็เป็นเสียงหวีดหวิวของศรฉึก!!!ก็ขณะที่ทุกคนกำลังกลั้นลมหายใจ เห็นเพียงศรขนนกยิงถูกเหรียญทองแดงอย่างมั่นคงราวเส้นแสงสายหนึ่ง หลังจากเหรียญทองแดงตกลง ทั้งสนามร้องเฮกันขึ้นมาสีหน้าเว่ยเหยียนยังคงสงบ แววตาปราศจากสิ่งอื่น จ้องกลางเป้าตรงจ
Read more
บทที่ 46
“รัชทายาทคมในฝักหลายปี ปกติแทบไม่มีตัวตน แม้จะเป็นนางกำนัลก็ยังกลั่นแกล้งเขา บัดนี้กลับยืนอยู่จุดสูงสุด เหลือบมองทุกคน...เขาน่ากลัวแล้ว”......ผ่านการประลองหลายรอบ ทุกคนชินชาแล้ว ความตะลึงที่ฉินอวิ๋นฟานนำมาให้มีมากเกินไป มักให้คนคิดไม่ถึง และเป็นการเอาชนะในท้ายที่สุดด้วยท่วงทำนองเด็ดขาดไม่ว่าจะเป็นอัจฉริยะที่เก่งกาจสักแค่ไหน ร้ายกาจเพียงไร ต่อหน้าฉินอวิ๋นฟานล้วนไร้สีสันเหมือนเดิม สุดท้ายก็แพ้ราบคาบอยู่ดีทีแรกนี่คือการแข่งตัดสินระหว่างองค์ชายใหญ่และองค์ชายรอง ไม่นึกว่าฉินอวิ๋นฟานต่างหากที่เป็นจ้าวในท้ายที่สุด ทุกคนคิดว่าการฉวยชัยชนะไปจากตรงหน้าฉินอวิ๋นฟาน คือเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ความรู้สึกอ่อนแรงอย่างหนักสายหนึ่งอัดแน่นอยู่ในหัวใจทุกคนเพื่อตัดสินผู้ชนะในท้ายที่สุด การประลองจะเพิ่มระยะทางเป็นสองร้อยยี่สิบเมตร และเป็นตามคาดของทุกคน ขีดจำกัดของเว่ยเหยียนและเยี่ยนเป่ยอยู่ที่สองร้อยเมตร ระยะสองร้อยยี่สิบเมตร พวกเขาล้มเหลวตามระเบียบสุดท้ายฉินอวิ๋นฟานยิงถูกกลางเป้าเหรียญทองแดงระยะสองร้อยยี่สิบเมตรได้อย่างมั่นคง คว้าชัยไปได้อีกครั้งประลองด้านบุ๋นและประลองด้านบู๊มีการประลองทั้งหมด
Read more
บทที่ 47
ความสามารถที่ฉินอวิ๋นฟานแสดงออกมาทำให้องค์ชายใหญ่และองค์ชายรองตระหนักถึงวิกฤตร้ายแรงอย่างหนึ่งความมุ่งมั่นที่จะกำจัดฉินอวิ๋นฟานแรงกล้ามากขึ้นทุกที ถ้าเขายังลงแข่งในรอบต่อไป จะต้องกำจัดเขาให้ได้ มิเช่นนั้น ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ สถานการณ์จะไม่เป็นผลดีกับพวกเขาอย่างยิ่ง แต่ถ้าฉินอวิ๋นฟานไม่ลงแข่ง เช่นนั้นทุกอย่างยังอาจพลิกผันหรือก็หมายถึง ในการแข่งสองรอบที่เหลือ ไม่ว่าจะเป็นชัยชนะในรอบไหนก็สำคัญกับพวกเขาสองคนอย่างยิ่งยวดบนแท่นประลอง องค์ชายใหญ่ท่วงทำนองแข็งแกร่ง