สาวผู้บ้าคลั่งในงานคอนเสิร์ต의 모든 챕터: 챕터 1 - 챕터 7

7 챕터

บทที่ 1

"ขอร้องล่ะพี่ อย่าดันเข้ามาได้ไหม ดันจนฉันจะไม่ไหวอยู่แล้วนะ"ท่ามกลางคลื่นมหาชนในงานคอนเสิร์ต ฉันตั้งใจเอาตัวเบียดน้องผู้หญิงคนข้างหน้าเธอสวมกระโปรงสั้นสไตล์ญี่ปุ่นที่ดูเซ็กซี่ ฉันงัดมันขึ้นแล้วแนบชิดไปที่ก้นสิ่งที่ร้ายแรงยิ่งกว่าก็คือ กางเกงชั้นในของเธอนั้นบางมากก้นอวบอิ่มของเธอ ทำให้ฉันตื่นตัวทันทีที่น่าตกใจยิ่งกว่าก็คือ เหมือนว่าเธอก็จะมีปฏิกิริยาตอบสนองกับการที่ฉันดันมันด้วย...ฉันชื่อเฉินเฉิง เคยได้ยินมาว่าในงานคอนเสิร์ตมีสาวสวยเซ็กซี่เยอะแยะเต็มไปหมด แถมยังค่อนข้างเปิดกว้างด้วยเพื่อแสวงหาความตื่นเต้น ฉันถึงกับไปแย่งซื้อตั๋วคอนเสิร์ตของศิลปิน เพื่อพิสูจน์ด้วยตาตัวเองเมื่อมาถึงหน้างานคอนเสิร์ต ผู้คนก็ล้นหลามอย่างที่คิดเอาไว้ มองไปทางไหนก็เจอแต่สาวสวยวัยรุ่นเซ็กซี่ อายุราวๆ ยี่สิบปี แต่งตัวกันจัดเต็มดึงดูดสายตามากจากปกติที่ดูเป็นสาวมาดนิ่ง ดูเย็นชาเย่อหยิ่งแต่พอได้เห็นศิลปินคนโปรด ทุกคนกลับกรี๊ดกร๊าดกันสุดเสียงราวกับแม่ไก่ติดสัตว์พากันเขย่งเท้า ชะเง้อคอยืดยาวอย่างไม่ห่วงสวย เพียงเพื่อหวังให้ศิลปินหันมามอง บ้างก็ตะโกนเรียกศิลปินว่า "สามี!" กันอย่างคลั่งไคล้
더 보기

บทที่ 2

บรรยากาศในงานคอนเสิร์ตเริ่มร้อนระอุขึ้นเรื่อยๆ ทุกสายตาจับจ้องไปที่เวที ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่!อีกทั้งบรรยากาศโดยรอบก็ค่อยข้างมืดสลัว ฉันยิ่งใจกล้ามากขึ้นเรื่อยๆ ฉันขยับตัวโยกไปตามจังหวะร่างกายของเธอ ขยับสะโพกไปมาหน้าหลังความสุขจากการกระทบกระทั้งกันในแต่ละครั้ง ทำให้ร่างกายของฉันเร้าร้อนมากขึ้นเรื่อยๆและเธอเองก็ดูเหมือนจะสนุกกับความรู้สึกแบบนี้ ในขณะที่กระแทกเข้าหากัน เธอยังส่ายสะโพกไปมาอีกด้วยทุกครั้งที่ขยับ ก็จะเสียดสีกับบริเวณท้องน้อยของฉันการเสียดสีแบบนี้มันให้ความรู้สึกเหมือนมด ที่กำลังไต่เข้าไปในกระดูกของฉันอวัยวะภายในมันคัดยุบยิบจนแทบจะทนไม่ไหวการเคลื่อนไหวช่วงล่างของฉันรุนแรงมากขึ้นฉันเอื้อมมือไปจับเอวบางๆ ของเธอเอาไว้ฉันใช้แรงกดสะโพกของเธอเข้ามาแนบบนตัวฉันท่าทางแบบนี้มันดูเหมือนเรากำลังทำเรื่องอย่างว่าอยู่เลย!การปะทะของทั้งร่างกายและจิตใจ มันทำให้เซลล์ในร่างกายของฉันรู้สึกเหมือนกำลังจะระเบิดการมาคอนเสิร์ตครั้งนี้เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องจริงๆ!แม้แต่ผู้หญิงที่สุ่มเลือกมายังขนาดนี้ คิดอยากจะเล่นแบบไหนก็ได้หมดฉันกวาดสายตามองไปรอบๆ
더 보기