เนื้อตัวบนล่างเต็มไปด้วยเจตนารบ ประหนึ่งสัตว์ร้ายบ้าคลั่งตัวหนึ่ง กล้ามเนื้อปริแตก กล้ามเนื้อสีทองแดงอัดแน่นไปด้วยพลัง ในค่ายทหารมักมีการประลองกำลังและประลองยุทธ์เป็นประจำ หลายปีนี้องค์ชายใหญ่ฉินอวิ๋นคังยืนหนึ่งอย่างมั่นคง เรียกได้ว่ามีพลังเต็มเปี่ยม เป็นจ้าวแห่งหมู่มวลบุรุษเพศ“กระถางมา!!!”องค์ชายใหญ่ตวาดเสียงหนึ่ง ไม่นานคนกลุ่มหนึ่งก็ยกกระถางสามขาขนาดยักษ์ขึ้นไปบนแท่นประลองในสมัยโบราณจะใช้กระถางสามขาในการเซ่นไหว้ เป็นสัญลักษณ์ของการรับเจตนารมณ์ฟ้าดังนั้นจึงเข้มงวดกับน้ำหนักของกระถางมากที่สุด ช่างที่ทำกระถางจะต้องประกัน
Read more
บทที่ 48
อู่จ้านส่ายหน้าพูด “รัชทายาท ท่านเคยโง่เขลาเบาปัญญามาก่อน มิอาจบอกเรื่องพวกนี้กับท่านได้ แต่จะบอกท่านเวลานี้ก็ยังไม่สาย!”“ในโลกปัจจุบันนี้ เพื่อปกครองควบคุมประชาชนได้ดียิ่งขึ้น ราชวงศ์ใหญ่ต่าง ๆ จึงส่งเสริมความคิดของขงจื๊อ เผยแผ่ภาพลักษณ์อันน่ายกย่องและเรื่องราวอันดีงามของฮ่องเต้ ทำให้ประชาชนยำเกรงศรัทธาพวกเขาเหมือนกับเทพ”“บวกกับข้อจำกัดทางกฎหมาย เมื่อล่วงเลยมาเป็นเวลานานวิถียุทธ์จึงค่อย ๆ สูญหายไป ผู้ที่สามารถเดินอยู่บนวิถียุทธ์ได้มีน้อยนัก มีเพียงพวกคนใหญ่คนโตกุมอำนาจจึงให้ความสำคัญกับวิถียุทธ์”“เพราะเพียงมีพลังยุทธ์สูงจึงจะมีเบี้ยเจรจาอย่างเท่าเทียม ถ้าประชาชนส่วนมากแห่ไปศรัทธาวิถียุทธ์กันหมด นี่คือภาพที่จ้าวแคว้นไหน ๆ ก็ไม่อยากเห็น”“องค์ชายใหญ่ชำนาญการรบแต่เยาว์วัย คลุกคลีกับการฝึกฝนวิถียุทธ์มานาน วิถียุทธ์ในตอนนี้ท่าทางน่าจะอยู่ระดับแปดแล้ว ห่างจากระดับเก้าสูงสุดอีกแค่ก้าวเดียว”อยู่ในวังหลายปี อู่จ้านได้เห็นหลักของจักรพรรดิจนสยอง ยังดีที่รัชทายาทโง่งม อยู่กินไปวัน ๆ รอความตาย ไม่เข้าร่วมการแก่งแย่งชิงดีใด ๆ เป็นคนอยู่เฉย ๆ ใช่จะไม่ดีแต่ฮ่องเต้ต้าเฉียนกลับสวรรคตกะทันหัน
Read more
บทที่ 49
เสียงหนึ่งโพล่งออกมาจากฝูงชน ทุกคนต่างหันไปมองตามเสียง เห็นเพียงชายคนหนึ่งที่ดูอายุอานามประมาณสามสิบ ใบหน้าประหนึ่งหยก สุภาพเรียบร้อย มือของเขาถือกระบี่วิญญูชน เดินขึ้นแท่นประลองช้า ๆพอเห็นคนมา องค์ชายใหญ่เลิกคิ้วเล็กน้อย เห็นชัดว่าเขาไม่รู้จักอีกฝ่าย“เจ้าเป็นใคร?”องค์ชายใหญ่ขมวดคิ้วถาม“ข้าคือหลิวเป้ยแห่งเมืองจัว วันนี้ได้รับคำเชิญจากองค์ชายรองมาประลองกำลังขอรับ”หลิวเป้ยวางตัวเหมาะสม รายงานชาติตระกูล ย่างเท้ามาถึงบนแท่นประลอง“อะไรนะ? เขาก็คือหลิวเป้ย(เล่าปี่)? สุภาพบุรุษอันดับหนึ่งแห่งเมืองจัว จิตใจดีงาม มีเมตตารักความยุติธรรม แม้จะยากจนข้นแค้น กลับมีปณิธาน มีจิตใจของจอมยุทธ์ เรียกได้ว่าชื่อเสียงระบือไกลทีเดียว”“ไม่เพียงเท่านี้ เขายังสาบานเป็นพี่น้องร่วมเป็นร่วมตายกับเทพยุทธ์คนขายเนื้อจางเฟย (เตียวหุย) แห่งเมืองจัวและเทพดาบกวนอวี่ (กวนอู) ที่สวนดอกท้อ เมืองจัวรู้กันทั่ว”“หลิวเป้ยดูหน้าตาสะอาดหมดจด จะยกกระถางยักษ์หกร้อยชั่งได้จริงหรือ? ที่เขาเผชิญคือองค์ชายใหญ่เชียวนะ คนหนุ่มอันดับหนึ่งของต้าเฉียน”......กระถางยักษ์เป็นรายการแข่งขันที่นิยมเสมอมา นั่นคือสัญลักษณ์ของกำล
Read more
บทที่ 50
“เจ้า เจ้ากล้าพูดว่าข้าไม่ไหวหรือ?”ถูกองค์ชายรองฉินอวิ๋นฮุยยั่วยุ ไฟโทสะองค์ชายใหญ่เพิ่มขึ้นพรวด เขามองด้วยสายตาที่เกรี้ยวโกรธพลางพูด “น้องรอง ให้ดีเจ้าจงเบิกตาสุนัขของเจ้าดูให้ดีว่าข้ายกกระถางเก้าร้อยชั่งได้หรือไม่”“พี่ใหญ่กล้าหาญดังคาด วันนี้ก็ให้พวกเราได้เห็นท่วงทำนองแห่งยุคของท่านสักหน่อยเถอะ!”กลยุทธ์ยุแม่ทัพได้ผลจริง ๆ เห็นองค์ชายใหญ่ติดกับ องค์ชายรองหัวเราะเสียงเย็น ในดวงตาล้วนเป็นความกระหยิ่มใจ ยามนี้ กระถางยักษ์เก้าร้อยชั่งถูกคนหามขึ้นแท่นประลองแล้ว“ช้าก่อน!”ก็ขณะที่องค์ชายใหญ่เตรียมจะลงมือ จู่ ๆ แม่ทัพฝ่ายซ้ายฮั่วเจิ้นหลงก็เดินออกมา เขามีความน่าเกรงขามแม้ยามสงบ แผ่พลังแกร่งกล้าออกมาจากเนื้อตัวบนล่าง เพียงสายตาเดียวทำให้คนขนลุกโดยที่ไม่หนาวนี่คือกลิ่นอายเด็ดขาดของผู้ที่อยู่ในสนามรบหลายสิบปีจึงจะมี“ท่านพ่อตา มีอะไรหรือ?”องค์ชายใหญ่หันไปมองพ่อตา ถามด้วยใบหน้าฉงน“คังเอ๋อร์ เจ้ารอก่อน!”ฮั่วเจิ้นหลงหันไปมองทางองค์ชายรองพร้อมเอ่ยเสียงหนัก “องค์ชายรองสมกับที่เป็นหนึ่งในองค์ชายผู้โดดเด่นแห่งต้าเฉียน มีความเข้าใจในกติกาการแข่งขันลึกซึ้งเช่นนี้ ข้าผู้แซ่ฮั่วเลื่อมใส!”
Read more
PREV
1
...
34567
...
12
DMCA.com Protection Status