บทที่ 3

ขณะที่ฉันสอดใส่เธออย่างรุนแรง หญิงสาวกัดฟันแน่น พยายามต่อสู้กับอาการคันยุบยิบภายในร่างกาย กลัวว่าจะหลุดเสียงอะไรออกมาฉันไม่เคยสัมผัสสาวสวยที่แน่นและกระชับแบบนี้มาก่อนเลยรู้สึกเหมือนร่างกายของฉันล่องลอยอยู่บนก้อนเมฆ เป็นอิสระและสบายโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คนมากมาย ความรู้สึกต้องห้ามผสมผสานกับความปรารถนา ส่งผลให้ฮอร์โมนของฉันพุ่งพล่านถึงขีดสุดตอนแรกฉันเคลื่อนไหวช้าๆ แต่ร่างกายกลับโหยหาความรู้สึกนั้นมากขึ้นเรื่อยๆ ความรู้สึกนั้นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆร่างกายของฉันเพิ่มแรงขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้แต่ละครั้งที่สอดใส่ทำให้หน้าอกของเธอสั่นสะท้านฉันยิ่งแข็งขึ้น เธอยิ่งอ่อนลงขาของเธอยืนไม่ไหวอีกต่อไป ฉันจึงยกเธอขึ้นแขวนเธอไว้กลางอากาศจากนั้นเธอก็ร่วงลงอย่างหนักหน่วง...นี่เป็นครั้งแรกที่เธอทำแบบนี้ และเธอก็ถึงจุดสุดยอดอย่างรวดเร็วเธอเอนตัวพิงฉันอย่างอ่อนแรงด้วยอาการกระตุกเหมือนลูกแมวที่ปล่อยให้ฉันเล่นกับเธอแต่ก็มีคนอยู่เต็มไปหมด ฉันไม่กล้าที่จะยกเสื้อผ้าของเธอขึ้นมาเล่น ทำได้เพียงคลำอย่างช้าๆ ในความมืด ฃเธอพูดเบาๆ ว่า"เป็นคอนเสิร์ตที่ลืมไม่ลงจริงๆ"ฉันอยากจะขอวีแ
더 보기

บทที่ 4

ไม่นานวันแต่งงานของจ้าวเหล่ยก็มาถึง ฉันใส่ซองช่วยงานและเข้าไปนั่งในโต๊ะอาหารในโรงแรม เพื่อรอชมพิธีการ จ้าวเหล่ยเป็นเพื่อนสนิทของฉัน แต่ฉันไม่ค่อยรู้จักญาติพี่น้องของเขาเท่าไหร่นัก พิธีการช่วงแรกค่อนข้างน่าเบื่อ ฉันจึงนั่งเล่นมือถือ ไถดูคลิปวิดีโอสั้นฆ่าเวลาไปพลางๆ โดยไม่ได้สนใจรอบข้างมากนักเมื่อพิธีเริ่มขึ้น ประตูบานใหญ่ด้านหลังห้องจัดเลี้ยงก็ค่อยๆ เปิดออก เจ้าสาวในชุดวิวาห์เดินออกมาจากประตูอย่างช้าๆ เธอหน้าตาสะสวยและดูอ่อนหวาน มีความคล้ายคลึงกับน้องผู้หญิงที่ฉันเจอในคอนเสิร์ตวันนั้นมากแต่คนที่เดินตามหลังเธอมาคือเพื่อนเจ้าสาวฉันเพ่งมองไป เพื่อนเจ้าสาวคนนั้นคือน้องผู้หญิงคนที่ฉันเจอในคอนเสิร์ตไม่ใช่เหรอ? ไม่นึกเลยว่าจะมาเจอเธอที่นี่! บนโลกนี้มีเรื่องบังเอิญขนาดนี้ด้วยเหรอ!ฉันนั่งอยู่ที่โต๊ะ พยายามเพ่งมองหน้าเธอให้ชัดๆ เพื่อดูว่าใช่ผู้หญิงคนนั้นหรือเปล่า ถึงเธอจะแต่งหน้า แต่โครงหน้ารูปไข่ก็ยังเด่นชัดมาก ทั้งช่วงขา และส่วนสูง ทุกอย่างเหมือนกับผู้หญิงคนนั้นไม่มีผิด แล้วเธอก็สังเกตเห็นฉันที่นั่งอยู่ข้างล่างเวทีเหมือนกัน สายตาของเราสบกันพอดี ในวินาทีนั้น เราทั้ง
더 보기

บทที่ 5

"มาแล้วๆ!" จ้าวเหล่ยผลักฉันทีหนึ่ง ฉันมองตามสายตาเขาไป สวี่เวยสวมชุดเดรสสีขาวนวล ดูต่างจากลุคสายเดี่ยวสุดเซ็กซี่เมื่อสัปดาห์ก่อนราวกับเป็นคนละคน แต่ตอนที่เธอเดินเข้ามาในห้องจัดเลี้ยง สายตาที่กวาดมาทางฉัน แววตาที่ตื่นตระหนกและตกใจ มันเหมือนกับความรู้สึกที่กำลังปั่นป่วนอยู่ในใจฉันตอนนี้ไม่มีผิด ฉันรีบก้มหน้าลง แสร้งทำเป็นสนใจก้อนน้ำแข็งในแก้วเหล้า แต่หูเจ้ากรรมกลับได้ยินเสียงเธอคุยกับสวี่ชิงชัดเจน ทุกคำพูดเหมือนเข็มที่ทิ่มแทงจนฉันใจสั่น “ไอ้เฉิง เหม่ออะไรอยู่?” จ้าวเหล่ยตบหลังฉันทีหนึ่ง “ไป ไปทักทายสวี่เวยกับฉันหน่อย อย่ามายืนทื่อเป็นท่อนไม้อยู่ตรงนี้สิ” ขาฉันอ่อนเปลี้ยไปหมด อยากจะหาข้ออ้างขอตัวไปเข้าห้องน้ำ แต่จ้าวเหล่ยลากฉันเดินไปทางนั้นเสียแล้ว พอสวี่เวยเห็นพวกเราเดินเข้าไป เธอก็ขยับไปหลบอยู่ข้างหลังสวี่ชิงโดยไม่รู้ตัว สวี่ชิงไม่ทันสังเกต จึงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “สวี่เวย นี่พี่เฉินเฉิง เพื่อนสนิทของพี่จ้าวเหล่ย ต่อไปเราก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะ พวกเธอทำความรู้จักกันไว้สิ” สวี่เวยฝืนยิ้มออกมาอย่างแข็งทื่อ พยักหน้าให้ฉัน: “สวัสดีค่ะ พี่เฉิน” ฉันอ้าปากค้างอยู่ครู่หนึ่ง
더 보기

บทที่ 6

“เลิกหงุดหงิดได้แล้วน่า วันนี้ฉันแต่งเมียนะ ทำตัวให้มีความสุขหน่อย! เดี๋ยวมาดื่มกับฉันให้เต็มที่ ไม่เมาไม่เลิก!” ฉันฝืนยิ้มออกมา แต่ในใจกลับรู้สึกหนักอึ้งเหมือนมีหินทับอยู่ ตลอดหลายชั่วโมงต่อมา ฉันรู้สึกหวาดระแวงไปหมด สายตาคอยจับจ้องสวี่เวยตลอดเวลา กลัวว่าเธอจะทำอะไรแผลงๆ ออกมา และก็กลัวว่าจ้าวเหล่ยจะจับสังเกตได้ สวี่เวยก็ทำตัวสงบเสงี่ยมดี คอยเดินตามติดสวี่ชิงตลอด บางครั้งที่สบตากับฉัน เธอก็รีบหลบสายตาทันที เหมือนกำลังหลบอะไรบางอย่างตอนที่งานแต่งงานใกล้จะเลิก ฉันกับจ้าวเหล่ยเดินไปส่งแขกที่หน้าประตู สวี่เวยเดินเข้ามาบอกลาสวี่ชิงว่า “พี่คะ หนูขอกลับก่อนนะ พรุ่งนี้จะมาหาใหม่” “ไม่อยู่ต่ออีกหน่อยเหรอ?” สวี่ชิงจับมือเธอไว้ “ให้พี่เขยไปส่งสิ” “ไม่เป็นไรค่ะพี่ หนูเรียกรถกลับเองได้” สวี่เวยพูดพลางกวาดสายตามองฉันกับจ้าวเหล่ย “พี่เขย พี่เฉิน หนูกลับก่อนนะคะ”จ้าวเหล่ยทำท่าจะพูดอะไรบางอย่าง ฉันรีบพูดแทรกขึ้นมาว่า “ให้เธอกลับเถอะ ตอนนี้เรียกรถยาก เดี๋ยวฉันขับรถไปส่งเธอเอง” พอพูดจบฉันก็รู้สึกเสียใจทันที นี่มันหาเรื่องใส่ตัวชัดๆ เลยไม่ใช่เหรอ? แต่จ้าวเหล่ยกลับไม่ได้คิดอะไร
더 보기

บทที่ 7

แต่ฉันคิดไม่ถึงเลยว่า ผ่านไปแค่สามวัน จ้าวเหล่ยก็มาหาถึงบ้าน วันนั้นฉันกำลังนั่งดูทีวีอยู่ที่บ้าน เสียงกริ่งประตูหน้าบ้านดังขึ้น ฉันนึกว่าเป็นคนส่งอาหาร พอเปิดประตูออกไป ก็เห็นจ้าวเหล่ยยืนอยู่หน้าประตู หน้าตาบึ้งตึง ในมือมีของบางอย่างกำแน่น แววตาเต็มไปด้วยความโกรธราวกับจะแผดเผาฉันให้มอดไหม้ "เฉินเฉิง บอกความจริงกับฉันมา นายกับสวี่เวยมันเรื่องอะไรกัน?" เขาไม่ได้เดินเข้ามาในบ้าน แต่โยนของในมือใส่ฉัน มันคือโทรศัพท์มือถือ หน้าจอสว่างอยู่ บนหน้าจอเป็นคลิปวิดีโอจากงานคอนเสิร์ตครั้งนั้น และคลิปที่กำลังเล่นอยู่ คือภาพเหตุการณ์ระหว่างฉันกับสวี่เวยบนหน้าจอขนาดใหญ่ สมองฉันอื้ออึงไปหมด เลือดสูบฉีดขึ้นหน้าจนรู้สึกร้อนผ่าว โทรศัพท์ในมือเกือบหล่นลงพื้น: "ไอ้เหล่ย ฟังฉันอธิบายก่อน มันไม่ใช่แบบที่นายคิดนะ..." "ไม่ใช่แบบที่ฉันคิด?" จ้าวเหล่ยตะคอกออกมา เสียงของเขาสั่นเครือ "แล้วมันแบบไหน? ไหนลองบอกฉันสิ! ฉันเห็นนายเป็นเหมือนพี่น้องแท้ๆ แล้วนายล่ะ? นายไปนอนกับน้องเมียฉัน! นายทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไง? นายเห็นแก่หน้าสวี่ชิงบ้างไหม?" "ฉัน..." ฉันอ้าปากค้าง แต่พูดไม่ออกแม้แต่ประโยคเดียว คำแก้ตัว
더 보기
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status